บทที่ 59 การยั่วยุของเวินอันเหยน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 59 การยั่วยุของเวินอันเหยน
บ๗ที่ 59 การยั่วยุของเวินอันเหยน เสี่ยวเป่าก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยและหยิบหมีดเล็กตัดกล่องของขวัญ นั้นคือของเล่นสนามฟุตบอลที่มีขนาดเล็ก ข้างในยังมีสองแถวที่มีนักฟุตบอลแต่ละทีมใส่เสื้อไม่เหมือนกันยืนอยู่ นักฟุตบอลพวกนั้นล้วนสามารถวิ่งได้ เสี่ยวเป่าก็มองไปยังสนามฟุตบอลนั้นด้วยดวงตาที่ระยิบระยับและสีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ “ลูกรัก นักฟุตบอลพวกนนั้นสามารถแข่งกันได้ หลังจากนี้หม่ามี๊และคุณพ่อมีเวลาจะมาเตะเล่นกับเราดีหรือเปล่า?” เสี่ยวเป่าพยักหน้าหนักๆ เฉียวเมิ่งเยว่แอบถอนหายใจเบาๆ ของขวัญที่ให้เสี่ยวเป่าเป็นของที่ซื้อมาและราคาแพงที่สุดในวันนี้ ตอนรูดบัตรเสร็จ เธอยังรู้สึกกังวลใจสักพักหนึ่งกลัวว่าเสี่ยวเป่าไม่ชอบ บางทีหลังจากที่มีเกมส์หรือเรื่องราวที่เข้าร่วมด้วยกันได้ เสี่ยวเป่าอาจจะยอมพูดบ้างบางครั้ง เห้ออี้ลั่วเปิดถุงกระดาษของตัวเองและมองเห็นเนคไทที่อยู่ข้างในก็กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมา ** หลังจากที่ครอบครัวรับประทานอาหารกันอย่างมีความสุขจนอิ่มก็พูดคุยกันสักพักแล้วเห้ออี้ลั่วก็พาเฉียวเมิ่งเยว่และเสี่ยวเป่ากลับบ้านพักใหญ่ สองสามคนก็เอาสนามฟุตบอลเล็กนั้นที่เสี่ยวเป่าชอบเป็นพิเศษวางเข้าไปท้ายรถ หลังจากที่เฉียวเมิ่งเยว่นั่งรถนอกยี่ห้อเบนท์ลีย์ที่พึ่งเปลี่ยนใหม่ของเห้ออี้ลั่วก็พึ่งจะนึกขึ้นได้แล้วพูดว่า “ลูกคุณหนู ขอโทษนะ วันนี้ฉันลืมซื้อของขวัญให้พ่อกับแม่ของคุณ” “ท้ายรถมีของหมักดองและขนมหวานของแม่ยายที่วางเอาไว้ ของขวัญพวกนี้ล้วนดูแปลกใหม่กว่าของขวัญอื่นๆ” “แต่ของพวกนั้นฉันไม่ได้ทำ” “หลังจากนี้ก็ยังมีโอกาสให้อยู่ ในครั้งนี้ไม่ต้องรีบให้” เฉียวเมิ่งเยว่ก็ขานรับ หลังจากที่สตาร์ทรถเสี่ยวเป่าก็ปีนขึ้นไปนั่งบนตักของเฉียวเมิ่งเยว่และเอาศรีษะเล็กๆซบหนุนบนอกของเธอ เฉียวเมิ่งเยว่ก็ลูบหลังเล็กๆของเขาเบาๆและปล่อยให้เขาซบอยู่ ** ใช้เวลาขับรถมาชั่วโมงครึ่ง รถก็ขับเข้าไปในเนินเขา ตอนที่ใกล้จะถึงบ้าน เฉียวเมิ่งเยว่ก็ชำเลืองตามองด้านนอกหน้าต่าง พบว่าข้างถนนมีเงาของคนที่สวมเสื้อกันหนาวสีชมพูและกระโปรงสีขาวอยู่ การแต่งตัวของคนๆนั้นดูคุ้นมาก คล้ายกับผู้หญิงที่เธอเห็นในวันแต่งงานของเธอ เฉียวเมิ่งเยว่หันไปมองเห้ออี้ลั่ว สีหน้าของเห้ออี้ลั่วก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาและก็เหยียบคันเร่งขับผ่านเวินอันเหยนไปด้วยความเร็ว เฉียวเมิ่งเยว่เห็นเวินอันเหยนนิ่งไม่ไหวติงสักพักก็หันกลับมามองทางและไม่มองนอกหน้าต่างอีก เวินอันเหยนมองไปยังรถเบนท์ลีย์ที่ได้หายไปแล้ว เธอรู้สึกโกรธจนกำหมัดแน่นและยังเดินต่อไปทางบ้านตระกูลเห้อ ** ตอนที่รถขับเข้ามาในลานบ้าน เห้อเจียหมิงและหลิ้นหรุ่ยก็ยังคงอยู่ในลานบ้านรอพวกเขาเหมือนครั้งก่อน เห้ออี้ลั่วลงจากรถก็เดินเข้ามาเปิดประตูรถให้เฉียวเมิ่งเยว่ เห้อเจียหมิงและหลิ้นหรุ่ยเห็นเสี่ยวเป่านั่งอยู่บนตักของเฉียวเมิ่งเยว่ก็ดีใจมาก “สุขภาพร่างกายของครอบครัวเรายังโอเคใช่ไหม?” “ขอบคุณความเป็นห่วงของคุณพ่อคุณแม่ สุขภาพร่างกายของพวกเขาก็ไม่เลว”เฉียวเมิ่งเยว่พูดจบก็พูดขึ้นมาอย่างรู้สึกขอโทษว่า “จริงๆครั้งนี้หนูควรเอาของขวัญมาให้ แต่หนูลืมไปแล้ว” “หนูมาก็ดีแล้ว พวกเราไม่ได้ขาดแคลนอะไร” เสี่ยวเป่าควักแท็บเล็ตออกมาและเขียนบนแท็บแล็ตว่า “หม่ามี๊ซื้อของขวัญให้ผมใหญ่เกินไปแล้ว เลยไม่มีมือว่างไปซื้อของอย่างอื่น” เห้อเจียหมิงเห็นเสี่ยวเป่าแก้ต่างให้เฉียวเมิ่งเยว่ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “ปู่กับย่าไม่ได้โทษหม่ามี๊ของเรา บ้านพวกเราไม่ได้ขาดแคลนอะไร พวกหนูสามคนกลับมาบ่อยๆ พวกเราก็พอใจแล้ว” เห้ออี้ลั่วเปิดท้ายรถ “พ่อ แม่ พ่อตาแม่ยายเตรียมของขวัญมาให้พวกคุณ ขนมหวานเป็นขนมที่แม่ยายทำวันนี้ยังร้อนอยู่” หลิ้นหรุ่ยได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะพูดบ่น “เจ้าเด็กคนนี้ ขนมหวานเธอก็เอาไปยัดไว้ท้ายรถ ไม่มีกลิ่นน้ำมันหรอ?” “มีกล่องใส่อยู่ รมควันนิดหน่อยไม่เป็นไร”เห้ออี้ลั่วก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ได้สนใจและเอากล่องใส่ของสองสามอันนั้นย้ายลงมา เสี่ยวเป่าก็วิ่งมายังด้านข้างรักษาสนามฟุตบอลเล็กของเขา คนรับใช้ของตระกูลเห้อก็เข้ามาย้ายของสองรอบและเอาของพวกนั้นย้ายเข้าไปในห้อง เฉียวเมิ่งเยว่ถามหลินหรุ่ย “คุณแม่ เริ่มเตรียมอาหารมื้อค่ำแล้วหรือยัง?” “เรื่องอาหารมื้อค่ำเธอไม่ต้องเป็นห่วง ให้เห้ออี้ลั่วและพ่อของเขาทั้งสองช่วยกันเตรียม ผู้หญิงอย่างพวกเราก็อยู่เป็นเพื่อนเด็ก พูดคุยกัน” เฉียวเมิ่งเยว่ยิ้มและพูดออกมาว่า “คุณแม่ ทำให้พวกเขาว่านอนสอนง่ายยังไง บอกให้หนูได้รู้หน่อย” “พวกเขาอยู่ข้างนอกก็ชินกับการคบค้าสมาคม กลับมาก็ชอบทำอาหารในห้องครัว แม่ก็ชอบทำตัวว่างๆพอดี นี้คือวาสนาของพวกเรา ไม่ต้องรู้สึกอึดอัด คุ้นชินก็พอแล้ว” เฉียวเมิ่งเยว่พยักหน้า หลินหรุ่ยจับมือของเฉียวเมิงเยว่ “ปีก่อนปลูกดอกเหมยไว้ แม่จะพาหนูไปดู” “ได้ค่ะ” เฉียวเมิ่งเยว่หันไปและพูดกับเสี่ยวเป่าที่เดินหมุนรอบสนามฟุตบอลเล็กอยู่ “ลูกรัก ไปดูดอกเหมยกับหม่ามี๊และคุณย่าไหม? เสี่ยวเป่าเอียงหัวคิด สักพักเสี่ยวเป่าก็วิ่งมาอยู่ข้างๆเฉียวเมิ่งเยว่และใช้มือเล็กๆที่อ้วนตุ๊ต๊ะวางไว้บนมือของเฉียวเมิ่งเยว่ ดวงตาที่งดงามมองไปยังเฉียวเมิ่งเยว่ เฉียวเมิ่งเยว่ก็ลูบมือเล็กของเขาเบาๆและพูดขึ้นมาว่า “ คุณแม่ รบกวนคุณแม่นำทางหน่อยนะคะ” หลินหรุ่ยมองไปยังการกระทำของทั้งสองคน ในใจก็รู้สึกดีใจมาก เสี่ยวเป่าชอบเฉียวเมิ่งเยว่มากกว่าที่พวกเขาคิดไว้ ทั้งสามคนก็เดินออกมาจากบ้าน ตอนที่กำลังจะเดินไปสวนหลังบ้าน เวินอันเหยนก็ได้เดินเข้ามายังประตูหน้าบ้าน เวินอันเหยนตะโกนเรียก “น้าหลิน” ร่างกายของหลินหรุ่ยก็หยุดชงักและมองไปยังเฉียวเมิ่งเยว่อย่างรู้สึกอึดอัดวางตัวไม่ถูก หลังจากนั้นก็หันไปมองเวินอันเหยน “อันเหยน หนูมาได้ยังไง?” เวินอันเหยนไม่ได้มองไปที่เฉียวเมิ่งเยว่และเดินมุ่งตรงมาอยู่ข้างๆหลินหรุ่ย “พ่อกับแม่ของหนูปลูกเห็ดสดใหม่เลยให้หนูเอามาให้คุณอากับคุณน้าลองชิม” หลินหรุ่ยกลับไม่ได้ยื่นมือไปรับ “ฉันกับคุณอาของหนูก็ปลูกแล้วเหมือนกัน หลังจากนี้ก็ไม่รบกวนพวกหนูมาส่งแล้ว จะว่าไปเดินกลับไปกลับมาสุขภาพร่างกายของหนูก็จะไม่ดีด้วย” ตะกร้าที่เวินอันเหยนยื่นให้ก็นิ่งค้างอยู่กลางอากาศ จะยื่นมอบให้อีกครั้งก็ไม่ถูกจะเก็บกลับมาก็ไม่ถูก บรรยากาศหยุดชะงักงันขึ้น เฉียวเมิ่งเยว่เห็นเวินอันเหยียนน้ำตาคลอเบ้า ก็รู้สึกว่านิสัยของเวินอันเหยนคล้ายกับหยางเสว่หลินและก็ไม่คิดที่ตะทำให้เวินอันเหยนรู้สึกลำบากใจก็เลยยื่นมือไปรับตะกร้าที่อยู่บนมือเวินอันเหยน “ขอบคุณเธอที่เอามาส่งให้ คุณแม่ หนูกับเสี่ยวเป่าจะไปสวนข้างหลังก่อน คุณแม่อยู่พูดคุยกับเธอเถอะ”พูดจบ เฉียวเมิ่งเยว่ก็ถือตะกร้าที่ใส่เห็ดสดใหม่เข้าไปไว้ห้องโถงใหญ่และเดินออกประตูด้านข้างเดินไปสวนข้างหลัง หลินหรุ่ยถอนหายใจและมองไปที่เวินอันเหยนอย่างจนปัญญา “เจ้าเด็กคนนี้ อี้ลั่วได้เลือกแล้ว หนูทำแบบนี้หมายความว่าไง?” “น้าหลิน หนูไม่อยากยอมแพ้” “ฉันจะไม่พูดว่าก่อนหน้านี้พวกเธอใครถูกใครผิด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันต้องยืนอยู่ข้างลูกชายฉัน เขาเลือกใครแล้ว ฉันก็จะสนับสนุนคนนั้น” สีหน้าของเวินอันเหยนก็ซีดเผือดทันที ริมฝีปากก็สั่นอย่างรุนแรง เธอแทบอยากจะให้ช่วงเวลานี้หายไปจากโลกใบนี้ หลินหรุ่ยก็พูดต่อว่า “หนูไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าเห้ออี้ลั่วของพวกเราได้แต่งงานแล้ว ก็ต้องยุติการร่วมมือของตระกูลพวกหนู หนูเคยช่วยฉันและเสี่ยวเป่า เรื่องงานข้าราชการอี้ลั้วจะให้สิทธิพิเศษตระกูลพวกหนูเลือก” “หนูไม่ได้กลัวเรื่องนี้ หนูเพียงแค่.....” หลินหรุ่ยตบไหล่ของเวินอันเหยนเบาๆ “น้าหลินไม่ได้ตำหนิหนู น้าก็ชอบหนูมากเหมือนกันแต่อี้ลั่วได้เลือกแล้ว น้าก็หวังว่าหนูจะสามารถมูฟออนออกมาได้ หนูยังเด็ก ช่วงเวลาหลังจากนี้ยังอีกยาวนาน อย่าสูญเสียช่วงเวลาที่ดีของหนูเลย อี้ลั่วก็เป็นแบบนี้มาตลอด หนูยังมีตัวเลือก ขอเพียงแค่หนูสามารถปล่อยอี้ลั่วไปได้ ทุกอย่างก็ยังกลับมาทัน” 
已经是最新一章了
加载中