บทที่23 คนหน้าไม่อาย ใต้ฟ้าไร้คนต่อกร   1/    
已经是第一章了
บทที่23 คนหน้าไม่อาย ใต้ฟ้าไร้คนต่อกร
บ๗ที่23 คนหน้าไม่อาย ใต้ฟ้าไร้คนต่อกร "เย่ชิงล่ะ เท่าที่ฉันรู้ เธอเพิ่งจะใช้เส้นสายของพ่อเธอเอาคุณเข้าไปในโรงพยาบาลอันดับหนึ่งด้วยกันนิ พอหันหลังคุณก็จะถีบหัวส่งเธอ โจวจื่อหยาง คุณไม่ได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเลยสักนิด" ภายในใจของเชียวเยว่เมิ่งมีความรังเกียจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่อยากจะพูดคุยกับผู้ชายคนนี้อีกแม้แต่ครึ่งคำ คิดได้ดังนั้น เชียวเยว่เมิ่งก็ผลักโจวจื่อหยางออก เปิดประตูรถ แล้วขับออกไปจากลานจอดรถอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องการที่จะเห็นใบหน้าของโจวจื่อหยางอีก แบบนั้นจะทำให้เธอรู้สึกเกลียดก็เท่านั้น จนทำให้เธออยากกลับไปเป่าหูตัวเมื่อก่อนสองสามคำ ในตอนนั้น เธอตาบอดขนาดไหนเชียว ถึงได้ทำเรื่องพวกนั้นให้กับโจวจื่อหยางได้ เธอได้ทุ่มเทและเสียสละให้กับสิ่งที่เรียกว่าความรักมากขนาดไหน ข้อเท็จจริงสามารถพิสูจน์ได้ เเละเพื่อสิ่งนี้ยังกระทบต่ออนาคตของเธออีกด้วย โจวจื่อหยางยืนอยู่ที่ลานจอดรถ มองดูรถของเชียวเยว่เมิ่งที่หายลับไปจากสายตา ในแววตามีความกังวลใจปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง เขาคิดว่าเชียวเยว่เมิ่งจะใจอ่อน รับฟังคำที่เขาจะพูดจนจบ นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่เธอเกาะเห้ออี้ลั่วติดแล้วจะเย็นชากับเขาแบบนี้ หลายวันมานี้ ภายในโรงพยาบาลก็มีหลายคนลือเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ของเขา ทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็ไม่เชื่อเขา ทำให้งานของเขาไม่สามารถก้าวหน้าได้ เพราะแบบนี้เย่ชิงก็มักจะชักสีหน้ามองเขาอยู่บ่อยๆ เขาคิดตั้งนาน ถึงจะคิดคำพูดที่เห้ออี่พูดในที่ประชุมขึ้นมาได้ เห้ออีลั่วจะจัดการเขา หากเชียวเยว่เมิ่งไม่ออกหน้าพูดแทนเขาแล้วล่ะก็ เขาคงยืนอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างลำบาก เมื่อคิดถึงตรงนี้ ตาของโจวจื่อหย่างก็อึมครึมลง * เชียวเยว่เมิ่งกำลังขับรถอยู่อย่างไม่พอใจ โทรศัพท์ที่โยนทิ้งไว้ที่ข้างคนขับก็ดังขึ้น เชียวเยว่เมิ่งเหลือบดูหน้าจอโทรศัพท์ครั้งหนึ่ง จอดรถลงที่ข้างทางแล้วรับโทรศัพท์"ฮัลโหล" "ใครกันที่ทำให้คุณโมโห"น้ำเสียงที่มีความขี้เกียจของเห้ออี้ลั่วดังออกมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ "แฟนเก่า"เชียวเยว่เมิ่งก็ตอบไปแบบไม่คิดอะไร "เขายังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีกหรอ" “ผู้อำนวยการเห้อ ฟังจากความหมายที่คุณพูดแล้ว เหมือนว่าคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้อง” "สำหรับเรื่องระบายความแค้นพวกนี้ของภรรยาแล้ว ให้ผมทุ่มสุดกำลังก็ถือว่าคุ้มค่ามาก" ไม่รู้เป็นอะไรในใจเชียวเยว่เมิ่งรู้สึกอึดอัดกลัดกลุ้มไม่น้อย เลยพูดขึ้นว่า"คุณทำอะไรไปลงไป" "ไม่บอกคุณ" เชียวเยว่เมิ่ง"......." เห้ออี้ลั่วลุกขึ้นมาจากหลังโต๊ะในห้องทำงาน เดินไปหยุดหน้ากระจกหน้าต่างบานใหญ่"วิธีการที่ง่ายที่สุดสำหรับจัดการคนที่ไม่ชอบคือ พรากสิ่งที่เขาให้ความสนใจมากที่สุด พูดแบบนี้เข้าใจไหม" "งั้นที่เขามาหาฉันวันนี้ ไม่เพียงแต่เป้าหมายเดิมของเขาไม่สำเร็จแล้ว กลับกันอาจจะทำให้คุณโกรธ โจวจื่อหยางไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้ง?" "เขาทิ้งคุณยังไม่เรียกว่าโง่อีกเหรอ แต่เรื่องเดียวที่เขาทำถูกในชีวิตนี้ก็คือการที่เขาปล่อยคุณ ไม่อย่างนั้นผมคงจะไม่มีโอกาสได้รับของล้ำค่า" "ผู้อำนวยการเห้อ ชมว่าฉันสวยก็พอแล้ว ฉันรู้ว่า ใครพบใครเห็นฉันต่างก็รักต่างก็ชอบ ดอกไม้พบยังบานออกสะพรั่ง" เชียวเยว่เมิ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูด เมื่อเห้ออี้ลั่วได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ ปากของเขาก็กระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า"อีกสักพักไปลองชุดแต่งงาน" "ตัดเสร็จแล้ว?" "อืม" เชียวเยว่เมิ่งเอียงหัวคิดแล้วพูดว่า"งั้นให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณ" "ได้" เชียวเยว่เมิ่งได้เลือกร้านอาหารระดับสูงร้านหนึ่ง จากนั้นก็ส่งที่อยู่ไปให้เห้ออี้ลั่ว ในขณะที่รอ เชียวเยว่เมิ่งก็ชื่นชมบรรยากาศทิวทัศน์บนท้องถนนไปพลางพร้อมคิดเรื่องงานไปพลาง คำที่หัวหน้าแผนกพูดกับเธอที่ห้องผ่าตัดวันนี้ เธอล้วนเข้าใจทั้งหมด ช่วงเวลาวัยรุ่นหนึ่งของคนเป็นหมอส่วนใหญ่มักจะเสียไปกับการใส่ใจความรู้สึกของคนไข้มากจนเกินไป ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเส้นทางของเธอจะเดินไปได้ไม่ไกล เธอที่อยู่ในเส้นทางนี้ก็จะไม่มีวันขึ้นไปยังตำแหน่งสูงๆได้ หากตัวเธอเองอยากก้าวเดินสายอาชีพนี้ไปให้ได้ไกลกว่านี้ เธอจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการความรู้สึกตัวเอง ในเรื่องนี้ ก่อนหน้านั้นเธอจัดการได้ค่อนข้างดี แต่หลังจากที่เจอเสี่ยวเป่า กลับควบคุมไม่ค่อยได้ จากนี้เสี่ยวเป่าคือคนใกล้ชิดของเธอ เธอคิดไม่ถึงว่าจะมีชะตากรรมร่วมกันแบบนี้ เรื่องเล็กๆที่ทำในตอนในปีนั้น ผลคือการเป็นงานแต่งงานของเธอ "กำลังคิดอะไรอยู่"น้ำเสียงอันอ่อนโยนของเห้ออี้ลั่วดังขึ้นมาจากด้านบนหัว เชียวเนว่เมิ่งตื่นขึ้นมาจากภวังค์ความคิดของเธอ ยิ้มแล้วพูดว่า"กำลังคิดว่าเมื่อไหร่เสี่ยวเป่าถึงจะมาเจอฉัน" "ตอนนี้เขาอยู่ที่วิวล่า" "เขาไม่ใช่กำลังหลบหน้าคุณหรอกเหรอ?" "หากเขาสามารถจัดการชีวิตตัวเองได้ จะหลบต่อไปก็ได้ แต่เขาช่วยตัวเองไม่ได้ และยิ่งไม่ยอมให้คนอื่นแตะต้อง ทำได้แค่วิ่งหน้าหงอยกลับมาเท่านั้น" "พวกคุณสองคนอยู่ร่วมกันแปลกดีนะ" "อืม" เห้ออี้ลั่วนั่งลงตำแหน่งตรงกันข้ามกับเธอ แล้วพูดว่า"สั่งอาหารหรือยัง?" "สั่งแล้ว เมนูอยู่ตรงซ้ายมือคุณ คุณลองดูว่าถูกปากไหม หากไม่ถูกปาก ก็สั่งอย่างอื่นมาอีก" "ผมไม่เลือกกิน" ไม่รู้ว่าเป็นอะไรพอทั้งสองพูดถึงตรงนี้ต่างก็ไปกันต่อไม่ได้ หลังจากที่เชียวเยว่เมิ่งคิดแล้ว จึงพูดขึ้นว่า "วันนี้ฉันเจอเคสที่นักเรียนฆ่าตัวตายโดยดื่มกรดกำมะถัง และที่ดื่มเข้าไปก็เป็นกรดกำถังแบบเข้มข้นอีกด้วย แผลตรงช่องปากและลำคอถูกกัดกร่อนค่อนข้างรุนแรง ต่อไปก็จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานอาหารหรือการพูด มือที่กำลังพลิกเมนูอยู่ของเห้ออี้ลั่วก็หยุดลง แล้วใช้สายตาที่ดำราวกับหินออบซิเดียน(หินภูเขาไฟ)จ้องมองไปยังใบหน้าเล็กๆของเชียวเยว่เมิ่ง ยื่นมือขึ้นไปกุมมือเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วถามว่า"คุณชอบงานของคุณไหม?" "ชอบ" "ถ้างั้นก็ดี "เห้ออี้ลั่วยิ้มแล้วพูดว่า"งานของคุณได้เผชิญหน้าโดยตรงกับการเกิดแก่เจ็บตาย แต่ไหนแต่ไรก็ต้องแบกรับความกดดันด้านจิตใจและด้านภาระงานมากกว่างานสายอาชีพอื่นอยู่แล้ว ความชอบของคุณสำคัญกว่าทุกสิ่ง แต่หลังจากนี้อย่าได้เอาเรื่องพวกนี้เข้ามาใส่ใจอีก คุณเป็นหมอ อุทิศความสามารถและเวลาเพื่อพวกเขาก็เพียงพอแล้ว ส่วนอารมณ์ความรู้สึกก็เก็บไว้ให้กับคนใกล้ชิดดีกว่า" "หัวหน้าแผนกก็พูดคำทำนองนี้เหมือนกัน" "แสดงว่าเขาห่วงใยคุณอย่างใจจริง"เห้ออี้ลั่วบีบไปที่มือนุ่มนิ่มราวกับไร้ซึ่งกระดูกนั้นของเธอ "ทุกคนล้วนมีเรื่องราวทั้งนั้น ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ก็เป็นพวกเขาเองที่เป็นคนเลือก ที่คุณมองเห็นเป็นเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้น" เรื่องอื่นเป็นสมองของคุณแต่งขึ้นมาเอง ไม่ได้มีความหมายอื่นเลย แทนที่จะเสียเวลาไปกับเรื่องนี้ สู้เอาเวลาไปใช้กับความเชี่ยวชาญในด้านความสามารถทางการแพทย์ของคุณ หรือว่าใช้มันกับผม เชียวเยว่เมิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องที่ตัวเองพูดออกมาโดยไม่คิดอะไร เห้ออี้ลั่วจะกลับตั้งใจตอบเธอขนาดนี้ " ผู้อำนวยการเห้อ หน้าของคุณหนาเกินแล้วไปหรือเปล่า" "ผิดเหรอที่จะแสดงจุดยืนต่อหน้าภรรยา?"เห้ออี้ลั่วตอบด้วยน้ำเสียงครวญคราง เชียวเยว่เมิ่งมองไปที่คิ้วอันสูงส่งอย่างสมบูรณ์แบบของเห้ออี้ลั่ว ผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการจะมีความรักที่สวยงาม เธอเองก็ไม่ต่างกัน คนแบบเห้ออี้ลั่วก็เป็นคู่ชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนหลายคนคิดวาดฝันเอาไว้ ถึงแม้ว่าว่าคนภายนอกจะคิดว่าเขามีลูกติด มันกลับก็ไม่ได้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ในใจของเหล่าหญิงสาวเลย แต่ตัวเธอรู้ว่าเขายังไม่เคยแต่งงาน เขายินยอมที่จะให้คนนอกเข้าใจผิดเพื่อเสี่ยวเป่า ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่พวกเสี่ยวอันจะพยายามคาดเดาถึงแม่แท้ๆของเสียเป่า แต่ไม่ว่าใครก็คงไม่สามารเดาได้ว่าเสี่ยวเป่าไม่ใช่ลูกของเห้ออี้ลั่ว เห้ออี้ลั่วเห็นว่าเชียวเยว่เมิ่งกำลังใจลอย เลยเอามือโบกไปมาด้านหน้าของเธอ"หลงรักผมแล้ว?" "คุณว่าล่ะ?" "งั้นก็หลงรักผมเข้าแล้ว" หลังจากที่ทั้งสองคนทานข้าวกันอย่างเรียบง่าย เห้ออี้ลั่วก็ให้คนขับรถขับรถของเขาไปที่ร้านชุดแต่งงาน ส่วนตัวเห้ออี้ลั่วก็ขับรถของเขียวเยว่เมิ่งไป
已经是最新一章了
加载中