บทที่ 43 เสี่ยวเป่าสูญเสียการควบคุม   1/    
已经是第一章了
บทที่ 43 เสี่ยวเป่าสูญเสียการควบคุม
บ๗ที่ 43 เสี่ยวเป่าสูญเสียการควบคุม หลังทานอาหารเย็นเสร็จ เฉียวเมิ่งเยว่ ก็ขึ้นไปชั้นบนอาบน้ำให้เสี่ยวเป่า เมื่อเห็นร่างเล็กๆของเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำที่ออกแบบมาสำหรับเด็กๆ เธอก็รู้สึกสงสารเอ็นดูขึ้นมาอย่างอดไม่ไหว เธอไม่เข้าใจว่าเลยว่าต้องเกิดเรื่องอะไร ที่ทำให้เด็กอายุเพียงสามขวบไม่ยอมเอ่ยคำพูดอีกเลย เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างข้องใจ ว่าเธอเป็นอะไรไป ทำไมจึงอยู่นิ่งๆ เฉียวเมิ่งเยว่ เอาผ้าขนหนูผืนใหญ่มาห่อร่างเล็กที่กำลังเปียกชุ่มน้ำ แล้วก็เอาเจ้าตัวเล็กมาวางไว้บนเข่าของเธอ จากนั้นก็เช็ดผมให้ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอีกผืน เมื่อเช็ดตัวจนใกล้แห้งแล้ว เฉียวเมิ่งเยว่ก็ใช้มือจี้เล่นเบาๆ ร่างของเสี่ยวเป่าเริ่มสั่นและเริ่มกระตุกตัวอย่างรุนแรง เฉียวเมิ่งเยว่ใช้มือประคองเจ้าตัวเล็ก ใช้มือจั๊กจี้ใต้รักแร้และตีนเล็กๆด้วยความหยอกเล่น ในตอนแรก เสี่ยวเป่าบิดตัวแค่เบาๆแต่หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็หยุดกระทันหัน และมองไปที่เฉียวเมิ่งเยว่ด้วยสีหน้าสยองขวัญ ตกใจกลัว พอเฉียวเมิ่งเยว่สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา ก็เลยรีบหยุดมือ ทันทีที่เธอกำลังคิดจะปลอบใจเจ้าตัวเล็ก เจ้าตัวเล็กก็กรีดร้องเสียก่อน ซึ่งในเวลาเดียวกัน เห้ออี้ลั่วกับหลิวจื่อชวน ก็กำลังปรึกษากันเรื่องการตรวจร่างกาย และแล้วก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเสี่ยวเป่าเหมือนกัน พอได้ยินเสียงปุบ เห้ออี้ลั่วก็รีบเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว ซึ่งเสี่ยวเป่าก็กำลังกรีดร้องด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนเจ็บปวดมาก "คุณทำอะไรกับเขา?" เห้ออี้ลั่วถั่งถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น จากนั้นก็อุ่มเสี่ยวเป่ามาที่ตนเอง เฉียวเมิ่งเยว่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา แต่พอเมื่อมองไปที่เสี่ยวเป่า ก็เป็นห่วงมากว่าตกใจ "ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอยู่ดีๆก็กลายเป็นแบบนี้" เห้ออี้ลั่ว เหลือบมองไปที่เธอแวบนึง แล้วก็อุ้มเสี่ยวเป่ากลับไปที่ห้อง “ ไม่เป็นไรแล้ว พ่ออยู่ที่นี่ ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ไม่มีใครสามารถทำร้ายลูกหรอกนะ” เห้ออี้ลั่วอุ้มร่างเล็ก ๆ ของเจ้าตัวเล็กแล้วก็พูดปลอบใจ เสียงที่ปกติฟังดูเกียจคร้านแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์นั้น ในเวลานี้ดูเหมือนนุ่มนวลกว่าปกติเป็นไหนๆ เฉียวเมิ่งเยว่ มองไปที่แผนหลังของเขา แล้วก็กล้ำกลืนความปวดชั่วขณะนั้นลงไป และรีบเก็บของในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับการปลอบจากเห้ออี้ลั่ว เสียงกรีดร้องของเสี่ยวเป่าก็ค่อยๆเบาลงและร่างกายของเขาก็ไม่สั่นไหวอีกต่อไป สุดท้ายก็ยอมให้เห้ออี้ลั่วอุ้มโดยไม่ขัดขืน เจ้าตัวเล็กฝังใบหน้าเล็กๆของตนลงที่คอของเห้ออี้ลั่ว แขนที่อวบๆเล็กๆนั่นก็โอบคอเจ้าตัวไว้แน่นมาก เห้ออี้ลั่ว ตบแผ่นหลังของเจ้าตัวเล็กเบาๆ ด้วยมืออันใหญ่โตนั่น“ ดีมาก ไม่ต้องกลัวหรอก พ่อจะอยู่กับลูกเสมอนะ จะไม่ทิ้งลูกไว้คนเดียวอีกแล้ว” เห้ออี้ลั่วกระซิบข้างหูเสี่ยวเป่าเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ เจ้าตัวเล็กถึงได้หลับลงอย่างสบายใจเฉิบ เห้ออี้ลั่วได้เปลี่ยนชุดนอนให้ตัวเล็กอย่างเบามือเบาไม้ แล้วเอาเจ้าตัวเล็กวางบนเตียงเบาๆ หลิวจื่อชวน ได้ใช้ประโยชน์จากเวลานี้ เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างเต็มรูปแบบให้เสี่ยวเป่า"ส่วนการตรวจจิตใจรอทำเมื่ออารมณ์ของเสี่ยวเป่ามั่นคงกว่านี้ละกัน เมื่อรายงานออกมาแล้ว ฉันจะกลับมาอีกรอบ" “ขอบคุณมากครับ” "ไม่หรอกครับคุณเห้อ เอิ่ม...นี่ก็เริ่มดึกละ งั้นผมไม่รบกวนพวกคุณพักผ่อนละครับ สวัสดีครับ" พ่อบ้านรับหน้าที่เป็นคนไปส่งหลิวจื่อชวนออกไป เฉียวเมิ่งเยว่มองไปที่เสี่ยวเป่าซึ่งกำลังหลับอยู่ พลางมองไปยังเห้ออี้ลั่วที่คอยดูแลเจ้าตัวไม่ห่างด้วย แล้วก็โพล่งขึ้นว่า"ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น" มือของเห้ออี้ลั่ว ค่อยๆลูบที่มือน้อยๆของเสี่ยวเป่า “คำพูดของผมเมื่อตะกี้ คงทำคุณรู้สึกแย่ใช่ไหม?·” เฉียวเมิ่งเยว่ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะถามแบบนี้ เลยตอบช้าๆไปว่า "ไม่หรอก" “ ตั้งแต่ที่เจ้าตัวเล็กรู้จักคุณ เขาแทบจะไม่ค่อยกรีดร้องอีกเลย ผมเลยคิดว่าเขาสามารถยอมรับคุณได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ดูๆแล้ว ผมคงคาดหวังมากเกินไปเสียหน่อย” "หรือเป็นเพราะว่าฉันทำอะไรที่ไม่ควรทำกับเขา เลยทำให้เขานึกถึงบางสิ่งบางอย่าง?" "คุณทำอะไรเหรอ?" เห้ออี้ลั่ว ชักสีหน้าจริงจังมาก "เมื่อตะกี้ฉันหยอกจั๊กจี้ไปที่ตัวเขา ช่วงแรกเขาทำท่าทีหลบฉัน แต่พอผ่านไปพักหนึ่ง เขาก็เริ่มกรีดร้องขึ้นมา นี่เป็นเพราะว่าเขานึกถึงอดีต หรือเพราะว่าเขารับไม่ไหวกับสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถต่อต้านได้ เลยใช้วิธีกรีดร้องเพื่อเลี่ยงสิ่งนี้?”เฉียวเมิ่งเยว่ พูดอย่างจริงจัง "เมื่อตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุ เราไม่ได้อยู่ใกล้ ข้างๆเขาเลยสักคน พอฉันไปถึงโรงพยาบาล เขาก็กอดฉันแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่สามารถรับการสัมผัสกับผู้อื่นอีกเลย และก็ไม่ยอมพูดจาเลยด้วย" "เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?" เฉียวเมิ่งเยว่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอคิดว่าบางที ทว่าเราทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวเป่า ก็จะได้รู้ความจริงทั้งหมด "วันนี้ดึกไปละ พักผ่อนก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมจะบอกทุกอย่างให้คุณทราบ" เห้ออี้ลั่วพูดเบาๆ พอเฉียวเมิ่งเยว่เห็นว่าเห้ออี้ลั่วไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดต่อ เลยโพล่งขึ้นว่า"ถ้างั้น ฉันจะเข้านอนก่อนละ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกฉันละกัน" "อื้ม" เฉียวเมิ่งเยว่ดึงประตูแล้วออกไป พอเธอนึกถึงเสี่ยวเป่าในสภาพเมื่อกี้ ในใจก็ยังคงผวาไม่หาย ** วันรุ่งขึ้น เฉียวเมิ่งเยว่ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งป้าหลิวก็กำลังทำอาหารเช้าในห้องครัวอยู่พอดี เธอเคาะที่ประตูห้องของเสี่ยวเป่าอยู่ครู่นึง จากนั้นก็ยืนรออยู่หน้าประตูอย่างกระสับกระส่ายเล็กน้อย ผ่านไปไม่นานนัก ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ประตูห้องเปิดออก และแล้วใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเห้ออี้ลั่วก็ปรากฏขึ้น เห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่นัก “เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนพักเลยเหรอ?” "ได้นอนอยู่พักซักนึง" "เสี่ยวเป่าอาการดีขึ้นยัง?" "อารมณ์ยังคงไม่สงบเท่าไหร่นัก เธอไม่ต้องรอก็ได้ ทานอาหารเช้าก่อนเลย " “แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปเช็คอาการที่โรงพยาบาล?” "ถ้าไปตอนนี้ มีแต่จะทำให้อาการของเขาแย่ลง รอให้อาการดีขึ้น แล้วค่อยดูคำปรึกษาของหมอประจำละกัน" เธอพยักหน้า และลงไปทานอาหารเช้าก่อนตามที่คุยกัน ** เห้ออี้ลั่วเดินกลับไปที่เตียงของเสี่ยวเป่า ซึ่งเสี่ยวเป่าก็เริ่มตื่นขึ้นในเวลาเดียวกัน พอเจ้าตัวเล็กตื่นขึ้น วินาทีต่อมาก็คือลุกขึ้นแล้วหันหัวไปรอบๆ หลังจากที่ได้เห็นพ่อของตน ความตื่นตระหนกบนใบหน้าถึงผ่อนคลายลง เห้ออี้ลั่วนั่งไปยังข้างๆของเขา และพูดน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "หายยัง?" เสี่ยวเป่าไม่ตอบ แต่คลานเข้าไปและกอดอย่างแน่นในอ้อมแขนของเขา เห้ออี้ลั่วลูบไปยังผมที่อ่อนนุ่มของเขา เจ้าตัวน้อยตัวนี้จะตื้อเก่งมากในเวลาที่ตื่นกลัวทุกรอบ และจะไม่ยอมห่างจากเขาแม้แต่น้อย เห้ออี้ลั่วปลอบโยนเจ้าตัวเล็กไปครู่นึง แล้วก็โพล่งขึ้นมาว่า"วันนี้ ที่สำนักงานใหญ่มีการประชุมสรุปประจำปี ฉันไม่อยู่ไม่ได้ ลูกอยากมากับพ่อไหม?" ร่างของเสี่ยวเป่ากระตุกตัวเล็กน้อย แล้วก็พยักหน้าหลังลังเลไปครู่นึง "ถ้างั้นก็ลุกขึ้น ล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปทานอาหารเช้า แม่ยังรอที่ชั้นล่างอยู่เลย" พอฟังจบ เสี่ยวเป่ายังคงกอดเห้ออี้ลั่วแน่นๆ และก็เอาตัวถูเขาโดยไม่รู้ตัว …… ซึ่งขณะเดียวกัน เฉียวเมิ่งเยว่ก็กำลังปรึกษากับป้าหลิว ว่าจะเอาอาหารเช้าขึ้นไปชั้นบนดีหรือไม่ และแล้วก็เห็นเห้ออี้ลั่ว กำลังอุ้มเสี่ยวเป่าลงมาพอดี เฉียวเมิ่งเยว่ช่วยลากเก้าอี้ออกให้เขา แล้วถามว่า "คุณกับเสี่ยวเป่าอยากจะกินอะไร? "ผมกินโจ๊กละกัน ส่วนเสี่ยวเป่าเอาโยเกิร์ต" จากนั้น เฉียวเมิ่งเยว่ก็ลุกเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อไปเอาโยเกิร์ตที่ป้าหลิวอุ่นให้เมื่อกี้นี้ เห้ออี้ลั่ววางช้อนไว้ที่มือของเสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าก็เริ่มกินช้าๆ แต่ทว่าแกก็ไม่มีท่าทีลงจากตัวของเห้ออี้ลั่วแม้แต่น้อยเลย เฉียวเมิ่งเยว่ มองดูนาฬิกาของเธอ และพบว่านี่ก็เกือบจะถึงเวลาเข้างานของตนละ แต่เธอก็ลองถามดูว่า "หรือวันนี้ให้ฉันโทรไปลาวันนึง?เมื่อคืนคุณไม่ได้พักผ่อนเลย” "คุณไปทำงานเถอะ เวลานี้เสี่ยวเป่ายอมเข้าใกล้แค่ผมเพียงคนเดียวเท่านั้น คุณอยู่ด้วยก็คงไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่นัก" เฉียวเมิ่งเยว่มีความเห็นเช่นเดียวกัน เลยพูดต่อทิ้งท้ายว่า "โทรหาฉันด้วยนะ ถ้ามีอะไร" หลังจบประโยค เฉียวเมิ่งเยว่ก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไป 
已经是最新一章了
加载中