บทที่ 33 งานแต่งงาน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 33 งานแต่งงาน
บ๗ที่ 33 งานแต่งงาน “พักรักษาตัวก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” ริมฝีปากของเวินอันเหยียนกระตุกสองสามครั้ง มีเสี้ยวหนึ่งของความดีอกดีใจพาดผ่าน นี่เป็นครั้งแรกที่เห้ออี้ลั่วไม่ได้ปฏิเสธเธอโดยตรง เธอจึงรีบถามขึ้น “อี้ลั่วนี่คือคุณตกลงแล้วใช่ไหม” “เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือพักรักษาตัว อย่าคิดมาก” “คุณพูดขนาดนี้แล้ว ฉันจะรักษาตัวเป็นอย่างดี” บนใบหน้าเธอยังมีร่องรอยของน้ำตาเมื่อรวมกับรอยยิ้มของเธอแล้วดูอ่อนโยนราวกับดอกไม้ในยามเช้า บนกลีบดอกไม้ยังมีหยดน้ำค้างคาอยู่ช่างชวนให้คนมองรู้สึกหลงรัก เห้ออี้ลั่วดึงมือตัวเองกลับมาแล้วออกรถอีกครั้ง ** เฉียวเยว่เมิ่งฝันเห็นเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เธอฝันว่าเธอสวมชุดแต่งงานนั่งรออยู่ในบ้านนานมากแต่เห้ออี้ลั่วก็ไม่มาและก็ไม่ได้โทรมาหาเธอ คนทางบ้านตระกูลเห้อก็ไม่มา แต่คนที่มากลับเป็นบรรดาป้าๆในหมู่บ้าน มนุษย์ป้าเหล่านั้นเหมือนปลากินคน ต่างพากันอ้าปากราวกับจะกัดเธอให้ตาย เธอรู้สึกกลัวมากจึงวิ่งหนีทั้งที่สวมชุดแต่งงานอยู่ แต่เธอกลับไปพบกับเห้ออี้ลั่วกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ชุดแต่งงานของผู้หญิงคนนั้นเหมือนชุดแต่งงานที่เธอกำลังสวมอยู่ทุกประการ ใบหน้าของเธอคนนั้นเบลอๆมองไม่ชัดและกำลังออดอ้อนอยู่บนไหล่ของเห้ออี้ลั่ว เธอคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ฉันกลับมาแล้ว ตัวแทนคนนั้นของคุณไปได้แล้วล่ะ” …… เฉียวเยว่เมิ่งจึงรีบเบิกตาโพลงแล้วลุกขึ้นนั่ง ปรากฏว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น เธอจับชุดนอนชื้นเหงื่อของตัวเองแล้วส่ายหัวพร้อมกับหลุดยิ้มออกมา เธอเหงื่อออกในหน้าหนาวได้ขนาดนี้เลยหรือนี่ พอคิดถึงความฝันนั้นเธอก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา เธอต้องรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยขนาดไหนกันนะถึงสามารถฝันเรื่องแบบนี้ได้? หวังว่าความฝันกับความจริงจะกลับกันนะ ไม่เช่นนั้นละก็เธอคงไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้ยังไงจริง ๆ เฉียวเยว่เมิ่งเอามือสางผมสองสามทีแล้วลุกไปล้างหน้าล้างตา หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เปลี่ยนชุดแล้วลงไปชั้นล่าง ชั้นล่างนั้นช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยที่ทางร้านชุดแต่งงานจัดเตรียมไว้ได้มารออยู่ก่อนแล้ว ลั่วหมิงเม่ยเห็นขอบตาคล้ำราวกับหมีแพนด้าของเธอก็เอ่ยทักขึ้น “ลูกรักจะได้หนีออกจากกรงเล็บของแม่แล้วถึงกับตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลยหรือนี่?” “ฉันไม่ได้คิดว่าจะต้องห่างจากแม่เลยคิดถึงแม่จนนอนไม่หลับต่างหาก” เฉียวเยว่เมิ่งเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อพร้อมกับกอดคอลั่วหมิงเม่ยแล้วโยกไปมาเบาๆ “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง รีบไปกินข้าวได้แล้ว กินเสร็จก็ไปแต่งหน้า ฉันทนเธอมายี่สิบหกปีแล้วในที่สุดก็ได้ไล่เธอออกจากบ้านเสียที ช่างไม่ง่ายเลยจริง ๆ ตอนที่ยังไม่มีคนมาขอเธอแต่งงานฉันล่ะกังวลจริงๆว่าฉันต้องทนเธอไปอีกหลายสิบปีจนน้ำตาฉันจะไหลออกมาแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงเวลาปล่อยวางเสียที” เฉียวเยว่เมิ่งทนฟังคำพูดเหล่านี้ไม่ไหวแล้วจึงตะโกนขึ้น “คุณเฉียวไห่ซิงดูแลภรรยาคุณด้วย เธอรังเกียจลูกสาวของเธอออกนอกหน้าเกินไปแล้ว หัวใจอันบอบบางของฉันจะแหลกสลาย” “เฉียวไห่ซิงก็คิดแบบเดียวกับฉัน แค่ไม่อาจทำใจทรมานเธอได้เท่านั้นเอง” ลั่วหมิงเม่ยเอ่ยขึ้น “ได้ ฉันจะไม่อยู่ขวางหูขวางตาพวกคุณแล้ว ตัดความสัมพันธ์ครึ่งชั่วโมง” เฉียวเยว่เมิ่งโอดครวญ ช่างแต่งหน้าและผู้ช่วยฟังบทสนทนาหยอกล้อของทั้งสองคนก็พากันหัวเราะจนตัวงอ หลังจากเฉียวเยว่เมิ่งกินมื้อเช้าแบบง่ายๆเสร็จ ก็มานั่งหน้ากระจกเพื่อให้ช่างแต่งหน้าให้กับเธอ หลังจากผ่านการแต่งหน้าอย่างประณีตโดยช่างแต่งหน้าก็ไม่เหลือเค้าโครงของขอบตาคล้ำๆก่อนหน้านี้ เฉียวเยว่เมิ่งไม่เคยแต่งหน้าอย่างประณีตแบบนี้มาก่อน ถ้าหากหน้าตาโทรมมากก็ทารองพื้นแบบลวกๆให้หน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้น น้อยครั้งที่จะตั้งใจแต่งหน้าให้ตัวเอง ตอนนี้เธอแต่งหน้าเจ้าสาวแล้วดูเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย ใบหน้าที่ผ่านการแต่งอย่างประณีตนั้นดูสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ ทั้งริมฝีปากเป็นกระจับและคิ้วได้รูปนั้น ช่างเป็นเจ้าสาวที่ดูมีความสุขเสียจริง เฉียวเยว่เมิ่งมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มเป็นประกายออกมา ลั่วหมิงเม่ยและเฉียวไห่ซิงก็พอใจกับการแต่งหน้าของเธอมาก เห้ออี้ลั่วมาถึงประมาณสิบโมง เขาสวมชุดสูทสีดำสนิทเข้าชุดกับเสื้อเชิ้ตสีขาว นอกจากชุดที่ใส่อยู่เขาก็ไม่ได้แต่งอะไรเพิ่มเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อปรากฏตัวก็ยังดึงดูดสายตาทุกคนเหมือนเดิม ออร่าของเขาดูสง่างามและยิ่งถูกเครื่องแต่งกายราคาแพงขับราศีความเป็นผู้ดีให้โดดเด่นออกมา เมื่อพบเห้ออี้ลั่วเฉียวเยว่เมิ่งมักจะรู้สึกว่าตัวเขาจะให้ความรู้สึกแปลกใหม่กับเธออยู่เสมอ แต่มาคิดๆดูแล้วเธอและเห้ออี้ลั่วตั้งแต่เริ่มรู้จักกันจนถึงแต่งงานก็เป็นเวลาเพียงแค่เดือนกว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าคุ้นเคยกันขนาดนั้น ผู้ช่วยของเห้ออี้ลั่วนำซองอั่งเปามาแจกให้ทุกคนในงาน เห้ออี้ลั่วจูงมือเฉียวเยว่เมิ่งด้วยรอยยิ้มจนมาถึงหน้าของเฉียวไห่ซิงและลั่วหมิงเม่ย “คุณพ่อคุณแม่ครับ วันนี้ผมแต่งงานกับเมิ่งเมิ่ง คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เสียลูกสาวไปนะครับแต่ได้ลูกชายเพิ่มมาอีกคนต่างหาก ขอให้คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจในตัวพวกเรานะครับ” เมื่อวินาทีก่อนลั่วหมิงเม่ยยังต้อนรับแขกด้วยรอยยิ้มแต่พอได้ยินคำพูดของเห้ออี้ลั่วน้ำตาก็ไหลออกมาทันที ขอบตาของเฉียวเยว่เมิ่งก็เริ่มแดง เฉียวไห่ซิงตบหลังของลั่วหมิงเม่ยเบาๆ “คุณนี่นะ เสียใจก็ร้องไห้ดีใจก็ร้องไห้ เมิ่งเมิ่งแต่งงานนั้นเป็นเรื่องดี มีความสุขหน่อยสิ” ลั่วหมิงเม่ยสูดน้ำมูกสองสามที “เฉียวเยว่เมิ่ง เธอแต่งงานออกไปถ้าไม่กลับมาเยี่ยมบ้านเลยฉันจะตีเธอให้ขาหักเลย” เฉียวเยว่เมิ่งได้ยินดังนั้นก็กรอกตา “ถ้าคุณแม่ทำแบบนั้นคุณแม่จะเสียลูกรักคนนี้ไปนะ” คำพูดของเธอทำให้ทุกคนออกหัวเราะออกมา แม้แต่เห้ออี้ลั่วก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา ** ชั้นล่าง มีรถใหม่จอดรอรับเจ้าสาวนับสิบคันจึงดึงดูดความสนใจของคนทั้งหมู่บ้าน เห้ออี้ลั่วอุ้มเฉียวเยว่เมิ่งเข้าไปนั่งในรถคันแรกของขบวนจากนั้นเฉียวเยว่เมิ่งก็เอ่ยถามขึ้น “เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนหรือคะ? ที่บริษัทมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” “ไม่มีอะไรหรอก เธอไม่ต้องคิดมาก” พอได้ยินเขาตอบแบบนั้นเธอก็ไม่กล้าถามอะไรต่อจึงหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถแทน ด้านนอกหน้าต่างมีกลุ่มคนที่มองดูขบวนรถอันอลังการนี้ด้วยความตื่นตาและมีสาววัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่มองมาด้วยความอิจฉาตาร้อน เฉียวเยว่เมิ่งมองสายตาของพวกเธอแล้วมุมปากก็กระตุกยิ้มจางๆ นั่งอยู่บนรถประมาณครึ่งชั่วโมงกว่ารถก็มาจอดอยู่หน้าโรงแรมหวงก้วน โรงแรมนี้ถูกเหมาโดยตระกูลเห้อเพื่อเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานและเป็นที่พักให้กับญาติของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะ ทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน เพื่อนทางธุรกิจของทั้งตระกูลเห้อและตระกูลเฉียวที่สามารถมาร่วมงานได้นั้นก็มากันทั้งหมด เมื่อรถหยุดลงเห้อเจียหมิงและหลินหรุ่ยก็รีบเข้ามาต้อนรับ หลินหรุ่ยเผยรอยยิ้มพร้อมกับมองพิจารณาเฉียวเยว่เมิ่งไปด้วย “วันนี้เจ้าสาวช่างงดงามจริงๆ” “ขอบคุณที่ชมค่ะคุณแม่ วันนี้ฉันต้องสวยสยบทุกคนในงาน” เฉียวเยว่เมิ่งก็ได้เปลี่ยนคำเรียกขาน จากนั้นก็ขยิบตาอย่างซุกซน “เด็กคนนี้นี่” หลินหรุ่ยหลุดหัวเราะออกมา “ให้อี้ลั่วพาเธอไปพักผ่อนที่ห้องพักก่อน วันนี้มีแขกมาเยอะมาก เธอไม่ต้องทักทายครบทุกคนก็ได้ อีกหน่อยถ้าพบเจอบ่อย ๆก็รู้จักกันไปเอง ฉันพ่อเธอและอี้ลั่วจะรับแขกให้เอง ” “ไม่ดีมั้งคะ ฉันแอบไปพักมันจะดูไม่เหมาะสมหรือเปล่า?” “ไม่เป็นไรหรอก รีบไปพักผ่อนเถอะ” เฉียวเยว่เมิ่งก็ไม่ได้ดื้อดึงต่อ เธอเองก็ไม่ค่อยทราบพิธีการของงานแต่งสักเท่าไหร่ พอเห็นพ่อและแม่แท้ๆของเธอลงจากรถ เธอจึงเดินตามพนักงานสาวคนหนึ่งไปยังห้องพัก ภายในห้องพัก หยางเสว่หลินและเสี่ยวอันมารออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเสี่ยวอันเจอเฉียวเยว่เมิ่งก็กระโดดเข้าไปกอดเธอทันที “พี่เฉียวสวยที่สุดเลย” “เธอพูดแบบนี้ฉันจะขึ้นเงินเดือนให้เธอ” “จริงหรือ?” เสี่ยวอันถามขึ้นอย่างดีใจ “เงินเดือนของโรงพยาบาลเราฉันเป็นคนตัดสินใจหรือไง?” เฉียวเยว่เมิ่งตบเบาๆลงบนกลุ่มผมนุ่มของเธอ เสี่ยวอันได้ยินดังนั้นก็ย่นหน้าทันที ไม่สนใจเฉียวเยว่เมิ่งแล้ว 
已经是最新一章了
加载中