บทที่ 48 ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนกับคุณ
1/
บทที่ 48 ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนกับคุณ
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 48 ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนกับคุณ
บ๗ที่ 48 ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนกับคุณ พอได้ยินจนจบ เฉียวเมิ่งเยว่ก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วกาย "พ่อทำอาชีพนี้มานานหลายปี เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สังเกตเห็นปัญหาดังกล่าว เขาเคยทำมาตั้งหลายโครงการ ออกแบบอาคารมานับไม่ถ้วน ไม่มีวันที่พ่อจะทำพลาดกับข้อผิดพลาดที่ต่ำขนาดนี้ " "แม่ก็ไม่เชื่อ แต่หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่เขา" "ถ้างั้น ตอนนี้พ่อกำลังถูกพวกเขาพาไปสอบสวนหรอกเหรอ?" ลั่วหมิงเม่ยพยักหน้าอย่างอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง เฉียวเมิ่งเยว่เงียบนิ่งไปเป็นเวลานาน "แม่ ทำไมแม่กับพ่อถึงไม่ยอมบอกหนูตอนแรก?" ลั่วหมิงเม่ย อ้าปากไปครู่นึง แล้วก็พูดต่อไปว่า "ทว่าบอกลูกไป ลูกก็ต้องขอให้ลูกเขยช่วย ซึ่งพวกลูกเพิ่งจะแต่งงานไปได้ไม่นานนัก แม่ไม่อยากให้ลูกเขยถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาของครอบครัวเรามากเกินไป ทำให้ฝั่งนั้นรู้สึกว่าเรามันยุ่งยากชอบหาเรื่อง มันอาจส่งผลให้ลูกอยู่ลำบากที่ตระกูลเค้า " เฉียวเมิ่งเยว่รู้สึกเจ็บปวดและอบอุ่นอยู่ในใจของเธอพร้อมกัน "ทว่าเราจัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้ เราก็ต้องขอความช่วยเหลือจากอี้ลั่วอยู่ดี แล้วถ้าพวกเขารู้ที่หลัง ตอนเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขาก็คงจะรู้สึกไม่ดี ที่พวกเราเห็นพวกเขาเป็นคนนอก " ลั่วหมิงเม่ยถอนหายใจ“ ที่ลูกพูดมาก็มีส่วนถูก งั้นเอางี้ กลับไปคืนนี้ลูกลองปรึกษากับลูกเขยดู ลองดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร” "วันนี้พ่อไม่อยู่บ้าน เดี๋ยวคืนนี้หนูจะอยู่เป็นเพื่อนแม่เอง" “แค่เป็นหวัดจะทำให้ฉันเปราะบางขนาดไหนกันยะ ตราบใดที่แกไม่โผล่หน้ามาให้ฉันอารมณ์เสียล่ะก็ ฉันยังสามารถเที่ยวตลอดไปหลายทศวรรษได้เลยเชื่อไหม” เฉียวเมิ่งเยว่ทำเสียงหึอย่างไม่เห็นด้วย จากนั้นก็ย้ายอาหารกลับมาที่โต๊ะ แม้ว่าลั่วหมิงเม่ยไม่ยอมให้เฉียวเมิ่งเยว่อยู่พักที่บ้าน แต่เฉียวเมิ่งเยว่ก็ยังคงอยู่กับเธอจนถึง4ทุ่ม ถึงได้ขับรถกลับไปที่บ้านพัก เมื่อกลับมาถึงบ้าน เวลาก็ใกล้ถึง5ทุ่มเสียแล้ว ซึ่งเห้ออี้ลั่วยังนั่งทำงานอยู่ในห้องนั่งเล่นไม่ได้ไปนอน คิ้วที่งดงาม จดจ่ออยู่กับโน้ตบุ๊คอย่างตั้งอกตั้งใจ นิ้วยาวสง่าของเขาก็ขยับอย่างรวดเร็วบนคีย์บอร์ด เฉียวเมิ่งเยว่ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะรอตนอยู่ที่นี่ พอเห็นว่าเขากำลังยุ่งอยู่ก็เลยเอนตัวเดินเบาลงเพื่อเป็นการไม่รบกวน หลังจากที่ เห้ออี้ลั่วส่งไฟล์ที่แก้ไขแล้ว ไปยังผู้ช่วยของ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ "แม่เป็นยังไงบ้าง?" "เป็นหวัดเล็กๆน้อยๆเอง ไม่เป็นอะไรมากหรอก" “ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” เห้ออี้ลั่วชี้ไปที่โซฟาตรงข้ามเขา“ เชิญนั่งเลยครับ” เฉียวเมิ่งเยว่นั่งด้วยความคล้อยตามคำสั่ง และกำลังคิดในใจว่าจะพูดคุยกับเขา เรื่องพ่ออย่างไร หลังจากลังเลไปสักครู่ เธอก็โพล่งขึ้นมาว่า "คุณเศรษฐีคะ ฉันอาจต้องการความช่วยเหลือจากคุณ" "ห๊ะ?" เห้ออี้ลั่วตอบ เสียงนั่นช่างฟังดูเกียจคร้านเล็กน้อย แลดูแฝงไปด้วยความเสน่ห์ชวนหลงใหล “ พ่อฉันได้เจอเรื่องบางอย่าง ซึ่งฉันไม่สามารถจัดการมันไปได้” เฉียวเมิ่งเยว่เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ พอเห้ออี้ลั่วฟังจบ เขาก็ลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า "คือที่ผมอยากจะบอกคุณ ก็เป็นเรื่องนี้เหมือนกัน ช่วงนี้ผมยุ่งอยู่กับการดูแลเสี่ยวเป่าและ เรื่องของบริษัท ผมเองก็เพิ่งจะทราบเรื่องในวันนี้เช่นกัน แต่ผมเชื่อว่าพ่อของคุณเป็นคนดี เรื่องนี้ผมส่งคนที่เกี่ยวข้องรู้เรื่องคอยดูแลตรวจสอบ เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อพ่อของคุณหรอก " ดวงตาของเฉียวเมิ่งเยว่แดงก้ำ เธอเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว เห้ออี้ลั่ว รู้จักตนเองมาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่เมื่อพบเจอปัญหา เขากลับเลือกที่จะเชื่อใจตน เชื่อใจพ่อของตน "ขอบคุณมากค่ะ คุณเศรษฐี" เฉียวเมิ่งเยว่สูดหายใจลึกเข้า แล้วก็พูดอย่างสะอึกสะอื้น "คุณไปพักผ่อนที่ชั้นบนก่อน หากมีข่าวสารอะไรใหม่ๆ ผมจะบอกคุณทันที คุณก็บอกแม่คุณด้วยว่าไม่ต้องกังวล" "อื้มๆ" เฉียวเมิ่งเยว่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอเกาหัวแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน เห้ออี้ลั่วยิ้มและมองดูแผ่นหลังที่แลดูเหมือนเด็กของเธอ จนเธอหายไปจากสายตาของเขา จากนั้นเขาถึงจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา "คุณพี่สอง เกิดอะไรขึ้นครับ โทรมาในช่วงเวลาดึกๆแบบนี้?" เสียงเกียจคร้านของข่งซิวชิงดังขึ้น และเสียงโห่ร้องสนุกสนานของทั้งชายหญิงก็ดังขึ้นในเวลาเดียวกัน เห้ออี้ลั่วขมวดคิ้ว "หาที่เงียบๆ แล้วมาคุยกันดีๆ " "รอสักครู่นึงนะครับพี่" ข่งซิวชิงยืนขึ้นจากโซฟา โบกมือให้ผู้หญิงที่กำลังจะจับเขาให้หยุดลง แล้วเดินออกจากห้อง“โอเคแล้ว เชิญพูดเลยครับ คุณพี่สอง” "แกช่วยฉันสืบเรื่องเกี่ยวกับเฉียวไห่ซิงให้หน่อย ฉันไม่ค่อยรู้หรอก ว่าวงการของแกเป็นแบบไหนบ้าง แล้วดูให้หน่อย รอบนี้ใครเป็นคนจ้องเล่นงานเขา?" "โอ้ เรื่องนี้หรอกเหรอ ชื่อเสียงของเฉียวไห่ซิงก็ดีโดยมาตลอดในวงการ เรื่องนี้เป็นเพียงเพราะว่ามีบางคนไม่ค่อยพอใจเขาน่ะแหละ และจ้องที่จะเล่นงานเขามานานแล้วแต่ไม่ค่อยมีโอกาสเสียเท่าไหร่ แต่ไอคนหนุนหลังนี่มันก็ดวงเฮงซวยเหมือนกันแฮะ ใครจะไปรู้หรอกเล่า ว่าเฉียวไห่ซิงจะกลายเป็นพ่อตาของคุณพี่น่ะ " "ก็แปลว่าแกรู้ใช่ไหม ว่าใครอยู่เบื้องหลัง?" "ผมก็สืบคนต้นเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ได้ข่าวมาว่าเป็นคนของตระกูลเย่" "ตระกูลเย่เหว่ยเหรอ?" เสียงของเห้ออี้ลั่วเยือกเย็นลงทันที "ไม่หรอก แม้ว่าเย่เหว่ยจะตายจากไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงเป็นพี่สะใภ้ของคุณพี่อยู่ดี ตระกูลเย่ยังคงต้องพึ่งพาตระกูลของพี่อยู่เลย พวกมันไม่โง่ขนาดนี้หรอกพี่ ผมได้ยินมาว่ามันเป็นฝ่ายคนที่แยกมาจากตระกูลเย่อีก พี่จำได้ไหมว่า รอบที่แล้วที่เราไปเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและสมอง? แฟนเก่าของพี่สะใภ้สอง ที่เป็นแฟนเก่าของภรรยาพี่น่ะ เขาได้มีแฟนคนใหม่ชื่อเย่ชิง ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ " ทันใดนั้น แววตาของเห้ออี้ลั่วก็ยิงประกายเป็นโทสะ แล้วก็พูดขึ้นว่า "ฉันจะตรวจสอบคนคนนี้เอง แกช่วยส่งคนจัดการเรื่องเฉียวไห่ซิงให้หน่อย และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดอิทธิพลของเรื่อง ให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในอนาคตของเขา" “ รับทราบครับ” แล้วข่งซิวชิงก็ถามด้วยความสงสัยว่า:“ เสี่ยวเป่าเป็นยังไงบ้าง?ไม่กลัวผู้คนแปลกหน้าแล้วเหรอ?ผมเห็นว่าตอนนี้แกก็ยอมไปประชุมสำนักงานใหญ่กับคุณพี่ละ” "ได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย" "งั้นก็ดีแล้วแหละ" ข่งซิวชิงดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นพอดี "เอิ่ม..สองสามวันก่อน เวินอันเหยนถามผมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพี่กับพี่สะใภ้สอง ดูเหมือนว่าเธอจะยังลืมพี่ไม่ได้" "ภรรยาของฉันคือเฉียวเมิ่งเยว่ ทว่าเจอเธออีกในภายหลังนี้ แกก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมันก็ได้" "อืม ไม่เห็นก็ไม่เห็น งั้นผมวางสายละนะ พี่ไปดูแลเสี่ยวเป่าเถอะ" ข่งซิวชิงเพิ่งวางหูโทรศัพท์ไปสักครู่ พอหันกลับไปก็พบว่าเวินอันเหยนยืนอยู่ข้างหลังเขา "ฉิบหายแล้ว คุณพี่เอ่ย เวลาเดินกรุณาส่งเสียงหน่อยได้ไหม?" เวินอันเหยนดูใบหน้าขาวซีด"อี้ลั่วว่าอย่างไนกับนายบ้าง?" "พี่สอง ขอให้ฉันช่วยเขาสืบเรื่องนิดหน่อย" ข่งซิวชิงกล่าวต่อไปว่า "สุขภาพของเธอยังไม่หายดีเลยนี่ แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?" “ ฉันอยู่ไม่ไหวหรอก ถ้าอยู่เฉยๆฉันจะบ้าตาย ซิวชิง นายช่วยบอกฉันหน่อยนะ นี่ฉันหมดโอกาสแล้วจริงเหรอ?” ข่งซิวชิงนึกถึงคำพูดของเห้ออี้ลั่วในเวลาเมื่อสักครู่ เลยพูดแบบลังเลต่อว่า "เอิ่ม....ยังมีผู้ชายอีกมากมายบนโลกนี้ เธอเปลี่ยนไปชอบคนอื่นก็ได้นี่" เวินอันเหยน ได้ยินคำแฝงในคำพูดของเขา "ทำไมเขาถึงไม่ยกโทษให้เลย? บางครั้งฉันรู้สึกว่าเขาไม่เคยรักฉันเลยแม้แต่น้อย ถ้าเขาเคยรักฉันจริง เขาจะเก็บความรู้สึกของเขาได้สะอาดหมดจดอย่างนี้ได้อย่างไร?เพื่อเด็กคนนั้น ฉันจึงกลายเป็นเช่นนี้ ทำไมเขาถึงไม่ยอมใจอ่อน ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับฉันเลย นายบอกฉันหน่อยได้ไหม? " ข่งซิวชิงไม่รู้วิธีที่จะปลอบใจคนจริงๆความจริงแล้วเขาก็ไม่ค่อยเข้ากับเวินอันเหยนตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวินอันเหยน ดั่งเสมือนสายน้ำ เธอสามารถร้องไห้ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งนั้นเธอต้องการคนดูแลอย่างเต็มที่ใกล้ชิดถึงจะอยู่ได้ ไม่มีใครที่สามารถ ดูแลเธอแบบนั้นได้ทุกวันหรอกหน่า แต่เขาก็ไม่ได้เกลียดเวินอันเหยนจนขนาดนั้นหรอก ข่งซิวชิงตบไปที่ไหล่ของเธอ“ ทำแบบนี้มันก็ไม่ดีสำหรับใครหรอกนะ พี่สองก็มองไม่เห็นความเจ็บปวดของเธอ รีบๆรักษาให้หายขาด ไม่มีใครไม่เคยอกหักหรอกหน่า เดินออกมาก็หายดีแล้ว“ หลังจากที่ข่งซิวชิงพูดเสร็จ เขาก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเวินอันเหยนจะมายุ่งกับตนอีกครั้ง เวินอันเหยนยืนอยู่บนทางเดินที่ว่างเปล่า และแล้วร่างกายของเธอก็สั่นอย่างรุนแรง ** เฉียวเมิ่งเยว่ กลิ้งไปรอบๆบนเตียงทั้งคืน จนกว่าถึงวันรุ่งสางถึงได้งีบหลับเสียที เธอคลานขึ้นมาพร้อมกับรอยคล้ำคู่หนึ่ง และพบว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เลยกลิ้งกลับไปที่เตียง พอเกือบแปดโมง ถึงได้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อลงมาชั้นล่าง เห้ออี้ลั่วและเสี่ยวเป่าก็ออกกำลังกายข้างนอกจนเสร็จแล้วพอดี
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 48 ฉันจะอยู่รอเป็นเพื่อนกับคุณ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A