ตอนที่ 37 เย็นเอ๋อร์เข้าวัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 37 เย็นเอ๋อร์เข้าวัง
ต๭นที่ 37 เย็นเอ๋อร์เข้าวัง สีหน้าของหลิงหลงฮูหยินซีดขาว แต่ว่าคนใต้บัญชาก็ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางเองก็ไร้หนทางพูดอะไรอีกต่อหน้าหยางมามา ทำได้เพียงยืนอยู่ด้านข้าง รออย่างระส่ำระสาย เย็นเอ๋อร์ถูกสาวใช้สองคนหามปีกพยุงขึ้น นางแทบจะไร้หนทางยืนตัวตรง คราบเลือดเต็มผมเผ้าและใบหน้า อาภรณ์บนเรือนร่างก็ขาดวิ่นหลายแห่ง เผยรอยหวายชัด เพียงนึกก็รู้แล้ว เด็กสาวปวกเปียกคนนี้ แบกรับอะไรไว้เท่าใด หยางมามาเองเห็นคนน่าเวทนาจนชิน แต่กลับอดปั้นหน้าเย็นชาไม่ได้ “ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ทำผิดอะไรกันแน่ ถึงถูกโบยอย่างสาหัสเช่นนี้” ฮูหยินเฒ่าคิดไม่ถึงว่าจะเห็นเย็นเอ๋อร์ในสภาพเช่นนี้ นางจ้องหลิงหลงฮูหยินอย่างดุดันแวบหนึ่ง พลางกล่าวเสียงสนั่น “เหตุอันใดขึ้น เคยบอกเจ้าไปตั้งกี่ครั้ง คนใช้ทำผิด ก็มิอาจโบยอย่างสาหัสสากรรจ์ได้” หลิงหลงฮูหยินกล่าวงึมงำ “ท่านแม่โปรดอย่าเคือง เด็กคนนี้ขโมยของเป็นตายก็ไม่ยอมรับ สะใภ้จึงสั่งให้เสี้ยฉวนไปไต่ถาม ผู้ใดจะรู้ว่าเสี้ยฉวนจะลงมือหนักเพียงนี้” หยางมามาจะรู้ได้ที่ใดว่านี่คือคำแก้ต่างของหลิงหลงฮูหยิน แต่ว่านี่คือเรื่องภายในครอบครัว นางข้าหลวงในวังคนหนึ่งก็ยุ่งไม่ได้ แต่ว่า เด็กคนนี้ถึงแม่ไม่สามารถปรนนิบัติได้ แต่ก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อไปได้ มิฉะนั้นจะถูกตีตายหายลับไปเวลาใดก็ไร้คนรับรู้ “จัดแจงสักหน่อย แล้วก็ขึ้นรถม้าเถิด” หยางมามาไม่ให้เย็นเอ๋อร์กลับไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ หลังจากเข้าวังแล้วค่อยวางแผนทุกอย่างอีกที “มามา อันที่จริงถ้าหากพระนางฮองเฮานึกอยากหาคนเข้าวังไปปรนนิบัติหลีโม่ ไม่สู้ตระเตรียมการอื่นกระมัง ถึงอย่างไรคนจำนวนมากในวังล้วนรับรู้นิสัยของหลีโม่ รู้ดีว่าจะปรนนิบัตินางอย่างไรดี” หลิงหลงฮูหยินกล่าว นางย่อมไม่ได้แนะนำอย่างจริงใจเป็นธรรมดา เพียงแต่นึกอยากลองใจพระนางฮองเฮาว่ามารับเย็นเอ่อร์เข้าวัง เพราะการปรนนิบัติหรือว่ามีแผนอื่นกันแน่ ฮูหยินเฒ่าเองก็มองหยางมามา เฝ้ารอการตอบกลับของนาง หยางมามากล่าวแผ่วเบา “ไม่ต้องแล้ว ให้นางนี่แหละ” นางเดินมายังเบื้องหน้าของเย็นเอ๋อรื ยื่นมือไปเชยปลายคางของเย็นเอ๋อร์ขึ้น รอยเลือดบนใบหน้านี้ หลังจากเข้าวังแล้วจะต้องรักษาโดยด่วน “เจ้าชื่ออะไร” หยางมามาเอ่ยถาม เย็นเอ๋อร์พยายามเงยกระหม่อมอันหนักอึ้งขึ้น กล่าวตอบคำถาม “ข้าน้อย...ชื่อเย็นเอ๋อร์” “อืม เป็นคุณหนูของเจ้าให้ข้ามาพาเจ้าเข้าวังไปปรนนิบัติ รู้หรือไม่” ดวงตาเย็นเอ๋อร์วาววับ “คุณหนูใหญ่...” “นางไม่เป็นไร” หยางมามากล่าวแผ่วเบา “เช่นนั้นก็ดี!” น้ำตาและเลือดระอุของเย็นเอ๋อร์ร่วงไหล ใบหน้าน่าเวทนากลับกำลังยิ้ม หยางมามามองอย่างปวดใจ รับอาภรณ์มาแล้วเดินไป หลังจากที่หยางมามาและเย็นเอ๋อร์ไปแล้ว หลิงหลงฮูหยินเห็นได้ชัดว่าไม่สงบนิ่ง “หากพระนางฮองเฮาเห็นว่าพวกเราปฏิบัติต่อคนรับใช้อย่างเลือดเย็นเช่นนี้ จะมีความคิดอันใดหรือไม่” คาดโทษนั้นน่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าในใจมีความคิดขึ้น คิดว่าจวนรัญของพวกเขาขาดเมตตาธรรม กลัวว่าจะถ่วงเรื่องงานแต่งของหว่านเอ๋อร์กับไท่จื่อ ฮูหยินเฒ่ามองอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงเยี่ยงนี้? แค่ขี้ข้าคนเดียวจะนับว่าเป็นอำนาจอะไรได้” เดิมทีหลิงหลงฮูหยินก็โกรธที่นางมักจะพูดจาเย็นชา ปัจจุบันในทรวงนั้นน้อยใจ ได้ยินถ้อยคำสาดทอของนาง ลมหายใจก็จุกอยู่ที่ปากช่องคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียจริงๆ “อำนาจของคนแก่อย่างท่าน ก็ไม่ใช่อาศัยจากหลานสาวของตนเองหรอกหรือ” ฮูหยินเฒ่านิ่งงัน จากนั้นก็มุ่นหัวคิ้วขึ้น โกรธยกใหญ่ สะบัดมือตบเข้าที่หน้าของหลิงหลงฮูหยินเต็มแรง และกล่าวอย่างโกรธเคือง “นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร ทำไมข้าต้องอาศัยหลานสาวของตัวเอง ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ายุแยงออกมา? หากไม่ใช่เพราะหว่านเอ๋อร์จะแต่งกับอ๋องเหลียงคนพิการนั่น คนแก่อย่างข้าจะกังวลใจเพียงนี้หรือ” เสี้ยเฉิงเสี้ยงเห็นว่าสนมรักถูกตบ ก็ปวดใจยิ่งนัก รีบออกไปกล่าวประนีประนอม “ท่านแม่อย่างได้โกรธเลย หลิงหลงยังหนุ่มไม่รู้เรื่อง ท่านอย่าได้ถือสานางเช่นนี้เลย” ความโกรธของฮูหยินเฒ่ายังไม่หาย “หากข้าถือสานางเช่นนี้ นางคงถูกขับออกจากประตูไปนานแล้ว ข้าแค่ท่องเอาไว้ว่านางจะคลอดบุตรสาวบุตรชายให้แต่ตระกูลเสี้ยของพวกเราได้ มิเช่นนั้นผู้หญิงที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ จะได้รับความดูแลจากข้าตั้งนานหลายปีได้อย่างไรกัน” “ใช่ ใช่” เสี้ยเฉิงเสี้ยงดึงหลิงหลงฮูหยินออกมา ทำทีเป็นกล่าวขอโพย “ยังไม่รีบขออภัยท่านแม่อีก?” ในอกของหลิงหลงฮูหยินบังเกิดความเกลียด แต่ยังคงต้องยอมนางอย่างจนปัญญาชั่วคราว ในใจแอบสาบส่ง ไฉนของคร่ำคร่านี้จึงไม่รีบตายๆ ไปเสียที ตายไปแล้วจวนรัฐนี่ก็จะเป็นใต้หล้าของนางแล้ว “ท่านแม่ อย่าได้เคืองขุ่น ล้วนเป็นสะใภ้ที่ไม่รู้เดียงสา” หลิงหลงฮูหยินกัดฟันเอ่ยขอโทษจนแทบหัก ฮูหยินเฒ่าแค่นเสียง จ้องนางอย่างเย็นเยียบ “อย่าปากว่าตาขยิบ คนแก่อย่างข้ารู้ว่าเจ้าสองหน้ามากนัก แต่ว่าเอาเถิด หากถือสาเจ้าเช่นนี้ก็เห็นได้ชัดว่าข้าไร้เมตตา” เสี้ยเฉิงเสี้ยงเห็นว่าฮูหยินเฒ่ายิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยด่วน “ท่านแม่ ท่านว่าพระนางฮองเฮาหมายความว่าอย่างไรกันแน่” ฮูหยินเฒ่าสะสางสภาพจิตใจ นึกอยากครู่หนึ่ง “นับแต่พระนางหมุยเฟยส่งข่าวออกมา การฝังทั้งเป็นนั้นน่าจะมีความเป็นไปได้ แต่ว่าฮองเฮากลับสั่งคนให้มานำเย็นเอ๋อร์เข้าวัง ซ้ำยังเอาอาภรณ์ไปด้วย นี่ก็มีกลิ่นตุๆ แล้ว” “หรือว่า พระนางฮองเฮาจะโปรดปรานนางมาก อยากให้นางพำนักอยู่ในวังสักสองสามวันจริงๆ” หลิงหลงฮูหยินคาดเดาอย่างตระหนก ฮูหยินเฒ่ามองอย่างเย็นชา “มีเพียงคนสมองหมูเช่นเจ้าเท่านั้นจะที่คิดได้เช่นนี้ ตอนนี้อ๋องเหลียงป่วยหนัก เป็นตอนที่พระนางฮองเฮากำลังปวดพระทัย จู่ๆ จะชื่นชอบคนที่เกลียดนักหนาคนหนึ่งขึ้นมาได้อย่างไร สาเหตุที่อ๋องเหลียงป่วยหนักก็ยังไม่ชัดแจ้ง หากว่าเพราะการถอนงานแต่งเท่านั้น ความคิดของฮองเฮาที่อยากจะฆ่านางก็ย่อมมีแล้ว ยังจะชื่นชอบหรือ ช่างโง่เง่าหาใดเปรียบ” หลิงหลงฮูหยินช่างชิงชังคนเฒ่าคนนี้แล้วเสียจริงๆ ไม่พูดว่านางไร้การอบรมก็บอกว่านางโง่เขลา คำพูดที่พ่นออกมาจากปากนางตั้งมากมาย มีสักกี่ประโยคที่น่าฟัง เสี้ยเฉิงเสี้ยงคิดสักพัก ก่อนจะตะโกนลั่น “เสี้ยฉวน” เสี้ยฉวนเข้ามาจากด้านนอกประตู ก่อนกล่าว “ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยู่นี่” “เจ้าไปสืบที่ประตูวังเสียหน่อย ดูว่าจะล่วงรู้อะไรจากปากขององครักษ์ในวังหรือไม่” เสี้ยฉวนกล่าว “ท่านอ๋อง ข้าน้อยมีพี่น้องคนที่รู้จักกับองครักษ์หน้าประตูวังของฮองเฮา ข้าน้อยจะไปไถ่ถามพี่น้องดู หากว่าเขาสามารถละหน้าที่ออกมาได้ น่าจะรู้เรื่องราวภายในวัง” “รีบไป! รีบไป” เสี้ยเฉิงเสี้ยงกล่าวอย่างลนลาน “ขอรับ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้” เสี้ยฉวนกล่าวพลาง สาวเท้าออกไปจากประตู หากเปรียบความกระวนกระวายของจวนรัญ ถึงแม้หลีโม่จะกดดันอยู่ในวัง แต่กลับมีอิสระ หลับแล้วครู่หนึ่ง และดื่มซุปบัวหิมะที่พระนางฮองเฮาสั่งคนให้ไปต้ม ทำร่างกายก็รู้สักดีขึ้นมาก เดิมทีนางนึกอยากฝังเข็มให้ตนเองแต่ว่าปัจจุบันดูท่าว่าจะไม่จำเป็นแล้ว เหนื่อยหน่อยก็จริง แต่ยังสามารถยืนหยัดต่อไปได้ นางกำลังนึกอยากออกไปตรวจดูสถานการณ์ของอ๋องเหลียง แต่กลับเห็นหยางมามาสั่งคนให้พาเย็นเอ๋อร์เข้ามา หลีโม่เห็นเย็นเอ่อร์ในสภาพนี้ ในทรวงก็ชิงชัง แต่ว่าไม่ได้เปิดเผยออกมา ทำเพียงกล่าวขอบคุณหยางมามาตามแบบแผน หยางมามามองนาง อารมณ์โกรธในแววตาของนางยังไม่ทันได้ผัดผ่านไป แต่ว่า ภายใต้อารมณ์ที่แข็งแกร่งดุดันนี้ ยังสามารถอดกลั้นซ่อนเร้นได้ สตรีนางนี้วันหน้าจะต้องยิ่งใหญ่เกรียงไกรเป็นแน่ เย็นเอ๋อร์ถูกนำตัวมาวางไว้บนแท่นนอน หลีโม่นึกอยากรักษานางด้วยตนเอง แต่ว่าหยางมามากลับปรามนางเอาไว้ “เมื่อครู่พระนางฮองเฮาทอดเห็นแล้ว ได้สั่งให้หมอหลวงและหมอหญิงเข้ามา พระนางฮองเฮากำชับว่าเจ้าจะมารักษาไม่ได้” “เพราะเหตุใด” ขณะนั้นหลีโม่ไม่ค่อยเข้าใจ หยางมามามองนาง ทอดถอนใจเบาๆ “หมอหลวงในวัง แต่ไรมาไม่ได้มีเพื่อรักษาข้าหลวงหรือว่าข้ารับใช้ในวัง” ชั่วขณะนั้นหลีโม่เข้าใจขึ้นมาแล้ว แบ่งแยกชนชั้นสินะ ปัจจุบันนางเป็นหมอกำลังหลักที่รักษาอ๋องเหลียง แต่กลับจะรักษาข้ารับใช้ เช่นนี้อาจหยามฐานันดรของอ๋องเหลียงได้ นางอดคิดไม่ได้ ฝีมือของหมอหลวงในวังถึงแม้จะ แต่ว่าขาดแคลนประสบการณ์ปฏิบัติจริง ถึงอย่างไร หมอหลวงเพียงแต่ปรนนิบัติให้บุคคลสำคัญภายในวังเท่านั้น จะมีชนิดโรคหลากหลายให้ตรวจรักษาที่ใดกัน ขาดแคลนประสบการณ์ปฏิบัติจริง ต่อให้ทฤษฎีดีเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ มิน่า หมอหลวงเหล่านี้เห็นอาการกำเริบของโรคลมชัก ปอดติดเชื้อของอ๋องเหลียง ต่างก็ทำอะไรไม่ถูก
已经是最新一章了
加载中