ตอนที่ 75 ซื่อใสจริงๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 75 ซื่อใสจริงๆ
ตอนที่ 75 ซื่อใสจริงๆ ความหงุดหงิดในใจนั้นพอถึงนอกกายพลางกลายเป็นไฟ เหมือนเป็นโลกในฝัน พวกเขาได้กลับไปถึงคืนนั้นที่เกิดขึ้นซิอีกครั้ง ความเมาของสมองได้เขียนโลกทั้งสองคนไว้ และนั่นก็ดูเหมือนจะตื่นชัดมาก เขารู้ว่าเป็นเธอ เธอเองก็รู้ว่าเป็นเขา เมื่อเห็นเขาจะประคบลงมาอีกครั้ง มือที่เรียวยาวของเธอพลางยื่นไปลูบปากเขา “เรียกชื่อฉัน”เธอไม่อยากให้เขาเรียกเธอว่าเพ็ญอีก ถึงแม้เขาได้อธิบายชัดแล้วว่าเพ็ญที่เขาเรียกคือเธอ แต่เธอยังคงรู้สึกอึดอัด ถึงแม้เรียกเพ็ญนีติ์แล้วอาจจะไม่ได้ฟังสนิทโรแมนติก แต่เธอก็รู้สึกสบายใจ เพ็ญนีรติ์เป็นเธอ และเพ็ญอาจจะเป็นเพ็ญภัทร์ เธอไม่ต้องการความรู้สึกแบบนั้น “ยัยซื่อ”เขาทำตาหยี นิ้วยังวางที่ริมฝีปากเขา เธอกำลังต่อต้านทุกอย่างของเขา“เรียกฉันเพ็ญนีติ์” มองแววตาแน่วแน่เธอแล้ว เขาเลยเม้มปากแล้วเอามือเธอมาวางที่ปลายจมูก “เพ็ญนีติ์ คุณซื่อจังครับ” เธอซื่อจริงๆ คลอดลูกให้เขาแล้วยังไม่บอกเขาอีก ซื่อยื้อที่สุด “คุณ...ไม่โทษฉันเหรอ?”เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วเหมือนตื่นเต้นอย่างหนักจนแฝงความวุ่นวาย เขาก้มหน้าลงจูบเธออีกครั้ง เขาจะโทษเธอได้ยังไง?โทษเธอที่ลำบากเลี้ยงดูลกคนเดียวเหรอ?โทษเธอเป็นห่วง?โทษเธอแน่วแน่? เหมือนว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลย เขาในเมื่อก่อนทำให้เธอตกกลัวสินะ ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพียงจูบเธออย่างเร้าร้อน ดุดลิ้นเธอไว้ทั้งปาก จากนั้นเกะแกะกันไว้ ช่างเป็นความรู้สึกแปลกใหญ่ ที่ทำให้เธอต้องเคลิ้มอย่างห้ามตัวไม่ได้ ร่างกายเพ็ญนีติ์อึ้ง และลังเลอย่างพูดไม่ถูก ราวว่าทุกอย่างเป็นแค่ฝันไม่ใช่ความเป็นจริง หกปีก่อน เขาเคยบอกว่าจะเอาเธอ แต่เธอไม่ยินยอม แต่กลับไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเขาไปก่อนแล้ว การจูบนั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าอยากกลืนทั้งคนของเธอเข้าไปในร่างกายเพื่อลงโทษความผิดเธอปีนั้นที่ไม่บอกเขา หญิงน้อยเล็กๆซื่อๆคนหนึ่งที่กลับคลอดลูกสาวสองคนให้เขา เพ็ญภัทร์ วินาทีนี้เขาลืมเพ็ญภัทร์ แล้ว เพียงแต่เขาไม่ยอมพูด เขาไม่ยอมรับออกมา แต่ตอนนี้ ทั้งสองคนต่างไม่พูดขึ้น เพียงแต่ใช้กริยาบอกเธอว่าเธอต้องเป็นของเขาคนเดียว เธอหลับตาลง แล้วกอดคอเขา สูบดมกลิ่นหอมกายเขา เหมือนเธอจะรักเขาแบบนี้มาตลอด เพราะเขาเรียกเธอว่าเพ็ญนีติ์แต่ไม่ใช่เพ็ญ เธอเลยทุ่มทุกอย่างออกไป เจ็บก็เจ็บไปสิ ความตื่นเต้นทำให้ทั้งตัวเธอแน่นขึ้นมา เหล้าขาวถูกวางเข้าปาก ความเข้มข้นของเหล้าสูงมาก ปุริมอมไว้ในปาก จากนั้นค่อยยื่นลง ระหว่างที่เธออ้าปากค้างกับการรู้ว่าเขาจะทำอะไร ริมฝีปากเขาก็ประคบของเธอแล้ว ความเข้มขมของหล้าพุ่งเข้าปากเธอ จากนั้นทำไม่ให้โอกาสเธอหายใจแต่นิด เขาบีบจมูกเธอไว้“กรึป”คำเดียวเหล้านั้นก็เข้าสู่กระเพาะเธอแล้ว เธอรู้สึกขมซ่าจนแอบสำลัก แต่วีไอพีห้องนี้ไม่มีอาหารให้ลงท้องพร้อมเหล้า ชายหนุ่มต่างชอบดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำ พอเธอดื่มลงแล้วก็ไม่อาจเข้าใจชายหญิงที่ดื่มเหล้านั้นมันกลืนลงยังไง เพราะไม่น่าดื่มเลยจริงๆ ไม่เลยแต่นิด พูดตามความจริง นี่มันหาความลำบากให้ตัวเองชัดๆ เหล้านี้ไม่มีแบบถูก แต่เธอยังไม่ทันได้คิด เหล้าที่แรงนั้นพลางทำให้เธอสลบไปแล้ว แววตาที่มองชายหนุ่มยังมัว “ปุริม...มือเธอยังกอดคอเขา เธอเองไม่รู้ตัวเองกำลังทำอะไร สติกลับถูกบรรยากาศที่เขาสร้างขึ้นรามไปหมดแล้ว” ช่างผ่อนคลายจังเลย เพียงแค่คำเดียวเธอก็ไม่สามารถคุมสติตัวเองแล้ว ขนตายาวนั้นกระพริบไม่หยุด เธอไม่รู้อะไรคืออะไรแล้ว เพียงไม่มองตาเขาไว้ ช่างดูดีจัง ดูดีจนเธอต้องค่อยๆลูบมือไปแก้มเขา “ปุริม...” เขาจะปล่อยมือ และคืนเพ็ญภัทร์ ให้จิณณะ หลับตาลงให้ทุกอย่างนี้ค่อยๆหายไป ให้เธอต้องเริ่มเร้าร้อนตามเขาขึ้นมา จากนั้นเงียบไม่ขยับ แล้วหายใจหอบไปด้วยกัน ทุกอย่างช่างดุดเดือดเหลือเกิน แสงไฟมืดรัวๆ เหมือนทุกอย่างนี้ไม่เป็นความจริง เมื่อกี้เป็นแค่ฝันเหรอ? เพ็ญนีติ์กัดริมฝีปากไว้ มองรอบๆอย่างไม่กล้าเชื่อ พอจ้องมาที่ตัวหนุ่มอีกครั้ง เขายังอยู่บนร่างกายเธอ เหมือนปีนั้นไม่ต่าง ความเหนื่อยพุ่งพล่านเข้ามา เธอช่างง่วงจังเลย ตอนนี้เธอเพียงอยากนอก แต่นี่เป็นอาโน่ เธอจะหลับที่นี่ได้ยังไง นอนไม่ได้ ห้ามนอนเด็ดขาด “ปุริม...” แต่เธออยากให้เขาลุกขึ้น ตัวเองจะได้ลุกง่าย กางเกงที่เขาโยนไปบนพื้นข้างในมีมือถือสั่นขึ้น เสียงนั้นช่างบัดหูในกลางอากาศ จนเธออยากปิดหู ไม่อยากฟังแล้วจริง ปุริมขมวดคิ้ว ไม่ต้องพูดเขาพลางลุกขึ้นมานั่งบนร่างเธอ แผ่นอกแข็งแกร่งกำยำปรากฏขึ้นตรงหน้า เธอรู้สึกว่าเขาสามารถไปเป็นนายแบบได้เลย หุ่นเขาดีมากดูดสมบูรณ์ที่สุด ซีกแพ็กเป็นแผ่นๆดูแร่งมาก แต่พอสวมเสื้อแล้วช่างดูดี ไม่มีเนื้อไขมันส่วนเกิน เขาไม่สนใจเสียงสายเข้า เขาอุ้มร่างกายเธอให้นั่งตักเขา เสียงที่แหบนั้นถามขึ้นเข้มๆ“เหนื่อยไหมครับ?” เธอเหนื่อยบ้างแล้วจริงๆ แต่นี่คืออาโน่นะ เธอส่ายหัว“ฉันอยากใส่เสื้อผ้า”พูดคำนี้เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองตัวเปลือยและไม่มีเสื้อผ้าได้ใส่แล้ว กระโปรงตัวนั้นถูกเขาฉีกเสียไปแล้ว มองร่างกายอมลมพูเธอแล้ว เขาพลางหัวเราะ“เดี๋ยวใส่ของผมนะ” “แล้วคุณหล่ะ?” “ผมใส่เสื้อเชิ้ต คุณใส่สูตรคลุม ผมอุ้มคุณออกไป รับรองไม่ให้คนอื่นเห็นแน่นอน” “คุณร้าย...”เธอรีบชกไปหน้าอกเขาทันที ทุกอย่างนี้ช่างไม่เหมือนเป็นความจริง รู้เรื่องคืนนั้นแล้วเขาเหมือนไม่ได้โกรธเลย แต่กลับเอาใจใส้เธอ ความรู้สึกแบบนี้ช่างดีจัง เธอชอบที่เขาใส่ใจเธอแบบนี้ ถ้ารู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ แล้วเธอไม่จำเป็นต้องเสียเวลามากแบบนี้แล้ว “สายเข้า...สายเข้า...”มือถือเขาอย่างดังไม่หยุดไม่มีวี่แววจะหยุดลง แสดงว่าคนที่โทรนั้นจะไม่หยดการโทหักเขาไม่รับสาย เพ็ญนีติ์กามมือแล้วทบลงไป ความสุขที่พึ่งเกิดขึ้นนั้นหายไปทันที สายตาจ้องไปที่มือถือ ใจเธอเต้นแรงมากขึ้น เหมือนมือถึงนั้นเป็นระเบิดที่จะเอาเธอระเบิดจนไม่เหลือ “ปุริม คุณรับเถอะ”จากนั้นเธอพลางเอาชุดเขามาปิดตัว เสื้อเขายาวมาก สามารถปกปิดจุดที่ไม่ควรเผยออกมาพอดี ปุริมเอามือถือขึ้นมาอย่างเบื่อ แต่พอเห็นเบอร์นั้นแล้ว เขาตื่นเต้นทันที“พรึบ”เขาลุกขึ้น แล้วเดินไปพูดที่มุมอย่างเสียงกดดัน“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงที่อ่อนโยนนั้นทำให้ใจเพ็ญนีติ์แน่นขึ้นมา เธอรู้ว่าเป็นใครแล้ว จะงี่เง่าแค่ไหนก็ต้องเดาออกอยู่แล้ว เป็นเพ็ญภัทร์ มีแต่เพ็ญภัทร์ ที่ทำให้เขาตื่นเต้นแบบนี้ หญิงที่อ่อนโยนดั่งดอกไม้ เธอเองไม่มีวันเทียบเขาได้ ความมีบุคลิกดูดีบางอย่างฝึกกันไม่ได้ และเธอก็ไม่เคยคิดจะเรียนแบบเพ็ญภัทร์ เพ็ญภัทร์ คือเพ็ญภัทร์ เธอคือเธอ เธอลุกขึ้นเงียบๆ แล้วเก็บกระโปรงที่ขาดไป ยังพอใส่ได้อยู่ พอบังท่อนล่างเธอได้ แต่ข้างบนนั้นก็ไม่ได้เลย แสดงว่าจะออกไปห้องนี้ก็ต้องใส่สูตรคลุมของเขาแล้ว ปุริมยังคุยอยู่“ไม่ร้องนะครับ ค่อยๆพูด ผมฟังอยู่ ไม่ร้อง...” เพ็ญภัทร์ ร้องไห้แล้ว ปุริมคงชอบเพ็ญภัทร์ มากสินะ เธอค่อยๆติดกระดุมเขาขึ้นมา เธออยากเร็วที่สุดอยากให้เวลาสั้นลง เพื่อออกจากห้องนี้ให้เร็วสุด ออกจากปุริมที่ห่วงเพ็ญภัทร์ อยู่ วินาทีนี้เธอเหมือนมีคนเอาน้ำเย็นลาดหัวทำให้เธอตื่นขึ้นมามาก เธอไม่น่าเลย ไม่น่าคิดไปมากว่าเขาจะดีต่อเธอ ไม่ว่าเขาจะเอาร่างกายของใคร แต่คนที่เขาคิดถึงตลอดก็คงมีแต่เพ็ญภัทร์ เขาชอบเอาเธอ เพียงเพราะเธอคล้ายเพ็ญภัทร์ เธอเป็นตัวแทนเพ็ญภัทร์ ถึงแม้จะเรียกชื่อเพ็ญนีติ์ไว้ก็ยังไม่สามารถลบความจริงไปได้ ดูเธอเมื่อกี้นั้นช่างงี่เง่าเหลือเชื่อ งี่เง่าซื่อใสจนเธอเองยังดูหมิ่นตัวเอง มือเธอสั่นไม่หยุด สั่นจนติดกระดุมตัวสุดท้ายเสร็จ เธอยังไม่ทันใส่ร้องเท้าก็วิ่งออกไปเท้าเปล่าเลย เธอไม่อยากฟังคำปลอบโยนคำต่อๆกันของปุริม มันเอาเธอใจสลาย เธอเดินเบามาก เบาจนเหมือนเป็นขนนกที่ลอยบนฟ้า แต่พอเงาเธอส่องไปที่พื้น ชายหนุ่มก็รู้แล้ว เขาคุยไปด้วยพลางเดินมาหาเธออย่างกบว่าข้างๆไร้คน แล้วดึงแขนเธอไว้“ห้ามไป” “อะไรนะ...”เสียฝั่งนั้นมีเสียงเพ็ญภัทร์ ดังขึ้น ถึงแม้ฟังไม่ชัดเจน แต่เพ็ญนีติ์ก็ได้ยินอยู่ดี เธออึ้งไป เธอกลัวคำตอบที่ปุริมตอบเพ็ญภัทร์ มาก เขาต้องตอบกลับว่าเขาอยู่กับคนที่ไม่มีมีความเยื่อใยอะไรแบบนั้นแน่นอน จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า? เธอตื่นเต้นจนยืนไว้ที่นั่น พลางมองงาตัวเองอย่างไม่กล้าขยับ ละมองเงาชายหนุ่มที่ยืยข้างเธอ เขาไม่ได้ใส่อะไรไว้ แต่คนที่ตื่นเต้นไม่ใช่เขา แต่เป็นเธอ เหมือนว่าเธอเป็นคนที่ไม่ไดใส่อะไร และเขาก็สวมชุดไว้สักงั้นเลย
已经是最新一章了
加载中