ตอนที่ 71 เพียงแค่นั้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 71 เพียงแค่นั้น
ตอนที่ 71 เพียงแค่นั้น นิรันให้คนที่เฝ้านั้นแยกได้แล้ว ที่พักเธอได้กลับสู่ปกติ แล้วส่งเด็กไปโรงเรียน และเธอก็ต้องคิดลำบากกับสามมื้อนี้อีกต่อไป เธอหางานไปหลายวัน แต่ก็ไม่ได้งานเลย ได้ไปสัมภาษณ์บริษัทหนึ่งแต่ก็ไม่มีผลกลับมา เธอเดินข้างถนนอย่างเบื่อหน่าย ญภาโทรเข้ามาพอดี“เพ็ญนีติ์ ไม่ได้ติดต่อมาหลายวันแล้ว อาทิตย์นี้พาลกสองคนไปสวนสนุกกันนะ” เธออยากบอกว่าไม่ แต่เธอได้ตกลงกับญภาตั้งแต่อยู่อาโน่แล้ว คิดๆแล้วเธอก็ถือว่าไปผ่อนคลาย เลยลังเลไปสักพักแล้วตอบ“ได้” “งั้นเจอกันนะ”ญภาพูดจบก็วางสายไปเลย ไปรับเด็กๆก็ต่างมีพูดหัสเราะกันบ้าง ความรู้สึกที่ไม่โดนขังไว้ที่ห้องช่างดีจริง การอยู่ในโกงแบบนั้นลำบากจริงๆ พอพูดถึงว่าจะไปสวนสนุก ส้มและอ้อยก็ร้องขึ้นมาทันที“หม่ามี๊ดีจังเลย” เธอยิ้มเบาๆ เธอไม่รู้สึกดีเลยสัด ในมือเธอไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว เธออยากไปอาโน่ แต่เลม... หรือเธอลองไปแอบสืบเรื่องอาโน่ดู กลางดึกเมื่อเธอปลอบเด็กให้หลับไป ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิม เด็กยังคงเป็นที่พึ่งของชีวิตเธอ ปุริมก็ได้ออกจากโลกเธอแล้ว “โอ้ย นี่คือเพ็ญไม่ใช่เหรอ?ทำไมมาอีกแล้ว?” เธอพยักหน้า ไม่ค่อยเยชินกับสบายตาเด็กดริ้งที่มองเธอแบบนั้น มันมีแววแบบติดความอิจฉาเธอไม่ค่อยชอบ “เชอะก็แค่มือที่สามไหมยังทำตัวสูง” เพ็ญนีติ์ไม่ได้วนใจเพียงเดินไปตรงๆ แล้วเริ่มหาเจ๊ขึ้นมา พอเห็นแล้วเธอก็เดินไปตบไหล่“เจ๊ ฉันมาแล้ว” “เพ็ยนีติ์ฉันคิดว่าเธอจะๆไม่มาแล้วสักอีก” เธอยิ้ม บอกความจริงเธอช่างรู้สึกเกรงมากนัก ดึงเสื้อแน่นไปนานคำพูดที่อยากพูดนั้นเธอกลับพูดออกมาไม่ได้ “เพ็ญนีจติ์อยากพูดอะไรก็พูดเถอะ ที่นี่มีแต่เธอและฉัน ไม่มีคนนอก” เธอหายใจเข้าลึกๆ “ฉันอยากกลับมาเชียร์เบียอีกค่ะ ไม่รู้ว่าทางอาโน่จำไม่รับฉันเพราะเรื่องคุณเลมหรือเปล่า?” “หึหึ งั้นก็ไม่หรอก คุณเลมกับคุณณัฏฐพลได้เคลียกันแล้ว เลมไม่อยู่ที่นี่นั้นแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอก คุณปุริม...” เพ็ยนีติ์เข้าใจแล้วที่แท้เจ๊กลัวปุริมจะต่อต้าน “ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ”และต่อมาก็จะไม่ติดต่อกันอีก จริงๆเขาก็ทำต่อเธอเพียงแค่นั้น ไม่มีเยื่อใยอะไร เหมือนว่าเขาได้บอกเธอในหลายปีก่อน ว่าเขาไม่มีวันรักเธอแน่นอน พอคิดแล้วในใจเธอพลางหนักแน่นขึ้นมา คนที่เขารับ เป็นใครกันแน่? ไม่ควรคิดเลย เธอและเขาไม่ใช่คนโลกเดียวกัน เชียร์เบียก่อนเถอะ นี่ถึงเป็นความจริง “เพ็ญนีติ์ แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ”พอไปก้องน้ำแล้วกำลังจะออกมา เธอกลับโดนผู้หญิงคนหนึ่งขวางหน้าไว้ เงยหน้ามองถึงรู้ว่าเป็นกุหลาบ หึหึ ผู้หญิงอีกคนของปุริม จู่ๆก็ทำให้เธอนึกถึงเรื่องเลมคืนนั้น เหมือนว่าอาโน่ในคืนนั้นได้เกิดเรื่องอื่นด้วย ปุริมบอกว่ากุหลายเข้าโรงพยาบาลไป เธอเลยมองกุหลาบ เหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ “เพ็ญนีติ์ เธอคิดว่าตัวเองเป็นคางคกขึ้นคานเหรอ?ตอนนี้ก็โดนเขาทิ้งไปไม่ใช่ ฉันคิดว่าปุริมเขาชอบเธอ ที่แท้ก็เป็นแค่ตัวแทน เธอดูสิ คนที่เขาชอบจริงๆเห็นคนนี้”เธอเงยหน้าแล้วยื่นรูปมาตรงหน้าเพ็ยนีติ์ ช่างไม่อยากคิดจริงๆ เพียงแค่กวาดตามองทีหนึ่ง เธอก็อึ้งแล้ว ช่างเหมือนเหลือเกิน เธอช่างเหมือนคนในรูปเหลือเกิน แต่เธอแน่ใจว่าคนนั้นไม่ใช่เธอแน่นอน เธอไม่ได้รับมา เพียงแต่หลบสายตาไป“ถอยไปนะ” “หึหึ โมโหแล้วสิ คนจริงกลับมาแล้ว เธอของแทนคนนี้ก็ถูกปุริมทิ้งไปไง เธอดูสิเขารักกันมากแค่ไหน”เขาเอาอีกรูปหนึ่งมาตรงหน้าเธอ นั่นเป็นภาพชายหญิง ชายคือปุริมและหญิงนั้นเป็นคนที่หน้าตาคล้ายกับเธอ พื้นหลังเป็นสนามบิน เอเจ็บใจขึ้นมา กุหลาบเริ่มสะบัดรูปในมือไปมา มือข้างหนึ่งวางไว้ที่พนัง เพ็ญนีติ์พยายามให้ตัวเองยืนนิ่ง จิตต้องนิ่ง แล้วยิ้มออกมา“กุหลาบ ถ้าฉันกับเขามีอะไรกันจริงๆ เธอคิดว่าฉันจะมาทำงานที่นี่เหรอ?ฉะนั้นแล้ว เชิญเธอหลีกด้วย” “หึหึ พูดอย่างง่าย ครั้งที่แล้วเขาก็โยนฉันออกจากรถอย่างทายคนก็เพราะเธอ เพ็ญนีติ์ฉันไม่จบกับเธอแน่” “รถอะไร?”เพ็ยนีติ์ไม่เข้าใจ ซุ่มสี่ซุ่มห้าแบบนี้เธอช่างงงชิฟ “ก็คือ...ก็...เธอไม่รู้เหรอ?” เธอไม่รู้ ตอนนั้นเธอถามปุริมว่าทำไมกุหลาบถึงเข้าโรงบาล แต่ต่อมาพวกเธอแยกทางแล้ว เธอเลยไม่ไดถามอีก “เขาจะข่มขืนฉัน ฉันต่อต้าน เขาเลยโยนฉันออกมาจากรถ เอาสมองฉันได้รับการสะเทือนตอนนี้พึ่งหาย” งั้น...ไม่ได้เกี่ยวกับเธอนิ เธอไม่อยากไร้สาระเรื่องปุริมแล้ว“เธอกลีบไปนะ ฉันจะทำงานแล้ว มีเรื่องอะไรก็ไปหาปุริม เรื่องเขาฉันไม่เกี่ยว” “ใช่เหรอ?แต่วันนั้นเขาโยนฉันทิ้งแล้วไปหาเธอ เธอจะอธิบายยังไง?”กุหลาบมือเท้าเอว แบบว่าจะกินเลือดคน “คุณกุหลาบ กรุณาระวังคำของคุณด้วย เขาทิ้งคุณแล้วมาให้ฉัน แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?ฉันไม่ได้ทิ้งคุณ และฉันไม่ได้ให้เขามาหาฉัน ออกไป”เธอตะคอก เกลียดจนอยากฆ่ากุหลาบมาก ช่างน่าลำคานนัก เธอใช้แรงดัน แล้วเอากุหลาบเซตัว จากนั้นเธอพลางรีบออกจากห้องน้ำ เธอเชียร์เบียไปอย่างตั้งใจ พยายามไม่ก่อเรื่อง แต่ก็เหนื่อยมากนัก กุหลาบมักจะมาหาเรื่องเธอบ่อยๆ ให้เธอทำงานไม่ได้ ไม่รู้ว่าปุริมได้เดือดร้อนเขาอะไร ถึงให้เขาไม่ชอบเธอนัก “เพ็ยนีติ์เลิกงานแล้ว รีบกลับไปเถอะ”เจ๊ดูแลเธอมาก เพียงเลิกงานก็เร่งเธอกลับบ้านแล้ว เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เริ่มปวดหัวบ้าง เลยนวดขมับขึ้นมาและพุ่งออกไปโบกรถ ไม่อย่างนั้นเธอกลัวกุหลาบจะตามออกมาหาเรื่องเธอ “น้าฝนลูกตื่นแล้วเหรอ?”เธอนั่งในรถแล้วไม่อยากกลับบ้านทันที เพียงอยากออกไปเดินก่อน “ตื่นแล้ว รอเธอกลับมากินข้าวเช้าด้วยกัน” “ฉันมีธุระไม่ไปแล้วนะ เธอพาเด็กๆกินก่อนเลย แล้วส่งพวกเขาไปโรงเรียนด้วย” “ได้ค่ะเพ็ญนีติ์” ฟ้าสว่างแล้ว เพื่อจะได้เงินมากขึ้นเธอเลยทำโอ เธอลงรถไปที่ที่หนึ่ง แล้วหายใจสูบอากาศตอนเช้า กลิ่นตอนเช้าแบบนี้ช่างบริสุทธิ์ดีนะ ไม่เดินไปตรงๆอย่างไม่รู้ตัว ไม่อยากรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน เพียงแค่อยากอยู่แบบสงบแล้วไม่มีคนมาก่อกวน ตรงหน้าเป็นเงาของตัวเอง ที่แลดูเดี่ยวดาย “แอ๊ นั้นคือคุณเพ็ญนีติ์ไม่ใช่?แล้วคนด้านบนคือ...”เสียงหญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา ทให้เธอต้องเงยหน้า แล้วถึงรู้ว่าตรงหน้านั้นเป็นร้านไอติมร้านที่ปุริมพาเด็กๆมากิน ข้างหูมีเสียงไวโอลินดังขึ้น ตามความคิดคนปกติก็คงคิดว่าเป็นนักเล่นไวโอลินที่ร้าน แต่เพลงนี้เพ็ญนีติ์รู้สึกแปลกๆ ท้องฟ้าครึ้มเหมือนจะตกและฝนตก ปุริมกำลังเล่นเพลงที่เขาชอบ พอมองไปชั้นสอง เธอค่อยๆเอามือถือออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโทรหาเขาหลังจากวันนั้นที่เขาจากไป เสียงรอสายที่เพราะ แต่ไม่มีคนรับ เธอรอไปอย่างเงียบๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่อยากรับ แต่เธอกับหวังให้เขารับ จู่ๆเสียงเพลงรอสายเปลี่ยนเป็นเสียง... “สายที่คุณเรียกไม่สามารถ...” ปุริมวางสายเธอไปทันที “คุณเพ็ญนีติ์เป็นอะไรหรือเปล่า?”ข้างๆมีหญิงต้านรับคนหนึ่งที่เคยเรียกเธอว่าคุณเพ็ยนีติ์พูดขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่คิดว่าร้านพวกคุณจะเปิดเช้าแบบนี้” “วันนี้พิเศษ มีลูกค้ามาขอเลยเปิดก่อน แต่อย่างอื่นยังไม่มีนะ” และแล้วก็คือเขา“แล้วฉันสามารถเข้าไปกินไอติมได้ไหม?”เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆเธอก็อยากเห็นหน้าคุณเพ็ญนั้นขึ้นมา ในสมองมีภาพที่กุหลาบเอาให้เธอดู ช่างคล้ายเธอมาก เลยได้ทำให้เธออยากรู้ขึ้นมา “เพราะยังไงก็เปิดร้านแล้ว ได้แล้วค่ะ เชิญเข้าไปเลยค่ะ” เพ็ยนีติ์กำลังจะเดิน กลับมีเสียงผู้ชายที่ดังมาจากด้านหลัง แล้วพูดอย่างงัวเงีย“คุณเพ็ญนีติ์คงไม่ถือสาเข้าไปกับเราด้วยกันนะครับ?” เพ็ญนีติ์หันกลับไป ทันทีนั้นชายที่คุ้นเคยปรากกฎขึ้นตรงหน้า แต่ต่อมาเธอก็ต้องปฏิเสธ เพียงแค่หน้าตาเหมือนปุริม ทั้งริมฝีปากจมูกเหมือนเหลือเกิน“ไม่ทราบว่าคุณคือ...” “หึหึ ผมเป็นสามีเพ็ญภัทร์ กำลังจะมารับเขากลับบ้าน” เพ็ญภัทร์ คำนี้ทำให้เธอหัวใจเต้นเร็ว คนนั้นอยู่ข้างในจริงด้วย เต่เธอคาดเดาไม่ถึงจริงๆ ว่าสามีเขาก็มาถึงแล้ว เดี๋ยวเธออึ้งไปแล้ว เขาบอกว่าอะไรนะ? เขาบอกว่าเป็นสามีเพ็ญภัทร์ ? “คุณเป็นสามีเพ็ญภัทร์ หรือเพ็ญเหรอค้า?” “ทำไมครับ?ไม่ได้เหรอครับ?” “อ้อ ไม่ ไม่ใช่ค่ะ แต่...” “คุณจะบอกว่าปุริมเหรอครับ?เขาเป็นพี่ชายผม คนละพ่อครับ” เพ็ยนีติ์เอาสองคนนี้รวมคิดขึ้นมา ที่แท้คนนี้เป็นพี่ชายชนิศา เธอกลับคิดไม่ถึงว่าเพ็ญจะแต่งกับน้องชายปุริม นี่ทำให้คนต้องรู้สึกไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ปุริมและเพ็ญเป็นไปไม่ได้แล้วแน่นอน เพ็ญนีติ์อึ้งไปแล้ว และระหว่างที่เธอมองชายหนุ่มภายใต้แสงแล้วไม่ขยับ “เพ็ญนีติ์เข้าไปด้วยกันเถอะ ผมพาผู้หญิงผมไป แล้วคุณก็พาผู้ชายคุณไป”เม้มไปแล้วชายคนนั้นพลางพูดขึ้นมาอย่างเบื่อหน่ายบ้าง แต่ก็มีความดึงดุดของชีวิต แม้แต่หญิงต้อรับคนนั้นยังมองเขาตาไม่กระพริบ เพ็ญนีติ์ไม่รู้ว่าเธอถูกชายคนนี้ควงแขนได้ยังไง พอเธอก้าวเข้าไป ทั้งร้านที่เย็นเฉียบ จนเอาใจเธอร้อนขึ้นมา ทุกอย่างนี้ช่างคล้ายเหลือเกิน ค่อยๆเดินตามบันไดไป พรมสีแดงทำให้เธอและชายคนนั้นไปชั้นสองอย่างเงียบๆ
已经是最新一章了
加载中