บทที่ 88 สำหรับพี่แล้ว ผู้หญิงก็เป็นแค่หุ่นเชิด   1/    
已经是第一章了
บทที่ 88 สำหรับพี่แล้ว ผู้หญิงก็เป็นแค่หุ่นเชิด
บ๗ที่ 88 สำหรับพี่แล้ว ผู้หญิงก็เป็นแค่หุ่นเชิด หลังจากกลับมาที่โรงพยาบาล เฉียวเมิ่งเยว่รีบกลับไปอาบน้ำที่ห้องพ่อง แล้วก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองต่อ พอเห็นเสี่ยวอันถึงพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าเสี่ยวอันมีเรื่องจะคุยกับเธอ “เสี่ยวอัน เมื่อเช้าอยากจะคุยอะไรกับฉันงั้นเหรอ?” “พี่หายไปไหนมาทั้งช่วงบ่ายเลยน่ะ?” “ออกไปลงพื้นที่กับพี่หนิงมาน่ะ” “อ้อ “ เสี่ยวอันยืนน้ำอุ่นให้เียวเมิ่งเยว่ “เมื่อก่อนฉันเคยเล่าเรื่องที่ต้องย้ายบ้านเพาะบ้านเก่าจะถูกรื้อทิ้งให้พี่ฟังรึยัง? เรื่องค่าชดเชยยังไม่ทันได้ตกลงกันเลย คนส่วนใหญ่ก็เลยไม่ย้ายกัน แต่เมื่อวานพวกฝ่ายก่อสร้างต่างพากันขับรถขุดเจาะเข้ามาในหมู่บ้าน แถมยังมีพวกอันธพาลด้วย ถ้าบอกว่าจะไม่ย้ายก็จะโดนทำร้าย ตอนนี้มีคนถูกทำร้ายไปหลายคนแล้ว” “แจ้งตำรวจรึยัง?” “แจ้งแล้ว แต่ตำรวจแจ้งว่าทำอะไรไม่ได้” เฉียวเมิ่งเยว่ถามอย่างไม่เข้าใจ “แล้วฉันช่วยอะไรเธอได้ล่ะ?” “ฉันสืบมาแล้ว บริษัทก่อสร้างเป็นบริษัทในเครื่องของบริษัทเห้อซื่อ ฉันอยากเลยอยากรบกวนให้พี่ช่วยบอกสามีพี่ให้หน่อย” “ฉันจะลองดู งานของสามีฉันน่ะฉันไม่เคยเข้าไปยุ่งเลย ไม่เข้าใจหลักการทำงานของพวกเขาหรอก แต่ฉันจะลองดูนะ” “ฉันเข้าใจ ฉันรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่ฝีมือของสามีพี่หรอก ครั้งก่อนๆเขาก็ส่งคนมาเจรจาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่เป็นแบบนี้เลย” “หรือว่าเจ้าของกิจการเรียกร้องมากเกินไป?” เฉียวเมิ่งเยว่ถาม ในแง่ของคนที่ทำธุรกิจ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช้อำนาจในการต่อรอง แต่ว่าเธอก็ไม่คิดว่าเห้ออี้ลั่วจะเป็นคนสั่งให้ทำแบบนั้นหรอกนะ ถ้าเกิดว่าทำอะไรมากเกินไป ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา “เรื่องรายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่หรอก ได้ยินพ่อพูดว่าตอนแรกพวกคนในหมู่บ้านก็ยอมรับค่าชดเชยนี้แล้ว แต่อยู่ดีๆพวกเจ้าของและกรรมการหมู่บ้านก็ออกมาบอกว่ามันน้อยเกินไป จะเรียกเยอะกว่านี้” “เซ็นต์สัญญาไปรึยัง?” “เซ็นต์แล้ว แต่ว่าเรายังมีเวลาให้ย้ายอีกตั้งครึ่งเดือนเลยนะ แต่ตอนนี้กลับเอาเครื่องขุดเจาะเข้ามาแล้ว แถมยังทำร้ายชาวบ้านอีก เป็นความผิดของบริษัทเห้อซื่อเต็มๆเลยนะ” “เรายังไม่ต้องพูดถึงเรื่องผิดหรือถูกกันดีกว่า เดี๋ยวฉันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกสามีแล้วกัน แต่ว่าเขาจะมีวิธีจัดการยังไง ฉันก็ไม่มีสิทธิเข้าไปก้าวก่ายหรอกนะ ความจริงแล้ว ฉันรู้สึกว่าผิดทั้งคู่นั่นแหละ” เสี่ยวอันค่อยๆพยักหน้า เฉียวเมิ่งเยว่โทรหาเห้ออี้ลั่ว แล้วก็เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง พอเห้ออี้ลั่วฟังจนจบก็พูดว่า “ฉันได้ยินเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน คล้ายๆกับที่เธอพูด ฉันให้คนไปจัดการแล้ว” “มันจะไม่กระทบอะไรกับนายใช่ไหม?” “เรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยจะตาย บางคนก็ไม่รู้จักพอ ทำยังไงก็ไม่พอใจ ต้องใช้วิธีที่เหมาะสมในการรับมือ แต่ว่าไม่ใช่ภายในเร็วๆนี้หรอก” “เพราะอะไรเหรอ?” “เธอควรจะไปถามลั่วหย่าเอ่อ” “หย่าเอ่อ?” เฉียวเมิ่งเยว่ไม่เข้าใจ “ฉันคิดว่าเย็นนี้เธอคงจะกลับบ้านไปร้องไห้ แล้วพ่อแม่ของเธอก็จะโทรหาพ่อตาแม่ยาย เธอรอฟังสิ่งที่เธอพูดก่อนแล้วกัน แล้วฉันค่อยเล่าความจริงให้ฟัง” “คุณชาย ขอโทษจริงๆนะ ทำให้งานนายต้องยุ่งยากขึ้นเลย” “เรื่องนี้มันเกิดขึ้นบ่อยอยู่แล้ว ลูกน้องฉันแก้ไขได้ ฉันไปทำงานต่อก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกัน” เฉียวเมิ่งเยว่เก็บโทรศัพท์ แล้วก็เริ่มทำงานต่อ เห้ออี้ลั่วโยนโทรศัพท์ลงตรงโต๊ะตรงหน้าเขา แล้วก็มองไปที่เห้อหวินซานที่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “ตัดสินใจว่ายังไง?” “ฉันจะเก็บลูกไว้!” “ได้ ถ้างั้นพูดเรื่องผู้ชายมา” “ฉันพูดไม่ได้!” “เธอคิดว่าเธอมีสิทธิมีข้อแม้กับฉันงั้นเหรอ?” เห้อหวินซานเอียงหัวอย่างไม่แยแส “พี่รอง เรื่องบางเรื่องพี่ก็ไม่เข้าใจหรอก อย่ามาบังคับฉันเลย ตระกูลเห้อของพวกเราสามารถเลี้ยงเด็กคนนึงได้สบายอยู่แล้วนี่” “ฉันไม่อยากจะย้ำเรื่องของเสี่ยวเป่าให้เธอฟังอีกครั้งหรอกนะ ฉันคิดว่าเธอไม่มีคุณสมบัติที่จะมาตัดสินใจแบบนี้! ถ้าเกิดว่าเธอยังคงยืนยันไม่ยอมบอกชื่อผู้ชายคนนั้นมา สองชั่วโมงหลังจากนี้ฉันจะส่งคนมาพาเธอไปเอาลูกออก!” “พี่จะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!” “เห้อหวินซาน ฉันบอกแล้วว่าอย่ามาท้าทายความอดทนของฉัน ถ้าเกิดว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของฉัน และฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ ฉันคงจัดการเรื่องนี้ได้ภายในไม่กี่วัน ไม่มานั่งเปลืองน้ำลายคุยกับเธออยู่แบบนี้หรอก” เห้อหวินซานโกรธจนตัวสั่น แล้วพูดว่า “ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ตอนนี้แนวคิดทางสังคมเปิดกว้างจะตาย วัยรุ่นทั่วไปก็มีลูกโดยที่ไม่ได้แต่งงานก็ตั้งเยอะแยะ พวกเขายังอยู่กันได้เลย แล้วทำไมคนในตระกูลเห้อจะทำไม่ได้ พวกเรามีศักยภาพและความสามารถมากกว่าพวกเขาด้วยซ้ำ ทำไมพวกพี่ต้องสนใจสายตาของคนนอกขนาดนั้น? คนนอกจะมองยังไง จะมองพวกพี่ยังไง มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?” “เธอรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงที่ท้องโดยที่ไม่แต่งงานพวกนั้นมีความสุข?” เห้ออี้ลั่วมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เธอคิดว่าแค่อุ้มท้องเก้าเดือนแล้วคลอดออกมาก็จบแล้วงั้นเหรอ? ไม่ต้องเลี้ยงดู ไม่ต้องสั่งสอนแล้วรึไง? เรื่องทุกข์ใจของพวกเธอ จะมาเล่าให้เธอฟังงั้นเหรอ?!” “สิ่งที่พี่พูดมันเป็นแค่เรื่องสมมุติ ฉันมีความสามารถพอที่จะเลี้ยงลูกออกมาให้ดี ฉันเชื่อว่าฉันจะเป็นแม่ที่ดีได้” “ดูเหมือนว่าเธอตัดสินใจจะเป็นศัตรูกับฉันใช่ไหม?” เห้อหวินซานยิ้มออกมาเล็กน้อย และนุ่มนวล “พี่รอง ในบรรดาทุกคน ฉันนึกว่าพี่จะเป็นคนที่เข้าใจฉันมากที่สุด และเข้าใจในสิ่งที่ฉันตัดสินใจมากที่สุด” เห้ออี้ลั่วเห็นว่าเธอมีท่าทีที่อ่อนลง เห้อหวินซานกดโทรออกหาเฉียวเมิ่งเยว่จากโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเธอ เฉียวเมิ่งเยว่เห็นว่าหวินซานโทรมา ก็รีบรับโทรศัพท์ “ฮัลโหลหวินซาน” ฝ่ายตรงข้ามเงียบไปครู่นึง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเห้อหวินซานลอดเข้ามา “พี่รอง ฉันรู้ว่าครั้งนี้ฉันทำตามอำเภอใจ แต่ว่าหลายปีมานี้ฉันหลงรักคนๆนึง ฉันรู้ดีว่าหลังจากนี้ฉันกับเขาก็ไม่มีวันได้คบกัน ระหว่างพวกเราจะไม่มีคำว่าหลังจากนี้ ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสได้อุ้มท้องลูกของเขา ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ แต่ว่าพี่รอง พี่เคยรักใครซักคนไหม? พี่คบกับเวินอันเหยนมาก็ตั้งหลายปี พี่ก็ไม่ได้รักเธอ ตอนที่เธอเริ่มรับไม่ไหว แต่ก็มีเสี่ยวเป่าขึ้นมา พี่ก็หนีมา;พอหลังจากพี่สะใภ้ช่วยเสี่ยวเป่า พี่ก็ยอมรับในตัวเธอ แล้วก็แต่งงานกับเธอเพื่อเสี่ยวเป่า ถ้าเกิดว่าวันนึงเธอทำให้พี่ไม่พอใจ หรือทำให้เสี่ยวเป่าไม่พอใจ พี่ก็จะไม่หย่ากับเธอเหรอ? พี่รอง พี่เป็นนักธุรกิจ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเองก่อน อันนั้นฉันเข้าใจ แต่ว่าพี่ลองคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างได้ไหม? ผู้หญิงมีหน้าที่เป็นแค่หุ่นเชิดของพี่งั้นเหรอ พี่อยากให้ทำยังไงก็ต้องทำยังงั้น ถ้าเกิดคิดจะขัดขืนแม้แต่นิดเดียว ก็จะถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจของพี่งั้นสิ?” เห้ออี้ลั่วมองหน้าหวินซานนิ่งๆ “เธอจะสื่อถึงอะไร?” “ไม่ว่าจะเป็นฉัน พี่สะใภ้ หรือเวินอันเหยนก็ต่างเป็นหุ่นเชิดของพี่ ตอนนี้พี่ทำลายตระกูลเวิน ถ้าเกิดต่อไปพี่สะใภ้ทำให้พี่ไม่พอใจ พี่จะทำยังไงต่อ? หย่ากับเธอ หรือว่าก็ทำลายเธอกับครอบครัวของเธอเหมือนกัน?” เฉียวเมิ่งเยว่ไม่กล้าฟังคำตอบของเห้ออี้ลั่ว เธอรับตัดสายทันที พอวางสายแล้ว เธอถึงพึ่งรู้ตัวว่าหน้าผากกับฝ่ายมือของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสี่ยวอันเห็นเธอหน้าซีด ก็เลยถามด้วยความเป็นห่วง “พี่เฉียว เป็นอะไรไปน่ะ? ไม่สบายรึเปล่า?” “ฉันไม่ได้เป็นอะไร ขอไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ” เฉียวเมิ่งเยว่ลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องน้ำ เอาน้ำเย็นๆล้างหน้า น้ำนั้นมันเย็นมากจนเธอรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว หลังจากนั้นก็เงยหน้ามองเงาตัวเองในกระจก ดูจากใบหน้าของเธอ เธอเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเห้ออี้ลั่วผู้ที่เคยเจอผู้หญิงสวยมาทุกประเภทจะรู้สึกกับเธอเป็นพิเศษ? ต้องรอให้เห้อหวินซานเตือน เธอถึงจะได้สติกลับมา เฉียวเมิ่งเยว่เช็ดไปหน้าของเธอแรงๆ แล้วก็กลับไปทำงานต่อ
已经是最新一章了
加载中