บทที่ 101 สามคนครอบครัวเดินพรมแดง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 101 สามคนครอบครัวเดินพรมแดง
บ๗ที่ 101 สามคนครอบครัวเดินพรมแดง ภายในห้องVIP เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งหน้า อุปกรณ์ทำผมต่างๆล้วนหยิบหาได้อย่างง่ายดาย สไตล์ลิสเริ่มขั้นตอนแรกด้วยการทำความสะอาดใบหน้าให้กับเฉียวเมิ่งเยว่ก่อน ตามด้วยการมาร์กหน้าด้วยมาร์ก2แผ่น ถึงจะเสร็จสิ้นขั้นตอนการเตรียมใบหน้าก่อนที่จะเริ่มแต่งหน้า เฉียวเมิ่งเยว่ก็เหมือนกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง ที่ปล่อยให้พวกเขาจับแต่งหน้าแต่งตัว บางทีอาจจะเป็นเพราะสไตล์ลิสรู้ว่าในเรื่องการแต่งหน้าแต่งตัวนั้นเฉียวเมิ่งเยว่เธอไม่ประสีประสาเท่าไหร่นัก ดังนั้น เมื่อเวลาที่ต้องการความคิดเห็นนั้นเธอกลับไม่ถามเฉียวเมิ่งเยว่เลย แต่กลับมองไปทางเห้ออี้ลั่วที่นั่งอยู่ตรงโซฟา เห้ออี้ลั่วช่วยเธอตัดสินใจอยู่ทุกครั้งไป ทั้งๆทีเห้ออี้ลั่วไม่ได้เป็นคนแต่งตัว ภาพลักษณ์ของเขาถูกดูแลอย่างดี ปกติแล้วตัวเขานั้นไม่ว่าจะเป็นทรงผมหรือเสื้อผ้าล้วนมีดีไซน์เนอมืออาชีพจัดการให้เขาทั้งหมด มาในครั้งนี้ก็แค่มาเลือกเสื้อผ้าให้เขาแค่นั้นก็จบแล้ว เวลาที่เหลือก็ใช้ไปกับการรอเฉียวเมิ่งเยว่ ภาพลักษณ์ของเสี่ยวเป่าก็ดูแลได้อย่างดี เขายังเป็นเด็กอยู่ สวมเสื้อสูทเล็กๆตัวหนึ่ง ติดโบว์อันหนึ่ง ก็ประณีตคล้ายกับตุ๊กตาแล้ว ไม่ต้องแต่งหน้าหรือทำผมอะไรใดใดทั้งนั้น การแต่งตัวของผู้หญิงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจัดการยาก การแต่งหน้า ทรงผม เสื้อผ้า รองเท้า ต่างๆก็ล้วนต้องเลือกสรรให้ดี แต่งองค์ทรงเครื่องจนหกโมงเย็น ถึงจะทำเสร็จสิ้นหมดทุกขั้นตอน ครั้งนี้เองเฉียวเมิ่งเยว่ถึงตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าทำไมค่าตัวของสไตลิสต์และช่างเสริมสวยถึงได้แพงขนาดนี้ งานของพวกเขาก็ไม่ได้สบายไปกว่าการเป็นแพทย์เลย ในขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เฉียวเมิ่งเยว่ตกใจอย่างมาก เธอคิดว่าเห้ออี้ลั่วจะเลือกชุดกระโปรงให้เธอ ไม่นึกว่าเขาจะเลือกเป็นจั๊มสูทกางเกงขากว้างมาให้ เนื้อผ้าของจั๊มสูทกางเกงเป็นแบบเดียวกันกับเสื้อสูทของเห้ออี้ลั่วและเสี่ยวเป่า เธอจับดูเนื้อผ้านั้นก็พบว่ามันค่อนข้างหนามากทีเดียว ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย เฉียวเมิ่งเยว่เอ่ยถามด้วยความสงสัย “ฉันต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับหวินซานไม่ใช่หรอ? ใส่แบบนี้ได้หรอ?” “คืนนี้ไปเดินพรมแดงก่อน เดินพรมแดงเสร็จเรียบร้อย คุณค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่น” “พวกเราต้องเดินด้วยหรอ?” “แน่นอน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังจากแต่งงานที่ผมพาคนในครอบครัวออกงานในที่สาธารณะแบบนี้ ถ้าครั้งนี้ไม่เดิน พวกเราจะรอถึงเมื่อไหร่? อีกอย่างก็เป็นครั้งแรกของเสี่ยวเป่าที่ปรากฏตัวต่อสถานที่สาธารณะอย่างเป็นทางการ พรมแดงคืนนี้จัดกลางแจ้ง คุณไม่ใช่ดารา ไม่ต้องใส่แบบพวกเขาที่ดึงดูดความสนใจคนอื่นขนาดนั้นหรอก” เฉียวเมิ่งเยว่พยักหน้า หยิบเสื้อผ้าแล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้องลองเสื้อ เมื่อเธอออกมา ดีไซน์เนอก็นำรองเท้าส้นเข็มที่สูงสิบสองเซนมาปรึกษาความคิดเห็นของเห้ออี้ลั่ว ทางด้านอารมณ์ของเฉียวเมิ่งเยว่นั้นมีความเงียบสงบและมืออาชีพแบบแพทย์ ชุดที่คล้ายกับชุดทำงานแบบนี้เมื่อมันสวมอยู่บนร่างของเธอ กลับดูกลมกลืนเข้ากันอย่างลงตัวมากทีเดียว เฉียวเมิ่งเยว่มองรองเท้าสนสูงในมือของดีไซน์เนอ “อย่าบอกนะว่าฉันต้องใส่มัน ฉันต้องล้มหน้าคะมำบนพรมแดงแน่ๆ” “ฉันจะช่วยประคองเธอเอง” เห้ออี้ลั่วเอ่ยยิ้มๆ “มามี้ ผมก็จะช่วยประคองมามี้ ” เสี่ยวเป่าก็เอ่ยพูดและยิ้มหวาน ราวกับว่าชอบรองเท้าคู่นั้นมาก “โอเคโอเค ถ้างั้นฉันจะยอมใส่มัน ถ้าพวกเธออยู่ข้างๆฉัน และฉันยังหกล้มได้อยู่ พวกเธอก็ต้องจัดการกับกล้องถ่ายรูปที่ถ่ายรูปฉันไปทั้งหมดให้ฉันด้วย อย่าให้ฉากหน้าอายแบบนั้นหลุดรอดออกไปได้เด็ดขาดนะ” เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างจริงจัง “มามี้ ผมจะจัดการให้มามี้ครับ” “น่ารักที่สุด” เห้ออี้ลั่ว “..........” สไตล์ลิสต์ “..........” ** โรงแรมที่จัดเลี้ยงงานแต่งของเห้อหวินซานกับโม่มู่เฉินคือโรงแรมยูนิเวอร์แซล ข้างๆนั้นคือหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเยว่เฉิง สะดวกในการเดินพรมแดงของเหล่าดาราอย่างมาก พรมแดงปูจากหอส่งสัญญาณโทรทัศน์มาจนถึงโรงแรมยูนิเวอร์แซล ราวๆ100เมตร ให้เวลากับเหล่าดาราได้แสดงตัวกันอย่างเต็มที่ ในตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่และเห้ออี้ลั่วมาถึง ถนนรอบๆนั้นต่างเต็มไปด้วยกล้องถ่ายรูปมากมาย แสงledในจอภาพทั้งสองข้างทางสอดส่องไปยังถนนเส้นนั้น บนแสงledกำลังถ่ายทอดสดภาพเหตุการณ์บนพรมแดง พิธีกรเปิดฉากพรมแดงนั้นคือพิธีกรรายการวาไรตี้ชั้นนำในประเทศจีนคนหนึ่ง คนที่กำลังเดินพรมแดงอยู่ในขณะนี้ก็เป็นดารานักแสดงอันดับต้นๆของประเทศ พวกเขาล้วนเป็นแขกคนสำคัญ ที่ในคืนวันปีใหม่หรือแม้กระทั่งคืนวันเทศกาลตรุษจีนก็ไม่รับประกันว่าจะเชิญมาได้ เฉียวเมิ่งเยว่ดวงตาเปล่งประกายมองไปยังคนที่เดินไปยังจอภาพนั้น เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “คุณเชิญมาหรือว่าโม่มู่เฉินเชิญมา?” “แค่บอกพวกเขาคำเดียวพวกเขาก็มาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นโอกาสในการร่วมงานกันที่ดีมาก” “อ่อ หวินซานชอบงานแต่งแบบนี้หรอคะ?” “ผู้ชายที่เธอรักขอเธอแต่งงานต่อหน้าสื่อทั่วโลก ก็น่าจะมีดีกว่าการจัดงานแต่งแบบเงียบๆ” เฉียวเมิ่งเยว่คิดคิด ก็เอ่ย“ที่คุณพูดก็ถูก” ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน รถก็ได้ขับมาถึงด้านหน้าของพรมแดง แสงสปอร์ตไลท์และเลนส์กล้องของนักข่าวรอบๆนั้นก็โฟกัสไปที่พวกเขา เฉียวเมิ่งเยว่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ และรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เห้ออี้ลั่วหัวเราะและบีบมือเธอเบาๆ ประตูรถถูกบริกรเปิดออกอย่างช้าช้า แสงสว่างของสปอร์ตไลท์และเสียงร้องของผู้ชมราวกับคลื่นความร้อนที่เพิ่มขึ้น กระแทกไปบนโสตประสาทของเฉียวเมิ่งเยว่อย่างรุนแรง สมองเฉียวเมิ่งเยว่มีเสียงวิ๊งๆดังขึ้น เธอเบลอไปชั่วขณะหนึ่ง เห้ออี้ลั่วอุ้มเสี่ยวเป่าลงจากรถ และท่ามกลางทุกๆสายตาของผู้คนรอบๆ เขาก็จับมือพาเธอลงจากรถ รอให้เธอยืนอย่างมั่นคงแล้ว มือของเขาก็โอบประคองไปที่เอวของเธอ ก้าวเดินไปพร้อมๆกัน เหล่านักข่าวต่างรีบกดชัตเตอร์รัวๆเป็นพัลวัน พิธีกรพรมแดงพูดขึ้น “คนที่อยู่บนพรมแดงในตอนนี้ก็คือคุณเห้ออี้ลั่วท่านประธานและประธานสำนักงานใหญ่ของบริษัทเห้อซื่อ และภรรยาของเขา คุณเฉียวเมิ่งเยว่ เด็กน้อยที่จับมือเขาอยู่นั้นคือเจ้าชายน้อยของคุณเห้ออี้ลั่ว หนูน้อยเห้อเวยเฟย คุณเห้ออี้ลั่วเป็นผู้นำพาพนักงานทุกคนในบริษัทเห้อซื่อมาร่วมกันสร้างตำนานของห้างสรรพสินค้า และไม่หยุดนำพาพนักงานทุกคนในบริษัทเห้อซื่อออกมาท้าทายในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน เขายังสร้างสีสันที่สดใหม่ให้กับวงการโทรทัศน์และภาพยนตร์ ทำให้พวกเราได้สนุกไปกับการดูละครที่มีสีสันและน่าติดตามอย่างล้นหลาม และผลงานภาพยนตร์เรื่องเล่าระดับสูง ทุกๆครั้งที่ได้เห็นหรือได้ยินชื่อคุณเห้ออี้ลั่ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะแอบอิจฉาผู้ชายคนนี้ ราวกับว่าคำคุณศัพท์ที่ดีๆทั้งหมดนั้นเหมาะสมมากที่จะอยู่บนร่างของชายหนุ่มเจ้าของบริษัทเห้อซื่อคนนี้ เขาก็คล้ายกับความภาคภูมิใจของสวรรค์ที่ดูดีเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบทำให้ผู้คนประทับใจทั้ง ภาพลักษณ์ภายนอก รสนิยม นิสัย ความมั่งคั่งร่ำรวย ........” พิธีกรยังพูดเกี่ยวกับเห้ออี้ลั่วอีกมากมาย แต่เฉียวเมิ่งเยว่กลับไม่ได้ฟังเลย การรับรู้ทั้งหมดของเธอหยุดอยู่ในตอนที่มือใหญ่ของเห้ออี้ลั่วจับประคองไปที่เอวของเธอแล้ว มือของเขาอบอุ่นอย่างมาก รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย เห้ออี้ลั่วพาเฉียวเมิ่งเยว่เดินมาจนถึงปลายพรมแดง พิธีกรเอ่ยอย่างยิ้มๆ “คุณเห้ออี้ลั่ว ในวันมงคลแบบนี้ คุณมีอะไรอยากจะพูดหรือแชร์กับพวกเราไหมครับ?” เห้ออี้ลั่วตอบใส่ไมโครโฟนที่พิธีกรส่งมาให้ น้ำเสียงที่ชัดเจนเอ่ยออกไป “วันนี้เป็นวันที่พิเศษมากวันหนึ่ง น้องสาวคนเดียวของผมแต่งงาน นับตั้งแต่การประกาศข่าวเรื่องการแต่งงานของคุณโม่มู่เฉินออกไป ผู้คนต่างคาดเดาฐานะของคู่หมั้นของเขา หวังว่าพอได้เปิดเผยออกมาแล้วทุกคนจะไม่รู้สึกผิดหวังนะครับ นอกจากเป็นวันดีของน้องสาวของผมแล้ว นี่ก็เป็นครั้งแรกของภรรยาและลูกชายของผม เป็นวันปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างคาดเดาถึงลูกชายของผมต่างๆนานา ก่อนหน้านี้ที่ผมไม่ให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนนั้น เป็นเพราะอายุของเขายังน้อยเกินไป ไม่อยากให้เขาได้รับการรบกวนจากโลกภายนอก ตอนนี้เขาอยู่ชั้นประถมแล้ว และเขาได้เดินเข้าสู่สายตาของสาธารณะแล้ว และยังใช้โอกาสนี้ในการทำให้เขาปรับตัวในการใช้ชีวิตท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายอีกด้วย” 
已经是最新一章了
加载中