บทที่ 109 ผู้หญิงยุคใหม่จะไปกับประธานธิบดีเห้อแล้ว

บ๗ที่ 109 ผู้หญิงยุคใหม่จะไปกับประธานธิบดีเห้อแล้ว “ วันนี้ผมให้คนตรวจสอบเฉิงเจียงเสี่ยกับจางหยาง พวกเขาเป็นคนที่ทำงานตามกฎระเบียบและข้อบังคับ คดีที่พวกเขาจัดการส่วนใหญ่จะเป็นคดีที่หนักและร้ายแรง อีกทั้งทัศนคติการทำงานของพวกเขาทั้งแข็งแกร่งและมีจรรยาบรรณ แพทย์นิติเวชคนนั้นมีความคล้ายคลึงกับคุณในหลาย ๆ ด้าน ผมจึงไม่ได้กังวลในกรณีที่พวกเขาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ” เห้ออี้ลั่วเอ่ย “ นี่ก็คือได้รับอนุญาตไหม ? ” “ อา วันนี้แพทย์นิติเวชหญิงที่คุณเห็นเป็นหนึ่งในแพทย์นิติเวชหญิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศ เธอเป็นผู้นำในด้านนิติวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและภูมิหลังครอบครัวของเธอต่างก็แข็งแกร่งมาก แต่เธอเป็นคนที่ซื่อตรง ดังนั้นคุณไม่ต้อกังวล ” เฉียวเมิ่งยิ้มพร้อมกับพูดว่า : “ พ่อเผด็จการ นี่คุณปลื้มผู้หญิงแบบนี้ใช่ไหม ? วันนี้ทันทีที่ฉันเจอเธอ ก็รู้สึกเลยว่าคนนี้เก่งมาก ” “ ผู้หญิงแบบนี้ จะต้องมีคนปลื้มมากมาย แต่ผมก็ยังเชื่ออีกด้วยว่าคุณก็มีคุณสมบัติหลายอย่างของเธอ คุณอยู่ในวงการแพทย์มานานแล้ว ก็ต้องมีคุณภาพและความชำนาญอย่างนี้ พูดตามตรง ผมชื่นชมผู้หญิงที่รักในอาชีพของตัวเอง และในเวลาเดียวกันก็สามารถที่จะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองได้ดีด้วย คุณก็มีสองข้อนี้ ” เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะออกมา “ นี่คุณกำลังยอฉันอยู่ใช่ไหม ? วันนี้ท่านคณบดีก็ชื่นชมฉันไปทีแล้ว หลังจากนั้นก็หักโบนัสสามเดือนของฉัน ” “ ถ้าผมเป็นเขา ผมก็จะหัก ” เฉียวเมิงเยว่พยักหน้า เห้ออี้ลั่วลูบผมที่เปียกเล็กน้อยของเธอ จากนั้นก็พูดเบาๆว่า : “ อยากทำอะไรอยากพูดอะไรก็วางใจแล้วทำมันไป ข้างๆคุณยังมีผมยืนอยู่เสมอ ถ้าหากว่าต้องเจอกับการตำหนิ ผมจะช่วยคุณลุกขึ้นต่อสู้ได้เสมอ มีสามีเผด็จการแล้วยังไม่ใช้ประโยชน์ คุณไม่รู้ว่าผู้หญิงคนอื่นๆอยากจะแต่งงานกับผมที่เผด็จการขนาดนี้ คนอื่นเค้าหวังกันทุกวัน ตอนคุณมีเรื่องก็นึกไม่ออกว่าข้างหลังยังมีเผด็จการที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเยว่เฉิงอยู่ ” เฉียวเมิ่งเยว่หัวเราะกับคำพูดของเขา “ นี่คุณแคลงใจที่ฉันให้โอกาสคุณแสดงตัวน้อยเกินไปแล้ว ? ต่อไปฉันจะยกระดับการเปิดเผยคุณแน่นอน ให้คุณรู้สึกถึงการมีตัวตนมากขึ้น ” “ ไม่อย่างนั้นแล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบแต่งงานกับผู้ชายเพอร์เฟคไปทำไมกัน ? นอกจากที่จะสามารถทำให้คนอื่นเพลิดเพลินกับภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ยังเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาอีก ” “ คุณนี่เข้าใจจิตใจของผู้หญิงที่เหมาะสมจริงๆเลย ? ” “ ผมและนักธุรกิจส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้หญิงอย่างพวกคุณถึงได้เพิ่มขึ้น ถ้าไม่เข้าใจพวกคุณ นักธุรกิจอย่างพวกผมนี้จะลังเลได้อย่างไร ? ” “ พูดไปก็ใช่ ” เฉียวเมิ่งเยว่มองดูเห้ออี้ลั่วด้วยแววตาที่เป็นประกาย “ แต่ว่า ความคิดเผด็จการของฉันคือ ในเรื่องที่ฉันสามารถจัดการได้นั้น ฉันจะใช้วิธีของฉันไปจัดการก่อน สุดท้ายแล้วเราสองคนก็ไม่ใช่คนคนเดียวกัน ความกดดันพวกนั้นที่คุณมีอยู่ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งที่ทำให้ทุกคนอิจฉา แต่ฉันรู้ว่าตำแหน่งของคุณนั้นต้องมีความกดดันมากแน่นอน ดังนั้น ให้ฉันเจอกับเรื่องที่ฉันเองไม่สามารถแก้ไขได้ก่อนเท่านั้น ฉันถึงจะขอให้คุณช่วย ” เห้ออี้ลั่วมองไปที่เฉียวเมิ่งเยว่ผู้หญิงตัวเล็กๆที่มีความตั้งใจแน่วแน่ ก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ ก็ได้ เคารพความอิสระของผู้หญิงยุคใหม่ ” เฉียวเมิ่งเยว่ขยิบตาไปทางเขา “ ผู้หญิงยุคใหม่จะไปกับประธานธิบดีเห้อแล้ว ” พูดไป เฉียวเมิ่งเยว่ก็เดินกระโดดออกไป ** ในวันถัดไป โรงพยาบาลก็ได้ออกบทลงโทษเฉียวเมิ่งเยว่โดยการหักโบนัสประจำปีครั้งที่สองของเธอ การลงโทษนี้เป็นการลงโทษที่ค่อนข้างหนักหน่วง ทุกคนต่างก็เห็นอกเห็นใจเฉียวเมิ่งเยว่ และสุดท้ายญาติของคนไข้ก็มีความรู้สึกเหมือนสูญเสียทั้งสองอย่าง เมื่อวานเฉียวเมิ่งเยว่ได้คุยกับคณบดีแล้ว ไม่ได้มีการคัดค้านการลงโทษนี้เท่าไหร่นัก และเธอก็เห็นด้วยกับเหตุผลของคณบดี ถ้าหากว่าได้พบเจอกับครอบครัวแบบนี้อีกครั้ง หมอคนอื่นๆก็จะเลียนแบบวิธีการของเขา สภาพแวดล้อมทางการแพทย์ทั้งหมดนั้นก็จะแย่ลงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ หลังจากเฉียวเมิ่งเยว่ได้อ่านประกาศการลงโทษแผ่นนั้น ก็กลับไปที่ห้องทำงานตามปกติ สวมเสื้อคลุมสีขาว และเริ่มทำงานทั้งวัน เมื่อเสี่ยวฟางเห็นสีหน้าของเธอที่ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเท่าไหร่นัก จึงโล่งอกไปที แต่ตลอดทั้งวันเธอพยายามหาวิธีที่จะทำให้เฉียวเมิ่งเยว่มีความสุข แม้แต่ออกไปซื้อข้าวเที่ยงของร้านที่พิเศษ และยังมีห่ออาหารฟาสต์ฟูส พร้อมกับผลไม้อีกชุดหนึ่งด้วย หลังจากที่เฉียวเมิ่งเยว่เห็นก็หัวเราะออกมา และพูดว่า: “ ฉันไม่เป็นอะไร เธอไม่ต้องกังวลขนาดนี้หรอก เธอกับเสี่ยวอันเหมือนกันเลย ต่างก็เป็นลูกพี่ลูกน้องในโรงเรียนประถมของฉันทั้งคู่ ที่ฉันดูแลพวกเธอนิดหน่อยในที่ทำงานนั้น ฉันเต็มใจ และเธอก็ไม่ต้องคิดสั่นกลัวเหมือนอาจารย์คนอื่นๆด้วย สิ่งที่ฉันพูดกับเธอจริงๆก็เป็นวิธีของฉันทั้งหมด เธอไม่ต้องเดาเอาเอง ” เสี่ยวฟางได้ยินดังนั้นก็เกาหัวอย่างอายๆเล็กน้อย “ พี่เฉียว เสี่ยวอันเคยบอกกับฉันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกพี่ ความเป็นห่วงของพี่ที่มีต่อเธอนั้นมันไม่ได้เหมือนกับผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา ฉันชอบวิธีการของพวกพี่สองคนมาก ที่ฉันทำไปฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่รู้สึกว่า ถ้าหากว่าเสี่ยวอันอยู่ที่นี่ เธอก็จะทำแบบนี้ ” “ โอ้โห เจ้ากระต่ายน้อยสองคนนี่ ความตั้งใจของเธอฉันได้รับมันแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ ไปทำงานเถอะ ” “ อื้ม อื้ม ” เสี่ยวอันพยักหน้า และออกไปทำงาน ** เมื่อเฉียวเมิ่งเยว่จัดการกับมื้อเที่ยงเสร็จก็ไปพักผ่อน เมื่อตอนบ่าย ในตอนที่เธอกำลังทำงานอยู่นั้น หัวหน้าก็ได้เรียกเธอไป ทั้งสองคุยกันถึงสถานการณ์ของคนไข้ที่เธอดูแลรับผิดชอบอยู่พักหนึ่ง เรื่องเมื่อวานมีคนไข้จำนวนมากเห็นเหตุการณ์แล้ว นี่จะส่งผลกระทบไม่น้อยกับการทำงานต่อต่อไปของเธอ หัวหน้ากอดอกมองไปที่เธอ พร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาจากความเห็นอกเห็นใจบนใบหน้าที่เหมือนกับแมวการ์ฟิลด์ และพูดว่า “ พูดมา ครั้งนี้เธอคิดไว้ว่าจะทำให้อาจารย์เธอบอกให้ฉันตามเช็ดก้นเธออย่างไร ? ” “ ฉันแก้ไขมันด้วยตัวเองได้ ” “ แก้ไขเองได้กับผีสิ วิธีที่เธอแก้ไขนั้นก็คือไปด่าญาติคนไข้ จากนั้นตัวเองก็ถูกหักโบนัสสามเดือน เด็กน้อย วิธีแก้ไขของคุณนี้สะดุดตาฉันจริงๆ ต่อไปถ้าคุณต้องการจะด่าอีกล่ะก็ รบกวนกรุณาช่วยบอกกับอาจารย์ของคุณล่วงหน้าก่อนสักหน่อย เผื่อว่าคณบดีจะได้ไม่ต้องมาเรียกฉันไปทุกรอบ ฉันก็ไม่รู้แน่ชัดว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ทำให้คนแก่คนนั้นรู้สึกสนุกไปกับบทเรียนความเหนือกว่าของฉัน ” “ คุณเทียบความเหนือกว่ากับคณบดี ? คุณเทียบแบบนี้มันมีความหมายหรอ ? คุณบอกว่าสูงส่งกว่าเขา หล่อกว่าเขาหรือว่าตำแหน่งสูงกว่าเขา ? ” “ แหม แหม แหม ดูแล้วที่แต่งงานกับเผด็จการ ในสายตาก็คงไม่ได้สนใจโบนัสของสามเดือนแล้ว ตอนนี้ยังกล้ามาด่าใส่อาจารย์ตัวเองอีก ” เฉียวเมิ่งเยว่ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ หัวหน้า ตอนนี้ฉันสับสนเล็กน้อยว่าจิตใจฉันเป็นอะไร ตอนนี้ฉันสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเป็น ในทางทฤษฎีฉันรู้ว่าไม่ควรที่จะไปด่าญาติคนไข้ แต่เห็นท่าทางที่น่ารังเกียจของพวกเขาแล้ว ฉันทนไม่ได้ ” “ นี่คือเธอป่วย เพียงแค่เอาชนะก็จะดีขึ้น ” เฉียวเมิ่งเยว่เผยตาขาวใส่หัวหน้า “ ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าแม่คนหนึ่งทำไมถึงปล่อยให้ลูกตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งสี่เดือนกว่าแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเลยสักครั้ง พอลูกตัวเองตายจู่ๆก็มาโทษโรงพยาบาล คุณบอกสินี่มันจังหวะแบบไหนกันนะ ? ”