บทที่ 39 ครอบครัวสุขสันต์
1/
บทที่ 39 ครอบครัวสุขสันต์
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 39 ครอบครัวสุขสันต์
บ๗ที่ 39 ครอบครัวสุขสันต์ เจ้าของโพสต์เล่าไปได้ครึ่งหนึ่งก็แนบที่อยู่ของโพสต์ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับยาในตอนนั้น โพสต์ในตอนนั้นถูกส่งต่อกันแค่ในวงการแพทย์คนส่วนใหญ่ไม่ทราบกันแต่เนื่องจากการส่งต่อของเจ้าของโพสต์คนนี้ทำให้เป็นรู้กันอย่างกว้างขวาง นอกจากตัวอักษรที่เขียนออกมาได้ราวกับว่าคนเขียนนั้นอยู่ในเหตุการณ์จริงๆแล้วยังมีรูปภาพอีกไม่น้อย รูปภาพเป็นรูปของเมื่อคืนและคืนก่อน ในรูปเห็นหน้าเห้ออี้ลั่วไม่ชัดเจนนักแต่หากเป็นคนที่คุ้นเคยกับเขาก็จะดูออกทันที รูปแรกเป็นรูปที่เขาปิดประตูรถให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง อีกรูปเป็นรูปที่เขากอดกับผู้หญิงคนหนึ่งในวันแต่งงาน เฉียวเยว่เมิ่งดูจากการแต่งตัวของผู้หญิงในรูปก็นึกถึงผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างบ่อน้ำพุ เธอคือคนที่ทิ้งรอยจูบไว้บนปกเสื้อของเห้ออี้ลั่วหรือ? ความคิดนี้เพิ่งแวบอยู่ในหัวเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์ในมือเธอถูกฉวยออกไป เฉียวเยว่เมิ่งเงยหน้าขึ้นดูก็พบว่าเป็นเห้ออี้ลั่ว เห้ออี้ลั่วกวาดสายตามองหน้าจอแวบหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “ฉันสั่งให้คนไปลบโพสต์แล้วคงไม่มีผลกระทบในวงกว้าง” “แฟนเก่าคุณกำลังท้าทายฉัน ฉันต้องแสดงตัวหน่อยหรือเปล่า?” “เธอไร้สาระขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เห้ออี้ลั่วโยนโทรศัพท์คืนให้เธอ “ไม่ใช่ฉันไร้สาระหรอกตอนฉันเห็นโพสต์ฉันรู้สึกว่าเธอน่าสงสาร ตอนนี้มาคิดๆดูแล้วก็พบว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสารแต่ก็น่าสมเพชในเวลาเดียวกัน” “หืม?” “ถ้าเธอรู้จักคุณดี เธอจะไม่ว่าร้ายฉันตอนที่เพิ่งจะแต่งงานหรอก เธอรอเวลาผ่านไปอีกสักพักหนึ่งจะได้ผลดีกว่า สมมุติว่าฉันเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของพวกคุณ คุณและครอบครัวคุณเพิ่งจะจัดงานแต่งงานใหญ่โตที่เป็นที่รู้กันทั้งเมืองเยว่เฉิงนั่นแสดงให้เห็นว่าพวกคุณยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้ ถ้าคุณเห็นแก่เธอคุณคงจะไม่จัดงานใหญ่โตแบบนี้ บนอินเทอร์เน็ตก็จะไม่มีรูปภาพและวิดิโอของพวกเรามากมายแบบนี้ อีกอย่างหนี่งก็คือเธอว่าร้ายฉันในตอนนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบฉันแต่เพื่อหน้าตาของตระกูลเห้อและบริษัทเห้อซื่อยังไงคุณก็ต้องจัดการปิดข่าวนี้อยู่ดี คุณคงไม่มีทางปล่อยให้ฉันถูกว่าร้ายอยู่อย่างนี้” “พูดต่อไป” เห้ออี้ลั่วเอ่ยขึ้นอย่างสนใจ “เธอยังบอกในโพสต์ว่าฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดา ถ้าเธอไม่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาชาวเน็ตอาจจะขุดคุ้ยข้อมูลของฉันมากกว่านี้แต่เธอไม่ปิดบังข้อมูลในส่วนนี้แล้วยังเน้นย้ำเรื่องที่ฉันมาจากครอบครัวธรรมดา หน้าตาก็ธรรมดา แต่เธอคงลืมไปว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็เป็นคนธรรมดาแบบฉัน พอเธอป่าวประกาศแบบนี้กลับกันชาวเน็ตจะเข้าข้างฉันมากกว่า พวกเขาจะคิดว่าฉันคือซินเดอเรลล่าในชีวิตจริงที่กลายเป็นเจ้าหญิงในชั่วข้ามคืนและคิดว่าฉันต้องมีอะไรพิเศษแน่นอนคนอย่างคุณถึงมาสนใจฉันได้ พวกเขาจะจินตนาการเรื่องราวชีวิตรักนี้ออกมาได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว” “เธอมั่นใจเหรอว่าพวกเขาจะไม่ว่าร้ายเธอหนักขึ้นไปอีก?” “ถ้าหนักกว่านี้ก็ถือว่าสร้างภูมิต้านทานแต่คุณคงไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสหรอกจริงไหมล่ะ” เฉียวเยว่เมิ่งพูดจบก็เผยรอยยิ้มบิดเบี้ยวออกมา “คุณจะไปบอกเธอหน่อยไหมว่าวิธีที่เธอทำนั้นช่างโง่เสียจริง ครั้งหน้าเปลี่ยนเป็นวิธีที่ดีกว่านี้หน่อย” เห้ออี้ลั่วเอื้อมมือไปหยิกแก้มของเธอ “ถ้าผู้หญิงส่วนใหญ่มีตรรกะแบบเธอคงจะไม่มีเรื่องโง่ๆเกิดขึ้นมากมายแบบนี้” “ขอบคุณที่ชม ครั้งหน้าคุณชมด้วยคำพูดก็พออย่าหยิกแก้มฉันมันจะเกิดเป็นริ้วรอยได้ง่าย” พูดไปก็ปัดมือของเห้ออี้ลั่วออก เห้ออี้ลั่วจึงดึงมือกลับมาแต่ปลายนิ้วยังคงรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของผิวเธอเหมือนกับที่เขาเคยคิดไว้ “เธอพูดขนาดนี้แล้วให้ฉันสั่งให้คนกู้โพสต์ที่ลบไปแล้วไหมล่ะ?” เฉียวเยว่เมิ่งเบะปาก “อย่านะ ลบแล้วก็ลบไปเลยห้ามกู้คืนมาเด็ดขาด ถ้าทำแบบนั้นฉันจะเสียหน้ามาก เพิ่งแต่งงานเข้ามาก็ป่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้ความจริงที่ว่าฉันไม่ได้รับความรักจากบ้านคุณเลย ฉันอาจจะโดนขว้างปาด้วยรองเท้า” เห้ออี้ลั่วขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว “ลงไปจิบน้ำชายามบ่ายข้างล่างเร็วเข้า มันจะเย็นหมดแล้ว” “จะห้าโมงเย็นอยู่แล้วยังจะดื่มชาอยู่เหรอ? มื้อเย็นไม่ต้องกินแล้วหรือไง?” “กินเสร็จก็ไปออกกำลังกายด้วยกันจะได้ไม่โดนผลักจนล้มอีก” เฉียวเยว่เมิ่ง “……” เธอรู้สึกว่ากำลังโดนเห้ออี้ลั่วดูถูก ** หลังจากดื่มชากันเสร็จเห้ออี้ลั่วและเสี่ยวเป่าก็ขึ้นไปเปลี่ยนเป็นชุดกีฬา หลังจากที่ทั้งสองคนเปลี่ยนชุดเสร็จก็พบว่าเฉียวเยว่เมิ่งยังอยู่ในชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้าน ทั้งสองคนจึงยกแขนขึ้นกอดอกแล้วมองเธอ เฉียวเยว่เมิ่งจึงเพิ่งรู้สึกตัว “ฉันก็ต้องไปเหรอ?” “เธอคิดว่าไงล่ะ?” เห้ออี้ลั่วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ขออภัยด้วย เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งยังไม่คุ้นชินนัก ท่านทั้งสองโปรดเห็นใจด้วย” เฉียวเยว่เมิ่งยิ้มแห้งแล้วเดินสะบัดตูดเดินขึ้นชั้นบนไป หลังจากเข้ามาในห้องเธอก็เห็นชุดออกกำลังกายแบบเดียวกับของเห้ออี้ลั่วและเสี่ยวเป่าวางอยู่บนเตียง เธอกรอกตาอย่างไร้เรี่ยวแรงแล้วรีบหยิบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยน เหมือนว่าเสี่ยวเป่าจะชอบมากที่ทุกคนในครอบครัวสวมชุดแบบเดียวกัน เขายิ้มตลอดเวลา วิ่งไปด้วยก็ถือไม้เซลฟี่ถ่ายรูปไปด้วย ท่าทางที่ดูมีความสุขนั้นช่างน่ามองนัก เฉียวเยว่เมิ่งก็มักจะให้ความร่วมมือกับกล้องของเขาด้วย เธอให้ความร่วมมือคนเดียวไม่พอยังต้องขึ้นขี่หลังเห้ออี้ลั่วอีกด้วย หลังจากขึ้นไปอยู่บนหลังเห้ออี้ลั่วสำเร็จ เธอก้รู้สึกเขินอายกับท่าทางนี้เหลือเกิน เสี่ยวเป่าเห็นท่าทางนั้นจึงเลียนแบบด้วยการขึ้นไปขี่หลังเธออีกทีไม่ให้โอกาสเธอลงมายืนบนพื้นเลยสักนิด เห้ออี้ลั่วมองสองคนที่อยู่บนหลังตัวเองอย่างไร้คำพูด เขารับไม้เซลฟี่มาจากเสี่ยวเป่าแล้วถ่ายรูปท่านั้นอยู่หลายภาพ หลังจากถ่ายเสร็จเขาก็เอ่ยขึ้นเสียงเย็น “ทั้งสองคนขี่หลังฉันสบายเหลือเกินสินะ หืม?” เฉียวเยว่มิ่งหัวเราแหะๆสองทีก็ลงมายืนบนพื้น “รู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว” เธอรับไม้เซลฟี่มาแล้วแกะเอาโทรศัพท์ออก “ถ่ายรูปกับสุดหล่อทั้งสองคนฉันรู้สึกว่าหน้าตาฉันดีขึ้นหลายระดับเลยล่ะ” เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วเขียนว่า “หม่ามี๊สวยมาก” “ขอบคุณที่ชมครับลูกรัก แม่จะพยายามสวยมากขึ้นกว่านี้” ทั้งสามคนเดินๆหยุดๆพอเดินถึงที่วิวสวยก็หยุดถ่ายรูป ที่บอกว่าจะมาออกกำลังกายกลายเป็นเดินแทน แต่ว่าการออกกำลังกายแบบนี้มีประโยชน์ไม่น้อยสำหรับคนที่อยู่แต่ในห้องทำงานแบบเฉียวเยว่เมิ่ง ตั้งแต่เธอมีรถเธอก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายสักเท่าไหร่ เมื่อก่อนยังสามารถเดินไปกลับจากที่ทำงานไปยังป้ายรถเมล์ ตอนนี้การออกกำลังกายเหลือแค่ระยะทางที่เดินจากห้องทำงานไปยังลานจอดรถ ออกมาเดินกับเห้ออี้ลั่วและเสี่ยวเป่าแบบนี้รู้สึกสดชื่นขึ้นไม่น้อย เดินไปจนถึงตอนสุดท้ายก็เหลือเสี่ยวเป่าเดินรั้งท้ายคนเดียว เขาเปิดดูรูปที่ถ่ายด้วยกันวันนี้แล้วเลือกสามรูปที่ชอบที่สุดจากนั้นก็เข้าสู่ระบบweiboของบริษัทเห้อซื่อจากนั้นก็ลงรูปที่เขาเลือกพร้อมคำบรรยาย “ผม พ่อ หม่ามี๊” หลังจากลงรูปเสร็จเขาก็ออกจากระบบด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง กล้าว่าร้ายเยว่เมิ่งน้อยของเขาไม่ได้ดูเลยสินะว่ามีใครอยู่เบื้องหลังของเยว่เมิ่งน้อยบ้าง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ! ** หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ในวิลล่าครบหนึ่งอาทิตย์เฉียวเยว่เมิ่งก็พบว่าการทำตัวให้คุ้นชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้นั้นไม่ยากนัก การใช้ชีวิตของเห้ออี้ลั่วและเสี่ยวเป่าค่อนข้างเป็นระบบและมีระเบียบ หลังมื้ออาหารเช้าไปเดินย่อยหนึ่งชั่วโมง เก้าโมงครึ่งเข้าห้องหนังสือไปเรียนและทำงาน สิบเอ็ดโมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่งลงมากินอาหารเที่ยง พักรออาหารย่อยหนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง บ่ายสองครึ่งถึงสี่โมงครึ่งเรียนและทำงาน หลังจากนั้นก็เป็นน้ำชายามบ่ายและออกกำลังกาย ประมาณสามทุ่มครึ่งเสี่ยวเป่าก็เข้านอน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 39 ครอบครัวสุขสันต์
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A