บทที่ 104 ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์
1/
บทที่ 104 ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 104 ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์
บ๗ที่ 104 ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ ความประณีต ความกล้าหาญและโดดเด่นของเขาทำให้ผู้คนต่างประหลาดใจ สองมือที่สร้างธุรกิจขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้เขาไม่เหมือนกับใครใคร ไม่เคยพ่ายแพ้ในประสบการณ์ต่างๆที่เคยฝึกฝนผ่านมามากมายยิ่งกว่าการเป็นดาราแนวหน้า เสี่ยวเป่าถูกจับแต่งตัวจนเหมือนกับเป็นตุ๊กตา ประกอบกับอารมณ์ของเขานั้นที่เหมือนกับเห้ออี้ลั่วอย่างมากราวกับพิมพ์ออกมาแบบเดียวกันเป๊ะ ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นก็ไม่รู้จะชื่นชมอย่างไรดี เฉียวเมิ่งเยว่มองหน้าพวกเขา อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความหล่อเหลาดั่งพระเจ้าสร้างมาของพวกเขา แต่ว่า หลานชายที่คล้ายคลึงกับอามากขนาดนี้เจอได้น้อยเกินไป หรือเป็นเพราะว่าเห้ออี้ลั่วดูแลเสี่ยวเป่ามาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า ดังนั้น ยิ่งโตก็เลยยิ่งคล้ายเขาเข้าไปใหญ่? เหตุผลประการนี้นั้นได้รับการพิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว แต่ก็ยังคงเจอได้น้อยมากอยู่ดี หลังจากที่เห้ออี้เจ๋อเสียชีวิต ตระกูลเห้อก็ได้ปกปิดเก็บซ่อนรูปภาพของเห้ออี้เจ๋อและภรรยาของเขาไว้ บนอินเทอร์เน็ตแทบจะไม่มีข่าวเกี่ยวกับพวกเขาเลย รู้เพียงแค่ว่าเห้ออี้เจ๋อเสียชีวิตแล้วเท่านั้น และเคยอยู่ในความดูและของบริษัทเห้อซื่อ นอกจากนั้นก็ไม่มีข่าวอะไรอีกเลย เฉียวเมิ่งเยว่ก็เบนสายตามาวางไว้บนร่างกายของเธอเอง ก็เห็นว่าเธอกับเห้ออี้ลั่ว เสี่ยวเป่านอนห้องเดียวกันแต่กลับไม่เหมือนกับคนอื่นทั่วไป เธอก็ค่อนข้างประหลาดใจ รูปร่างหน้าตาเธอก็ถือว่าดูดี แต่เมื่อเทียบกับเห้ออี้ลั่ว เสี่ยวเป่าแล้วนั้นก็ยังถือว่าแตกต่างกันอยู่มาก ไม่คิดว่าหลังจากสไตล์ลิสแต่งหน้าแต่งตัวให้แล้ว พอเปรียบกับพวกเขาแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะออกมา ภาพเหล่านั้นก็ถูกเธอบันทึกเก็บเอาไว้แล้ว “ดูรูปตัวเองยังหัวเราะได้อนาถขนาดนี้?” เห้ออี้ลั่วพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะอยู่ข้างๆหูของเฉียวเมิ่งเยว่ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่บนต้นคอของเฉียวเมิ่งเยว่เบาๆ ทำให้เธอตกใจจนสะดุ้งเบาๆ ร่างของเฉียวเมิ่งเยว่กระตุกเล็กน้อย ขยับหนีไปทางอื่นอย่างรู้สึกไม่สบายใจ เพื่อหลบหนีลมหายใจของเขา เห้ออี้ลั่วเหมือนว่าจะไม่รู้ตัว ยังคงเข้าไปใกล้ๆเธอเหมือนเดิม ดวงตาที่คมลึกจ้องไปที่แท็บแลตในมือของเฉียวเมิ่งเยว่ “อืม ถ่ายได้ไม่เลวนี่” ใบหูของเฉียวเมิ่งเยว่กลายเป็นสีแดงระเรื่อชั่วขณะ เธอพยายามทำใจเย็นกระแอมไปสองที “เมื่อกี้คุณไปไหนมาคะ?” “พาเสี่ยวเป่าและคุณพ่อไปเดินเล่น และก็ไปซื้อของกินด้วย” เฉียวเมิ่งเยว่พยักหน้า แล้วก็นึกได้ถึงตลาดผักที่พ่อตาชอบไปซื้อผัก เมื่อนึกได้ดังนั้น ก็เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “คุณกับพ่อตาไปตลาดผักหรอคะ?” “อืม” “ถูกคนมุงล้อมไหม?” “ก็เป็นไปตามที่เธอคิด” เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะร่าออกมา เห้ออี้ลั่วโน้มตัวลงดูรูปภาพบนแท็บเลต ท่าทางนั้นที่เกือบจะกอดเฉียวเมิ่งเยว่ไว้ในอ้อมอก เฉียวเมิ่งเยว่หดตัว เพื่อลดการสัมผัสทางกายระหว่างเธอและเขาให้สัมผัสโดนกันน้อยที่สุด เห้ออี้ลั่วกลับราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ชี้ไปที่ภาพๆหนึ่งและเอ่ยขึ้น “รูปนี้เอาไปโพสลงเว่ยป๋อของแผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทได้นะ” เสียงนั้นก็ยังคงกระทบไปข้างแก้มของเฉียวเมิ่งเยว่อีกครั้ง “คุณแกล้งฉันแบบนี้มันดีแล้วหรือไงห้ะ?” เห้ออี้ลั่วเอนหน้ามองเธอ “ถูกจับได้ซะแล้ว” เฉียวเมิ่งเยว่มองเห้ออี้ลั่วอย่างเคืองๆ ดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็ยิ่งใกล้เข้ามาอีก นัยน์ตาของเขาเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธออย่างชัดเจน แก้มแดงๆทั้งสองข้าง และดวงตาคู่นั้นทำให้เธอดูเหมือนกับคนแปลกหน้า เธอไม่คิดว่าเธอก็มีฉากหวานๆแบบคู่รักอย่างนี้ด้วย เห้ออี้ลั่วยื่นมือไปบีบแก้มเล็กที่เริ่มร้อนขึ้นของเธอ ริมฝีปากของเธอที่ยกขึ้นเล็กน้อยราวกับว่ากำลังเรียกความสนใจอยากให้เขาจูบ เฉียวเมิ่งเยว่เบิกตากว้างมองยังใบหน้าหล่อของเห้ออี้ลั่วที่ค่อยๆใกล้เข้ามา หัวสมองเบลอไปหมดไม่รู้ควรทำไงดี เมื่อก่อนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยจูบกันมาก่อน ตอนนั้นเธอทำเพียงเพื่อที่จะหนี แต่เมื่อได้เกิดความรู้สึกขึ้นมาแล้วนั้น ก็จะมักเกิดความคาดหวังเกิดขึ้นภายในความหวาดหวั่น ในตอนที่ริมฝีปากของทั้งสองใกล้จะชิดกัน ก็มีเสียงกระแอมของเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะดังขึ้น เฉียวเมิ่งเยว่ได้สติกลับมา มองไปยังประตู เสี่ยวเป่ากลอกตามองบน “คราวหน้ารบกวนล็อกประตูด้วยนะครับ” “เด็กบ้า ขึ้นมาทำไม?” เห้ออี้ลั่วยังไม่ทันหันหัวไปมองก็ตะโกนขึ้นมา “คุณตาคุณยายให้ผมขึ้นมาเรียกพวกคุณไปกินข้าว ถ้าพวกคุณกำลังยุ่งอยู่ ผมจะลงไปบอกพวกท่านว่าพวกคุณกำลังจู๋จี๋กันอยู่ ไม่ว่างกินข้าวชั่วคราว” เสี่ยวเป่าพูดจบก็เดินลงไปทันที เฉียวเมิ่งเยว่มองไปยังเห้ออี้ลั่ว “นี่คุณ ตอนเด็กคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า?” “ไม่นะ” “อ่อ” เห้ออี้ลั่วหยิบแท็บเลตเธอมา “ลงไปกินข้าวกันเถอะ” เฉียวเมิ่งเยว่ลูบๆจมูกตัวเอง จากนั้นก็โอบไปที่หลังคอของเห้ออี้ลั่ว ประทับริมฝีปากลงไป หลังจากนั้นไม่นาน ก็รีบแยกออกอย่างรวดเร็ว ยิ้มออกมาจนแทบเห็นฟันหมดทุกซี่ “ถูกเสี่ยวเป่าเห็นแล้ว ถ้าไม่ได้จูบก็คงจะไม่ยุติธรรมสิ” เห้ออี้ลั่วล็อคใบหน้าเล็กของเธอไว้แน่น ก็เห็นว่าหน้าใบหน้าของเธอแทบจะไม่ได้ใหญ่ไปกว่ามือของเขาเลย “ยังไงก็โดนเอาไปพูดแล้ว งั้นก็ทำให้เป็นเรื่องจริงเลยไหม?” เฉียวเมิ่งเยว่ “......นี่คุณ คุณมีปฏิกิริยาตอบกลับไวขนาดนี้มันดีหรือไงกัน?” “ผมรู้สึกว่ามันเป็นข้อดีที่ไม่เลวเลย” “แต่ว่าฉันหิวแล้ว” “ไม่ได้ทำมาตั้งนาน ก็ต้องหิวอยู่แล้ว” เฉียวเมิ่งเยว่ “......” ยังคุยกันดีดีได้อยู่ไหม? เห้ออี้ลั่วเห็นใบหน้าที่เป็นตกใจของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ลุกขึ้นเถอะ พ่อแม่รอนานแล้ว” “อืมๆ” เห้ออี้ลั่วหมุนตัวกำลังจะออกไป เฉียวเมิ่งเยว่มองไปบนแผ่นหลังกว้างของเขา หัวเราะร่าและกระโดดขึ้นไปบนหลังของเขา “คุณแบกฉันหน่อย” เห้ออี้ลั่วรีบยึดสะโพกเธอที่อยู่บนหลังของเขาทันที ตบเบาๆไปที่ก้นของเธออย่างขำๆ “ดูสิทำให้เธอกลายเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาวไปแล้วเนี่ย” สองมือของเฉียวเมิ่งเยว่โอบรอบคอของเขา “มีคุณอยู่ ฉันจะขยันไปทำไมกัน? แม่ของคุณพูดไว้ ผู้หญิงที่ออดอ้อนเป็นชีวิตจะดี้ดี เป็นลูกสาวของเธอ ฉันต้องฝึกซะหน่อย” “ฝึกไปสิ ฉันก็จะเรียนรู้วิธีการเอาใจเธอจากพ่อตาเหมือนกัน” เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะออกมา โอบหลังคอของเห้ออี้ลั่วแน่นขึ้นกว่าเดิม ลั่วหมิงเม่ยเห็นเห้ออี้ลั่วแบกเฉียวเมิ่งเยว่ลงมา ก็กลอกตามองบน หันไปพูดกับเฉียวไห่ซิง “สามี มีคนกล้าแสดงความรักกันต่อหน้าภรรยาของคุณค่ะ” เฉียวไห่ซิงยกน้ำแกงมาวางบนโต๊ะ เอ่ยอย่างนิ่งๆ “เราก็แสดงความรักกันต่อหน้าเธอมายี่สิบกว่าปีแล้ว เธอจะทำบ้างเป็นครั้งคราวไม่เป็นไรหรอกน่า” เฉียวเมิ่งเยว่ “ทั้งสองคะ ต่อไปนี้ก็ถึงเวลาของการแสดงความรักของเราอย่างเป็นทางการแล้ว พวกคุณก็แสดงความรักกันมาหลายปีแล้วก็ควรหยุดพักผ่อนสักหน่อยนะคะ” “ยัยเด็กผู้น่าสงสารหลายปีมานี้โดนฉันทำจนเสียไปหมดแล้ว ตอนนี้ยอนิดยอหน่อยก็ลุกพรือขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัวแล้ว” ลั่วหมิงเม่ยใบหน้าที่เศร้าสร้อย เฉียวเมิ่งเยว่กลอกตามองบน ลงมาจากหลังของเห้ออี้ลั่ว และยังขยับลากเก้าอี้ให้เห้ออี้ลั่ว นั่งอย่างออดอ้อน และใช้น้ำเสียงที่หวานหยดย้อยเอ่ยพูดขึ้น “สามีขา นั่งสิคะ” เฉียวไห่ซิง ลั่วหมิงเม่ย เสี่ยวเป่า “......” ** ทั้งครอบครัวกินข้าวกลางวันเสร็จกันอย่างมีความสุข เสี่ยวเป่าอายุยังน้อย ต้องการการนอนหลับพักผ่อนที่เต็มที่ หลังจากทานข้าวเรียบร้อย ก็กลับไปนอนหลับที่ห้องของเฉียวเมิ่งเยว่ เฉียวเมิ่งเยว่และเห้ออี้ลั่วนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นบนชั้นสอง เห้ออี้ลั่วทำงาน เธอก็นั่งดูเวชระเบียนอยู่ข้างๆ แสงแดดในเดือนเมษายนนั้นอบอุ่นแต่กลับไม่แพรวพราว สาดส่องไปบนร่างของทั้งสองทำให้อบอุ่นอย่างมาก เฉียวเมิ่งเยว่ขยี้ตา มองไปยังดวงตาสดใสของชายหนุ่มข้างกาย “คุณคะ เชงเม้งที่บ้านคุณวางแพลนไว้ยังไงบ้างคะ?” “ในบ้านมีศาลอยู่ วันที่5ตอนเช้าไปกราบไหว้ก็พอแล้ว” “บ้านพวกคุณสะดวกสบายกว่าเยอะเลย บ้านฉันยังใช้การฝังศพอยู่เลย เก็บกวาดทำความสะอาดหลุมศพก็ต้องขึ้นไปถึงบนเขา แต่ก็สนุกดีนะ สิ่งที่ชอบที่สุดในตอนเด็กก็คือการเก็บกวาดหลุมศพนี่แหละ” “ไปเก็บกวาดหลุมศพยังดีใจขนาดนี้?” “ใช่สิ ตอนเด็กๆไม่ค่อยรู้เรื่อง โตขึ้นก็ไม่ค่อยมีโอกาสพบเจอญาติๆทั้งหมดเท่าไหร่ ก็มีแค่ตรุษจีน เชงเม้งถึงจะได้เจอเยอะที่สุดแล้ว” “เธอพูดถูก วันที่5ตอนบ่ายฉันมีธุระต้องออกไป วันที่6ตอนเช้าถึงกลับมา เธอเอาเสี่ยวเป่าไว้ที่บ้านก็ได้นะ และก็ให้คนขับรถไปส่งพวกเธอกลับไปบ้านพ่อแม่ของเธอ” “ให้อยู่ที่บ้านเถอะ คุณปู่คุณย่า พ่อกับแม่ พวกเขาคิดถึงเสี่ยวเป่ามาก ให้เวลาพวกเขาได้อยู่ด้วยกันนานๆหน่อยก็ดีนะคะ” “อืม”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 104 ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A