ตอนที่ 70 ถูกจับไปขายแล้วจะทำยังไง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 70 ถูกจับไปขายแล้วจะทำยังไง
ตอนที่ 70 ถูกจับไปขายแล้วจะทำยังไง เห็นเด็กๆที่นอนอย่างสนิท เธอจึงไม่อยากปลุกพวกเขาให้ตื่น เธอพลางเดินไปข้างหน้าต่าง แล้วมองข้างนอกออกไป มือที่เรียวยาวนั้นเปิดผ้าม้านออกแล้วชี้แสงไฟถนนไว้ ปุรอมริมพูดขึ้นมาเสียงต่ำ“ยังดีที่เรามาได้เร็ว ไม่อย่างนั้นคนของเลมคงลงมือก่อนแล้ว” สีห้าเพ็ญนีติ์ซีดทันที ใช่ แลดูคนคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร จึงทำให้เธอต้องยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น “ปลุกเด็กตื่น เราไปกันแล้ว” แต่ปุริมกลับไม่ได้เร่งรีบ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชาติที่แล้วเขาได้ติดอะไรเด็กสองคนนี้หรือเปล่า ตอนนี้เขาถือกับตื่นเต้นแทนเด็กสองคนนี้แล้ว แสดงว่าเลมก็ไม่ช้าเหมือนกัน เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็รู้ทุกอย่างของเพ็ญนีติ์แล้ว “ปั๊ง”ไฟสว่างขึ้น แสนั้นแสบตาจนเด็กตื่นขึ้นมา พอพลิกตัวไปส้มและอ้อยก็นอนต่อ เด็กน้อยสองคนบนเตียงช่างน่ารักมาก เมื่อเพ็ญนีติ์นั่งลงข้างเตียง ปุริมก็อดไม่ได้ที่ไปยืนข้างเตียงแล้วมองเด็กน้อยสองคนขึ้นมา เป็นลูกของชายคนไหนกันแน่?แม้ตอนนี่เขายังสืบออกมาไม่ได้ แต่สามารถแน่ชัดว่าไม่ใช่ของนภนต์แลพจำรูญแน่นอน “ส้ม อ้อย ตื่นนะลูก”เพ็ญนีติ์พูดออกมาข้างหูเด็กสองคนเบาๆ อ้อยหลับตาไว้แล้วหันมา เธอสะบัดมือน้อย ถึงแม้ยังไม่ตื่น แต่ก็รู้ว่าเพ็ญนีติ์อยู่ข้างเตียงแล้ว“หม่ามี๊กลับมาแล้ว หม่ามี๊กอดเรานอนดีไหม?”มือน้อยนั้นจับมือเธอจะให้เธอกอดเขานอน “ส้ม อ้อย หม่ามี๊จะพาพวกหนูอกจากที่นี่” “ฮ๊าก...”เสียงตดใจดังขึ้น แม้แต่ส้มยังตื่นขึ้นมา พลางขยี้ตาอย่างงัวเงียและนั่งขึ้นมา“อ้อย เธอร้องอะไร?” “ส้ม หม่ามี๊บอกจะพาเราออกจากที่นี่อ่ะ” ส้มหยีตามมองผู้ใหญ่สองคนนี้ที่อยู่ข้างเยง อิม คนหนึ่งเป็นหม่ามี๊ อีกคน... “อาร้ายเธอมาได้ยังไง?” “ฉันจะพาพวกเธอไปเป็นแขกบ้านฉัน”ปุริมยิ้มแห้งๆ เขาอภัยส้มที่ยังตั้งสติไม่ค่อยได้ ไม่อย่างนั้นคำว่าอาร้ายก็อาจจะให้เขาตีก้นสองคนไปแล้ว “ทำไมต้องไปบ้านเธอเหรอ?เราพึ่งย้ายบ้าน ทำไมค้าหม่ามี๊?” เพ็ญนีติ์กัดฟันแล้วไม่รู้จะตอบไปยังไงดีแล้ว เธอกำลังลังดล ปุริมยิ้ม เด็กน้อยสองคนนี้ช่างน่ารักเกินไปแล้ว แม้เเต่ตอนนอนที่ผมสองข้างนั้นเอียงไปมาก็ยังดูน่ารัก น่ารักจนเขาอยากยื่นมือไปสัมผัส คิดๆแล้วเขาก็ลงมือทำจริงๆ เอามือวางไปที่ผมเปียทั้งสองข้าง จับไปด้วยพูดไปด้วย“ที่นี่ไม่ปลอดภัย” “ฉันไม่เชื่อหรอก อาร้ายโกหกฉันและอ้อยใช่ไหมหม่ามี๊?” “จริงๆนะส้ม”เห็นเด็กสองคนที่ไม่ยอมเชื่อ เพ็ญนีติ์เลยต้องพูดออกมา เพราะโทษก็ต้องโทษเธอคนที่ไปเดือดร้อนคนไม่ควรยุ่งคนนั้น “อืม...อันนี้...อันนี้...”อ้อยขมวดคิ้วขึ้นมา“หมามี๊ ถึงแม้ไม่ปลอดภัย หนูก็ไม่อยากพักที่บ้านอาร้าย ถ้าเกิดเขาเอาเราไปขายหล่ะค้า?” เพ็ญนีติ์ช่างอยากขำแต่ขำไม่ออก ช่างอยากขกหัวเขาจริงๆ นี่มันอะไรยังไงแล้ว“ไม่หรอกนะ หม่ามี๊และพวกหนูจะอยู่กับเขาด้วยกัน มีหม่ามี๊อยู่ก็ปลอดภัยแล้ว” อ้อยดึงเสื้อเธอไว้“หม่ามี๊ เป็นเพราะมีเขาอยู่เราเลยปลอดภัยใช่ไหมค้า?” “อืม ใช่” “หึหึ งั้นก็ง่ายค่ะ อาร้าย งั้นอาย้ายมาอยู่กับเราเลยสิคะ” เพ็ญนีติ์อึ้งแล้ว แม้แต่ปุริมก็อึ้งเหมือนกัน ใครก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าส้มจะเสนอขึ้นมาแบบนี้ “อันนี้...”ปุริมกวาดตาไปมองห้องที่เล็ก แล้วมองเตียงตรงหน้าเขา เล็กเหลือเกิน นอนที่เตียงนั้นต้องไม่สบายแน่นอน “ทำไม?ไม่ยอมเหรอ?งั้นก็แล้วไป เราไม่ต้องการให้เธอมาปกป้อง เรามีเบอร์ของพ่อบุญธรรม เขาบอกแล้วเพียงแค่มีอะไรก็โทรหาให้เขามาปกป้องเรา”อ้อยหึทีหนึ่ง แล้วไม่ได้ใส่ใจปุริมเลย “เธอเป็นอ้อยใช่ไหม ก่อนหน้าที่ที่ร้านไอติมเธอยังเรียกฉันว่าพ่อบุญธรรมเลย?เด็กๆห้ามคืนคำนะ ห้ามโทรไปบอกคนที่ชื่อภนต์นั้น” “เธอไม่เข้ามาสักหน่อย ฉันอยากโทรหาใครก็โทรหาใคร เกี่ยวไรกับเธอหล่ะ?หม่ามี๊ ให้ไปเถอะ”เธอนูนปากต่อต้านปุริม “อืม ผมจะพักที่นี่”เห็นว่าอ้อยคิดแบบนั้นกับตัวเอง เหมือนเขาคาดไม่ถึง เขาเลยตกลงไป “ปุริม...คุณ...”เพ็ญนีติ์ตกใจแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะตกจริงๆ “ทำไม ไม่ต้อนรับผมเหรอ?” “ออ ไม่ ไม่ใช่ ”เมื่อคิดถึงชายชุดดำล้วนที่อยู่ล่างตึก เธอพลางไม่ปฏิเสธ “บอกมาผมพักห้องไหน?” “คือ มีแต่ห้องโถงแล้ว”ห้องที่ช่างนี้มีห้องนอนสามห้อง ห้องที่เล็กที่สุดเธอห้น้าฝน เธอห้องหนึ่ง และห้องนี้เป็นของเด็กๆ งั้นเขาก็ไม่มีห้องแล้ว “ไม่ได้”ปุริมปฏิเสธขึ้นมา เพ็ญนีติ์หน้าแดงขึ้น เพราะคิดว่าเขาอยากพักห้องเดียงกับเธอ“ปุริม คุณต้องกันยังไงแน่?” “ผมอยากพักห้องเดียวกับเด็กๆ”เห็นเธอหน้าแดงแล้ว เขารีบพูดออกมา เพ็ญนีติ์หน้าแดงกว่าเดิม แสดงว่าเธอคิดผิด“คุณดูสิเตียงเล็กขนาดนี้คุณนอนไม่ได้หรอก”ยังมีเด็กสองคนนะ นี่แค่มองก็รู้ว่าไม่สามารถนอนได้อีกคนหนึ่งแล้ว “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นเตียงใหญ่ก็ได้แล้วไง”ปุริมอธิบายขึ้นมา “เดี๋ยวนะหม่ามี๊ หนูและส้มไม่ได้ตกลงให้เขาพักกับเรานะ”มือชี้ไปที่ตัวปุริม แล้วจ้องเขาไว้แน่น ปุริมก้มตัวลง แล้วจ้องอ้อยไว้“แล้วจะทำยังไงถึงตกลง” “อืม ให้ฉันคิดก่อนนะ คิดเสร็จค่อยบอกแล้วกัน”เธอกระพริบตา ดวงตานั้นสวยจนเหมือนพัดน้อยๆ ท่าทางแบบนั้นทำให้เขาต้องอดอุ้มอ้อยขึ้นมาไม่ได้“มั๊ว”แล้วจูบแก้มเธอทีหนึ่ง นั่นเป็นภาพที่อบอุ่นมากนัก อบอุ่นจนเพ็ญนีติ์ไม่อยากกวาดสายตาไปที่อื่น เพียงแค่กัดฟันแล้วตัดสินใจจะบอกความจริงคืนนั้นที่เขาเมาออกมา ถึงแม้จะแรง แต่อย่างน้อยอนาคตลูกมีพ่อที่แท้ๆก็จะมีที่พึ่ง เธอกระแอม “ปุริม...” “สายเข้า...สายเข้า”ระว่างที่เธอจะพูดออกมานั้น ปุริมพลางเอามือออกมา เขาวางอ้อยลง แล้วจับมือถึงขึ้นมา“เรื่องอะไรครับนิรัน?” “ประธานครับ...คุณชายใหญ่และ...คุณนิพาเปลี่ยนสายบินแล้วครับ” “ถึงเมื่อไหร่?”ปุริมสายตาแน่นขึ้นมา ดูเหมือนตื่นเต้นนิดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เพ็ญนีติ์เห็นปุริมเป็นแบบนี้ “เก้าโมงครับ ใกล้ถึงแล้ว” “ทำไมพึ่งมาบอกฉันตอนนี้?”น้ำเสียงไม่ได้รีบมาก แต่สีหน้าปุริมกลับไม่ได้อ่อนโยนแล้ว ... เพ็ญนีติ์ไม่ได้ฟังเขาคุยอีก เรื่องของเขาไม่ได้เกี่ยวกับเธอ และเธอก็ไม่ได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรแล้ว เพียงได้ยินอย่างไม่นิดนึง เธอพลางรู้สึกแปลกๆ “ส้ม อ้อย ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันเร็ว” “โอ้เย!หวัดตอนเช้านะหม่ามี๊”คนหนึ่งยื่นหน้าเข้าจูบแก้มเธอแล้วเดินไปห้องน้ำ และทีนี้ก็ได้ยินปุริมพูดขึ้นมา“ส่งมีมาปกป้องเฝ้าดูที่พักเพ็ญนีติ์ยี่สิบสี่ชั่วโมง เรื่องนายเลมนั่นฉันจะรีบจัดการ” “ครับประธาน” หางเสียงนิรันยังไม่จบ ปุริมก็วางสายแล้ว เขารีบกลับไปเลี่ยนชุดแล้วเร่งไปสนามบิน “เพ็ญนีติ์ผมต้องไปรับคนที่สนามบิน ถ้าตกลงให้เด็กไปที่พักผมผมจะให้นิรันมารับพวกเขา ถ้าไม่ตกลงก็อยู่ที่นี่ไปก่อน ผมให้คนมาเฝ้าพวกคุณที่นี่” “เราอยู่ที่นี่ค่ะ”ไม่ลังเล เธออยากอยู่ที่บ้านตัวเองนี้ อย่างน้อยก็สบายใจ เพราะลูกเป็นของเขา ก็ให้เขาออกแรงมาปกป้องลูกบ้างเขาก็ควรทำอยู่แล้ว “อืม ผมไปก่อนแล้วนะ”ปุริมรีบหันแล้วเดินอกจากห้องเธอไปทันที เขาไปแล้วและไปได้เร็วมาก เหมือนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำให้เธอไม่ค่อยเชื่อว่าเรื่องเลมเป็นเรื่องจริง คิดแล้วเธอเลยโทรไปหาญภา “เพ็ญนีติ์ใช่ไหม?” “อืมญภา ตอนนี้เธอเป็นไงบ้าง ดีขึ้นยัง?” เสียงงัวเงียดังขึ้นมา เหมือนพึ่งตื่น“ยังโอเค ขอบคุณเรื่องเมื่อคืนนะ ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันคงเมาตายแล้ว ใช่แล้วได้ยินณัฏฐพลบอกว่าเธอตบเลมไปเหรอ?” “ใช่”เธอยอมรับออกมา ก็เพราะอยากรู้เรื่องเลมจากญภา ไม่อย่างนั้นเธอมักจะคิดว่าปุริมเอาเรื่องนี้มาขู่เธอ “คนนั้นเป็นคนใหญ่ของเมือง ไม่เคยเสียเปรียบให้ใคร ช่วงนี้เธอระหว่างตัวหน่อย ฉันจะให้ณัฏฐพลมาจัดการเรื่องนี้” “ขอบคุณนะญภา”แสดงว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ปุริมไม่ได้ใส่ไขเติมสี งั้นเธอกับลูกก็ต้องระวังแล้ว คิดว่าปุริมไปรับคน แต่ไปทีหนึ่งกลับไม่ได้เจอมาห้าหกวัน เพียงแค่ส่งคนมาเฝ้าไว้ “หม่ามี๊แด๊ดดี๊บุญธรรมบอกจะเข้ามาพักไม่ใช่เหรอ?” อ้อยดึงเขนเสื้อเธอแล้วถาม เธอไม่หันกลับไป เพียงเช็คโต๊ะต่อ จริงๆโต๊ะไม่ได้สกปรกเลย เพราะตอนเช้าได้เช็คไปแล้ว แต่เธอว่างไม่ได้“เขามีเรื่องใหญ่ต้องทำนะ เลยยุ่งจนมาไม่ได้”เธอพูดไปเรื่อย จริงๆแม้แต่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำ เขาไม่ได้โทรมา และเธอก็ไม่อยากโทรไปด้วย กินข้างไปแล้วมือถือพลางดังขึ้นมา เป็นสายของนิรัน“คุณเพ็ยนีติ์ครับ เรื่องคุณเลมได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ประธานบอกว่าคุณสามารถเข้าออกได้แล้ว” “ออ ขอบคุณนะ”ที่แท้เป็นเรื่องที่เธอกังวลเอง แต่เธอก็ยังโล่งใจไม่ได้
已经是最新一章了
加载中