ตอนที่ 78 ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 78 ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ
ตอนที่ 78 ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ ช่างโชคดีจริงๆ เหมือนว่าตั้งแต่เธอตัดสินใจจะไปเที่ยวภูเขาโดลขึ้นมา ทกอย่างก็ลาบลื่นดี พึ่งเดินไปถึงหน้าประตูรอไปเพียงสองนาทีรถที่ไปภูเขานั้นก็มาพอดี เธอโบกแล้วพาเด็กสองคนขึ้นรถ พนักงานบนรถให้พวกเธอไปนั่งข้างหน้า เธอพาส้มและอ้อยเดินเข้าไป เพียงแค่นั่งรถใจพลางนิ่งสงบแล้ว ความเศร้าหมองทุกอย่างหายไป เพียงแค่อยากใช้ชีวิตตัวเองให้ดี รถแล่นออกกจากเมืองดรัล และเสียงความดังนั้นอยู่ข่างๆ ส้มและอ้อยมองไปนอกหน้าต่าง “หม่ามี๊ดูสิ ดอกไม้นั้นสวยจังเลย” ดอกชบาเต็มครึ่งทางสีทองที่แสงภายใต้แสงแดดช่างเหลือแต่ความสวย เธอเอากล้องให้ส้ม ปล่อยให้เด็กๆถ่ายรูป รูปที่อยากได้ก็ถ่ายเก็บไว้ ไม่อยากลบทิ้ง เพียงแค่เด็กดีใจก็พอแล้ว กล้องนี้เป็นของขวัญที่จำรูญซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิด หลายปีแล้วเอยังไม่อยากโยนทิ้ง ไม่ใช่เพราะนั่นเป็นอดีตเคยผ่านของเธอกับเขา แต่เธอไม่อยากทิ้งของเพราะเธอจะซื้ออีกก็ประมาณหลายพันหยวน ใบหน้าเด็กทั้งสองคนแนบติดหน้าต่าง ช่างดีใจเหลือเกิน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาออกจากเมืองดรัลแล้วไปเที่ยว เห็นเด็กดีใจแบบนี้เธอพลางรู้สึกผิดที่เมื่อก่อนเธอไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมอะไรร่วมกับพวกเขามาก “หม่ามี๊ สายเข้านะ”ระหว่างที่เธอกำลังเหม่อลอย ส้มพลางดึงปลายเสื้อเธอแล้วเตือนขึ้น เธอถึงรู้ตัว แล้วรีบรับขึ้นมา เธอคิดว่าเป็นสายจากนิรัน แต่ไม่คิดว่าเป็นเบอร์นภนต์ “นภนต์เธอกลับมาเมื่อไหร่ค้า?”เธอพูดพลางรอยยิ้ม ตอนนี้เธออารมณ์ดี เพราะอารมณ์ดีขึ้นมาตามลูก “แตร...”เสียงแตรดังกระหนั่น ถึงแม้จะนั่งในรถก้านเสียงก็ได้ยินเสียงนี้แล้ว “หม่ามี๊ดูรถนั่นสิ เกือบชรถเราแล้ว”อ้อยชี้ไปที่รถนั้น เป็นรถทหารเท่ เพ็ญนิ์อึ้งไป “ฉันกลับมาแล้ว เธอไปไหน ฉันก็ไปไหนนภนต์พูดอย่างขำแล้วเสียงนั้นดังจากสายข้างหูเธอ เธอมองด้วยความตกใจ “นภนต์ทไมเร็วจัง?”ไหนบอกสองเดือนไม่ใช่?ตอนนี้ยังไม่ถึงสองเดือนเลย “ถึงบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กากว่าจะไปดูคุณ แต่ก็ไม่อย่ารบกวน ตอนนี้เลยไล่ตามมาไง” ต้องเป็นน้าฝน น้าฝนฟ้องแน่ๆ แต่ตอนนี้เธอไม่ทันไปไล่ถามแล้ว “ให้คนขับจอดรถครับ ไม่อย่างนั้นเสียงแตรลำคานหูคนอื่นจริงๆ”นภนต์โบกมือมาทางเอเพื่อบ่งบอกให้เธอลงรถ “คณครับ นี่เป็นเพื่อนคุณหรือเปล่า?”พนักงานเดินมาทางเธอ รถทั้งสองคันแนบติดแบบนี้มันอันตรายมาก “อืม ใช่ค่ะ” “งั้นจอดตรงหน้าให้คุณลงนะ” เธอหน้าแดงอีกแล้ว เพ็ญนีติ์เหมือนเด็กที่ทำความผิดเธอพยักหน้า แบกกระเป๋าแล้วพาเด็กๆลงรถ รถนภนต์แล่นมาตรหน้า“พ่อบุญธนรรม...”เด็กทั้งสองคนพุ่งไปทางรถ เห็นนภนต์แล้วไม่มีความแปลกอะไร“คิดถึงพ่อบุญธรรมแล้ว” “คิดถึงเหมือนกัน” เด็กน้อยทั้งสองคนวิ่งไปหลังรถนภนต์“พ่อบุญธรรมไปนานมากเลย” “นี่กลับมาก็มาหาพวกเธอแล้วไง” “เราจะไปภูเขาโดลนะ ไปด้วยกันไหมค้า?”อ้อยได้กอดคอนภนต์ไปแล้ว “อ้อย รีบลงรถ อย่ารบกวนพ่อบุญธรรมเขา”เธอใจเต้นแรง ถ้าคนที่ขับรถมาปุริม แล้วอ้อยกอดปุริมไว้คงจะดีมากเลย และเธอควรจะให้ลูกรู้แล้ว แต่เสียใดปุริมตอนนี้ไม่ได้คิดถึงส้มและอ้อย ในใจเขามีแต่พนินนีคนเดียว “ไม่เอา หนูไม่ดื้อ ไม่รบกวนพ่อบุญธรรมค่ะ พ่อบุญธรรมรีบบอกมาเถอนะจะไปภูเขาโดลไหม?” “อืม แน่นนอนสิ อ้อยไปไหน ฉันก็ไปไหน” “มั๊ว”ปากน้อยๆจูบไปที่เขา“พ่อบุญธรรมดีที่สุเดเลย ส้มถ้าถึงแล้วฉันจะถ่ายรูปกับพ่อบุญธรรมนะ” “ฉันก็จะถ่าย”เด็กทั้งสองคนอยากไปถึงที่นั่นแล้วจริงๆ เพ็ญนีติ์มองนภนต์ที่นั่งที่คนขับ ไม่เจอกันมาเดือนกว่า เขาดำและปอมลง ทำให้เธออดมองเขาไม่ได้“นภนต์ ธุระอะไรไปนานขนาดนั้น?”หลายปีนี้เขามักจะออกงานบ่อยๆ เวลาทุกครั้งก็นานด้วย และทุกครั้งที่กลับมาพลางดำและผอมลง ความดำผอมนั้นแน่นอนว่าตากแดด เพียงแค่มองก็รู้ ครั้งนี้เธอเลยอดถามขึ้นมาไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเธอเริ่มเป็นห่วงเขา “ไม้ งานเกี่ยวกับไม้ ของพวกนี้กำไรดี” “ของที่ไหนอ่ะต้องให้เธอออกตัวเอง?” “เดลโน ไม้ที่นั่นถูก รับมาขายแล้วกำไรดี เพ็ญนีติ์ ฉันอยากทำบริษัทเกี่ยวกับไม้”นภนต์หมุนพวงมาลัยและพูดไปด้วย “ดีสิ ได้กำไรก็ทำไง”เธอไม่ต่อต้าน และไม่มีเหตุผลที่ต่อต้าน เธอและนภนต์เป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก ไม่ใช่แฟน แต่ก็ไม่ใช่เพื่อน บางทีเธออาจจะคิดเขาเป็นพี่ชายไปแล้ว แต่เขาแค่อายุมากกว่าเธอสองปี ไม่ถือว่ามาก แต่หลังตระกุลเขาเกิดเรื่องแล้วเขาก็ปลูกสร้างขึ้นมาอีกครั้งเขาก็เหมือนได้เปลี่ยนเป็นอีกคนไป ภายนอกกับอายุเหมือนต่างกันมาก เขาดูมั่นคงเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลายปีนี้ที่เข้าคบหากับเขาแล้ว เธอรู้สึกนภนต์ช่างเหมาะกับเธอจริง แต่ใจเธอกลับไม่มีจุดว่างแล้ว “เพ็ญนีติ์ ฉันอยากเปิดบริษัทโดยใช้นามเธอ”จู่ๆเธอก็พูดอย่างจริงจีง “อะไรนะ?” “เพ็ญนีติ์ พ่อฉันมีกฎไว้ ธุรกิจตระกูลเราไม่ได้เกี่ยวกับไม้เลย สายนี้ฉันพึ่งจะสร้างตัว ถ้าเปิดโดยนามของเธอ พอรุ่งขึ้นมาฉันจะแบ่งเธอ ถ้าขาดทุนหรือต้องจ่ายไม่ต้องให้เธอรับ เพียงแค่ไม่สร้างชื่อเสียให้ตระกูลเราก็พอ” ที่แท้เขาวางแผนแบบนี้นี่เอง“หึหึ ไม่มีอะไร แต่เธอจะได้หรือเสียๆม่ได้เกี่ยวกับฉัน ได้แล้วก็ไม่ต้องแบ่งฉันนะ”ไม่ใช่ว่าเธออยากเกะเกี่ยวกับเขา เพียงเพาะว่าแบบนี้แล้วจะได้ไม่ต้องรับของเขามาฝ่ายเดียว เขาคนนี้มักจะช่วยเธอตลอด แต่เธอไม่ตองการจริงๆ บางอย่างติดมากไปแล้วจะเป็นภาระที่มองไม่เห็นตัว งั้นเธอขอไม่รับดีกว่า “ได้ งั้นค่อยคุยตอนหลับเมืองดรัล”เขายิ้ม แล้วเริ่มเฮฮากับเด็กๆขึ้นมา เห็นเด็กๆและเขาเล่นกันได้ดี ถ้าส้มและอ้อยเป็นลูกของเขาก็คงจะดีนะ แต่นี่เป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่ได้ข่าวปุริมอีก เหมือนเขาหายไปจากโลกเธอ น้าฝนบอกนภนต์จะไม่พูดให้ปุริมเธอคิดเหม่อไปจนมาถึงจุดหมาย เธอถึงได้ตื่นขากเสียงดีใจของเด็กๆ “หม่ามี๊ที่สวยจังเลย รีบลงรถ หนูจะถ่ายรูป”อ้อยเอากล้องแล้วกระโดดลง“แฉ๊กๆ”เสียงถ่ายรูปดังขึ้น ส้มชี้ไปฝั่งนั้น “ถ่ายตรงนั้น อ้อ ถ่ายฝั่งนี้”นภนต์ไปจอดรถ เพ็ญนีติ์ได้กลิ่นทะเลขึ้นมา เพราะที่นี่เป็นทะเลอยู่แล้ว นภนต์ที่จอดรถเสร็จ พลางเดินมาหาเธอและลูก “พ่อบุญธรรม หนูอยากไปดูทะเล” “ไม่ได้” “ฮือ พ่อบุญธรรมร้ายจังเลย หนูอยากดูทะเล”อ้อยอ้อนวอน นูนปากขึ้นมา“หนูอยากดูทะเล” นภนต์ลูบหัวเธอ เพื่อให้เด็กน้อยเงียบ“เราไปกินข้างก่อนนะ แล้วค่อยไปดุ ได้ไหม?” พอพูดแบบนี้แล้วส้มที่ได้ยินข้มๆก็พูดขึ้น“อุ้ย ฉันหิวแล้ว กินแล้วถึงมีแรงไปเล่น ฉันอยากว่ายน้ำ” “ส้มหม่ามี๊ไม่เป็น อันตราย” “กลัวอะไรค้า พ่อบุญธรรมเป็นค่ะ ใช่ไหมค้า?”มองนภนต์ด้วยความหวังมาก ส้มนั้นมีแต่ใจรีบกินให้อิ่มแล้วไปเล่นน้ำทะเล “อืม ฉันเป็น ไปเถอะ กินข้าวกัน” “แต่หนูไม่มีชดว่ายน้ำ” “ใช่เราไม่มีห่างยางเลย” แย่แล้วเด็กสองคนนี้ไม่มีใครสนใจเธอ เพียงเพราะเธอบอกไม่พาพวกเขาไปเล่นน้ำ เห็นนภรต์ที่ขยับแน่นแล้วพาเด็กๆไปโรงแรงตรงหน้า เพ็ยนีติ์ก็รู้ว่าครั้งนี้เขาต้องออกเงินอีกแล้ว “ดีครับ ห้องรวมใหญ่หนึ่งห้องได้ไหมครับ?”เห็นส้มและอ้อยเด็ก พนักงานคนนั้นยังคิดว่าเป้นครอบครัวเดียวกัน สามีภรรยาก็แยกกันไม่ได้อยู่แล้ว และเด็กก็ต้องพักกับพ่อแม่เธอเลยแนะนำห้องไปชุดหนึ่ง เพ็ญนีติ์หน้าแดงขึ้นมา“ไม่ค่ะ สองห้อง” “ห้องรวมห้องหนึ่ง และห้องเดี่ยว”นภนต์พูดอย่างไม่รีบร้อน เพ็ญนีติ์ไม่พูดอะไรอีก จะพูดอีกพนักงานคนนั้นคงจะสืบประวัติแล้ว เธอพาเด็กไปหน้าลิฟต์ นภนต์เอาการ์ดห้องมาแล้ว“อ่ะ นี่ของพวกเธอนะ รีบอาบน้ำ ห้ามใครลีลา” “ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ จะออกมาเร็วที่สุด” แลแล้วเด็กเพื่อไปทะเลรีบอาบแล้วออกมา ตอนนออกมานภนต์สั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว เป็นสิ่งที่เด็กๆชอบกินทั้งหมด เต็มโต๊ะ พึ่งจะเริ่มกีบ มือถือพลางสั่นขึ้นมา เป็นข้อความหนึ่ง เพ็ญนีติ์เอาขึ้นมาดู “เพ็ญนีติ์ฉันนั่งอยู่โต๊ะสามใกล้หน้าต่าง ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” เพ็ญนีติ์ตกใจ หรือมาเจอคนรู้จัก? นอกจากน้าในทีรู้เธอมาที่นี่ก็ไม่มีคนรู้อีก เธอหันไปที่โต๊ะสามข้างหน้าต่าง พลางเห็นคนหนึ่งนั่งอยู่จริงเวย และเป็นผู้หญิง
已经是最新一章了
加载中