บทที่ 51 พวกเราเคยทำแล้วไม่ใช่หรอ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 51 พวกเราเคยทำแล้วไม่ใช่หรอ
บ๗ที่ 51 พวกเราเคยทำแล้วไม่ใช่หรอ เฉียวเมิ่งเยว่เปลี่ยนชุดนอนให้เสี่ยวเป่าและก็อุ้มเขาเข้าไปวางบนเตียงของเธอ เสี่ยวเป่ามองเธอด้วยแววตาอ่อนแรงหลังจากนั้นตาของเขาก็ค่อยๆปิดลง เฉียวเมิ่งเยว่อดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากลงไปบนหน้าผากเล็กๆของเขา สักพักเธอก็ลุกขึ้นออกจากห้องและเดินลงมา เมื่อลั่วหมิงเม่ยได้ยินเสียงฝีเท้าก็ถามขึ้นมาว่า “เสี่ยวเป่านอนแล้ว?” “อืม”เฉียวเมิ่งเยว่นั่งลงข้างๆลั่วหมิงเม่ยและดูหนังที่เกี่ยวกับจริยธรรมครอบครัวเป็นเพื่อนเธอ “เรื่องของพ่อเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว” “ฉันไม่ได้เป็นห่วงเขา ฉันค่อนข้างเป็นห่วงเธอ” “เป็นห่วงหนูทำไม?”สีหน้าเฉียวเมิ่งเยว่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “เธอกับอี้ลั่วพึ่งแต่งงานกัน รบกวนเขาบ่อยๆก็ไม่ดี นอกจากนี้พวกเธอแต่งงานกันมาสักพักแล้ว เธอเคยไปพักบ้านใหญ่ตระกูลเห้อกี่ครั้ง? เรื่องที่ลูกสะใภ้ควรทำเธอก็ต้องเรียนรู้และวางแผน เฮ้อ! ก่อนหน้านี้ฉันก็ปล่อยให้เธอเคยชินจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว เรื่องจุกจิกที่ละเอียดมากก็ไม่ให้เธอได้เรียนรู้ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว หลังจากที่แต่งงานกันแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรกับไม่ได้แต่งงานกัน” เฉิงเมิ่งเยว่หน้าถอดสี “อี้ลั่วไม่พูดขึ้นมา หนูจะกล้าพูดได้ยังไงล่ะ หรือว่าหนูควรจะถามตรงๆว่า ‘ เมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่พวกเราจะได้ไปกินข้าวที่บ้านคุณ?’ พูดแบบนี้จะไม่โดนเขาตีตายหรอ?” “งั้นฉันจะตีเธอตายก่อน!”ลั่วหมิงเม่ยมองบนใส่เธออย่างเหนื่อยหน่าย “นอกจากความสัมพันธ์ที่ดีกับคนตระกูลเห้อยังมีเรื่องที่มีลูกอีก สถานการณ์เสี่ยวเป่าแบบนี้ อย่างน้อยในสองสามปีไม่ต้องการมีลูกหรือบางทีอาจจะยิ่งนานกว่านี้ พอถึงเวลานั้นเธอก็เป็นผู้หญิงที่มีลูกตอนแก่แล้ว” “แม่หนูขอร้องเธอล่ะ แม่อย่าเป็นห่วงจนเกินไปได้ไหม? หนูพึ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน ไม่เอ่ยถึงเรื่องลูกได้ไหม?” “ถ้าหากว่าเธอจะคิดแบบนี้ ฉันก็ขี้เกียจเป็นห่วงเธอ” “แม่ก็ยังเหมือนเมื่อก่อน ปิดหูปิดตาบอกว่าไม่เป็นไรเหมือนพ่อไม่มีผิด” “พูดมาก เธอพิจารณาไตร่ตรองตัวเองดีๆ วันไหนไม่ระวังตัวถูกถีบออกมา อย่ามาพูดว่าฉันไม่ได้ตักเตือนเธอนะ” “รู้แล้ว ถ้าหนูถูกพวกเขาถีบออกมาแล้ว หนูก็จะพาแม่ไปเป็นขอทานข้างนอก ” ลั่วหมิงเม่ยขี้เกียจที่จะสนใจเธอแล้วก็เลยเดินขึ้นไปพักผ่อนด้านบน เฉียวเมิ่งเยว่ดูหนังอย่างหมดอาลัยตายอยาก สักพักก็พรวดพราดคิดถึงชีวิตครอบครัวเล็กๆช่วงนี้ของเธอที่ผ่านมานั้นปิดกันไม่รับรู้อะไรเลย ตั้งแต่หลังจากแต่งงาน นอกจากโรงพยาบาลก็คืออยู่บ้านแม้แต่ออกไปช็อปปิ้งก็ไม่เคยไป การใข้ชีวิตแบบนี้บิดเบี้ยวจากความเป็นจริงเกินไปแล้ว เฉียวเมิ่งเยว่หยิบโทรศัพท์ออกมา เพื่อจะโทรหาหยางเสว่หลินแต่กลับเห็นข้อความวีแชทของเห้ออี้ลั่วก่อน เห้ออี้ลั่ว : เสี่ยวเป่ายังโอเคใช่ไหม? เฉียวเมิ่งเยว่มองช่วงเวลาที่ส่งมาคือสิบนาทีก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงตอบกลับไปว่า “ยังโอเค ตอนนนี้เขากำลังนอนพักกลางวัน” เฉียวเมิ่งเยว่พึ่งจะส่งข้อความไปก็มีสายเรียกเข้าของเห้ออี้ลั่วโทรเข้ามา เฉียวเมิ่งเยว่ก็รีบรับสายทันที “ฮัลโหล” “ลงมาไหม? ฉันอยู่ข้างล่าง” “ทำไมไม่ขึ้นมา? เสี่ยวเป่าตื่นขึ้นมาแล้วหาคนไม่เจอจะโกรธรึเปล่า?” “เขาไม่ได้อ่อนแอ่ขนาดนั้น ลงมาเถอะ” “ได้” เฉียวหมิ่งเยว่ก็หยิบเสื้อคลุมกันหนาวที่อยู่ในไม้แขวนเสื้อที่แขวนอยู่ตรงประตูห้องโถงขึ้นมาและก็เดินลงไปข้างล่าง พึ่งจะลงมาถึงข้างล่างก็เห็นเห้ออี้ลั่วพิงประตูรถอยู่ ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไร คุณลุงคุณป้าที่อยู่ในบริเวณนี้หรือว่าหญิงสาววัยรุ่นที่วันหยุดไม่ได้ทำงานก็ล้วนมองเขาอยู่ ตอนที่เห้ออี้ลั่วเห็นเฉียวเมิ่งเยว่กำลังเดินออกมาจากประตูบ้าน เขาก็เปิดประตูรถข้างๆคนขับให้เธอ เฉียวเมิ่งเยว่ที่กำลังถูกสายตาผู้คนมากมายจ้องมองก็เข้าไปนั่งในรถแล้ว รถก็ขับเคลื่อนออกจากบริเวณนี้อย่างไว จนขับมาถึงในสวนสาธารณะที่หนึ่งที่อยู่บริเวณรอบๆบ้านเฉียวเมิ่งเยว่ เฉียวเมิ่งเยว่ไม่รู้ว่าในสถานการณ์นี้เห้ออี้ลั่วเป็นอะไรและเธอก็ใช้สายตามองไปที่เขาอย่างงงงวย เห้ออี้ลั่วก็ขับรถไปตามทางเรื่อยโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เฉียวเมิ่งเยว่รออยผุ่สักพักและรู้สึกว่าความสามารถในการตัดสินใจตัวเองสู้เห้ออี้ลั่วไม่ได้ ดังนั้นเธอก็เลยปริปากขึ้นมาก่อน “ลูกคุณหนู นายเป็นอะไร? แฟนเก่าของนานกลับมาแล้ว นายเลยต้องการหย่ากับฉันหรอ? หย่าก็ได้ แต่สองร้อยล้านนั่นฉันไม่คืนนะ” เห้ออี้ลั่วหมดคำจะพูดแล้ว “ในสายตาเธอ ฉันยังไม่สำคัญเท่าสองร้อยล้าน? มีฉัน เธอจะมีเงินเยอะกว่านี้” “นั่นไม่ใช่มาตรฐานที่ต่ำหรอ? ไม่มีนาย ฉันมีสองร้อยล้านก็รู้สึกพอใจแล้ว” เห้ออี้ลั่วส่งเสียงเหอะออกมา เขาขี้เกียจที่จะสนใจเธอแล้ว เฉียวเมิ่งเยว่ถูกแม่เหอะใส่จนชินแล้วและเธอก็ไม่ถือสาแล้วเบนสายตามองไปยังทะเลสาบที่อยู่นอกหน้าต่างรถ ริมทะเลสาบยังมีเกล็ดหิมะอยู่ ใบบัวที่อยู่ในทะเลสาบก็แห้งเหี่ยวเฉาอย่างเปล่าเปลี่ยวในช่วงฤดูหนาวก็หม่นมัวไร้สีแสง เฉียวเมิ่งเยว่พบว่าตัวเองมองทะเลสาบที่ไม่มีอะไรเลยและก็มองมันอย่างสนใจ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าการใช้ชีวิตของตัวเองนั้นอ้างว้าง เธอไม่มีกระจิตกระใจค้นหาอะไรแล้ว เห้ออี้ลั่วแอบชำเลืองตามองเฉียวเมิ่งเยว่แล้วพบว่าใบหน้าด้านข้างของเธองดงามมาก โดยเฉพาะสายตาของเธอ ในการแบ่งแยกถูกผิดดีชั่วออกมาอย่างชัดเจนเธอก็ยังทำตัวคิดว่าตัวเองไม่มีความผิดเหมือนเด็กอยู่ เฉียวเมิ่งเยว่สังเกตเห็นเห้ออี้ลั่วมองสำรวจเธอ เธอก็หันไปสบตากับเขา “มองหนึ่งครั้งเก็บร้อยล้าน ขอบคุณ” “เธตลกขนาดนี้ ที่บ้านเธอรู้หรือเปล่า?” “รู้สิ ก็พวกเขาทำให้ฉันเป็นแบบนี้ หึหึ”สักพักเฉียวเมิ่งเยว่ก็หุบยิ้ม “ลูกคุณหนูขอบคุณนายนะ ที่หาคนมาช่วยจัดการเรื่องพ่อของฉัน” “เธอเป็นภรรยาของฉันแล้ว ให้คนอื่นรังแกพ่อตาฉัน จะให้ฉันเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” “ฉันก็คิดแบบนั้น ดังนั้นฉันก็เลยหันไปขอบคุณเท่านายนั้นเอง” เห้ออี้ลั่ว “.......” เฉียวเมิ่งเยว่มองไปยังเขาที่มีสีหน้าหมดคำจะพูด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าฮ่าออกมา “ไปเถอะ คืนนี้ฉันเข้าครัวเอง เลี้ยงฉลองผลงานที่ยิ่งใหญ่สักหน่อย แม้แต่แม่ฉันก็ไม่ได้กินอาหารมาตรฐานที่ฉันทำสักปีเลย” “ดังนั้น ฉันต้องรู้สึกซาบซึ้งใจมาก” “แน่นอนอยู่แล้ว” เห้ออี้ลั่วก็ใช้มือขยี้หัวเธอ เขาไม่อยากคุยกับผู้หญิงคนนี้แล้ว เฉียวเมิ่งเยว่ถามขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ “ลูกคุณหนู พูดจุดประสงค์วันนี้ของนายมาสิ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็รู้สึกว่าฉันทั้งสวยทั้งน่ารักนะแน่นอนว่านายคิดจะแสดงละครตบตากับฉันสินะ?” “พวกเราไม่ใช่ว่าเคยทำกันแล้วหรอ”เห้ออี้ลั่วพูดตอบกลับอย่างผ่อนคลาย เฉียวเมิ่งเยว่ถูกตอกกลับสักพัก เธอก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด “ถ้างั้นนายมาทำไม?” “มาดูว่าเธอได้พาลูกชายฉันหนีหรือเปล่า” “นายคิดมากไปแล้ว ความกล้าของฉันยังไม่ได้ถึงระดับนั้น” เห้ออี้ลั่วก้มลงมองนาฬิกา “ไปซื้อผักเถอะ” “ไม่ไป!” “คำพูดที่เธอผู้ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีล่ะ?” เฉียวเมิ่งเยว่ก็พูดออกมาอย่างตั้งใจว่า “ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกับนายก็จะถูกฝูงคนรุมมองสิ” “เธอพูดเหมือนเธอมีอำนาจหลีกเลี่ยงได้”เห้ออี้ลั่วก็ขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถที่อยู่ใกล้ๆซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ เฉียวเมิ่งเยว่พูดอย่างไม่อยากคาดหวัง “ลูกคุณหนู นายอยู่ในรถรอนะ เรื่องที่ซื้อผักจุกจิกละเอียดแบบนี้ก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรก็ให้ฉันคนรับใช้ตัวเล็กๆคนนี้ทำก็พอแล้ว” เห้ออี้ลั่วตอบกลับด้วยการลงรถ เขาเดินมาทางประตูรถของเฉียวเมิ่งเยว่และเปิดประตูรถให้เธอ เฉียวเมิ่งเยว่ไม่มีทางเลือกดันทุรังอีกต่อไปก็ลงจากรถ เป็นไปอย่างที่คาดคิด เหมือนการคาดคะเนของงเฉียวเมิ่งเยว่เป็นจริง เธอและเห้ออี้ลั่วแค่ปรากฏตัวในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ดึงดูดสายตาของทุกคนแล้ว แน่นอน สายตาพวกนั้นหยุดมองแค่เห้ออี้ลั่ว บางครั้งก็มีสายตามองมาที่เธอเหมือนกันแต่มองไม่ถึงหนึ่งวิก็มองไปทางอื่นแล้ว คาดว่าผู้หญิงพวกนั้นแอบคิดในใจว่า “ผู้ชายหล่อขนาดนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาด้วยกันกับผู้หญิงที่แสนธรรมดาแบบนี้ เสียดายจริงๆ ฉันที่ยื่นอยู่ข้างๆเขาควรจะดีกว่านี้” 
已经是最新一章了
加载中