ตอนที่ 33 คำสั่งเสียของอ๋องเหลียง
1/
ตอนที่ 33 คำสั่งเสียของอ๋องเหลียง
พิษรักองค์ชายโฉมงาม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 33 คำสั่งเสียของอ๋องเหลียง
ตนที่ 33 คำสั่งเสียของอ๋องเหลียง กุ้ยไท่เฟยอดเอ่ยถามหย้วนพ่านไม่ได้ “อ๋องเหลียงไม่ได้เป็นโรคลมชักหรอกหรือ ไฉนจึงรุนแรงได้เพียงนี้ ข้าเคยได้ยินโรคลมชัก ประชาชนทั่วไปก็เป็นกันแยะ” โรคลมชักนี้ถึงแม้ไม่เจอบ่อยนัก แต่ว่าประชาชนทั่วไปเองก็ได้ยินเป็นปกติ ไม่น่าจะสาหัสได้ขนาดนี้กระมัง หย้วนพ่านเอ่ยอธิบาย “เรียนกุ้ยไท่เฟย ยามที่โรคลมชักกำเริบหากว่าจัดการได้ดี ย่อมไร้อุปสรรคเป็นธรรมดา แต่ถ้าหากจัดการไม่ดี มักจะมีอาการพ่วงต่อมากมาย และในความเป็นจริง ผู้ป่วยสามัญจำนวนมากที่โรคลมชักกำเริบ มีบางส่วนที่ตายลงเพราะหายใจไม่ออก ส่วนรัชทายาทสาหัสขนาดนี้นั้น เป็นเพราะว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ กำเริบติดต่อกัน...” เขาชะงักลงเล็กน้อย นึกถึงคำของหลีโม่ขึ้นมา ก่อนกล่าว “ยิ่งยามที่อ๋องเหลียงกำเริบ มีเสมหะหรือไม่ก็เลือดไหลเข้าสู่หลอดลม เข้าไปในส่วนปอดทำให้เกิดอาการติดเชื้อในปอด ไม่อาจหายใจได้ จึงร้ายแรงได้ขนาดนี้” ด้านนอกตำหนัก หลีโม่เฝ้าอยู่ข้างกายอ๋องเหลียง นวดเท้าทั้งสองแก่เขา ยามที่โรคลมชักกำเริบ ร่างกายจะแน่นขนัด กล้ามเนื้อไม่ได้รับการผ่อนคลาย ผ่านการนวดคลึงอย่างเหมาะสม ก็สามารถผละคลายความไม่สบายนี้ได้ การหายใจของอ๋องเหลียงยังคงติดขัด หลีโม่นึกอยากจะดึงเข็มออกมาจากกล่องเพื่อฝังเข็มให้เขาอยู่หลายครั้ง ทว่าติดอยู่ที่ซือถูเย้นไม่ยังเห็นด้วย ดังนั้นนางจึงไม่กล้าเร่งรัด อย่างไรเสีย ปัจจุบันนี้มีเพียงซือถูเย้นที่สนับสนุนนาง นางแอบเหลือบมองซือถูเย้นแวบหนึ่ง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ถ้ายซือที่อยู่ด้านนอกศาลา ด้านข้างของเขาดูเย็นชายิ่งนัก โครงเส้นชัดเจน มองเห็นท่าทีไม่ชัด แต่ว่าเขาไม่ได้มองแม้แต่ทวารตำหนัก หลีโม่คาดเดา เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าไทเฮากับฮองเฮาอภิปรายอะไรกันอยู่ด้านใน เนื่องจาก เขาได้ตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และการตัดสินใจครั้งนี้ ไม่อาจแปรเปลี่ยนได้ “เสี้ยหลีโม่!” อ๋องเหลียงสูดลมหายใจ เรียกนางออกมา เสี้ยหลีโม่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพัดเอื่อยๆ อยู่ด้านข้างเขา “รัชทายาท ข้าน้อยอยู่นี่” “เจ้า...” อ๋องเหลียงกลืนเสมหะ นึกอยากผงกศีรษะขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่ว่า ลำคอถูกยึดไว้ เขาไร้หนทางผงกขึ้น ทำได้เพียงใช้มือสองข้างกำขอบเตียงแน่น บังคับขยับศีรษะเบาๆ “เจ้าล่มงานแต่ง เป็นเพราะว่า...รังเกียจข้าใช่หรือไม่” หลีโม่ส่ายหน้า “ไม่ ข้าน้อยไม่รู้จักท่านอ๋อง จะรังเกียจท่านอ๋องได้อย่างไรเล่า ข้าน้อยเพียงแต่ไม่สบายใจที่ถูกคนหลอกใช้” นางสามารถพูดตรงๆ กับอ๋องเหลียงได้ เพราะว่าเรื่องการถอนงานแต่งเกิดขึ้นแล้ว นางแก้ต่างมากเกินไป ก็รังแต่จะทำให้คนรู้สึกว่านางเสแสร้งเท่านั้น โดยเฉพาะอ๋องซื่อเจิ้งยังฟังอยู่ด้านข้าง ศีรษะของอ๋องเหลียงจมลงไป ใบหน้าซีดเซียวค่อยๆ ผุดรอยยิ้มหนึ่งขึ้น เป็นรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ “เช่นนั้นก็ดี ข้าอภัยให้เจ้า” หลีโม่มองเขาอย่างงงงวย เขาบอกว่าอภัยให้นาง? เรื่องถอนงานแต่งนี้เล่นงานเขารุนแรงขนาดนี้ ทำให้เขาเสียหน้าอย่างหนัก เขาบอกว่าอภัยให้นาง? อ๋องเหลียงที่ดุดัน บ้าบิ่น โหดร้ายตามตำนานกล่าวจะสามารถพูดถ้อยคำเช่นนี้ได้? “ข้าจะตายหรือไม่” อ๋องเหลียงเอ่ยถามอีก แต่ว่าในดวงตาราวกับว่าไม่ได้มีความใส่ใจเท่าไรนัก ตอนที่อ๋องเหลียงเอ่ยประโยคนี้นั้น ซือถูเย้นเองก็หันหน้ามากลับมามอง เขาจ้องหลีโม่ ปรายตามีอารมณ์อันค่อนข้างซับซ้อน หลีโม่เอ่ยจริงจัง “ในฐานะหมอของท่าน ข้าจะพยายามให้ถึงที่สุด ใช้ทุกวิถีทางทำให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไป” “ดี!” อ๋องเหลียงไม่ถามอีก เขาไม่ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อหลีโม่ ทำเพียงราวกับเป็นเหมือนคนที่ใกล้ตายทุกๆ คนแบบนั้น ล้วนโอบกอดความหวังแห่งชีวิต ต่อให้ความหวังนี้จะอยู่ในแบบตอนที่เขาเองก็รู้ดี ว่าไม่อาจเป็นไปได้ ดวงตาของเขาค่อยๆ ปิดลง เขากล่าวประโยคนี้อย่างงึมงำ น้ำเสียงผะแผ่ว แทบจะไม่ได้ยิน แต่ว่าหลีโม่ได้ยินแล้ว ได้ยินประโยคนี้ สะเทือนไปถึงขั้วหัวใจอย่างป้องกันไม่ทัน กระแทกไปยังส่วนที่เจ็บร้าวที่สุดในหัวใจนาง นางแทบจะกลั้นหยาดน้ำตาไม่อยู่ นางได้ยินประโยคนั้นชัดเจนดี เขาบอกว่า “อยู่ก็ดี ตายก็ดี ไม่มีสักคนใส่ใจ ชีวิตเช่นนี้ เป็นหรือตาย ก็เหมือนกัน” อดีตชาติโลกปัจจุบันของหลีโม่ ล้วนเดียวดายเพียงนี้ ชาติก่อนเป็นเช่นไร ชาตินี้ก็ไม่แพ้กัน มีผู้ใดใส่ใจว่านางจะเป็นตายหรือไม่ นางอดกลั้นน้ำตาไว้ กล่าวเสียงแผ่ว “มีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ มีชีวิตอยู่ ทุกอย่างล้วนมีหวัง ตายไปแล้ว ทุกสิ่งล้วนสูญสิ้น” อ๋องเหลียงไม่ได้กล่าวคำ แต่ว่าท่าทางนิ่งสงบ เสมือนว่าได้ตระเตรียมต้อนรับการมาเยือนของทูตแห่งความตายเป็นที่เรียบร้อย ลมหายใจของเขายังคงขัดเคือง ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายสูดลมหายใจหนึ่งเข้ามา แต่ว่าลมหายใจนี้ไร้ทางสูดจนสุด ดังนั้น สีหน้าของเขาค่อยๆ กลายเป็นสีม่วงขึ้นมา ทวารตำหนักยืนยาวเปิดออก ฮองเฮาและคนอื่นๆ เดินออกมา ไทเฮาเดินเข้ามา มองสำรวจซือถูเย้นเบาๆ แวบหนึ่ง และตรัสอย่างผิดหวัง “ภายในใจของข้า เจ้านั้นฉลาดหลักแหลม ทว่าครั้งนี้เจ้าทำการตัดสินใจที่ทำให้ผู้คนผิดหวัง การตัดสินใจนี้ ภายหน้าเจ้าจะเสียใจตราบจนสุดท้ายของชีวิต และการตัดสินใจครั้งนี้ยังต้องมีความรับผิดชอบ เจ้าก็จำเป็นต้องรับผิดชอบ” ซือถูเย้นไม่เหลือบตาขึ้น ก่อนกล่าวเบาๆ “เสด็จแม่ ทุกๆ คนล้วนต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจตนเองทั้งสิ้น ในเมื่อข้าตัดสินให้เสี้ยหลีโม่รักษาอาฮ่าว ต่อให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ข้าล้วนต้องรับผิดชอบ” ไทเฮามองเขาอย่างโทมนัส ในดวงตามีหยาดน้ำกลิ้งไหวอยู่ “แต่น่าเสียดาย การรับผิดชอบของเจ้า กลับทำร้ายให้หลายชายของข้าได้รับความทุกข์ทรมานมากมาย ข้าเพียงแต่ขอร้องเจ้า จนถึงวินาทีสุดท้ายนี้ ให้เขาจากไปอย่างสงบเถิด อย่าได้ทรมานเขาเลย” ซือถูเย้นไม่ได้เอ่ยคำ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความหดหู่ใจ คำพูดของไทเฮา ทำให้ในใจของเขาผุดก่อความหวาดตระหนกขึ้น เขามองไปทางหลีโม่ด้วยจิตไร้สำนึก แววตาของหลีโม่มีความมาดมั่น หลีโม่ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงทำเช่นนี้ลงไป แต่ว่า แต่ว่า บุรุษผู้นั้นที่เดิมทีแน่วแน่ ไม่ควรมีท่าทีเช่นนี้ นางจำต้องทำอย่างสุดความสามารถแน่นอน ทุกอย่างที่หลีโม่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าอยู่นอกวัง ต่างก็เริ่มสูญเสียเส้นทาง เรื่องราวมากมายไม่ได้เป็นดั่งที่นางคิด สิ่งต่างๆ ไม่แน่นอน กล่าวโดยสังเขป พอเมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่ใช่ว่ามนุษย์จะสามารถควบคุมได้ พระเจ้าเป็นผู้กำหนดเองทั้งสิ้น สิ่งที่นางสามารถทำได้ ก็คือทำใจยอมรับสิ่งต่างๆ ไทเฮาและกุ้ยไท่เฟยจากไปแล้ว ฮองเฮาเดินมาเบื้องหน้าทีละก้าว นั่งลงหน้าแท่นนอนของอ๋องเหลียง ยื่นมือไปลูบใบหน้าของอ๋องเหลียง เห็นว่าเขาหายใจลำบากเช่นนี้ หัวใจของนางก็แทบแหลกสลาย ศีรษะที่ก่อนหน้าที่หยิ่งทระนง ก็ค่อยๆ ลดลงอย่างแช่มช้า นางมองหลีโม่ ในดวงตามีแรงขับเคลื่อนที่ไม่สนใจสิ่งใด “ใช้วิธีทั้งหมดของเจ้า ช่วยให้เขามีชีวิตรอด หากช่วยไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ให้เขาทรมานเพียงนี้” หลีโม่พยักหน้า “พระนางฮองเฮาโปรดวางพระทัย ข้าน้อยทำผิดต่อของรัชทายาท ข้าน้อยจะพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อช่วยรัชทายาทกลับมาให้ได้” อ๋องเหลียงลืมตาขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อย มองทางหลีโม่ เรียวคิ้วค่อยๆ เลิกขึ้น เขากล่าวอย่างลำบาก “เสี้ยหลีโม่ เจ้าไม่ได้ทำผิดต่อข้า เดิมทีคนที่ข้าต้องแต่งงานด้วยไม่ใช่เจ้า ดึงเจ้าลงมาเอี่ยวอย่างไม่เจตนา ข้าควรจะเอ่ยขอโทษเจ้า” กล่าวจบ เขาก็สูดลมหายใจหลายครั้ง มองทางฮองเฮา “เสด็จแม่ ชั่วชีวิตนี้ลูกไม่เคยวิงวอนอะไรท่าน หากว่าลูกตายไป...โปรดรับปากลูกสองเรื่อง” เขาเอ่ยคำอย่างยากเข็ญ ก็เหมือนกับคนที่เผชิญหน้าต่อความตายแล้วใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายกล่าว เว้นวรรคเป็นระยะๆ ราวกับหายใจออกมาก็ไม่อาจหายใจเข้าไปได้อีกอย่างไรอย่างนั้น ฮองเฮาได้ยินถึงตรงนี้ สีพักตร์ก็เริ่มซีดขาว นางต่อต้านความโศกเศร้า ลูบไล้ใบหน้าของอ๋องเหลียง “อย่าว่าแต่สองเรื่องเลย ต่อให้เป็นร้อยเรื่อง แม่ก็รับปากเจ้า แต่ว่าตอนนี้เจ้าไม่ต้องพูดมากความนัก พักผ่อนสักหน่อยเถิด” อ๋องเหลียงยิ้มอย่างซีดเซียว “เรื่องแรก รับปากลูก ว่าจะไม่ปวดพระทัยเกินไป เรื่องที่สอง อย่าได้โกรธเคืองเสี้ยหลีโม่ นางไม่ได้ทำอันใดผิด ลูกและนางล้วนไม่ได้ตั้งใจทั้งนั้น”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 33 คำสั่งเสียของอ๋องเหลียง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A