บทที่ 56 เธอทอดทิ้งฉันใช่หรือเปล่า
1/
บทที่ 56 เธอทอดทิ้งฉันใช่หรือเปล่า
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 56 เธอทอดทิ้งฉันใช่หรือเปล่า
บ๗ที่ 56 เธอทอดทิ้งฉันใช่หรือเปล่า ในขณะที่เฉียวเมิ่งเยว่กำลังประชุม จู่จู่ก็จามติดต่อกันสองสามครั้งทำให้หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่อยู่บริเวณรอบๆหันมามองเธอ เธอสูดจมูก ไม่รู้ว่าที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะถูกคนนินทาหรือว่าเป็นไข้หวัดกันแน่ หัวหน้าแผนกพูดขึ้นมาว่า “ต่อไปก็ให้อาจารย์หลินมาพูดต่อเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในการจัดการวางแผนในปีที่ผ่านมา” หลินจื้อพยักหน้าและพูดหัวข้อสนทนาต่อ “ห้องทดลองของทางด้านนี้ฉันได้จัดเตรียมอย่างเหมาะสมแล้ว ผู้ช่วยหมอยังมีตำแหน่งว่างสองสามตำแหน่ง หมอและผู้ช่วยหมอที่อยากจะย้ายตำแหน่งและยอมรับการเติมเต็มส่วนที่ขาดไปได้ก็สามารถลงชื่อสมัครได้ ดำเนินงานอย่างเป็นทางการจะเริ่มหลังจากช่วงวันหยุดที่สิ้นสุดไปในปีถัดไป ทุกคนมีเวลามากพอที่จะคิดไตร่ตรองได้ ที่ฉันต้องการพูดก็คือเรื่องพวกนี้” หัวหน้าแผนกก็มองไปยังเฉียวเมิ่งเยว่ เฉียวเมิ่งเยว่ก็พูดขึ้นมาว่า “แผนการทำงานทางด้านนี้ของฉันได้ทำตารางแบบฟอร์มส่งไปให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ในแผนกแล้ว แผนการอย่างละเอียดทำไม่ค่อยดี จึงสามารถทำแผนการได้เพียงแค่โดยประมาณ ต้องร่วมมือกับการผ่าตัดและเวลาของแผนกอื่นๆตลอดเวลา ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ผ่าตัดและไม่ได้ทำงานอื่นๆ ฉันจะรีบจัดวางงานใหม่ให้ ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วง” “งั้นก็เอาแบบนี้ คุณหมอเฉียวอยู่ก่อน คนอื่นๆเลิกประชุมได้” คนที่เข้าร่วมการประชุมก็ค่อยๆทยอยเดินออกไป ไม่นานในห้องประชุมก็เหลือเพียงแค่เฉียวเมิ่งเยว่ หลินจื้อและหัวหน้าแผนก หัวหน้าแผนกพูดขึ้นมาว่า“เธอก็รู้ว่าโรงพยาบาลของพวกเรามักจะมีความคิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา บางครั้งก็มีนโยบายใหม่ ๆ ที่โรงพยาบาลอื่นไม่มีเพื่อให้คนที่เข้ามาใหม่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ โดยเฉพาะนักศึกษาหมอเฉพาะทางที่จบ.โทขึ้นไปการเปลี่ยนใจยิ่งเพิ่มขึ้น นโยบายใหม่ปีนี้ก็คือนักศึกษาหมอเฉพาะทางที่จบป.โทขึ้นไปทุกคนก็มีโอกาสอยู่ในเเต่ละแผนก เธอต้องการจะไปแผนกอื่นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์สักพักไหม ?” เฉียวเมิ่งเยว่เงียบไม่พูดไม่จาสักพักก็พูดขึ้นมาว่า “ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยคิดถึงปัญหานี้ ตอนนี้ฉันไม่ค่อยอยากจะไปแล้ว” หลินจื้อไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ?” ผ่านไปไม่นานเฉียวเมิ่งเยว่ก็เข้าใจสาเหตุที่หลินจื้อยังคงอยู่ ที่แท้มีเจตนาต้องการให้เธอไปเข้าร่วมห้องทดลองเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดนี่เอง ห้องทดลองคือการทำแบบวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ไม่เหมือนเธอในตอนนี้ที่ทำเกี่ยวกับการตรวจรักษาทางการแพทย์ “ขอบคุณอาจารย์หลิน ที่ยามปกติคุณให้โอกาสฉันได้สัมผัสทดลองกับโรคหัวใจและหลอดเลือดมากมาย ก็ใช่ หลังจากที่ได้สัมผัสพวกนี้ ฉันก็ค้นพบว่าพื้นฐานของฉันไม่ได้มั่นคงแข็งแรง ระดับความสามารถในตอนนี้ของฉันพอรับมือกับหน้าที่การงานของตัวเองได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่ฝีมือของฉันไม่ค่อยมั่นคง ในตอนที่ทำการผ่าตัดฉันก็รู้สึกว่าฝีมือของตัวเองไม่ดีพอมาก ฉันไม่ค่อยอยากจะคิด ตอนที่ฝีมือของฉันก็ยังไม่ชำนาญพอที่จะเรียนรู้ได้และยังต้องไปรับสิ่งใหม่ๆอีก นอกจากจะเสียเวลาและกำลังจิตใจของอาจารย์หลินแล้ว และก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันมีฝีมือชำนาญในการเรียนรู้ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดไวขึ้น” สีหน้าของหลินจื้อเผยให้เห็นอารมณ์ที่เสียดายออกมาแต่ยังยิ้มและพูดขึ้นว่า “หัวหน้าหวง คุณพูดไม่ผิดจริงๆ คุณหมอเฉียวไม่ได้สองจิตสองใจ ฉันยอมรับแล้ว ฉันจะไปเลือกหมอคนอื่น” หลินจื้อพูดจบก็เก็บของแล้วเดินออกไป เฉียวเมิ่งเยว่เอียงตามองและหัวเราะเหมือนอีเห็นที่เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง “หัวหน้า ฉันซื่อสัตย์ขนาดนี้ ให้รางวัลฉันสิ” “ ตัวเองขี้เกียจเปลี่ยนแผนกก็พูดมาตรงๆ ยังพยายามมาทำเป็นปิดทองหลังพระอีก” “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? ฉันกลัวว่าถ้าไปเข้าร่วมกับอาจารย์หลินแล้วกลัวว่าคุณจะเสียหน้า? แล้วหลังจากนี้คุณก็ไปกลั่นแกล้งฉันต่อหน้าพวกผู้บริหาร ฉันก็ซวยละซิ เพราะงั้น เพื่ออนาคตจำเป็นต้องยอมกัดฟันทนและยืนอยู่ข้างๆคุณ” “เฉียวเมิ่งเยว่ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่มีอำนาจและอิทธิพลแล้ว อาจารย์ของเธอก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเธอแล้วใช่ไหม?”หัวหน้าตบโต๊ะเบาๆ “กล้าที่ไหนอ่า ตอนนี้คุณสั่งให้ฉันทำอะไร ฉันไม่กล้าขัดคำสั่งคุณแน่นอน” “ไสหัวไป! มากระโดดโลดเต้นโวยวายอยู่ตรงหน้าฉัน น่ารำคาญ!!” “จะรีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้” เฉียวเมิ่งเยว่หยิบสมุดจดงานและปากกาแล้วกระโดดโลดเต้นออกไป หัวหน้าแผนกมองไปยังห้องประชุมที่ว่างเปล่า มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา การตัดสินใจของเฉียวเมิ่งเยว่ทำให้เขายิ่งพอใจเฉียวเมิ่งเยว่มากขึ้น นโยบายใหม่ของโรงพยาบาลหย่าเต๋อที่ประกาศออกมาให้เห็นได้ให้โอกาสของหมอที่เลื่อนขั้นใหม่ที่มีประสบการณ์มาก ความจริงก็คือหลุมมืด ถ้าหากว่าหมอเฉพาะทางเลื่อนขั้นใหม่เปลี่ยนย้ายตำแหน่งแล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงปัญหาฝีมือที่ถูกตัดไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าแต่ก่อนผู้บริหารของหมอเฉพาะทางเลื่อนขั้นใหม่ก็ไม่เต็มใจยอมแล้ว นี้จัดวางอย่างชัดเจนเลยว่าถูกผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาตบหน้าแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าหมอเฉพาะทางที่เลื่อนขั้นใหม่ เพื่อที่จะเสาะหาอาชีพการงานให้พัฒนาดียิ่งขึ้นและเปลี่ยนห้องแผนกรักษาโรค จะนึกว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ทุกระดับชั้นได้ไม่ดีเลยให้ลูกน้องอยู่ไม่ไหว เมื่อมีสถานการณ์แบบนี้ ความสัมพันธ์ของผู้บริหารคนก่อนและหมอรักษาเฉพาะทางที่เลื่อนขั้นใหม่ก็ไม่ต้องประมาณการแล้วและยังอาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องนี้เสียหายในโรงพยาบาลไม่ได้ ** เฉียวเมิ่งเยว่กลับมาถึงห้องทำงานก็พูดกับเสี่ยวอันว่า “สหายเสี่ยวอัน เธอดูสิเธอต้องการย้ายตำแหน่งอะไร ด้านนั้นของอาจารย์หลิน เพื่อช่วยให้ผู้ช่วยหมอมีโอกาสได้เรียนรู้มากกว่าที่ฉันทำคนทีได้โอกาสสัมผัสม้ามก็มากเหมือนกัน” เสี่ยวอันไม่ทำแล้วและตบโต๊ะเบาๆแล้วตะโกนขึ้นมาว่า “เธออยากทอดทิ้งฉันใช่หรือเปล่า ทอดทิ้งฉันให้ทำงานที่ถูกต้อง?” “ฉันคิดแบบนั้นหรอ?” “ถ้าไม่อย่างนั่นเธอจะกระตือรือร้นไล่ฉันให้ไปทำอะไร?” “นี้ไม่ใช่เพื่ออนาคตของเธอหรอ” “ฉันไม่ต้องการ เธออย่าคิดเพ้อเจ้อบังคับไล่ฉันไป เปลี่ยนผู้ช่วยหมอคนใหม่ ฉันจะไม่ย้ายที่ไปไหน ให้ตายยังไงก็ไม่ย้าย!” เฉียวเมิ่งเยว่ถูกเสี่ยวอันตะโกนใส่จนรู้สึกฟังแล้วปวดหัว “ไม่ย้ายก็ไม่ย้าย อย่าตะโกน คุณหมอที่อยู่แผนกอื่นๆได้ยินฉันจะดูไม่มีศักดิ์ศรีมาก” สายตาของเสี่ยวอันก็จ้องมองไปยังเฉียวเมิ่งเยว่อย่างคับแค้นใจ “หลังจากนี้ถ้าเธอคิดจะทำแบบนี้อีก ฉันก็จะใส่ยาถ่ายลงไปในกาแฟของเธอ” “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ดื่มกาแฟแล้ว” เสี่ยวอัน “......” ** การทำงานของวันนี้ก็ยังนับว่าสบายๆ นอกจากจะค้นคว้าวิจัยอาการของผู้ป่วยและแผ่นฟิล์มเอ็กซเรย์กับคุณหมอของแผนกอื่นๆแล้วก็ไม่ต้องทำการผ่าตัดอะไร สาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าใกล้ถึงช่วงตรุษจีน ในช่วงนี้ทำการผ่าตัด ช่วงตรุษจีนก็ต้องเฉลิมฉลองที่โรงพยาบาล ดังนั้น ช่วงเวลานี้ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาค่อนข้างว่างของแผนกศัลยกรรมพวกเขา ตอนที่เลิกงานช่วงบ่าย เฉียวเมิ่งเยว่ก็เก็บของเตรียมกลับบ้านช่วยแม่ทำความสะอาดในบ้านด้วยกันเตรียมต้อนรับการกลับมาของพ่อพรุ่งนี้ พึ่งจะเข้ามาในลิฟต์ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เป็นหัวหน้าแผนกนั่นเอง “สวัสดีค่ะ หัวหน้าแผนก” “กลับมาก่อน มีเควสฉุกเฉิน เธอมาแลกเปลี่ยนประสมการณ์การผ่าตัดหน่อย” “ได้ค่ะ”ตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่อยู่ในลิฟต์ก็กดลงอีกชั้นพอถึงอีกชั้นก็พุ่งออกมาและรีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อกาวน์อีกครั้ง เวลาที่หัวหน้าแผนกให้เธอเลิกงานล้วนต้องให้เธอดูขั้นตอนการผ่าตัดอยู่ข้างๆตลอด แน่นอนคือเป็นตัวแทนของการผ่าตัด เธอจำเป็นต้องกระปรี้กระเปร่ามาก เฉียวเมิ่งเยว่รีบก้าวเข้ามายังห้องพาตัด ที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจคือนอกจากหัวหน้าแผนกแล้วแม้กระทั้งผู้นำโรงพยาบาลสองสามคนก็อยู่เหมือนกัน เธอสวมใส่ผ้าปิดปากและหันไปพยักหน้าให้ผู้นำโรงพยาบาลสองสามคน หลังจากนั้นก็ยื่นอยู่ด้านหลังเล็กน้อยแล้วมองไปยังเตียงผ่าตัด ตอนที่เธอเห็นใบหน้าของคนที่อยู่บนเตียงผ่าตัด ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ นั่นคือโม่มู่เฉิน เขาเป็นนักแสดงชายที่มีศักยภาพและเป็นไอดอลที่เพียบพร้อม แค่เข้ามาในวงการบันเทิงรางวัลทุกอย่างก็ถูกเขากวาดเรียบ แม่ของเธอที่เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่หน้าไม่อายคนนี้เป็นแฟนคลับของเขา ตอนที่รู้เวลาละครออกก็เอาแท็บแล็ตออกมาวางดูบนโต๊ะอาหาร ใครกล้ารบกวนเธอที่เพลิดเพลินกับความงามของผู้ชายคนนั้นก็ต้องตาย เวลานี้ บนใบหน้าของโม่มู่เฉินและร่างกายด้านซ้ายครึ่งหนึ่งล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือด ดูเหมือนว่าจะทำให้คนตกใจอย่างยิ่ง การผ่าตัดในครั้งนี้ทำโดยผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกที่ถือมีดเตรียมผ่าตัดด้วยตัวเอง ผู้อำนวยการอายุหกสิบกว่าแล้ว ฝีมือของเขาในโลกทางการแพทย์มีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะด้านการจัดแก้หน้าของเขา ฝีมือการทำศัลยกรรมของเขาสามารถจัดลำดับขึ้นมาติดเทรนโลกได้ แต่ไม่กี่ปีมานี้เขาไม่ได้ทำการผ่าตัดแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้เพื่อโม่มู่เฉินเขาถึงกลับมาจับมีดผ่าตัดอีกครั้ง ก็ใช่ที่โม่มู่เฉินมีความสามารถและอำนาจอยู่เบื้องหลัง จนถึงเวลาที่ผู้อำนวยการเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของโม่มู่เฉินให้สะอาดหมดจด ทุกคนถึงจะรู้ว่าเขาบาดเจ็บมากแค่ไหน บาดแผลบนหน้าด้านซ้ายสามารถมองเห็นกระดูกได้ ถ้าหากว่าเจอคุณหมอคนอื่นๆแน่นอนว่าต้องทิ้งรอยแผลเป็นไว้ เฉียวเมิ่งเยว่อดไม่ได้ที่จะดีใจแทนโม่มู่เฉินที่โชคดีได้รับการรักษาจากผู้อำนวยการ บนใบหน้านั้นของเขาถ้าหากว่ามีรอยแผลเป็นก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 56 เธอทอดทิ้งฉันใช่หรือเปล่า
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A