บทที่ 103 เรื่องขำขันที่เกิดขึ้นเพราะความเมา
1/
บทที่ 103 เรื่องขำขันที่เกิดขึ้นเพราะความเมา
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 103 เรื่องขำขันที่เกิดขึ้นเพราะความเมา
บ๗ที่ 103 เรื่องขำขันที่เกิดขึ้นเพราะความเมา ในตอนที่ลั่วหมิงเม่ยเปิดประตูออกมา ก็ต้องหัวเราะกับภาพตรงหน้า มือทั้งสองข้างของเห้ออี้ลั่วที่อุ้มเจ้านายไว้ข้างละคน และทั้งสองยังขยับโยกไปมาบนไหล่ของเขา ลั่วหมิงเม่ยอยากไปอุ้มเสี่ยวเป่าลงมา ในขณะที่มือกำลังจะจับโดนตัวของเสี่ยวเป่าก็นึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวเป่าไม่ยอมให้ใครคนอื่นจับโดนตัวของเขา ก็คิดจะเก็บมือกลับคืนมา ก่อนที่ลั่วหมิงเม่ยจะดึงมือกลับมานั้น เสี่ยวเป่าก็ร้องเรียกคุณยายออกมาคำหนึ่งอย่างออดอ้อน จากนั้นก็โอบกอดไปที่คอของลั่วหมิงเม่ย “เฮ้ย” ลั่วหมิงเม่ยร้องออกมาอย่างตกใจ หลังจากนั้นก็อุ้มหลานชายเข้าห้องไปด้วยความพึงพอใจ เดินไปด้วยก็ตะโกนออกไปด้วย “เฉียวไห่ซิง รีบต้มยาแก้เมาเหล้ามาเร็วเข้า สุดที่รักของเธอดื่มจนเมาแล้ว” เฉียวไห่ซิงลงมาจากชั้นบน เห็นเสี่ยวเป่ากอดลั่วหมิงเม่ย ลูกสาวสุดที่รักของเขาที่กอดเห้ออี้ลั่วอยู่ก็รู้สึกขำนิดหน่อย “นี่เธอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว หรือว่าไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขากันแน่?” “ไม่ใช่ลูกสาวสุดที่รักของคุณหรอที่ไม่ฉลาด ไม่รู้จักปฎิเสธคนอื่นเขา” ลั่วหมิงเม่ยเอ่ยอย่างเคืองๆ มือก็สัมผัสไปยังใบหน้าเล็กของหลานชายของเขา “พ่อครับแม่ครับ งั้นผมพาเสี่ยวเมิ่งกลับเข้าห้องก่อนนะครับ” “จ่ะๆ ถ้ามันเมาจนเป็นบ้า ก็ให้มันนอนข้างล่างเตียง” เห้ออี้ลั่วหัวเราะและพยักหน้ารับ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ เฉียวเมิ่งเยว่ได้ยินพวกเขาคุยกันลางๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำอู้อี้ออกไปหลายคำ เห้ออี้ลั่วเห็นท่าทางก๋ากั่นของเธอ ก็รีบพาเธอกลับเข้าห้อง ไม่อยากจะให้คนอื่นเห็นท่าทางบ้าบอในเวลาเมาของเธอเท่าไหร่นัก ถึงจะเป็นพ่อแม่ของเธอเองก็ไม่ได้ เฉียวเมิ่งเยว่รู้สึกเหมือนว่ามีคนถอดรองเท้าและเสื้อผ้าของเธอออก เธอยื่นมือไปปัดป่าย ลืมตาขึ้นก็เห็นหน้าของเห้ออี้ลั่ว ก็กระพริบตาหลายที ทันใดนั้น ก็ตะโกนออกมา “จะปล้นเงินหรือว่าปล้นสวาท?” ตะโกนเสร็จ เธอก็พูดเสริมมาอีกประโยคหนึ่ง “นายเกิดมาหน้าตาสวยกว่าฉันเยอะเลย งั้นฉันปล้นสวาทนายดีกว่า ฮ่าฮ่า” เห้ออี้ลั่วที่กำลังถอดเสื้อโค้ทให้เฉียวเมิ่งเยว่ ก็ถูกคำพูดของเธอทำให้ตกใจอย่างมาก เฉียวไห่ซิงที่ต้มยาแก้เมามาให้เดินมาถึงประตูและลั่วหมิงเม่ยที่อุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา ก็เห็นลูกสาวของเขาที่เมาด้วยฤทธิ์ของเหล้ากำลังกดลูกเขยของตนเองลงบนเตียงเข้าอย่างอย่างพอดิบพอดี และใบหน้ายังแต้มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน หลังจากนั้น เมื่อสมองมึนงงเบลอไปหมด ก็นอนหลับทับลงไปบนร่างของเห้ออี้ลั่ว ในขณะนั้นเองก็รู้สึกเหมือนมีนกร้องดังและบินผ่านสายตาไป ลั่วหมิงเม่ยไม่อยากจะเห็นลูกสาวที่เมาจนทำอะไรบ้าๆแบบนี่ จะล้มก็ให้มันล้มไป หยาบคายขนาดไหนกัน ทำเขาล้มแล้วยังหลับบนตัวเขาอีกมันหมายความว่ายังไงกัน? ** วันถัดมา เฉียวเมิ่งเยว่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงแดดที่สอดส่องในยามเช้า เหล้าที่ดื่มเมื่อคืนนี้เป็นเหล้าชั้นดี ดื่มเมาแล้วก็ไม่ค่อยปวดหัวมากเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังรู้สึกมึนๆเล็กน้อย เธอลูบๆหน้า ลุกจากเตียงแล้วหยิบเสื้อใส่อยู่บ้านออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วก็เดินเข้าห้องอาบน้ำไปอาบน้ำ ในตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่เดินลงมาชั้นล่าง เห็นแต่ลั่วหมิงเม่ยที่ดื่มชาอยู่ในห้องรับแขก บนเข่าของเขายังมีหนังสือทำขนมเค้กเล่มใหม่วางอยู่ด้วย ลั่วหมิงเม่ยได้ยินเสียงฝีเท้า ก็พูดขึ้นอย่างไม่หันหัวมา “อาหารเช้าอยู่ในครัว” เฉียวเมิ่งเยว่เดินไปหยิบอาหารเช้าในครัว และมานั่งข้างๆลั่วหมิงเม่ย “แม่คะ” “ฉันไม่รู้จักคนไร้ค่าอย่างเธอ” “เป็นอะไรอีกคะ?” “แกคิดดูเอาเองว่าเมื่อคืนแกเมาแล้วทำเรื่องหน้าอายอะไรไว้บ้าง ฉันที่เป็นแม่แกเห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว” เฉียวเมิ่งเยว่ “......” เธอพยามยามรื้อฟื้นความทรงจำ จำได้ลางๆแค่ไม่กี่ฉาก แต่ไม่สามารถปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราวได้ แต่เธอก็มั่นใจ ว่าเธอทำเรื่องหน้าอายต่อหน้าเห้ออี้ลั่วอีกแล้ว โอ้ยตาย ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าในใจกระสับกระส่ายไม่เป็นจังหวะอย่างควบคุมไม่ได้ เฉียวเมิ่งเยว่กัดอาหารไปสองคำ พูดขึ้น “แม่คะ เชงเม้งจะกลับไปหาบรรพบุรุษเก็บกวาดหลุมศพไหมคะ?” “ไม่ไปแล้ว กลัวบรรพบุรุษแกโมโหเอา” “ถ้างั้นบ้านของคุณปู่จะเก็บกวาดหลุมศพตอนไหนคะ?” “ยังไม่แน่ใจ เอาตามวันหยุดของคนในบ้าน น่าจะวันที่5” ลั่วหมิงเม่ยเหลือบมองเฉียวเมิ่งเยว่ “เรื่องทำความสะอาบเก็บกวาดหลุมศพ แกไปปรึกษากับลูกเขยของฉันหน่อยแล้วกัน ดูว่าทางพวกเขานั้นมีแพลนยังไงกันบ้าง” “อี้ลั่วบอกว่าคราวนี้ให้หนูอยู่บ้านหลายวันหน่อย ให้อยู่เป็นเพื่อนคนที่บ้าน” ลั่วหมิงเม่ยกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “คนเขาบอกให้แกอยู่แกก็อยู่หรอ? คนเขาก็แค่พูดเพราะความเกรงใจ ทำไมแกยังอุตส่าห์เชื่อฟังห้ะ?” “พวกเราใช้ชีวิตให้มันง่ายหน่อยไม่ได้หรือไงกัน? ไปสนใจทำไมกับคำพูดที่มีความหมายโดยนัยของอี้ลั่วละคะ หนูก็ไม่ได้เป็นคนพูดมากมากความ ใครพูดอะไรก็หมายความตามนั้นแหละค่ะ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าอี้ลั่วพูดออกมาแบบนั้นพูดออกมาเพื่อแสดงถึงความเกรงใจหรือเปล่า?” ลั่วหมิงเม่ยได้ยินเธอพูดก็อารมณ์เสียขึ้นมา “แกถอดเสื้อของคนอื่นเขา!” หัวสมองของเฉียวเมิ่งเยว่มีภาพของเมื่อคืนลอยขึ้นมา รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนไม่ดีไปในชั่วขณะหนึ่ง “คุณนายลั่วหมิงเม่ย คุณก็ลืมๆมันไปเถอะ เห็นลูกสาวตัวเองทำเรื่องขายหน้าขนาดนี้ ยังไม่คิดจะปิดเอาไว้เงียบๆ ยังจะพูดออกมาอยู่นั่น” เฉียวเมิ่งเยว่รู้สึกว่าเธอต้องได้กรรมพันธ์การพูดมากมาจากปู่ย่าตายายอย่างแน่นอน “แกเตือนฉัน” ลั่วหมิงเม่ยเอ่ยอย่างไม่พอใจ เฉียวเมิ่งเยว่ในสถานการณ์นี้ถึงกับพูดไม่ออก รีบจัดการกับอาหารในจานให้หมด แล้วจึงจงใจวางจานอาหารเปล่าๆและแก้วนมที่ว่างเปล่าไว้ข้างๆ ลั่วหมิงเม่ย แล้วก็เดินหนีขึ้นไปข้างบน “เฉียว! เมิ่ง! เยว่! แกอยากตายหรือไงห้ะ?!” สิ่งที่ตอบกลับเธอก็คือเสียงปิดประตูห้องของเฉียวเมิ่งเยว่ เฉียวเมิ่งเยว่ยืนอยู่ข้างเตียง คิดถึงภาพเหตุการณ์เมื่อคืน ก็เกิดอารมณ์สับสนซับซ้อนขึ้นมาอย่างมาก เธอลูบๆใบหน้า หยิบแท็บเล็ตแล้วไปนั่งอยู่ตรงระเบียงเล็กๆของห้องเพื่ออาบแดด ตรวจสอบเวชระเบียนของการผ่าตัดครั้งล่าสุดซ้ำ ๆ และสรุปเรียบเรียงเพื่อที่จะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป ในช่วงนี้ที่ได้วิ่งเข้าออกจัดการกับเคสในห้องฉุกเฉิน เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าตัวเธอเองก้าวหน้าขึ้นไม่น้อย เคสฉุกเฉินเป็นการทดสอบความสามารถโดยรวมและฝีมือของแพทย์ที่ดีอย่างหนึ่ง ต้องมีความสามารถในการยืดหยุ่นสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี นี่เป็นการฝึกฝนที่ดีมากรูปแบบหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถทดสอบความสามารถในการรับแรงกดดันของแพทย์ได้อีกด้วย กล่าวโดยย่อๆก็คือการใช้หยาดเหงื่อแลกกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มันสามารถเห็นผลลัพธ์ความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นการเก็บเกี่ยวที่ไม่เหมือนกับเคสฉุกเฉินที่เธอเคยจัดการมาก่อนหน้านี้ เฉียวเมิ่งเยว่ดูเวชระเบียนจนตาเกิดเบลอขึ้นมา และในขณะที่กำลังจะวางแท็บเล็ตลง ก็ได้รับข้อความจากเสี่ยวอัน เสี่ยวอัน : “พี่เฉียวพี่เฉียวพี่เฉียวพี่เฉียว ฉันไม่รักพี่แล้ว! งอนสามสิบวิ! เฉียวเมิ่งเยว่ : “เป็นอะไรไปอีกห้ะ?! ไปอ่านหนังสือสะไป!” เสี่ยวอัน : “ไม่ไป! พี่ทำร้ายฉัน ยังยิ้มหน้าบานและปล่อยให้ผ่านไป” เฉียวเมิ่งเยว่ : “......” เสี่ยวอันส่งลิงค์หนึ่งให้เธอ เสี่ยวอัน : “พี่ลักพาตัวประธานเห้อของฉันไป แม้กระทั่งจูบแรกของประธานเห้อตัวน้อยของฉันก็ไม่เว้น!!!!!!!!!!!!!” เฉียวเมิ่งเยว่ : “แล้วยังไง เธอคิดจะทำไง? ถ้ายังไม่อ่านหนังสือ งานของเธอฉันก็จะไม่ให้ทำด้วย เสี่ยวอันส่งสติ้กเก้อชนกำแพงอย่างน่าสงสาร เฉียวเมิ่งเยว่ไม่สนใจเธอ เสี่ยวอันเห็นว่าเฉียวเมิ่งเยว่ไม่ตอบเธอแล้ว ก็เลยไปอ่านหนังสือ เฉียวเมิ่งเยว่กดเปิดลิ้งค์นั้น ก็เห็นข่าวที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บ QQ เธอไม่คาดคิดเลย ว่าวันหนึ่งข่าวของเธอจะโผล่ขึ้นมาเหมือนกับข่าวซุบซิบดาราซุปตาร์ดังเลย เฉียวเมิ่งเยว่อ่านข่าวนั้นอย่างผ่านๆ ล้วนแต่เป็นคำชื่นชมยกยอทั้งนั้น แล้วก็มีรูปภาพของเสี่ยวเป่า เธอและเห้ออี้ลั่ว นักข่าวอาชีพฝีมือการถ่ายภาพนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก แม้ในขณะที่กำลังเดินอยู่ พวกเขายังสามารถถ่ายออกมาได้สวยมาก เห้ออี้ลั่วมีเสน่ห์และดูดีเป็นอย่างมาก ถึงรูปลักษณ์ภายนอกเขาจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ช่างทำผมประจำของเขาก็ทำผมของเขาออกมาได้ดูดีมากและยังถึงขั้นจัดผมเกือบแทบทุกเส้นให้ออกมาสวยเพอร์เฟคมากที่สุดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 103 เรื่องขำขันที่เกิดขึ้นเพราะความเมา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A