ตอนที่ 25 หลีโม่ผู้ชำนาญ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 25 หลีโม่ผู้ชำนาญ
ต๭นที่ 25 หลีโม่ผู้ชำนาญ ซือถูเย่มองดูนาง “เจ้าสามารถพักผ่อนได้อีกสักครู่” หลีโม่โยกศีรษะ “ไม่เป็นไร ยังไงก็ไปดูอาการของท่านอ๋องเหลียงก่อนจะดี” นางไม่ได้ต้องการทำเพื่อเอาหน้าหรือทำให้อ๋องซือเจิ้งรู้สึกว่าจะเอาใจ แต่ทว่านางต้องการเป็นห่วงอ๋องเหลียงจริง ๆ ได้รู้มาว่าอ๋องเหลียงมีอาการกำเริบถึงสองหนในระยะเวลาสั้น ๆ และกลายเป็นลมชักที่ค่อนข้างหนัก ลำดับแรกของหมอ นางไม่สามารถมองดูคนไข้ที่อยู่ในมือตายไปต่อหน้าได้ และในครั้งนี้ นางต้องพึ่งชีวิตของอ๋องเหลียง ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้อ๋องเหลียงถึงแก่ความตาย นางเกรงว่าถ้าหมอหลิวไปลงเข็มให้อ๋องเหลียงอีกจะทำให้สมองของอ๋องเหลียงถูกกระตุ้นและอาการเกิดกำเริบเป็นรอบที่สาม ถ้าเป็นอย่างนั้นให้เทพมาโปรดก็ยากที่จะช่วย อ๋องซือเจิ้งจ้องมองนาง จากสายตาที่มองไปจนถึงข้อมูลที่ได้รู้ว่า กับสิ่งที่เขาคิดไม่เหมือนกัน สีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย แล้วกวักมือเรียกหยางมามา มา “ประคองนางเข้าไป และดูแลนางให้ดี” “เจ้าค่ะ” หยางมามาเข้ามา ประคองหลีโม่ไป สายตาเริ่มมองด้วยความสนิทสนม “คุณหนูใหญ่เดินระวัง” หลีโม่รู้สึกตื้นตัน “ขอบคุณหยางมามาที่เป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร” หยางมามาคอยพยุงนาง ระมัดระวังในการเดินเป็นอย่างดี หลีโม่รู้สึกว่ายังคงมึนศีรษะอยู่ บาดแผลบนศีรษะยังคงเจ็บ นางรู้ว่าไม่เพียงแต่ปากแผลจากที่นางได้รับมา ตอนนี้อักเสบจนบวมไปแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าที่หมอหลวงหลิวเปิดยาแก้อักเสบให้นางหรือไม่ พอมันอักเสบ อีกสักพักเดี๋ยวก็เป็นไข้ นางเกรงว่าตัวเองจะล้มในเวลาวิกฤติ เปิดม่านผ่านเข้าไปในตำหนัก เสียงแหวกม่านดังอยู่ด้านหลังหลีโม่ เป็นเสียงเพราะเสนาะหู คนในตำหนักล้วนมองดูนาง ทุกย่างก้าวที่มีหยางมามาประคองเดินไป หลังจากนั้น ค่อยๆ คุยเขาต่อหน้าฮองเฮา “เสี้ยหลีโม่คำนับฮองเฮา” ฮองเฮาเข้ามาประคองนางเอง”ลุกขึ้นเถอะ” “ขอบพระทัยฮองเฮา” หลีโม่คำนับในความกรุณา แต่ก็ถูกฮองเฮารั่งเอาไว้ให้ลุกขึ้น ทำให้อาการมึนศีรษะของตัวเองเป็นหนักขึ้น ฮองเฮาถอยหลังไปเองหนึ่งก้าว ” เจ้าไปดูอ๋องเหลียงที” หลีโม่ย่อตัว “เพค่ะ” หยางมามาพยุงนางเข้าไป นางย่อตัวครึ่งหนึ่ง แต่เจ้าไม่มีแรงพยุง อีกนิดก็จะล้มลง ฮองเฮารีบสั่ง “เร็วๆ เข้าไปเอาเก้าอี้มา” ก็มีนางกำนัลรีบเอาเก้าอี้มาทันทีทันใด ประคองให้หลีโม่นั่งลง หลีโม่นั่งบนเก้าอี้ห่างจากเตียงเล็กน้อย นางเพียงแค่ยื่นไปเล็กน้อยก็สามารถจับชีพจรเพื่อตรวจดูได้ นั่งอยู่ตรงนี้ทำให้อาการมึนศีรษะของนางดีขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดก็พอมีสติ ไม่อยากให้คนที่อยู่ตรงนั้นมารบกวนการวินิจฉัยของนาง เพราะว่า ถึงแม้ว่านางจะได้เรียนแพทย์จีนกับอาจารย์หลินมาหลายปี แต่ว่าการรักษาแบบปัจจุบัน นอกจากเวลาที่ต้องรับผิดชอบจะใช้แพทย์จีนรักษาในพื้นที่กันดาร โดยทั่วไปก็จะใช้แพทย์ปัจจุบันและอุปกรณ์ในการตรวจ ถึงจะถูกต้องและแม่นยำต่อโรคก่อนจ่ายยา แต่ว่า แพทย์จีนก็ยังคงพัฒนาไปจนถึงปัจจุบัน มีการทดลองและวิจัยมากมาย ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้สึกว่าตัวเองมีฝีมือการแพทย์สูงกว่าหมอหลิน แต่ทว่าในการคลินิกก็ถือว่านางเป็นต่อ และการฝังเข็มเท่าที่นางรู้ว่าในประวัติศาสตร์ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปัจจุบัน ฝีมือการฝังเข็มของอาจารย์ในโรงพยาบาลจีนได้ถูกผลักดันให้ออกไปศึกษาต่อ ไปถึงระดับที่สูงจนเทียบไม่ได้ และในช่องว่างของราชวงศ์ฉาวคนนี้ยุคนี้มีการศึกษาเกี่ยวกับการฝังเข็มน้อยมาก ๆ และนี่คือข้อเด่นของนาง! หลังจากที่หลีโม่ตรวจชีพจร ก็เริ่มตรวจในส่วนอื่นๆ เพราะว่าอ๋องเหลียงยังคงหมดสติอยู่ นางไม่มีวิธีอื่นที่จะวินิจฉัยอ๋องเหลียงได้ว่าหลังจากอาการกำเริบแล้วส่วนไหนจะได้รับบาดเจ็บบ้าง คงใช้แต่วิธีการลงเข็มในการตรวจได้ เพราะหากมีจุดชีพจรติดขัด หรือจุดใกล้ๆ ได้รับบาดเจ็บหรือมีปัญหาเกิดขึ้นมา วิธีการตรวจแบบนี้ เป็นวิธีพื้นฐานมาก อาจารย์หลินเคยทำวิจัยแล้วได้ผลแปดถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ หากว่ามีจุดที่ลมปราณติดขัด นางก็จะใช้นิ้วมือกดเบาๆไล่ลงไป ตรวจไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทุกวิธีการที่ทำผู้คนในที่นี้ก็ดูอยู่ ไท่จื่อยิ่งดูอ๋องซือเจิ้งอย่างดูแคลน ในใจก็คิดว่า ถ้าหากว่ามีประสงค์ให้แต่งงาน เกรงว่าตัวเองจะไม่ได้ลงมือ ซือถูเย่ก็คงจะฆ่าคนเลวคนนี้ ใครจะไปรับได้ที่ภรรยาของตัวเองเคยจับต้องร่างกายชายอื่น วิธีการตรวจแบบนี้ ไม่สามารถที่จะถามได้ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลามาก หลีโม่ก็อดทนอย่างมากกับสภาพร่างกายที่ไม่มีแรง พอมามาสบโอกาสก็ยกชาให้นางดื่ม นางก็ดื่มหมด หลังจากดื่มน้ำ ก็รู้สึกหิว ด้านหมอหลวงหลิวนั้นดีขึ้นมาหน่อย ภายในใจเขาเกิดความกลัวใหญ่หลวง ไม่ว่าอ๋องเหลียงจะอาการดีหรือไม่ดี เขาก็จะได้รับโทษ ดังนั้น เขาจึงมองสีหน้าและอิริยาบถของหลีโม่ ดังนั้นเพื่อการวินิจฉัยอาการป่วยของอ๋องเหลียง เพื่อให้เขาได้ทำการชดเชย ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เขาคิดว่า ฝีมือทางการแพทย์ของเสี้ยหลีโม่สู้เขาไม่ได้ ดังนั้น เพียงแค่เสี้ยหลีโม่วินิจฉัยออกมาว่าเป็นโรคอะไร เขาก็สามารถที่จะเปิดยาได้ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลีโม่ถึงจะถอนเข็มออก เกือบครึ่งร่างที่ชาไปแล้ว แต่ว่า แต่นางเพียงแค่ถอนหายใจ เพราะว่าตรงนั้นมีคนคอยดูนางอยู่ ดังนั้น นางยืนขึ้นมา ตรงไปที่ฮองเฮาและซือถูเย่โค้งตัว พูดว่า “ ฮองเฮา ท่านอ๋อง ท่างอ๋องเหลียงหลังจากที่อาการกำเริบครั้งใหญ่ ก็ได้กระทบคอและขาทั้งสอง.....” นางยังพูดไม่ทันจบ หมอหลวงหลิวก็พูดเสียงเย็น “กระทบคอและขาทั้งสองหรือ มั่วซั่ว จะไปทำร้ายส่วนคอได้อย่างไร ไปจนถึงขาทั้งสองข้าง ขาซ้ายของท่านอ๋องเหลียงเดิมทีก็ไม่ดีอยู่แล้ว” ฮองเฮาส่งสายตาไปทางเขาทีหนึ่ง สายตาเฉียบคม ขู่ให้หมอหลวงหลิวต้องหยุดปาก ฮองเฮามองหลีโม่ เจ้าพูดต่อไป หลีโม่ริมฝีปากแห้งผาก ลำคอเหมือนมีไฟลน เสียงแหบแห้ง “ส่วนของคอและขาน่าจะเป็นเพราะตอนที่อาการกำเริบหนัก แต่ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก ที่ต้องห่วงก็คืออาการของเขาจะหายใจได้ไม่ราบรื่น คงเป็นเพราะตอนที่อาการกำเริบหนัก มีของเสียเข้าไปในเส้นลมปราณ เหตุการณ์แบบนี้ค่อนข้างจะอันตรายมาก รวมไปถึงอาการกำเริบใหญ่ถึงสองครั้งภายในระยะเวลาสั้น ๆ ก็แสดงให้เห็นได้ชัดว่าสมองได้รับการกระตุ้น ทำให้ร่างกายกลายเป็นแบบนี้และเสียหายได้” ฮองเฮาฟังนางพูดยืดยาว ก็ไม่ค่อยเข้าไป เพียงแต่ถามว่า “ งั้นจะรักษาอย่างไร มีวิธีการช่วยไหม” หลีโม่ตอบ “พูดได้ว่าสภาพค่อนข้างจะหนัก สำหรับวิธีการรักษา ข้าน้อยเห็นว่า ทำให้จุดลมปราณหลักเดินได้คล่อง เอาสิ่งแปลกปลอมออกไป หลังจากนั้นก็รักษาในส่วนของของที่ได้รับบาดเจ็บ ในส่วนคอนั้นพันไว้ เพราะว่าหลังจากที่อ๋องเหลียงเกิดอาการกำเริบหนักก็จะหลับลึก หลังจากนั้นสองชั่วโมง เขาก็จะฟื้น ก็จะเข้าสู่ช่วงเวลากระสับกระส่าย บางทีก็จะหมดสติหรือวิ่งไปวิ่งมาอย่างไม่มีสติ ทำให้กระดูกที่หักของร่างกายกลับมาได้รับบาดเจ็บซ้ำสอง แล้วเกี่ยวกับด้านลมปราณ ตอนนี้ยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าปวดมีอาการอักเสบไหม แต่เวลาที่เขาหายใจจะมีเสียงหอบวี๊ดและจากสีหน้า อาการแบบนี้อาจเป็น.........” หลีโม่ก้มลงเล็กน้อย ถ้าหากว่าเป็นปวดอักเสบ แล้วในยุคที่ล้าหลังในการรักษาทางการแพทย์เช่นนี้ เกรงว่าจะรักษาได้ยาก เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรออกไปต้องคิดให้ดี “อะไรคือคำว่าเป็นปอดอักเสบ” ซือถูเย่ถาม “เขารู้สึกว่าเสี้ยหลีโม่เป็นคนไม่ธรรมดา คำศัพท์ที่พูดออกมา เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน และเข้าดูสีหน้าของหมอหลวงหลิว คล้ายกับว่าก็ยังคิดตามไม่ทัน หลีโม่จับเก้าอี้พยุง ขาทั้งสองข้างสั่นเล็กน้อย ซือถูเย่พ่านให้นางนั่งลง “ เจ้านั่งลงค่อยพูด เจ้าโดนยาพิษอีกทั้งร่างกายยังได้รับบาดเจ็บ อ๋องเหลียงยังต้องให้เจ้ารักษาต่อไป​” หลีโม่คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดต่อหน้าฮองเฮาว่านางโดนย่าพิษ การกระทำแบบนี้คืออะไร ในใจหลีโม่เต้นแว๊บๆ ทายได้ถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง
已经是最新一章了
加载中