บทที่ 106 คนสาปแช่งฉันเยอะแล้ว ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 106 คนสาปแช่งฉันเยอะแล้ว ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว
บ๗ที่ 106 คนสาปแช่งฉันเยอะแล้ว ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว เฉียวเมิ่งเยว่มองเอียงๆไปที่เธอ “ มีคนสาปแช่งฉันเยอะแล้ว ไม่ใช่แค่คุณคนเดียว ” คุณหลี่และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนได้ยินดังนั้น เส้นเลือดสองสามเส้นก็ปุดขึ้นมาตรงหน้าผาก คุณหมอเฉียวคนนี้ของพวกเขานับวันยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ เห็นอย่างนั้นแล้วสนุกมาก มากกว่าการจัดการญาติคนไข้ของหมอคนอื่นๆอีก เวยฉั่ยเจียเดินไปพร้อมกับตะโกนไปอย่างเสียงดังว่า : “ ทุกคนรีบมาดูเร็ว หมอโรงพยาบาลหย่าเต๋อก็เป็นแค่คนไร้คุณธรรม ทำลูกชายของฉันตาย ฉันมาขอคำอธิบายก็ไล่ตะเพิดฉันออกไป ! นี่ฉันไปทำกรรมอะไรไว้ ถึงทำให้ลูกชายฉันได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ พวกคุณต้องดูให้ดีดี อย่ามาเข้ารับการรักษากับเฉียวเมิ่งเยว่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคุณจะตายยังไงก็ไม่รู้…… ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายหนึ่งได้เอื้อมมือออกไปปิดปากเธอ จึงทำให้เธอเงียบ เฉียวเมิ่งเยว่พยายามหลับตาเอาไว้เพื่อจะระงับอารมณ์ที่อยากจะตบคนบางคน เสี่ยวฟางกลืนน้ำลายและพูดว่า : “ พี่เฉียว จะทำยังไงดี ? ถ้าคนคนนี้ยังจะร้องตะโกนเสียงดังอีก มันก็จะทำให้คนไข้คนอื่นๆได้ยิน และต่อไปก็จะไม่มีคนไข้มาให้พี่รักษาแล้ว ” “ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องกังวล เธอจัดการห้องทำงานให้เรียบร้อยก่อน ฉันจะไปดูเฉินหลิ่วเฟย ตอนนี้เขาอยู่ห้องเก็บศพหรือว่าถูกส่งไปที่สถานที่จัดงานศพแล้ว ? ” “ อยู่ห้องเก็บศพ ได้ยินผู้อำนวยการโรงพยาบาลบอกมาว่าตำรวจนิติเวชและตำรวจอาชญากรจะเข้ามา ” “ มันจำเป็นด้วยหรอ ? ” “ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเรียกเก็บประวัติข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลรายวันของเฉินหลิ่วเฟย พบว่าไม่มีความผิดปกติใดๆในชีพจรของเขา เมื่อคืนมีคนโทรแจ้งความตอนที่เฉินหลิ่วเฟยเสียชีวิต ดังนั้นตำรวจจึงเข้ามาแล้ว และเช้าวันนี้แพทย์นิติเวชก็จะมาทำการชันสูตรศพ ” เฉี่ยวเมิ่งเยว่พยักหน้า เธอรู้สึกเพียงว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลเกินไป เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี มีคนโทรแจ้งความตอนที่เฉินหลิ่วเฟยเสียชีวิต ? มีคนมองเห็นความตายของเขา หรือเพิ่งจะเห็นมัน ? ถ้าเป็นอย่างหลัง ปฏิกิริยาแรกของเขานั้นก็ควรจะเป็นการโทรเรียกหมอหรือพยาบาลไม่ใช่หรอ ? ทำไมถึงโทรแจ้งความก่อน ? เฉี่ยวเมิ่งเยว่มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับคิดไตร่ตรอง ไม่มีคำตอบ ** หลังจากที่เฉี่ยวเมิ่งเยว่จัดการแก้ไขงานเสร็จเรียบร้อยแล้วในตอนเช้า จากนั้นก็จะไปที่ห้องเก็บศพ เธอวนรถเข้ามาที่ลานจอดรถ ก็เห็นรถตำรวจหนึ่งคันจอดอยู่ที่หน้าห้องเก็บศพ และมีแพทย์นิติเวชหญิงหนึ่งคนยืนอยู่ข้างรถตำรวจ รูปร่างของเธอนั้นดูไม่ได้เล็กไปกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดนิติเวชสีขาวของเธอดูสะอาดและเรียบร้อย ไม่มีความรู้สึกว่าขุ่นมัวเลย แพทย์นิติเวชหญิงคนนั้นเห็นว่าเฉี่ยวเมิ่งเยว่กำลังเดินมา ก็หยุดพูดคุยกับตำรวจ : “ คุณเป็นหมอที่รับเคสของเฉินหลิ่วเฟย ? ” “ ฉันเองค่ะ การชันสูตรศพของเขาเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ ? ” “ เรียบร้อยแล้วค่ะ ฉันอยากถามคุณสองสามคำถาม ” “ เชิญคุณพูดเลย ” “ เพื่อนร่วมงานของฉันบอกว่าชีพจรของเขานั้นเป็นปกติมาโดยตลอด แต่ทว่าเมื่อคืนเขาก็เสียชีวิตฉับพลับ คุณคิดว่านี่เป็นเพราะอะไร ? ” “ เอาตามตรงคือฉันไม่รู้ ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเขาตั้งแต่เขาเข้าโรงพยาบาลมา ไม่รู้ว่าเขาพูดไม่ได้หรือเปล่า ประกอบกับการกลืนอาหารก็ยากลำบาก ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงต่ออารมณ์ของเขามาก และแน่นอนมันอาจยังสามารถมีเหตุผลอื่นๆอีกได้ ด้วยอารมณ์ของเขาที่ต่ำมาก มักจะโกรธหรือโมโหหิวบ่อยๆโดยไม่มีเหตุผล พวกเราหมอและพยาบาลดูแลเขาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาใจใส่เขามากกว่าคนไข้รายอื่น แต่การดูแลของพวกเรานั้นบางทีอาจทำให้เขาคิดว่าเป็นภาระมากขึ้น ในที่สุดระหว่างที่เขาอยู่ที่โรงพยาบาล ครอบครัวของเขาไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ฉันคิดว่าหรือเขาอาจจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะฆ่าตัวตาย ” แพทย์นิติเวชหญิงจดบันทึกอย่างรวดเร็วลงในสมุดบันทึก จากนั้นก็พูดว่า : “ ฉันก็ได้ยินมาว่าเขาไม่ได้จ่ายเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ” “ ญาติของเขาปรากฏตัวขึ้นทั้งหมดสองครั้ง ครั้งแรก คือวันที่เขาเข้าโรงพยาบาลวันที่สอง ; อีกครั้งคือวันนี้ตอนเช้า ” เฉี่ยวเมิ่งเยว่มองดูตำรวจที่เดินออกมาจากห้องเก็บศพ จากนั้นก็ถามว่า : “ ฉันขอเข้าไปดูได้ไหมคะ ? ” “ ได้ครับ เชิญ ” “ ขอบคุณค่ะ ” แพทย์นิติเวชหญิงมองดูแผ่นหลังของเฉี่ยวเมิ่งเยว่หายเข้าไปในห้องเก็บศพ และพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ข้างๆว่า : “ ในที่สุดฉันก็เจอแพทย์หญิงที่เหมือนกันกับฉันในโลกของวงการแพทย์แล้ว ” “ คนอื่นเค้าดีกว่าเธอตั้งเยอะ ใครจะไปเหมือนนักเลงหัวไม้อย่างเธอ ” “ ฉันก็ไม่ได้ไปเป็นนักเลงหัวไม้กับนาย ก่อนหน้านี้คุณปู่โม่บอกว่าโครงกระดูกของน้องชายฉันถูกแพทย์หญิงคนหนึ่งซื้อไปแล้ว อาจจะเป็นเธอ ” เจ้าหน้าที่ตำรวจกลอกตาไปมา : “ เธอคิดอะไรอีก ? ของที่ส่งไปแล้วยังจะอยากเอากลับคืนมา ? ” “ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนายแล้ว พวกเรา เก็บของๆ ” พูดจบแพทย์นิติเวชหญิงก็ขึ้นรถไป ** เฉี่ยวเมิ่งเยว่เดินเข้าไปในห้องเก็บศพและยืนอยู่ตรงหน้าเตียงที่คลุมด้วยผ้าสีขาว จากนั้นก็ค่อยๆใช้มือเปิดผ้าขาวที่คลุมอยู่ออกด้วยมือที่สั่นเทา เผยให้เห็นใบหน้าของคนวัยหนุ่มสาวที่มีสีซีดเทา ผิวหน้าของเขายังคงมีความเสียหายที่เกิดจากการดื่มน้ำกรด ผิวหนังที่ไหม้ทำให้เห็นรอยสีดำอยู่บนใบหน้าอย่างเข้ม ชัดเจนจนน่าตกใจ เฉินหลิ่วเฟยไม่ใช่คนไข้ที่เธอเคยดูแลนานที่สุดตั้งแต่เธอเป็นหมอมา แต่เป็นคนไข้ที่ทำให้เธอขนหัวลุกมากที่สุด จากการที่เฉินหลิ่วเฟยได้ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน จนกระทั่งเสียชีวิต เธอก็กังวลเกี่ยวกับเด็กอายุสิบกว่าขวบนี้มาโดยตลอด เธอคิดไม่ออกเลยว่าเด็กสิบกว่าขวบคนนี้นั้นต้องพบเจอกับอะไร ถึงได้ทำให้เขาดื่มน้ำกรดฆ่าตัวตายอย่างนั้น และหลังจากที่เฉินหลิ่วเฟยได้รับอาการบาดเจ็บนั้น เขาก็ยอมรับเรื่องทั้งหมดนี้แต่โดยดี หลายเดือนมานี้ ในช่วงที่เขารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาสักคนเลย และเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างเงียบๆ หรือเป็นเพราะหัวใจของเขาไม่อาจทนทุกข์ทรมานต่อไปได้แล้ว เลยเลือกที่จะตาย ? หรือเป็นเพราะเขารู้สึกว่าอยู่ไปก็ไม่มีความหมายอะไรสักนิด ก็เลยเลือกตายดีกว่า ? เฉี่ยวเมิ่งเยว่เกลียดการพยายามเข้าใจเรื่องราวที่ลึกลับซ่อนเงื่อนพวกนี้มาก ความเจ็บปวดเช่นนั้น เธอไม่เคยประสบมาก่อน และก็คิดไม่ออกเลยด้วยว่าจะต้องเจ็บปวดมากขนาดไหนถึงจะยอมแพ้ในชีวิตได้ แม้แต่การตายก็ไม่กลัวแล้ว ยังมีปัญหาอะไรที่ยังไม่สามารถแก้ได้อีก ? เฉี่ยวเมิ่งเยว่ยืนอยู่ข้างเตียงซักพักแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆคลุมปิดผ้าขาวเบาๆ และกำลังจะหันเดินกลับไป ก็เห็นหนิงหลิงยืนอยู่ที่ประตู “ พี่หนิง พี่มายังไง ? ” “ มีคนบอกให้พี่มาเอาเขาเข้าโลงศพ ” “ แล้วเพื่อนร่วมงานจากโรงพยาบาลของเรา ? ” “ แพทย์นิติเวชหญิงคนหนึ่ง ” “ อ้อ เมื่อกี้ฉันเห็นเธอแล้ว ” หนิงหลิงเดินไปข้างเตียง และพูดว่า : “ ต่อไปถ้าคนไข้ของเธอเสียชีวิตอีกละก็ เธอก็ไม่ต้องปรากฏตัวแล้ว ทำอย่างนี้มันจะทำให้คนอื่นคิดสงสัยได้ ” “ ฉันไม่มาสิถึงจะทำให้คนอื่นคิด นี่เป็นนิสัยการทำงานของฉัน ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของคนอื่นหรอกนะ ฉันดูแลคนไข้คนนี้มาสี่เดือนกว่า ; และตอนนี้เขาก็ตายไปแล้ว ฉันจะไม่มาเจอหน้าเขาครั้งสุดท้ายไม่ได้ ” “ เธอนี่มันไม่มีสมอง ฉันไม่รู้จะพูดกับเธอยังไง หรือเพราะเธอแต่งงานกับเผด็จการ ตอนนี้เลยเริ่มเล่นกับชีวิตอยากตายใช่ไหม ? ” “ นี่พี่ก็รู้ตั้งนานแล้ว ฉันพึ่งพาต้นไม้ใหญ่แล้ว ฉันไม่ดื่มด่ำมันหน่อยจะได้หรอ ? ” เฉี่ยวเมิ่งเยว่พูดพร้อมกับหัวเราะ หนิงหลิงมองไปที่รอยยิ้มที่ไร้หัวใจของเธอ และเตือนเธอว่า : “ บนเส้นทางสายธุรกิจนั้น คนที่สะดุดล้มลุกคลุกคลานไม่ใช่คนที่เธอสามารถจะทำอะไรโง่ๆได้ เธอต้องมีสติหน่อย ตอนนี้เขาดีกับเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะดีกับเธอไปตลอด ถึงตอนนั้นถ้าเขาเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วละก็ ดูสิว่าเธอจะไปร้องไห้กับใคร ตอนนี้เธอทำให้คนพวกนั้นไม่พอใจ พวกเขาก็จะมาในทันที บอกตามตรงคนคนเดียวก็สามารถกดน้ำเธอให้ตายได้ ” “ พี่หนิง วันนี้พี่พูดมากเกินไปแล้ว ” 
已经是最新一章了
加载中