บทที่ 76 เชื่อฉัน เธอจะเจอคนที่ดีแน่นอน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 76 เชื่อฉัน เธอจะเจอคนที่ดีแน่นอน
บ๗ที่ 76 เชื่อฉัน เธอจะเจอคนที่ดีแน่นอน “พี่สะใภ้ ฉันชื่นชมสิ่งที่เธอทำนะ แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขามันไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอก ฉันตัดสินใจแล้ว หวังว่าเธอจะช่วยฉันเก็บความลับด้วย” เฉียวเมิ่งเยว่เห็นท่าทีมั่นใจของเธอแล้ว ก็ไม่เกลี้ยกล่อมเธออีกต่อไป “ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะไม่พูดอะไรแล้ว ถ้าเธออยากให้ฉันช่วยอะไร ก็พูดมาได้เลย” “ขอบคุณมากนะพี่สะใภ้ ฉันอยากให้เราเจอกันเร็วกว่านี้จัง ไม่ยังงั้นฉันคงจับผู้ชายคนนั้นไว้ได้อยู่หมัดแล้วล่ะ” เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะออกมา “ตอนนี้ถึงรู้จักฉันแล้วก็ห้ามยอมแพ้ เชื่อฉันสิ เธอจะต้องเจอคนที่ดีมากๆแน่นอน” “ทำไมล่ะ?” “เพราะว่าเธอเองก็เป็นคนที่ดีมากคนนึง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันก็คงไม่สามารถเข้ากับครอบครัวของเธอได้หรอก” “เธอจะพูดแบบนั้นฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ” “ตอนนี้ก็เริ่มสายแล้ว เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” “ไว้เจอกันนะ” “เจอกัน” พอเห้อหวินซานกลับไปแล้ว เฉียวเมิ่งเยว่ก็คิดเรื่องที่เห้อหวินซานคิดจะเก็บเด็กไว้ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามันอันตรายเกินไป วันหยุดตรุษจีนก็จบลงอย่างรวดเร็ว เสี่ยวอันกลับมาทำงานแล้ว แถมยังมีของฝากจากบ้านเกิดมาให้เฉียวเมิ่งเยว่เยอะแยะเลย ผอ.แผนกสูติโทรมาถามเฉียวเมิ่งเยว่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของหยางเสว่หลิน เฉียวเมิ่งเยว่ถึงพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอโทรหาหยางเสว่หลินเพื่อจะสวัสดีปีใหม่ แต่ว่าเธอไม่ได้รับสาย ส่งข้อความไป เธอก็ไม่ตอบ หลังจากเสี่ยวเมิ่งเยว่เลิกงาน ก็ขับรถไปที่ห้องพักของหยางเสว่หลินอย่างไม่ค่อยสบายใจ ห้องพักของหยางเสว่หลินอยู่ห่างจากโรงพยาบาลไม่ไกลเท่าไหร่นัก ที่นั่นเป็นหมู่บ้านในเมือง ที่ชาวบ้านของเมืองเยว่เฉิงมาสร้างที่อยู่อาศัยเอาไว้ ดังนั้น หมู่บ้านนี้เลยค่อนข้างคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านไม่น้อยเลย ถ้าดูจากรายได้ของหยางเสว่หลินแล้ว เธอสามารถเลือกอยู่ที่ๆดีกว่านี้ได้ แต่เธอก็ยืนยันที่จะอยู่ที่นี่ เฉียวเมิ่งเยว่จอดรถไว้ด้านล่าง แล้วก็ขึ้นตึกไปด้วยไฟทางเดินที่ค่อนข้างสลัว พอเดินไปถึงห้องที่มีประตูเหล็กที่ดูเก่า แต่ก็สะอาด เธอก็เคาะประตู “เสว่หลิน เสว่หลิน เธออยู่ข้างในไหม?” ด้านในเงียบสนิท ไม่ว่าเฉียวเมิ่งเยว่จะเคาะอีกกี่ครั้งก็เหมือนเดิม พอเธอกลับไปที่รถ ก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าต่างห้องของหยางเสว่หลิน ก็เห็นเสื้อโค้ดที่เธอเคยซื้อให้หยางเสว่หลิน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหยางเสว่หลินอีกครั้ง ปรากฏว่าเธอปิดเครื่องไปแล้ว เฉียวเมิ่งเยว่คิดอยู่ครู่นึง พยายามรื้อฟื้นความทรงจำของเบอร์โทรศัพท์น้องชายของหยางเสว่หลิน แล้วก็โทรออก โทรได้แป๊ปเดียวก็มีคนรับสายอย่างรวดเร็ว เป็นเสียงเด็กหนุ่มวัยรุ่น “ฮัลโหล” “รั๋วเฉียง สวัสดี ฉันเป็นเพื่อนของเสว่หลิน นายรู้ไหมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?” “ตายไปแล้ว!” พอหยางรั่วเฉียงพูดจบก็ตัดสายไปทันที พอเฉียวเมิ่งเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโกรธ แล้วกดโทรออกไปอีกครั้ง “ยัยผู้หญิงแก่นี่พูดรู้เรื่องไหมเนี่ย ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าหยางเสว่หลินตายแล้วน่ะ? ยังจะโทรมาทำไมอีก? ระวังฉันจะฆ่าเธอให้ตายตามไปด้วยอีกคน!” “ไอ้เด็กบ้า ถ้านายฆ่าพี่สาวนายจริงๆ ยังจะมีหน้ากล้ามาอวดดีแบบนี้อยู่อีกหรอ? ฉันล่ะขี้เกียจจะพูดจาไร้สาระแล้ว พี่สาวนายอยู่ไหน? รีบพูดมาเดี๋ยวนี้! ถ้าเกิดว่ามีอะไรเกินขึ้นกับเธอล่ะก็ ฉันจะแจ้งตำรวจว่านายเป็นคนทำ!” หยางรั่วเฉียงชอบรังแกหยางเสว่หลินจนติดเป็นนิสัย เลยนึกว่าเพื่อเธอจะหลอกง่ายเหมือนเธอ ทันใดนั้นเสียงเขาก็ค่อยๆอ่อนลง “ฉันไม่รู้ เธอไปตั้งแต่คืนวันที่30แล้ว” “ทำไมถึงไป? นายไปทำอะไรเธอ?” “ทำไมไม่ถามว่าเธอทำอะไร? ไปจับผู้ชายรวยๆให้เขาเลี้ยง พอกลับมาก็ร้องห่มร้องไห้!” “ระวังคำพูดของนายด้วย เธอเป็นพี่สาวนายนะ!” “ถ้าเกิดไม่ได้มีผู้ชายรวยๆเลี้ยง เธอจะมีเสื้อผ้าแพงๆแบบนั้นได้ยังไง? แฟนฉันบอกว่าเสื้อตัวนั้นของเธอตัวละเกือบสองหมื่นห้า พ่อแม่เลยให้เธอช่วยออกเงินซื้อบ้านให้ฉันบ้าง แต่เธอไม่ยอม พี่สาวแบบนี้จะมีไปเพื่ออะไรกัน?” “ยัยเด็กบ้านี้ เสื้อตัวนั้นฉันเป็นคนซื้อให้พี่สาวเธอเป็นของขวัญวันเกิด หยางรั่วเฉียง นายเป็นคนพิการไร้แขนไร้ขาหรือยังไง จะซื้อบ้านยังหาเงินเองไม่ได้ แล้วทำไมพี่สาวต้องซื้อให้นายด้วย?!ปกติเงินที่เธอส่งให้พวกนายยังไม่พออีกหรือยังไง?!” เฉียวเมิ่งเยว่ด่าจนไม่อยากจะด่าต่อ ก็รีบตัดสายไป เธอรู้อยู่แต่แรกแล้วว่าครอบครัวของหยางเสว่หลินเป็นยังไง ทำไมเธอไม่รีบคิดถึงข้อนี้กันนะ เฉียวเมิ่งเยว่ทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด หลังจากนั้นก็ขับรถไปที่บาร์แถวนั้น ซื้ออาหารและก็เบียร์มานิดหน่อย แล้วก็กลับไปที่ห้องเช่าของหยางเสว่หลินอีกครั้ง “เสว่หลิน เปิดประตู ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างใน พวกเรามาคุยกันหน่อย” เฉียวเมิ่งเยว่รออยู่นาน ถึงได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านใน หยางเสว่หลินที่เปิดประตูออกมามีใบหน้าซีดเซียวและอ่อนแรง หยางเสว่หลินมองหน้าเฉียวเมิ่งเยว่อย่างอ่อนแรง แล้วก็ถอยหลังไป เฉียวเมิ่งเยว่ถือถุงอาหารและเบียร์ที่ซื้อมาเข้าไปข้างใน ก็เห็นว่าสภาพข้างในห้องเละไปหมด เต็มไปด้วยเสื้อผ้า หมอน ข้างของเครื่องใช้ต่างๆ เธอก็อึ้งไปเล็กน้อย ห้องที่หยางเสว่หลินเช่าเป็นห้องสตูดิโอ แล้วเธอก็เป็นคนที่มีระเบียบ จัดการชีวิตตัวเองได้ดีมาก ถึงแม้ว่าห้องเธอค่อนข้างเล็ก และก็ไม่มีเงินที่จะซื้อข้าวของเครื่องใช้หรือเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง แต่เธอก็ยังดูแลบ้านเล็กๆของเธออย่างเป็นระเบียบ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านจริงๆ หยางเสว่หลินเดินไปเก็บขยะตามโซฟาแล้วพูดออกมาอย่างไม่มีแรงว่า “รกนิดหน่อย เธออย่ารังเกียจไปเลยนะ” “เธอควรจะโทรหาฉันสิ” หยางเสว่หลินพยายามคลี่ยิ้มออกมา “ปีใหม่ก็ผ่านไปแล้ว จะโทรหาเธออีกทำไมกันล่ะ ปีนี้เป็นปีที่เธอจะได้ฉลองกับตระกูลเห้อ ฉันไปขัดขวางความสุขเธอไม่ได้หรอก” เฉียวเมิ่งเยว่มองหน้าเธออย่างจำใจ “ฉันไม่พูดอะไรแล้วละกัน เธอไปล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วรีบมากินข้าว” หยางเสว่หลินไปล้างหน้าตามที่เธอบอก แล้วก็มานั่งตรงข้ามกับเฉียวเมิ่งเยว่ ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไร ได้แต่นั่งกินข้าวไปเงียบๆ เฉียวเมิ่งเยว่เปิดเบียร์สองกระป๋อง แล้วก็ยื่นกระป๋องนึงให้หยางเสว่หลิน หยางเสว่หลินดื่มลงไปอึกใหญ่ แล้วก็เรอออกมาอย่างไม่สนใจอะไร “เมิ่งเมิ่ง เธอว่าทำไมฉันถึงได้ซวยขนาดนี้ที่ได้เกิดมาในครอบครัวแบบนี้? มันก็ใช่ที่พวกเขาส่งฉันเรียน แต่หลังจากฉันทำงานได้ก็คือให้พวกเขาทุกบาททุกสตางค์แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าใจความลำบากของฉันบ้าง? ทำไมพวกเขาถึงคิดว่าฉันมีคนรวยมาเลี้ยง ทำไมถึงคิดว่าฉันซ่อนเงินเอาไว้ไม่ยอมให้พวกเขา? พวกเขาเป็นคนในครอบครัวของฉัน ทำไมถึงไม่เข้าใจฉัน ไม่เชื่อใจฉันเลยแม้แต่นิดเดียว?! ถ้าฉันมีคนรวยมาเลี้ยงจริงๆ ก็ไม่มีชีวิตที่ลำบากอยู่แบบนี้หรอก” พอพูดถึงประโยคสุดท้าย เสียงของเธอก็เริ่มสั่น เฉียวเมิ่งเยว่ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ “ฉันทำงานดึกจนเป็นลมไปมาตั้งกี่ครั้งแล้ว พวกเขาไม่มีใครสนใจฉันแม้แต่คนเดียว แต่ได้สนใจให้ฉันส่งเงินให้ พวกเขาให้ฉันเก็บเงินไว้ซื้อบ้าน เก็บเงินไว้สำหรับผู้สูงอายุ เก็บเงินไว้สำหรับงานแต่งของน้องชาย แล้วชีวิตของฉันเองล่ะ? ฉันจะอยู่ยังไง? ตอนนี้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมีแฟน เพราะกลัวว่าจะทำให้แฟนฉันกลัวจนหนีไป เธอว่า ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้เลวร้ายขนาดนี้กันนะ?” เฉียวเมิ่งเยว่ก็ดื่มลงไปอึกใหญ่ มันเย็นจนทำให้เธอรู้สึกสั่น ความทุกข์ต่างๆที่หยางเสว่หลินมี เธอไม่เคยต้องเจอมาก่อน เธอเลยไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงเพื่อเป็นการปลอบใจ หยางเสว่หลินนั่งพิงโซฟา ดวงตาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า
已经是最新一章了
加载中