บทที่ 70 นี่กำลังปลอบใจอยู่ใช่ไหม
1/
บทที่ 70 นี่กำลังปลอบใจอยู่ใช่ไหม
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 70 นี่กำลังปลอบใจอยู่ใช่ไหม
บ๗ที่ 70 นี่กำลังปลอบใจอยู่ใช่ไหม เฉียวเยว่เมิ่งกำลังเก็บกล่องสองกล่องนั้นเอาไว้ในตู้เก็บของ พอเธอเห็นของที่เก็บอยู่ด้านในมีทั้งวัตถุดิบและของปีใหม่ต่างๆ กองๆ อยู่ก็ร้องโหออกมา “แม่ ทำไมซื้อของมาเยอะแบบนี้ล่ะ? แค่พวกเรากินไม่หมดแน่ๆ” ลั่วหมิงเม่ยเองก็กลอกตาไปมา “ซื้อไว้ให้ลูกเขยส่วนหนึ่ง แล้วก็อีกส่วนหนึ่งเอาไว้ให้แม่กับพ่อเอากลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านของคุณปู่ จะให้แม่กลับไปบ้านยายมือเปล่าแม่คงทำไม่ได้แน่ๆ” เฉียวเยว่เมิ่งตบไปที่หน้าผากตัวเองเบาๆ “คุณผู้หญิงคะ รีบฝึกให้หนูด้วยเถอะ ปีใหม่ครั้งนี้หนูต้องไปพบกับญาติๆ คนอื่นของตระกูลเห้อด้วย แล้วหนูจะเอาของขวัญอะไรไปให้เขาดีล่ะแม่? และให้แบบไหนถึงจะเหมาะสมล่ะคะ?” “บ้านพวกเรากับบ้านตระกูลเห้อไม่เหมือนกันนะลูก แม่เองก็ไม่ค่อยแน่ใจ พอถึงเวลานั้นก็พยายามมีไหวพริบไว้ หากไม่รู้ก็ถามแม่ยายไว้เยอะๆ นะลูก” ใบหน้าของเฉียวเย่วเมิ่งแข็งเหมือนหิน “หนูต้องจบเห่แน่ๆ เลยล่ะ” “อย่าไปคิดถึงมันมากเลยน่ะลูก” ลั่วหมิงเม่ยพูดเตือนสติเฉียวเยว่เมิ่งขึ้นมา “รีบไปล้างมือแล้วมากินข้าวได้แล้ว” เฉียวเยว่เมิ่งลุกขึ้นยืนพลางปรับอารมณ์ให้กลับมาเหมือนเดิม ทุกคนในบ้านต่างกินอาหารด้วยกันอย่างสนุกสนาน หลังจากกินเสร็จเฉียวเยว่เมิ่งก็กลับรถโปโลคันเล็กๆ กลับบ้านพักไป ... วันถัดมา เห้ออี้ลั่วพาเฉียวเยว่เมิ่งกับเสี่ยวเป่าไปที่ตลาดเพื่อหาซื้อของปีใหม่ จากนั้นก็กลับมากินข้าวเที่ยงกับเฉียวไห่ซิงและลั่วหมิงเม่ยที่บ้าน เสร็จก็จัดแจงรถพาพวกเขากลับไปที่บ้านคุณปู่ของเฉียวเยว่เมิ่งจากนั้นก็ขับกลับที่บ้านใหญ่เลย เสี่ยวเป่านอนพักงีบอยู่ในอ้อมกอดของเฉียวเยว่เมิ่ง เฉียวเยว่เมิ่งมองออกไปทางนอกหน้าต่างในใจเธอรู้สึกเหมือนการเข้าไปปฏิบัติการผ่าตัดครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น เห้ออี้ลั่วมองไปทางเธอพลางพูดขึ้น “ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอก ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น อีกอย่างมีผมกับเสี่ยวเป่าอยู่ด้วยทั้งคน ไม่มีใครกล้าทำให้คุณไม่สบายใจหรอก” เฉียวเยว่เมิ่งได้ยินก็ยิ้มมุมปาก “นี่นายกำลังปลอบใจฉันอยู่ใช่ไหมเนี่ย?” “อื้ม” เฉียวเยว่เมิ่งก็ถามขึ้นอีก “ช่วงปีใหม่นอกจากพ่อกับแม่แล้วยังมีใครอีกหรือเปล่าคะ?” “ก็มีคุณปู่ คุณย่า น้าสี่แล้วก็มีน้องสะใภ้ด้วย” “น้องสะใภ้เหรอ?” เฉียวเยว่เมิ่งถามอย่างประหลาดใจ “เป็นน้องสาวของผมน่ะ” “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่านายก็มีน้องสาวด้วย?” “ก่อนที่ผมจะมารับช่วงต่อในบริษัทเห้อซื่อโลกภายนอกไม่มีใครรู้จักตระกูลเห้อเลย ที่รู้จักก็มีเพียงพี่ใหญ่กับผมเท่านั้น” เห้ออี้ลั่วหัวเราะเบาๆ “พวกเราต่างก็ไม่ใช่ดาราไม่จำเป็นต้องประกาศเรื่องพวกนี้ให้สื่อมวลชนรู้” “อ้อ” เห้ออี้ลั่วบุ้ยปากไปทางโทรศัพท์ “ในโทรศัพท์ของผมมีรูปของหวินซานที่ถ่ายกับคุณปู่และคุณย่าอยู่ คุณลองหยิบขึ้นมาดูสักหน่อยก็ได้” เฉียวเยว่เมิ่งหยิบโทรศัพท์ของเห้ออี้ลั่วออกมาจากช่องเก็บของข้างๆ คนขับพลางเปิดดูอัลบั้มภาพข้างใน อัลบั้มตระกูลในนั้นมีหญิงสาวที่มีดวงตาที่สวยงามมากอยู่คนหนึ่ง เห้อเจียหมิงกับหลินหลุ่ยเองก็มีคนที่หน้าตามีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่แล้ว ซึ่งตัวเห้ออี้ลั่วเองก็เหมือนได้สืบทอดจุดเด่นของพวกเขานั้นมาเต็มๆ เฉียวเยว่เมิ่งเองก็เคยคิดมาก่อนว่าถ้าหากเห้ออี้ลั่วมีน้องสาวหรือพี่สาวด้วยล่ะก็จะเป็นอย่างไรกันนะ? จนได้มาเห็นภาพของเห้อหวินซานก็รู้ว่าเป็นตามที่เธอคิดทั้งหมด เธอสวยจากบุคลิกภาพของเธออีกทั้งหน้าตาที่สวยงามทำให้ดึงดูดสายตาของคนได้มากมาย และด้วยอุปนิสัยที่เห็นทำให้เธอยากที่จะละสายตาได้จริงๆ เฉียวเยว่เมิ่งแอบคิดกับตัวเองว่าเห้อหวินซานคนนี้เป็นผู้หญิงที่มีความโดดเด่นอย่างมากเลย เกิดมาในตระกูลที่ดีเลิศเพียงนี้แถมยังมีหน้าตาที่ทั้งสวยงามโดดเด่นอีก มีพี่ชายที่คอยดูแลต่างๆ เธอคงจะมีชีวิตอิสระน่าดูอยากทำอะไรก็ได้ทำ ถ้าเธออยากแต่งงานเธอก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอะไรทั้งสิ้น อยากจะแต่งกับใครก็ได้กับคนที่เธอชอบ เฉียวเยว่เมิ่งเปิดดูรูปอื่นๆ อีก ถัดมาเป็นรูปคนสูงอายุผมขาวไปทั้งหัวแต่ยังดูกระชุ่มกระชวยเหมือนยังไม่ได้แก่ลงไปเลย เห้ออี้ลั่วเองก็อธิบายขึ้น “คุณปู่กับคุณย่าของผมมีลูกด้วยกันทั้งหมดสี่คน นอกจากพ่อผมแล้วก็ยังมีลุงสอง ป้าสาม และน้าสี่ ลุงสองกับป้าสามตอนนี้อยู่ต่างประเทศ ส่วนน้าสี่เป็นครูดนตรีอยู่ที่เมืองจิน แล้วเธอก็ยังไม่เคยได้แต่งงานเลย หากวันไหนคุณปู่กับคุณย่าไม่อยู่บ้านก็จะมีน้าสี่กับลุงสองเนี่ยแหละที่จะคอยกลับมาอยู่ดูแลให้” “อ้อ...เข้าใจแล้ว” เฉียวเยว่เมิ่งพลางดูรูปในโทรศัพท์อีกรอบหนึ่งก่อนจะไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานระหว่างเธอกับเห้ออี้ลั่ว คนเหล่านี้ไม่ได้มางานแต่งงานเลยแม่แต้คนเดียว เธอคิดจะถามก็กลัวว่าจะขายขี้หน้าเปล่าๆ ... หลังจากที่รถเข้ามาอยู่ในลานบ้านของตระกูลเห้อ จู่ๆ ก็มีผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งเธอสวมชุดเสื้อคลุมยาวยี่ห้อชาแนลแนลเดินตรงมาทางพวกเขา หลังจากที่รถจอดสนิทเห้อหวินซานก็ช่วยเฉียวเยว่เมิ่งเปิดประตูให้ “พี่สะใภ้ สวัสดีค่ะ หนูชื่อหวินซาน ขอโทษนะคะที่เพิ่งจะได้พบกัน” “สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อเฉียวเยว่เมิ่ง” ในอ้อมแขนของเฉียวเยว่เมิ่งยังคงอุ้มเสี่ยวเป่าไว้อยู่เธอจึงไม่ได้ยื่นมือออกไปจับกับเห้อหวินซาน เห้อหวินซานเองก็ไม่ได้สนใจอะไรพลางยื่นมือไปบังส่วนหลังคารถไว้ให้เวลาเธอลงจากรถหัวจะได้ไม่ไปชนเข้า เฉียวเยว่เมิ่งพลางส่งยิ้มไปให้เธอ “วันนี้ได้กลับมาพร้อมกับคุณปู่คุณย่ารึเปล่า?” “เปล่าค่ะ คุณปู่กับคุณย่ากลับไปที่เมืองจินกับน้าสี่ ส่วนหนูเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศหลังจากที่สอบเสร็จค่ะ” “สอบหรือ?” “ค่ะ หนูสอบปริญญาเอกค่ะ พอสอบเสร็จแค่นี้หนูก็เป็นอิสระแล้ว” เห้อหวินซานหัวเราะ “เรียนเก่งแบบนี้ กรุณารับการคารวะจากพี่ด้วย” เห้อหวินซานเห็นการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ของเฉียวเยว่เมิ่งแบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดหัวเราะออกมา “พี่สะใภ้คะ พี่นี่นิสัยดีกว่าที่หนูคิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย” “แล้วต่างจากที่หวินซานคิดไว้มากแค่ไหนล่ะ?” เฉียวเยว่เมิ่งยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “หนูอาจจะอธิบายผิดไป ที่จริงหนูต้องพูดว่าจากที่หนูได้ยินมาว่าพี่ทำงานอาชีพหมอ ในความคิดหนูรู้สึกว่าจะต้องเป็นผู้หญิงขรึมๆ ไม่มีอารมณ์ขันแน่ๆ คงไม่ต่างอะไรจากพี่รองเท่าไหร่ แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่จ่ะน่าสนใจขนาดนี้ หนูชอบมากเลยค่ะ!” “ขอบคุณน้องสะใภ้ที่ชมนะคะ...ต่อจากนี้ก็รบกวนชี้แนะพี่ด้วยนะคะ” เฉียวเยว่เมิ่งหัวเราะหึหึ “ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะ” เห้อหวินซานเองก็กระพริบตาด้วยความซุกซน พลางมองไปที่เสี่ยวเป่าที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของเธอก็พูดอย่างอิจฉานิดๆ ขึ้น “เสี่ยวเป่าสนิทกับพี่จังเลยนะคะ” “เดี๋ยวพอเขาคุ้นเคยกับเธอก็จะสนิทกันไปเองแหละ” “ก็อาจจะนะคะ” เห้อหวินซานบุ้ยปากไปที่บ้าน “พี่กับพี่รองเข้าไปหาคุณปู่คุณย่าก่อนสิคะ แล้วเดี๋ยวหนูจะพาพี่เดินเล่นทุกซอกทุกมุมเอง” “อื้ม...ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่เกรงใจนะ” เห้อหวินซานหัวเราะพลางยืนมองเห้ออี้ลั่วพาเฉียวเยว่เมิ่งเดินเข้าไปในบ้าน ภายในห้องโถงมีคุณปู่กับคุณย่าเห้อ เห้อเจียหมิง หลินหลุ่ยและผู้หญิงที่มีนิสัยโดดเด่นอยู่คนหนึ่งน่าจะอายุประมาณสามสิบกว่าๆ กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน พอหลินหลุ่ยเห็นเห้ออี้ลั่วกับเฉียวเยว่เมิ่งเดินเข้าเธอก็ลุกขึ้นทันทีพลางถาม “ทำไมกลับมากันเร็วขนาดนี้ล่ะ ไม่อยู่บ้านพวกเขาอีกสักหน่อยหรือ?” “พ่อตากับแม่ยายพวกเขากลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านของพวกเขาน่ะครับ ผมก็เลยส่งกลับไปก่อน แล้วอีกอย่างผมก็กลัวว่าจะทำให้ทุกคนรอกันจนดึกเกินไปด้วย” “ไม่หรอก” หลินหลุ่ยจูงมือของเฉียวเยว่เมิ่งไปแนะนำกับคนในห้องโถงใหญ่ทีละคนตามลำดับ คุณปู่เห้อ คุณย่าเห้อและเห้อเจียซิ่นน้าของเห้ออี้ลั่วต่างก็เตรียมของขวัญให้เฉียวเยว่เมิ่งไว้คนละชิ้น เฉียวเยว่เมิ่งเหมือนจะรับแต่ก็ไม่รับพลางยิ้มขึ้นพูด “คุณปู่คุณย่าน่าสี่คะ หนูจะรับเอาไว้หรือจะเก็บเอาไว้ดีล่ะคะเนี่ย?” ทุกคนในที่นั้นต่างพากันหัวเราะคำพูดของเธอกันยกใหญ่ คุณปู่เห้อเองก็พูดขึ้น “เป็นของขวัญวันแต่งงานระหว่างเธอกับอี้ลั่วที่พวกปู่ไม่ได้เอาไปให้น่ะ เป็นเพราะพวกปู่ไม่มีมารยาทเอง ถ้าหากเธอจะรับของขวัญจากพวกปู่ ในใจของพวกปู่ก็คงรู้สึกดีไม่น้อย” เห้ออี้ลั่วรับเสี่ยวเป่าจากมือของเฉียวเยว่เมิ่งมา เฉียวเยว่เมิ่งเองก็รับของขวัญแต่ละชิ้นมาด้วยท่าทางที่มีมารยาท ของขวัญพวกนี้หากนับรวมกันแล้วคงเป็นของขวัญที่มีราคาเท่ากับตึกนี้แน่ๆ เสี่ยวเป่าตื่นขึ้นมาพลางเปิดตาอย่างสะลึมสะลือพร้อมทั้งบ่นงึมงำไปมา สักพักเขารรู้ตัวว่าเห้ออี้ลั่วกำลังอุ้มเขาอยู่เขาก็รีบมองหาเฉียวเยว่เมิ่งทันที ตระกูลเห้อทุกคนเห็นท่าทางแบบนั้นของเสี่ยวเป่าก็ยิ่งพึงพอใจในตัวของเฉียวเยว่เมิ่งมากขึ้นไปอีก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 70 นี่กำลังปลอบใจอยู่ใช่ไหม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A