บทที่ 52 แดดดี้เห้อ สนใจภรรยาตัวเองหน่อย
1/
บทที่ 52 แดดดี้เห้อ สนใจภรรยาตัวเองหน่อย
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 52 แดดดี้เห้อ สนใจภรรยาตัวเองหน่อย
บ๗ที่ 52 แดดดี้เห้อ สนใจภรรยาตัวเองหน่อย เฉียวเมิ่งเยว่ก็คิดในใจอย่างเงียบกริบ เธอก็หน้าหนาเหมือนกัน ถูกคนพวกนั้นมองขนาดนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเหมือนกัน เธอคิดว่าต้องไปตรงจุดที่มีรถลากและใช้มือทั้งสองข้างเข็นรถลากมา แต่เห้ออี้ลั่วนำเธอไปหนึ่งก้าวก่อน เขาเดินไปเข็นรถลากและถามว่า “จะเริ่มซื้อของจากตรงไหน?” “ตรงเขตของสดที่อยู่ด้านในสุด เริ่มจากตรงนั้นเถอะ” “อืม” พวกเขาทั้งสองก็เดินมาถึงเขตของสด เฉียวเมิงเยว่ก็เลือกเนื้อมาสองสามแบบและก็เลือกผักที่เหมาะสมกับเนื้อและผลไม้ที่สดใหม่ จนตอนที่มาถึงเขตที่วางนมสด โยเกิร์ตและเบค่อน เธอก็หยิบของใส่รถเข็นไปไม่น้อย ของในรถเข็นครึ่งหนึ่งก็เต็มไปด้วยของพวกนี้ เห้ออี้ลั่วก็เผลอยิ้มออกมา “เธออายุเท่าไหร่แล้วยังกินของพวกนี้อยู่?” “นี่ก็คืองานอดิเรกยามว่างของฉันกับแม่ อ้อ! ใช่แล้ว เสี่ยวเป่าชอบกินขนมอะไรซื้อไปให้เขากัน ในฐานะที่เป็นแม่เลี้ยงที่ไม่ค่อยมืออาชีพ ฉันไม่เคยซื้อของขวัญอะไรให้เขาเลย ก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน” “อย่าพูดคำนี้ต่อหน้าเขา”เห้ออี้ลั่วพูดอย่างน่าเกรงขาม “อืม”เฉียวเมิ่งเยว่พยักหน้าอย่างเข้าใจ “งั้นจะซื้ออะไรให้เขา” “เธอก็ดูอะไรที่ถูกตาถูกใจก็ซื้ออันนั้นเถอะ” “ในฐานะที่เป็นพ่อนม นายพูดแบบขอไปทีแบบนี้ก็ได้หรอ?” “ก็ได้สิ เฉียวเมิ่งเยว่: “.......” สุดท้ายเฉียวเมิ่งเยว่ก็ซื้อรองเท้าและเสื้อฮู้ดการ์ตูนกวางโถ่วเชียงและพวกพ้องหมีให้เสี่ยวเป่า ตอนที่ถึงหน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงินเห้ออี้ลั่วก็เข็นรถลากมาแล้วพูดว่า “เธอไปอยู่ด้านนอกรอ” “อืมอืม” เฉียวเมิ่งเยว่ก็เดินออกมานั่งเก้าอี้ยาวที่อยู่ด้านนอกและมองเห้ออี้ลั่วที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางผู้คน ในประสบการณ์ความรักที่จืดชืดของเธอนั้นมีโอกาสที่จะถูกคนมาปฏิบัติต่อตนเองแบบนี้มีไม่ค่อยเยอะ ตอนที่เธอเผชิญหน้ากับเพื่อนผู้หญิง เพื่อนร่วมงานและแม่เธอล้วนมีความรู้สึกที่เหมือนผู้ชาย หลายๆเรื่องล้วนเป็นตัวเธอเองที่จัดการและเธอมักจะดูแลคนรอบตัวเสมอ เหมือนกับตอนนั้นที่คบกับโจวจื่อหยาง เพื่อคำนึงถึงชื่อเสียงเกียรติยศของโจวจื่อหยาง เธอถึงไม่ค่อยได้ออกมาช็อปปิ้ง เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของกับเขาบ่อย พูดได้เลยว่า ทุกๆการกระทำของเห้ออี้ลั่วทำให้ความรู้สึกของเธอนั้นรู้สึกพิเศษและแปลกใหม่ เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่ง เฉียวเมิ่งเยว่ที่กำลังคิดอยู่ก็มองไปยังเห้ออี้ลั่วที่ยื่นมือไปรับของที่อยู่ในถุงใหญ่สองใบแล้วเดินมาหาเธอ เฉียวเมิ่งเยว่กระพริบตาตัวเองและเก็บความรู้สึกที่ฟุ้งซ่านของตัวเองแล้วยื่นมือไปรับถุงที่อยู่ตรงกลาง เห้ออี้ลั่วก็มองบนใส่เธอและหยิบกุญแจรถใส่ในมือเธอ เฉียวเมิ่งเยว่ลูบจมูก “ลูกคนรถ นายทำแบบนี้ฉันจะรู้สึกไม่สบายใจ” “ดังนั้น?” “หลังจากนั้นนายก็ถือต่อไปเถอะ” เห้ออี้ลั่วก็เลิกมองบนและหันไปจับคางเธอบอกใบ้ให้เธอเดินตามเขามา ** ตอนที่ทั้งสองคนมาถึงบ้าน เสี่ยวเป่าก็ตื่นนอนแล้วและก็ลุกจากเตียงมานั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นเห้ออี้ลั่วและเฉียวเมิ่งเยว่เดินเข้ามาสีหน้าของเสี่ยวเป่าก็ดีขึ้นมาหน่อย เฉียวเมิ่งเยว่หันไปทางเสี่ยวเป่าและกวักมือเรียก “ลูกรัก มานี่สิ” เสี่ยวเป่ากระโดดลงโซฟามาอย่างไม่เต็มใจและเดินก้าวขาเล็กๆมาอยู่ข้างๆเฉียวเมิ่งเยว่ เฉียวเมิ่งเยว่ก็หยิบเสื้อฮู้ดตัวการ์ตูนกวางโถ่วเชียงออกมาและยื่นของที่ดูแปลกใหม่ไปให้เสี่ยวเป่าที่อยู่ตรงหน้า “ของขวัญชิ้นแรกที่หม่ามี๊มอบให้ ชอบไหม?” เสี่ยวเป่ามองไปยังตัวการ์ตูนกวางโถ่วเชียงที่สกรีนอยู่บนเสื้อก็แสดงสีหน้านิ่งสักพักถึงจะรับของขวัญมา เมื่อเฉียวเมิ่งเยว่เห็นสีหน้าท่าทางของเขา สักพักเธอก็ถือผักวิ่งเข้าไปอยู่ในห้องครัวเฉยๆ เสี่ยวเป่าเมื่อเห็นว่าเฉียวเมิ่งเยว่ไม่อยู่แล้วก็เขียนบนแท็บเล็ตว่า “แดดดี้เห้อ แดดดี้ไม่สนใจภรรยาตัวเองเลยหรอ? เสื้อที่เด็กขนาดนี้เหมาะสมกับผมหรอ?” “ไม่ชอบก็พูดกับหม่ามี๊สิ” เสี่ยวเป่าถูกแดดดี้พูดตอบกลับ เขาก็เขียนลงไปในแท็บแล็ตอย่างไม่พอใจว่า “แดดดี้ตั้งใจแน่นอน!” “แดดดี้ตั้งใจ เราจะทำไม?” “แดดดี้ใจร้ายกับเด็ก! เห้ออี้ลั่งขี้เกียจที่จะพูดด้วยแล้วก็ตอบกลับว่า “เราเหมือนทำตัวกลับไปกลับมาทรมานแดดดี้ตลอด ต่างฝ่ายต่างตีกันตลอดแต่ก็รักกันดีมันก็ไม่ดีหรอ?” เสี่ยวเป่าก็จ้องมองเห้ออี้ลั่วอย่างโกรธเคืองและหมุนร่างกายเล็กๆของตัวเองวิ่งขึ้นไปข้างบน ตอนที่วิ่งขึ้นไปก็ไม่ได้ลืมหยิบเสื้อฮู้ดการ์ตูนตัวนั้นมาด้วย เห้ออี้ลั่วก็ยกยิ้มมุมปากอย่างน่าขันและเดินเข้าไปในห้องครัว เฉียวเมิ่งเยว่ที่กำลังจัดการวัตถุดิบอยู่ในห้องครัวเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าก็พูดขึ้นมาโดยไม่ได้หันไปมองว่า “นายรังแกลูกชายฉันขนาดนี้ ฉันอนุญาตหรือยัง?” “เธอคิดว่าฉันรังแกยังไง” “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าโรคของเสี่ยวเป่าถูกคุณพ่อที่เชื่อถือไม่ได้คนนี้ทำให้เปลี่ยนไปมา “เธอเดาถูกแล้ว” เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะออกมาและจัดการวัตถุดิบที่อยู่ในมือต่อ ทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “ลูกคุณหนู บางครั้งพวกเราก็ต้องกลับไปกินข้าวกับพ่อแม่ที่บ้านใหญ่บ้างนะ ฉันที่เป็นลูกสะใภ้ไม่ได้ไปพบพ่อแม่ของสามีเลยมันก็ไม่เหมาะสมเหมือนกันอ่า” “ทำไมอยู่ๆถึงพูดเรื่องนี้?”เห้ออี้ลั่วขมวดคิ้วถาม เฉียวเมิ่งเยว่ก็ตอบกลับไปอย่างไม่ได้คิดอะไรว่า “ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้แม่ฉันแม่ยายนายพึ่งพูดใส่ฉันหรอ? ว่าฉันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แต่งานแล้วก็ยังเหมือนไม่ได้แต่งงาน เรื่องอะไรก็คิดไม่เป็น ถูกแม่พูดมาขนาดนี้ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ ถ้าหากว่าฉันทำอะไรไม่ถูกไม่ควรนายก็เตือนฉันหน่อย จะพูดว่ายังไงดีฉันเอาเงินนายมาเยอะขนาดนี้ ไม่ทำอะไรสักหน่อยมันก็เกินไปมั้ง” ทำอะไรให้ถูกต้องสมควรเลยก็พูดมากไม่ได้อ่า” “เพราะว่าเงินเธอเลยเป็นแบบนี้?” “ถ้าหากฉันพูดว่าไม่ใช่ นายก็ไม่เชื่อแน่นอน” ห้ออี้ลั่วได้ยินก็ไม่รู้ว่าควรจะหยิกผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ที่ปีนเกลียวให้ตายนหรือว่าควรที่จะสงสัยความมีเสน่ห์ของตัวเอง ความมีเสน่ห์ของเขาดูเหมือนว่าไม่ได้ปรากฏอยู่ในสายตาผู้หญิงคนนี้เลย ตั้งแต่เริ่มต้นเธอก็วิ่งหนีเขาก็ไล่ตามมาตลอด ทำไมเขาถึงได้ใช้ชีวิตบิดเบี้ยวขนาดนี้ล่ะ? ไม่ง่ายเลยที่เขาจะเกลียดใครสักคน ผู้หญิงที่ไอ้เด็กเวรคนนั้นชอบก็มาแต่งงานกับเขสมัยไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็มีอีคิวไม่สูงเท่าไหร่ เห้ออี้ลั่วส่งเสียงเหอะออกมาและก็เดินออกจากห้องครัวโดยไม่หันกลับมามอง เฉียวเมิ่งเยว่ก็มองแผ่นหลังของเห้ออี้ลั่วอย่างงงงวย ไม่เข้าใจว่าลูกคุณหนูเป็นอะไร ** วันหยุดทั้งสองวัน เฉียวเมิ่งเยว่อยู่แต่บ้าน เสี่ยวเป่านอกจากเวลาเรียนพิเศษแล้วก็อยู่ข้างๆเธอตลอด ในขณะที่เธอศึกษาอาการป่วยของคนไข้แต่ละรายและอ่านหนังสือเฉพาะทางด้านการแพทย์เสี่ยวเป่าก็ใช้แท็บเล็ตดูหลักสูตรการสอนที่เขาเรียน อุปกรณ์ที่เขาใช้บ่อยๆคือแท็บเล็ตสองเครื่องและโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่อง แท็บเล็ตเครื่องหนึ่งเป็นแบบมินิที่เขาพกพาได้สะดวก อีกเครื่องคือแท็บเล็ตใหญ่ที่มีขนาดสิบสามนิ้วที่ไม่ได้ใหญ่กว่าหน้าจอโน้ตบุ๊คที่สะดวกสบายในการดูรูปภาพและดูวิดีโอ ส่วนโน๊ตบุ๊คเขาใช้ทำการบ้าน เฉียวเมิ่งเยว่พึ่งจะเริ่มก็เป็นห่วงเวลาที่เด็กคนนี้ดูอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานๆ ดวงตาจะรับไม่ไหวแต่การดำรงชีวิตของเขาก็ยังมีกฎเกณฑ์ นอกจากเวลาเรียนและเดินทางไปต่างจังหวัดเขาจะใช้แท็บเล็ตพิมพ์แล้วช่วงที่เหลืออื่นๆเขายังใช้อุปกรณ์ปากกากับกระดาษ พูดได้เลยว่า เสี่ยวเป่าคือเด็กที่ฉลาดที่สุดที่เฉียวเมิ่งเยว่เคยเจอแต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นเด็กที่มีผลกระทบกับจิตใจคนอื่นที่สุด ใครๆก็ไม่รู้ว่าในใจที่ปิดกันของเขาแอบซ่อนอะไรอยู่กันแน่ ภายในใจลึกๆของเขาซ่อนความหวาดกลัวอะไรบางอย่างไว้ข้างใน ** วันจันทร์ เฉียวเมิ่งเยว่แค่ปรากฏอยู่บนทางเดินไปห้องทำงานของเธอ เสี่ยวอันเห็นเธอเหมือนผู้ช่วยโลกก็พุ่งเข้ามา “พี่เฉียว แผนกสูตินรีเวชด้านนั้นให้พี่ไปดูหน่อย”เสี่ยวอันพูดอย่างรีบร้อน “เกิดอะไรขึ้น?” “แผนกสูตินรีเวชด้านนั้นเมื่อวานตอนบ่ายรับเควสผู้ป่วยตัวเล็กมาหนึ่งคน ผู้ป่วยตัวเล็กไม่ยอมร่วมมือมากและไม่ยินยอมทำแท้ง ผู้ปกครองด้านนั้นเขาก็ไม่เห็นด้วยอย่างมาก”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 52 แดดดี้เห้อ สนใจภรรยาตัวเองหน่อย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A