ตอนที่ 69 เล่นไม่ไหว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 69 เล่นไม่ไหว
ตอนที่ 69 เล่นไม่ไหว เมื่อรู้สึกว่าเขามาแล้ว เพ็ยนีติ์รีบเม้มปาก แล้วมองเขา เธอสั่นทันที“ปุริม ทำไม่ไม่ใส่ชุดดีดี?”ไหนบอกให้เขาใส่ดีดีแล้วไม่ใช่? “นี่เป็นบ้านของผม ใส่แบบนี้ที่บ้านมีอะไรไม่ถูกเหรอครับ?เมื่อก่อนคุณอยู่ผมก็ใส่แบบนี้ไม่ใช่?” แต่ ข้างในก็ต้องใส่กางเกงในไหม? เธอแน่ใจได้ว่าเขาไม่ใส่ แต่เธอพูดคำนี้ไม่ออก เธอหันไปไม่มองเขาอีก“เลมจะไม่ดีต่อฉันจริงไหม?” “ผมไม่แน่ใจ แต่ว่าจากนิสัยเขาเขาไม่เคยเสียเปรียบ และครั้งนี้เจอณัฏฐพลพอดี ไม่อย่างนั้นคุณรอดมาไม่ได้แน่นอน” เธอรู้ เธอรู้ทั้งนั้น“พรุ่งนี้ ฉันอยากเจอส้มและอ้อย” “ไม่ก้พาพวกเขามาพักที่นี่เถอะ แบบนี้จะได้ปลอดภัย”ปุริมพูดอย่างลื่นไหลนัก “แต่ว่า...” “ไม่มีอะไร คุณบอกว่าส้มและอ้อยเป็นลูกผมไม่ใช่เหรอ?ยังไงแล้วจากเวลาที่คุณพูดออกมาตอนนั้นผมและคุณอยู่ในช่วงสามีภรรยาปลอมอยู่ แบบนั้นแล้วอาจจะช่วยคุณได้ อย่างน้อยเด็กทั้งสองคนจะได้ไม่เป็นอะไร” พูดจนถึงที่สุดเขาก็ยังไม่เชื่อว่าส้มและอ้อยเป็นลูกเขา และแบบนี้เหมือนกำลังบังคับเธอ แต่เธอเป็นห่วงความปลอดภัยส้มแลอ้อยจริงๆ “มีวิธีอื่นอีกไหม?” ปุริมยิ้ม“คุณสามารถให้คนที่ปกป้องส้มและอ้อยมาปกป้องพวกเขา แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอบข้างคุณไม่มีคนที่สามารถต่อสู้กับเลมได้” มือผสานเข้าแจนเสื้อ เพ็ญนีติ์กำลังพิจรณาอยู่ คนรอบข้างเธอนั้นแค่ต่อสู้กับจำรูญยังหายากเลยแล้วจะอะไรกับเลมอีก เมื่อคิดในมุมของเด็ก เธอเลยตื้นตันใจแล้ว เธออ้าปากแล้วพูดอย่างไม่ค่อยลื่น“พวกเขาวุ่นวายมาก คุณรับได้จริงเหรอ?” “ทำไมจะรับไม่ได้?ผมไม่ได้มาที่นี่บ่อย ผมพักที่บ้านเก่า” ที่แท้นั้นเขามักจะพักที่อาร์พาทเม้นตัวเอง ทำให้เธอคิดขึ้นมาได้แล้วว่าเชตัวเองไม่ได้ไปดูปู่มานานมาก “ปุริมอีกไม่กี่วันเป็นวันเสียของปู่ เราไปดูท่านเขาด้วยกันนะ” “ตามใจคุณครับ แต่ คุณหมายความว่าจะพักที่นี่ใช่ไหม?” เธอพยักหน้า เพราะว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะว่าลูกเธอเลยเล่นกับผลกระทบของเลมไม่ไหว “พรุ่งนี้เช้า ผมหใคนไปรับพวกคุณมา พวกคุณพักที่ไหนครับ?” “ไม่ต้องแล้ว ฉันไปรับพวกเขาเอง”เพ็ยนีติ์ส่ายหัวไม่อยากลำบากเขามาก ปุริมหันมามองเธอไว้ ช่างใกล้กันมาก“ไม่เชื่อใจผมเหรอ?” เธอค่อยๆถอยห่าง แต่กลับถอยจนพิงโซฟาแล้วไม่สามารถถอยได้อีก ใบหน้านั้นยิ่งเข้ามาใกล้จาเห็นแววตาดูคู่นั้นจ้องเธอไว้ และเวลาเดียวกันเสียงชายหนุ่มดังขึ้นมา“เพ็ญนีติ์ จริงๆตอนนี้คุณก็ยังเป็นภรรยาผม เพียงแต่ว่าครั้งนี้ขาดแต่ทะเบียนสมรส และคุณกลัวผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?” เออ้าปาก“คุณ คุณว่าอะไรนะ?”เขาใกล้เธอมาก มากจนกลิ่นนั้นพุ่งเข้ามา ทำให้เธอมึนจนเริ่มมองไม่ค่อยชัด “สัญญาตอนนั้นได้เขียนไว้ชัดเจน ว่าการจบสัญญาขึ้นอยู่กับผม เพ็ยนีติ์ผมเคยบอกว่าจะยกเลิกสัญญาแล้วเหรอ?” เพ็ญนีติ์จ้องด้วยตาโต “ปุริมนี่คุณบีบบังคับ”เหมือนว่าเขาไม่เคยบอกจริงๆ หรือตอนนั้นที่เธอจากไปเป็นการยินยอมของเธอฝ่ายเดียว เหมือนเป็นแบบนั้นจริงด้วย ไม่ ไม่ใช่เธอยินยอมคนเดียว ถ้าตอนนั้นเขาไม่อยากให้เธอจากไป แล้วเธอจะไปอย่างลื่นดีได้ไง “หึหึ จะให้ผมขึ้นไปเอาใบสัญญานั้นลงมาไหมให้คุณผ่านตา??”เธอพยักหน้าเบาๆ หรือเป็นดารตลกตัวเอง แต่แต่เขาเองยังไม่รู้ ตอนที่เห็นเธออีกครั้งในใจเขานั้นได้เกิดความต้องการที่อยากได้เธอมาแล้ว “ไม่ ไม่เป็นไร...”เธอมีตามไม่ทัน ในสมองนั้นได้หมุนไปแล้วสามร้อยหกสิบห้าองศา เธอรู้ว่าเขาพูดถูก เขาไม่เคยพูดว่าจบสัญญา แต่สิทธิ์นั้นได้อยู่ในมือเขาแล้ว และเธอช่างถูกกระตุ้นมากนัก มือเรียววางบนหน้าเธอไว้ ผัวเธอที่เนียนขาวนุ่ม ทำให้มือเขาลื่นลง เหมือนเป็นความลึกลับอย่างหนึ่ง บางทีผู้หญิงทุกคนของเขาอาจจะเคลิ้มอยู่ที่สายตาเขาจนเป็นของตัวเองไม่ได้ เพ็ญนีติ์หายใจเข้าลึกๆ อ๊าก ไม่ เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงเขาจริงๆ สมองคิดไปอีกมุมมุมปากเธอค่อยๆเข้าใกล้เขา มันจะใกล้ริมฝีปากเขาแล้ว ตาจ้องตาไว้ เธอมองเขาไว้ แล้วเริ่มปลดกระดุม... มือเรียวนั้นสั่น แม้แต่ใบหน้าเธอยังเริ่มซีดขึ้นมา หัวใจเธอเต้นเร็วมาก แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่สามารถให้เธอต่อต้านความต้องการปลดกระดุมตัวเอง เม้มปากเบาๆ เขาเป่าลมลนหน้าเธอทีหนึ่ง ทำให้เธอร้อนทั้งตัวจนเหมือนโดนอบอย่างทรมาน“ปุริม...”เธอเรียกออกมาเบาๆ ตอนที่เรียกออกมานั้นเธอเองยังอึ้ง เสียงเธอหวานนุ่มจนเอาหน้าเธอแดงขึ้นมา กระดุมเสื้อถูกปลดออก เสท้อถูกหลวมอยู่ตัวเธอ ทำให้ปุริมความเร้าร้อนที่ได้ใจกุหลาบนั้นขึ้นมาอีกที เสียงเขาแหบ แล้วถามเธอ“คุณยอมแล้วเหรอ?” หัวใจเธอจุก หลายปีก่อนเขาเคยถามเธอ ถ้าเธอไม่ยอม เขาจะไม่บังคับ แต่เธอไม่ชอบที่เขาเอาแต่ขู่ให้เธออยู่ข้างๆเขา เธอกัดปากแล้วพูดเบาๆ“ถ้าคุณต้องการ ฉันก็ให้”เพียงแค่เขาเบื่อร่างกายเธอแล้วเขาก็จะเลิกกับเธอเอง คิดๆแล้วต้องยิ้มลำบาก กูเธอตอนนี้ช่างอ่อนนะ ปุริมอึ้งไป“เพ็ญนีติ์ คุณพูดอะไรนะ?” เธอยิ้มเบาๆ สายตาจ้องเขาไม่ห่าง“ถ้าคุณต้องการ ฉันก็ให้” คำพูดที่น้ำเสียงระดับเดียวกันแต่กลับเหมือนน้ำที่รดความร้อนความต้องการนั้นไปทันที ร่างใหญ่ลุกขึ้นมา“เพ็ญนีติ์ ผมเทียบเท่าพ่อบุญธรรมของอ้อยและส้มไม่ได้เหรอ?”ต้องเป็นแบบนี้แน่เลย ไม่อย่างนั้นเธอไม่อาจสนิทตัวกับเขาแบบนี้ คำถามขอเขาทำให้เธอต้องอึ้งกว่าเขาอีกเพราะคำถามนี้ตอบยากมากเอและเอมันมีค่าเท่ากัน ไม่ได้แยกว่าหรือไม่ดี มอเขาไว้แน่วนา“ใช่ ฉันอยู่เพราะความปลอดภัยของส้มและอ้อย”สำหรับเอแล้ว ความปลอดภัยของลูกสำคัญกว่าทุกอย่างของเธอ เพราะนี่เป็นความยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่ เขาที่สวมชุดนอนไว้ยื่นมือไปเอาบุหรี่โต๊ะกลาง จากนั้นจุดขึ้นมา แสงของไฟแฉกนั้นเมื่อกระทบหน้าเขาแล้วดูเข้มแน่นขึ้น สูบไปแล้วคำหนึ่งทั้งห้องก็เต็มไปด้วยหลิ่นบุหรี่ ทำให้เธอไอออกมาเบาๆ ใครก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่สบตา แต่ก็ไม่มีใครได้รู้ถึงใจลึกๆของต่างฝ่ายได้ นานกว่าเขาจะดับก้นบุหรี่ แล้วมองตาเธอพลางพูดขึ้น“ดี เพียงแค่คุณไม่ยอมผมก็ไม่แตะต้อง แต่คุณต้องมาพักที่นี่”นี่เป็นสัญญาพวกเขาที่เขียนไว้ชัดเจนในอดีต เพียงแค่เขาไม่พูดว่าจบ เธอก็ต้องพักที่หรือพักที่บ้านเก่าเขา เธอยังมีทางเลือกอื่นอีกไหม? เพราะว่าไม่มีแล้วจริงๆ เขาไม่เคยบอกว่าจบ เธอพยักหน้าแล้วตอบเบาๆ“ค่ะ” เช้าตรู่ ฟ้ายังไม่สว่าง เพ็ญนีติ์ก็ตื่นมาแล้ว ดวงตาดำทั้งสองข้าง ทั้งคืนเธอหลับไม่ดี ในใจเอาแต่เป็นห่วงลูก เพียงแค่อยากรอให้ฟ้าสว่างแล้วไปรับลูกมา ใจนั้นช่างรู้สึกเสียใจมาก ถ้าเธอไม่ตบเลม ก็จะไม่มีปัญหาแบบนี้ แต่เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่อาโน่นั้นไม่สามารถให้เธอนิ่งตั้งสติได้ เปิดประตูออกเบาๆ เธอไม่อยากผุริมรู้ว่าเธอจะออกไป เมื่อคืนเขาไม่ยอมให้เธอไปรีบลูกมาที่นี่ บอกจะให้คนไปรับ แต่เธอรอไม่ไหวหรอก ตอนนี้เธอต้องอยู่กับลูกด้วยกัน ประตูถูกเปิดออก ห้องโถงมืดครึ้ม ปุริมยังไม่ตื่นแน่นอน และฉวยโอกาสนี้เธอต้องเร่ง เพ็ญนีติ์กั้นหายใจไว้ กลัวการหายใจตัวเองจะกวนเขาตื่น แต่เพียงก้าวได้สองก้าว เธอก็รู้สึกไม่ปกติ ตรงหน้ามีกลิ่นที่คุ้นเคยเปล่งออกมา แต่พอเธอตั้งตัวทันกลับสายไปแล้ว“ปั๊ง”เธอกระแทกโดนแผ่นอกชายคนหนึ่ง ช่างแข็งมาก เธอเอามือกุมหัว“ปุริม ฟ้ายังไม่สว่าง คุณยืนที่นี่ทำไม?” “รอคุณ” “คุณ คุณจะทำอะไร?” “ไปรับส้มและอ้อยด้วยกัน”ไม่ให้เวลาเธอได้ลังเล เขาพูดไปด้วยพลางดึงมือเธอเดินหน้าไปด้วย “ไม่เป็นไรแล้ว ฉันไปเอง”เธอสะบัดแรงๆ แต่กลับดึงมือไม่ออก ชายหนุ่มหน้าเข้ม“ผมไม่อยากให้เด็กต้องมีอันตรายกลางทาง” จะมีอันตรายจริงเหรอ?แล้วเธอกับลูกก็ต้องเป็นแบบนี้? “ปุริม ฉันต้องแอบซ้อนแบบนี้ไปทั้งชีวิตเลยเหรอ?” “ไม่ต้อง เลมได้ตกลงกินข้าวแล้ว พอถึงตอนนั้นก็จบเรื่อง”ปุริมพูดอย่างธรรมชาติ แต่เขายังเดินไปไม่หยุด เธอถูกเขาลากเดินไปแบบนี้ เรื่องทุกอย่างดันไปที่หัวส้มและอ้อย เพ็ญนีติ์ไม่มีความคิดเลยทันที เธอจะว่ายังไงก็ไม่สามรถเอาความปลอดภัยของลูกมาล้อเล่นได้ เปิดประตูออกแล้วห้องนั้นเงียบ ปุริมเหมือนเป็นลูกน้องเดินตามเธอไป เพียงเปิดประตูห้อองนอนออก ก็ได้เสียงหายใจนอนหลับสนิทของเด็กๆ
已经是最新一章了
加载中