ตอนที่ 35 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 35 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น
ต๭นที่ 35 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ความลุ่มลึกของหลีโม่ ทำให้หมอหลวงที่อยู่ในสถานการณ์เองต่างก็ตึงเครียดขึ้นมา เมื่อครู่เห็นนางฝังเข็ม ล้วนชะงักลมหายใจ ถึงแม้ไม่เชื่อว่านางเป็นลูกหลานของชูเซี่ย แต่ทักษะการลงเข็มของนาง ล้วนดีกว่าพวกเขาแต่ละคนใดๆ ทั้งสิ้น ซือถูเย้นเดินเข้ามา ยื่นมือไปบีบหัวไหล่ของนาง พลางเอ่ย “ทำไปเถิด เกิดเรื่องอันใดขึ้น มีข้าเป็นคนรับ” ในทรวงของหลีมีเครียดขนัดเล็กน้อย นางรู้ว่าอ๋องซื่อเจิ้งสามารถพูดประโยคนี้ออกมาได้ ก็มีความเชื่อมั่นและสนับสนุนนางเต็มกำลังเรียบร้อยแล้ว หากว่าวันนี้ไม่มีเขาหนุนอยู่ เกรงว่าตนเองจะถูกขับไล่ออกจากวังหรือไม่ก็ส่งไปที่ห้องสอบตั้งนานแล้ว นางหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง บีบเข็มแท่งยาว และเลือกจุดฝังเบาๆ อันที่จริงทักษะแม่นยำในการเลือกจุดนั้นนางมี ทั้งยังคุ้นชินนัก แต่ว่า เพื่อความแน่ใจไร้ข้อผิดพลาด นางยังต้องเลือกอีกหน่อย “มีความเจ็บปวดอยู่บ้าง รัชทายาทโปรดอดกลั้น” หลีโม่เอ่ยกำชับเสียงแผ่ว อ๋องเหลียงหายใจรวยรินแล้ว จำต้องใช้เรี่ยวแรงอย่างมากจึงสามารถสูดลมหายใจเข้าได้ ดวงตาค่อนข้างแข็งทื่อ หากตั้งใจมอง ก็จะเห็นว่ารูม่านตาขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย หลีโม่รู้ว่าออกซิเจนในอากาศไม่เพียงพอสำหรับเขา หากปราศจากออกซิเจน อาการหายใจของเขาก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ หากนับจากตรงนี้ก็ค่อนข้างดีแล้ว มิฉะนั้นเขาเองก็ไม่อาจแข็งขืนได้นานขนาดนี้ อ๋องเหลียงไร้หนทางปั้นคำเปล่งออกมา สูดลมหายใจเฮือกใจ แต่ว่าหายใจเข้าไปยังไม่มาก ความสามารถของปอดได้รับการทำร้ายเรียบร้อยแล้ว เขามองหลีโม่ มอบแววตาให้กำลังใจแก่นาง เข็มยาวฝังลงไป หลีโม่ขยับกำไลสะกดจิต หมุนรอบสี่ทิศของเข็ม หมุนวนอย่างไม่หยุดหย่อน เริ่มจะปล่อยพลังงาน เริ่มอ่อนนุ่มลง แต่ว่าอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความรู้สึกของไฟฟ้าสถิตเพิ่มทวี แม้แต่ตัวนางเองยังสัมผัสได้ จุดฝังเข็มเริ่มบวมขึ้นมา หลีโม่ให้ซือถูเย้นเข้ามาช่วย บีบรอบทั้งสี่ด้านของจุดฝังเข็ม นิ้วมือของซือถูเย้นกดลง ปลายนิ้วมีความรู้สึกถึงความด้านชา เขาสนองหลีโม่แวบหนึ่ง แต่ไม่ส่งเสียง หลีโม่สูดหายใจลึก กล่าวกับซือถูเย้น “ท่านอ๋อง ข้าจะถอนเข็มแล้ว ขณะเดียวกันที่ข้าถอนเข็ม ท่านใช้แรงบีบรอบด้าน มีแรงเท่าไรใช้ให้หมด” กำไลสะกดจิตได้นำเอาของเหลวสะสมภายในปอดกองรวมกับยังใต้เข็มแล้ว ขอเพียงถอนเข็มขึ้น ใช้แรงกดบีบ ของเหลวสะสมก็จะพุ่งกระเซ็นออกมา “ได้!” ซือถูเย้นพยักหน้า “กำลังภายในได้หรือไม่” หลีโม่พยักหน้า “ได้ ดีที่สุดคือใช้กำลังภายใน” “เริ่มเลยเถิด” ซือถูเย้นกล่าว ไท่จื่อจ้องอยู่ด้านข้าง ก็เสมือนว่าชมอุปรากรจีนขบขัน ท่าทางเหยียดหยามเต็มทน หมอหลวงเองก็เฝ้าอยู่โดยรอบ หย้วนพ่านยืนตรงอยู่หลังกายของหลีโม่ จ้องมองอย่างแน่นิ่ง เขาไม่รู้เลยจริงๆ ว่าหลีโม่กว้านขายยาอะไร สองนิ้วของหลีโม่บีบเข็ม ก่อนกล่าว “ดึง!” เข็มถูกดึงด้วยความรวดเร็ว ซือถูเย้นทำตามคำสั่งของนาง ใช้กำลังภายในบีบกด เห็นเพียงแต่ฟองสองอันผุดออกมาจากปากเข็มอันเล็กๆ หลีโม่ผลักแรงดันบริเวณสี่ทิศปากเข็มโดยใช้ความเร็วจากกำไลสะกดจิตอีกครั้ง ฟองผุดออกมาอย่างต่อเนื่อง ติดต่อกันห้าหกอัน จากนั้นก็ปราศจากการเคลื่อนไหวแล้ว “หยุดได้!” หลีโม่ดึงมือของซือถูเย้นขึ้น จากนั้นก็ฝังเข็มเข้าที่โหกกลางทรวงอีกครั้งด้วยความว่องไว และฝังเข็มจากเยื้อหุ้มหัวใจแปดแท่งอีกครั้ง แช่มช้า เห็นเพียงว่าการหายใจของอ๋องเหลียงไม่ได้เร็วนัก เริ่มจะผ่อนคลายและมีสัญญาณเล็กน้อย เข็มที่เยื้อหุ้มหัวใจนั้นเสียบอยู่นานมาก แทบจะราวๆ ครึ่งชั่วยาม จากนั้น หลีโม่ก็ดึงเข็มขึ้น มุมปากของอ๋องเหลียงค่อยๆ มีเลือดไหลออกมา “สวรรค์ รัชทายาทกระอักเลือดแล้ว” หมอหลวงท่านหนึ่งร้องอย่างตกใจออกมา หลีโม่ดึงเข็มขึ้นมาเก็บ ปรนลมหายใจหนึ่งเฮือก กล่าวกับซือถูเย้น “ท่านอ๋อง ผ่อนคลายลงแล้วชั่วคราว แต่ว่าการระบายยังไม่ถึงที่สุด วันพรุ่งวันมะรืนยังต้องทำต่อไป” “เช่นนั้นเขาพ้นระยะอันตรายแล้ว?” ซือถูเย้นเอ่ยถาม “หลีโม่ส่ายหน้า “ไม่ จะต้องควบคุมปอดบวมเอาไว้อย่างถึงที่สุด จึงจะถือว่าพ้นขีดอันตราย” หย้วนพ่านเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “คุณหนูใหญ่เสี้ย ข้าไม่ใคร่เข้าใจนัก เหตุใดท่านจึงฝังเข็มบริเวณเยื้อหุ้มหัวใจทั้งก่อนหลังตั้งสองครั้ง” หลีโม่กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “ไต้เท้า ครั้งแรกนั้นปิดผนึก คือการผนึกโลหิตส่วนใหญ่เอาไว้ เช่นนั้นตอนที่ข้าทำการระบาย จึงไม่อาจมีเลือดไหลปนออกมา ส่วนครั้งที่สองคือกรีดจุด ก็คือการปลดปล่อย หลังจากโลหิตก่อนหน้าที่ถูกปิดเอาไว้ปลดปล่อยออกมา จะท่วมปนเข้าไปเพิ่มในความจุปอด ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตเพื่อนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ใช้วิธีการนี้ ออกซิเจนจะถูกส่งผ่านจุดฝังเข็มเข้าสู่ปอดของอ๋องเหลียง ผลลัพธ์ยังต้องเฝ้ารอการสูดออกซิเจน หลังจากนี้ในอีกสิบสองชั่วยาม เขาก็จะสามารถดีขึ้น” หย้วนพ่านไม่ใคร่จะเชื่อนัก “ก็หมายความว่า สถานการณ์ของรัชทายาทดีมากแล้ว?” หลีโม่กล่าว “หย้วนพ่านสามารถมาวัดชีพจรด้านหน้า” หย้วนพ่านเคร่งขรึมอยู่เล็กน้อยในใจยังคงไม่ค่อยจะเชื่อ ถึงแม้เห็นว่าสถานการณ์ของรัชทายาทอ๋องเหลียงดูเหมือนว่าเริ่มจะดีขึ้นแล้ว แต่ยังมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจย้อนกลับไปเป็นแบบเดิม เขาก้าวไปด้านหน้าเพื่อวัดชีพจรแก่อ๋องเหลียง และพบว่าชีพจรของอ๋องเหลียงเต้นอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ไม่ได้เหนียวฝืดอีกต่อไป เขาส่ายหน้าพลางอุทานกล่าว “ช่างมหัศจรรย์เกินไปแล้ว” หลีโม่ได้ยินประโยคนี้ ในอกกลับไม่ได้เบิกบานใจ แต่มีแววเศร้าโศกนิดๆ อันที่จริงหากเป็นยุคปัจจุบัน อาการป่วยประเภทนี้ไม่ร้ายแรงมาก รักษาไม่กี่วันก็หายดีแล้วทว่าอยู่ที่นี่ แม้แต่หมอหลวงก็ยังทำอะไรไม่ถูก การแพทย์ในยุคนี้ มีความล้าหลังมากเท่าใดกันแน่ ในประวัติศาสตร์ที่นางรับรู้ทั้งหมดนั้น แพทย์แผนจีนเคยมีช่วงเวลารุ่งเรือง ก็มีหมอเลื่องชื่อมากมายปรากฏ แน่นอนแล้ว หมอที่มีชื่อเสียงเป็นเพียงจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ทักษะทางการแพทย์ไม่โดดเด่น ขาดการสื่อสารและสืบทอด วิธีการต่างๆ นานาล้วนถูกทอดทิ้งท่ามกลางการผลัดเปลี่ยนช่วงเวลา ขณะนี้หลีโม่นึกขึ้นได้ หากว่านางสามารถมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ อยู่อย่างราบรื่น ทักษะการแพทย์ที่นางมี จะถ่ายทอดให้แก่คนในราชวงศ์นี้ หวังว่าพวกเขาจะสามารถนำพาแพทย์แผนจีนไปสู่ยุครุ่งเรือง อย่าได้เก็บงำไว้กับตนเอง จะกล่าวถึงการรบราของแต่ละสำนักอะไร หมอควรทำหน้าที่ของหมอโดยแท้จริง ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าตนเองคิดเช่นนี้ช่างฟุ่มเฟือยนัก ตนเองล้วนยังไม่รู้ว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปนานเท่าใด ดันคิดปัญหาเรื่องสืบทอดแพทย์แผนจีนเสียแล้ว หลีโม่ถูกทิ้งไว้ในวัง และอาศัยอยู่ในตำหนักยืนยาวชั่วคราว ฮองเฮาได้ยินว่าสถานการณ์ของอ๋องเหลียงเริ่มดีขึ้นแล้ว จึงกระวีกระวาดออกมา อิริยาบถของอ๋องเหลียงตื่นตัวเป็นอย่างมาก หายใจอย่างผ่อนคลายขึ้นโข สามารถกล่าวได้หลายประโยค น้ำตาของฮองเฮาร่วงรินลงมาเป็นสาย แววตาที่มองยังหลีโม่ก็อ่อนโยนขึ้นหลายขนัด นางรู้ว่าหลีโม่จะต้องพำนักอยู่ในวัง จึงตรัสสั่งกับหยางมามาด้วยองค์เอง “เจ้านำข้อความไปบอกจวนรัฐที บอกว่าข้าโปรดปรานหลีโม่ จะให้นางพำนักอยู่ในวังเป็นการชั่วคราว ทั้งยังเก็บอาภรณ์สองสามตัวมาให้นางผลัดเปลี่ยน แล้วก็นำคนที่รับใช้นางเข้ามาด้วย อย่างไรเสียคนในวังก็ไม่คุ้นชิน หลีกเลี่ยงไม่ให้นางไม่คุ้นเคย อาจจะมีผลกระทบได้” หยางมามากล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปทำดังนี้” นางส่งสายตารักใคร่เอ็นดูให้แก่หลีโม่แวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไป ในใจของหลีโม่ผ่อนคลายลงอย่างมาก แต่ว่า สามวันต่อจากนี้ ยังต้องรบราฆ่าฟันอยู่ ไท่จื่อเห็นว่าอ๋องเหลียงดีขึ้น ก็จากไป ก่อนจะออกไป ยังมองหลีโม่ด้วยแววตาคุกคาม หลังจากหลีโม่ป้อนยาแก่อ๋องเหลียงแล้ว ในที่สุดก็สามารถนั่งลงพักผ่อนได้ หลังจากที่ผ่อนคลายลงมา ก็รู้สึกว่าปากแผลบนเรือนกายเริ่มเจ็บปวดขึ้น ตัวคนเองก็เริ่มมึนๆ ซือถูเย้นเห็นว่าสีหน้านางซีดขาว จึงกล่าว “ถือเอาสถานการณ์สงบในปัจจุบันนี้ เจ้าก็เข้าไปนอนพักก่อนสักหน่อยเถิด ตอนดึกๆ ค่อยออกมาอีก” ฮองเฮารู้ว่านางต้องพิษ ฟังคำพูดของซือถูเย้น ก่อนตรัสอย่างรีบร้อน “ใช่ เจ้าเข้าไปนอนพักก่อนเสีย ข้าจะสั่งให้หมอหลวงต้มซุปบัวหิมะแก่เจ้า เพื่อล้างพิษ” หลีโม่กล่าวอย่างรู้คุณ “ข้าน้อยขอบพระทัยพระนางฮองเฮา” ฮองเฮาโบกพระหัตถ์ “ไปเถิด” ภายใต้การนำทางของนางกำนัล นางเข้าสู่ห้องโถงหลักของตำหนักยืนยาว ฮองเฮาเตรียมนางกำนัลสองคนให้แก่นาง เพื่อมาปรนนิบัติรับใช้นาง -โปรดติดตามตอนต่อไป 02/12/2019-
已经是最新一章了
加载中