บทที่ 111: เจ้าของโครงกระดูกที่แท้จริง
1/
บทที่ 111: เจ้าของโครงกระดูกที่แท้จริง
OMG!ประธานโหดๆกลัวเมีย!
(
)
已经是第一章了
บทที่ 111: เจ้าของโครงกระดูกที่แท้จริง
บ๗ที่ 111: เจ้าของโครงกระดูกที่แท้จริง เฉียวเมิ่งเย่วเรียกเด็กเสิร์ฟมาแล้วสั่งอาหารไปสองอย่าง จากนั้นมองไปทางเฉิงเจียงเสี่ยแล้วพูดว่า “คุณเฉิงมีเรื่องอะไรหรอ” “จริงๆ ก็ไม่อะไรหรอก แต่มีคำถามอยากจะถามคุณ” “คุณว่ามา” “สองสามวันที่ผ่านมาฉันลองหาความสัมพันธ์ระหว่างเวยฉั่ยเจียและเฉินหลิ่วเฟย ซึ่งพบข้อสงสัยสองข้อ อย่างแรกคือ ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่แม่ลูก สองคือพวกเขาไม่เคยอาศัยอยู่ในสวนที่พวกเราเคยไปก่อนหน้านั้น” เฉียวเมิ่งเย่วแอบตกใจเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า “ฉันคิดว่ามีเรื่องควรจะบอกคุณ” “หืม?” “วันก่อนฉันขับรถกลับบ้านกับสามีฉัน เห็นใครบางคนที่ปากบางสักที่เหมือนเฉินหลิ่วเฟยมาก ตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืน ฉันเองก็มองไม่ชัด แต่ว่าฉันอยู่กับเฉินหลิ่วเฟยมาตั้ง 4 กว่าเดือน ฉันเชื่อว่าตาฉันไม่ลายหรอก” “คุณบอกเวลา ปากทาง แล้วก็ทิศทางที่เขาหายไปอย่างเจาะจงให้ฉันที” เฉียวเมิ่งเย่วเล่าข้อมูลทุกอย่างออกมาหมด เฉิงเจียงเสี่ยอุทานออกมาเบาๆ และรีบบันทึกลงสมุดโน๊ตเล่มเล็กที่ตัวเองพกติดตัวเสมออย่างรวดเร็ว “เรื่องนี้เริ่มจะสนุกขึ้นแล้วสิ ฉันสืบนี้มานานหลายปี ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างหมอกับคนไข้นั้นยังค่อนข้างน้อย แต่ถ้าเรื่องเกิดขึ้นกับคุณก็น่าจะไม่แปลกเท่าไหร่” “ทำไมพูดแบบนี้หละ” เฉิงเจียงเสี่ยหัวเราะแล้วพูดขึ้น “คุณดูซื่อไปหน่อย มีทรายอยู่ในตาคุณไม่ได้เลย ใครๆ ก็อยากจะเป็นแบบคุณ แต่เมื่อไหร่ที่รอบกายคุณเป็นแบบคุณ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสาดน้ำสกปรกใส่คุณ หรือไม่ก็ ยิ่งคุณทำตัวดูสะอาดสะอ้านเพียงใด ก็จะยิ่งทำให้คนเหล่านั้นดูสกปรกมากเท่านั้น ถ้าฉันเป็นคนพวกนั้นหละก็ อยู่ดีๆ ฉันก็อยากสาดน้ำสกปรกใส่คุณเหมือนกันแหละ เพราะไม่เสียอะไรอยู่แล้ว คุณคงจะไม่โดนคดีแพ่งเพราะน้ำสกปรกแค่นี้หรอก อีกอย่างนะ บางทีโดนเรื่องซวยๆ บ้าง ยังช่วยเติมเต็มรสชาติชีวิตอีกด้วย มีเรื่องดีๆ แบบนี้ที่ไหนอีกหละ” เฉียวเมิ่งเย่วโดนเฉิงเจียงเสี่ยพูดขนาดนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี นิ่งไปสักพักเพิ่งจะพูดว่า “ดูท่าทางนิ่งเฉยของคุณแบบนี้ คิดว่าคุณน่าจะโดนวางกับดักไม่น้อยสินะ” “ก็ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น แต่ก็ผ่านมาไม่น้อยเหมือนกัน ความรับผิดชอบทางสังคมระหว่างหมอนิติเวชกับหมอคล้ายคลึงกัน ถ้าคุณเดินตรงเกินไป ต้องมีใครสักคนที่อยากจะทับสันหลังคุณจะเบี้ยว” เฉิงเจียงเสี่ยยักไหล่ขึ้นแล้วพูดต่อ “แต่ว่า ไม่ได้กระทบอะไรกับฉันมาก ภูมิหลังฉันก็อย่างงั้นแหละ ฉันแค่เดินไปเส้นขวางในระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรฉันหนิ อีกอย่าง สิ่งที่ฉันทำล้วนอยู่ในมาตรฐานการทำงานของตำแหน่งฉันหมด ไม่มีการเกินเลยแต่อย่างไร แถมฝีมือก็ใช่ย่อย พวกเขาอยากจะโคล่นฉันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น” “พอเห็นคุณมีความมั่นใจอย่างนี้ช่างน่าอิจฉาจริงๆ ถ้าฉันเป็นศัตรูคุณหละก็ ฉันคงจะคับแค้นใจมากแน่เลย” “ในเน็ตเขาว่ากันว่า ‘ฉันชอบท่าทางที่แกไม่พอใจฉัน แต่ก็ล้มฉันไม่ได้อยู่ดี’ ประโยคนี้พูดได้ดีมาก แต่จะว่าไป พวกเราเองก็พยายามอย่าให้คนอื่นกุมจุดอ่อนของเราไว้ได้ ชีวิตมีขึ้นมีลง บางครั้งก็ต้องถึงคราวโดนล้มแหละ” “ที่คุณพูดมาก็ถูก สำหรับคดีนี้ฝั่งฉันยังทำอะไรได้อีกไหม” “ตอนนี้ฉันและทีมตำรวจอาชญากรยังได้เบาะแสไม่มาก จริงๆ แล้วไม่ควรให้ฉันและทีมตำรวจอาชญากร ไปคดีแบบนี้ แต่พอฉันได้ยินว่าคุณเป็นหมอที่รับผิดชอบในการรักษาเฉินหลิ่วเฟย ฉันกับคุณจางก็เลยมาที่นี่” เฉียวเมิ่งเย่วตื่นตะลึงเพราะได้รับความโปรดปรานอย่างคาดคิดไม่ถึง “คุณเฉิงดีกับฉันเกินไปแล้ว” “นอกจากนิสัยกับอาชีพเราจะใกล้เคียงกันแล้ว คุณยังเอาโครงกระดูกมนุษย์ของน้องชายฉันไป ฉันคิดว่าพวกนี้เป็นโชคชะตาที่ลิขิตไว้หมด ดังนั้นเลยมาดูว่าคุณเป็นคนยังไงกันแน่” “โครงกระดูกมนุษย์ในร้านคุณปู่โม่เป็นของน้องชายคุณหรอ” “ใช่แล้ว ฉันคิดว่ามันอยู่กับคุณก็ดีเหมือนกันนะ” เฉิงเจียงเสี่ยพูดแล้วหัวเราะ “กินข้าวกอ่นดีกว่า กินเสร็จเดี๋ยวฉันวิเคราะห์ความก้าวหน้าตอนนี้กับทิศทางในอนาคตให้คุณฟังอีกที” เฉียวเมิ่งเย่วพยักหน้าแล้วก้มหัวกินข้าว ขณะกินข้าว เธอเพิ่งจะสังเกตว่าเธอคล้ายกับเฉิงเจียงเสี่ยมาก ปริมาณอาหารและท่าทางกินข้าวไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงทั่วไปจะทำได้ เฉียวเมิ่งเย่วคิดว่าถ้าเธอมีพี่น้องสักคน ก็คงจะคล้ายๆ กับเฉิงเจียงเสี่ยแหละ เธอเจอคนนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่กลับมีความคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก อาหารบนโต๊ะถูกเธอทั้งสองกวาดไปอย่างรวดเร็ว เฉิงเจียงเสี่ยให้เด็กเสิร์ฟเก็บโต๊ะอาหาร จากนั้นเธอหยิบแท็บเล็ตตัวเองออกมา เปิดไฟล์เอกสารขึ้นมาแล้วยื่นให้กับเฉียวเมิ่งเย่ว “สถานการณ์ที่เจาะจงอยู่ในนี้แหละ ในระหว่างกระบวนการดำเนินคดี การที่ปล่อยข้อมูลเยอะไปถือว่าผิดระเบียบ แต่ว่าบางอย่างเจ้าของคดีอย่างคุณก็ควรทราบ ดังนั้นตอนนี้เอาให้คุณดูก็ไม่ถือว่าข้ามเส้น” “ขอบคุณค่ะ” เฉียวเมิ่งเย่วรับแท็บเล็ตมาด้วยสองมือ ตั้งใจอ่านตัวอักษรในไฟล์เอกสาร “คดีของเฉินหลิ่วเฟยได้ตั้งคดีในปี XXXX เดือน XX วัน XX รหัสคดี XXXX ผลชันสูตรพบว่าผู้ได้รับความบาดเจ็บเสียชีวิตด้วยเหตุหัวใจหยุดทำงาน น้ำย่อยมีส่วนประกอบที่ไม่ทราบ คล้ายกับยาเสพติดชนิดใหม่ เวลาในมรณะได้แก่ ปี XXXX เดือน XX วัน XX ช่วงเช้ามืด 3-5 โมง มีสิ่งแปลกปลอมบริเวณทั้งปากและจมูก ไม่ตรงกับส่วนประกอบที่พบในน้ำย่อย ปัจจุบันมีข้อมูลสถานที่เกิดเหตุแต่อาจไม่ใช่สถานที่เกิดเหตุของคดี ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม นอกจากนั้น ยืนยันว่าผู้ตายถูกเคลื่อนที่ สถานะการตายของผู้ได้รับความบาดเจ็บยังต้องรอตรวจสอบ” เฉียวเมิ่งเย่วแค่อ่านข้อความไม่กี่บรรทัดก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่ง ไม่เข้าใจว่าเรื่องที่ง่ายๆ แบบนี้จะกลายเป็นคดีที่สงสัยว่าเป็นการฆาตกรรม ถ้าสมมุติว่านี่เป็นการฆาตกรรม งั้นทั้งคดีนี้คงจะชี้มุ่งมาทางเธอ เพราะเธอคือคนที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้มากที่สุด ถ้าคดีนี้ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เธอยังคงหนีความต้องสงสัยไม่ได้ เฉิงเจียงเสี่ยสังเกตปฏิกิริยาของเฉียวเมิ่งเย่วอย่างเรียบเนียน เฉียวเมิ่งเย่วอ่านเอกสารไปหลายครั้งถึงจะคืนแท็บเล็ตให้กับเฉิงเจียงเสี่ย “ฉันจะลองพูดความคิดเห็นของฉันนะ” “ได้” เฉียวเมิ่งเย่วจัดการความคิดแล้วเอ่ยขึ้น “เท่าที่ฉันรู้ พยาบาลของโรงพยาบาลเราจะเดินสำรวจห้องตอนตีสองห้าสิบนาที แต่ตอนนั้นไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ ส่วนตอนที่พวกคุณได้รับโทรศัพท์แจ้งความคือตีสองสี่สิบสองนาที พวกคุณเคยวิเคราะห์ความเป็นมาของเลขที่โทรเข้าแจ้งความหรือเปล่า” “เบอร์โทรมาจากพยาบาลประจำการชั้น 3 ที่แผนกผู้ป่วยของโรงพยาบาลคุณ ซึ่งนั่นเป็นชั้นของห้องพักผู้ป่วยของเฉินหลิ่วเฟยพอดี” เฉียวเมิ่งเย่วพยักหน้า “ผู้แจ้งความกับพยาบาลที่ตรวจห้องเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า” “ไม่ใช่” เฉิงเจียงเสี่ยมองไปยันสีหน้าของเฉียวเมิ่งเย่วแล้วหัวเราะขึ้น “นี่แหละเป็นตรงที่น่าสนใจมาก คุณลองคิดดูนะ ถ้าสมมุติว่าตอนตีสองสี่สิบสองนาทีเฉินหลิ่วเฟยตายแล้ว นั่นหมายความว่าหมอกับพยาบาลที่ตรวจห้องประจำเวรไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตน ไม่ได้ทำหน้าที่ตามอาชีพของตัวเอง เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงก็โยงมาถึงคุณไม่ได้หรอก แต่ว่าตอนนี้จุดเด่นทั้งหมดโฟกัสมาอยู่ที่คุณ ซึ่งนั่นเป็นความฉลาดของคนพวกนั้น” “คุณหมายความว่าพวกเขาใช้ความต่างของช่วงเวลานี้ ก็เพราะอยากจะโยงเรื่องนี้มาหาฉันงั้นหรือ ความแตกต่างของเวลานี้แสดงให้ถึงความฉลาดยังไงกัน” “ฉันคิดว่าความต่างของเวลาไม่ใช่ประเด็นหรอก ประเด็นหลักคือคนที่แจ้งความกับพยาบาลตรวจเวรไม่ใช่คนเดียวกัน แล้วก็การกระทำของเวยฉั่ยเจียในวันถัดมา รวมไปถึงการปฎิบัตตัวของคุณ ณ เวลานั้น ทั้งสามจุดมาเชื่อมกันถึงจะดึงความสนใจมาบนตัวคุณหมด” เฉิงเจียงเสี่ยครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “คนที่อยู่เบื้องหลังเหมือนจะเข้าใจคุณมากนะ ถ้าวันนั้นปฏิกิริยาของคุณมีความเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ทิศทางของเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แบบตอนนี้ก็ได้ คนนั้นไม่รู้ว่าแอบศึกษาคุณมานานขนาดไหนแล้ว”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 111: เจ้าของโครงกระดูกที่แท้จริง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A