ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา
1/
ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา
พิษรักองค์ชายโฉมงาม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา
ตนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา ยามโหย่วโดยประมาณ หลี่โม่พูดกับฮองเฮาว่า “เหนียงเหนียง สถานการณ์ในตอนนี้ของเตี้ยนเซี่ยคงที่มากขึ้นแล้วเพคะ สามารถกลับตำหนักได้แล้วเพคะ” ฮองเฮาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก รออยู่ประมาณหนึ่งวันเต็ม ก็กลับไปยังสถานที่ที่หลีโม่ได้กล่าวไว้ “มา รีบมาต้อนรับเร็วเข้า” หยางมามาตะโกนขึ้นในทันที หลีโม่เดินขึ้นหน้า แล้วพูดกับฮองเฮาว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง หม่อมฉันขอนุญาตกล่าวกับท่านเป็นการส่วนตัวสักสองสามประโยคได้ไหมเพคะ?” จิตใจที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงของฮองเฮาได้ขยายขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปเล็กน้อย แล้วถามขึ้นด้วยความตึงเครียดว่า “มีเรื่องอะไร? ใช่อาการป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่?” หลีโม่ส่ายหน้า “ไม่ใช่เพคะ เหนียงเหนียงอย่าเพิ่งกังวลเพคะ อาการป่วยของอ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยในเวลานี้คงที่มากเพคะ เพียงแค่ระบายออกอย่างต่อเนื่องอีกสองครั้งและมียาปรับความสมดุลเป็นตัวช่วยด้วย สักประมาณครึ่งเดือนก็ไม่เป็นอะไรแล้วเพคะ ส่วนอาการลมชัก ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน แล้วทำการรักษาด้วยการฝังเข็มอีกครั้ง วิธีนี่ต้องใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน รีบร้อนไม่ได้เพคะ ” “อาการชักที่เจ้าพูดถึง จริงๆแล้วก็คือ......ลมบ้าหมูใช่ไหม?” ฮองเฮาไม่ค่อยอยากจะพูดคำว่าลมบ้าหมูสามคำนี้ออกมาเท่าไหร่นัก สำหรับนางอาการนี้ มักจะเกิดขึ้นในหมู่คนที่ด้อยกว่าหรือไม่ก็บ้าเท่านั้น “ใช่เพคะ ลมชักคือชื่ออย่างเป็นทางการเพคะ ลมบ้าหมูเป็นคำเรียกพื้นเมืองทั่วไปเพคะ สิ่งที่หม่อมฉันกำลังจะบอกก็คือ อาการป่วยนี้ไม่ร้ายแรงมากนัก เพราะในตอนที่อาการกำเริบขึ้นมาร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนออกมา จึงยังพอรับมือได้ทันเวลาเพคะ โรคนี้ทำให้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นั้นเป็นเพราะว่ามันไม่ได้มีสัญญาณเตือนก่อนล่วงหน้า เมื่ออาการกำเริบอย่างฉับพลันครอบครัวหรือคนใกล้ตัวไม่รู้วิธีการจัดการ จึงทำให้น้ำลายหรือไม่ก็เลือดเข้าไปในหลอดลมจนเกิดอาการสำลักจนเสียชีวิตเพคะ” เมื่อฮองเฮาได้ยินนางอธิบายเช่นนี้ ก็วางใจลง “ในตอนที่เจ้าเข้ามาในวังครั้งแรก เจ้าบอกว่าสามารถรักษาด้วยวิธีการฝังเข็มเพื่อเจาะเลือดออกใช่หรือไม่?” “นี่เป็นเพียงแค่วิธีการทั่วไปเพคะ เมื่อทำแล้วจะค่อนข้างซับซ้อนมาก เพราะมันต้องไปกระตุ้นระบบประสาทในสมองด้วย......” หลีโม่เงียบไปสักพัก เพราะรู้สึกหากพูดเรื่องนี้ฮองเฮาอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนัก จึงได้พูดอธิบายอย่างง่ายว่า “สำหรับการรักษาโรคนี้ หม่อมฉันสามารถจัดการได้แน่นอนเพคะ” “งั้นที่เจ้าบอกอยากจะคุยกับเปินกงเป็นการส่วนตัวนั้นคืออะไร?” ฮองเฮามองไปทางนางด้วยความสงสัย ไม่นานก็มองออกได้ในทันที จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “เจ้าจะคุยกับเปินกงเรื่องครอบครัวของเจ้าใช่หรือไม่?” หลีโม่อึ้งงันไป “ครอบครัวหรือเพคะ? เรื่องครอบครัวค่อนข้างพูดยากนักเพคะ อีกอย่างมันก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดขึ้นที่นี่ด้วย หม่อมฉันแค่อยากจะพูดเรื่องขาที่บาดเจ็บของอ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยเพคะ หม่อมฉันคิดว่าตอนที่ท่านอ๋องทำแผล น่าจะพบขั้นตอนการทำที่ผิดพลาด จึงทำให้กระดูกเกิดขึ้นผิดตำแหน่ง ส่งผลให้ไขข้อก็ผิดตำแหน่ง และเกิดหักลงในที่สุด กระดูกจึงได้กดทับเส้นประสาท ทำให้เดินไม่ค่อยสะดวกนัก และยังส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดราวกับกระแสไฟฟ้าอีกด้วยเพคะ นี่เป็นอาการที่ทุกข์ทรมานอย่างมากเพคะ หม่อมฉันจึงเลยอยากจะขอร้องเรื่องหนึ่งเพคะ หวังว่าฮองเฮาจะทรงกรุณาตอบรับเพคะ” น้ำตาไหลร่วงลงมาจากดวงตาของฮองเฮา ริมฝีปากสั่นเครือเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะพยายามควบคุมมันไว้ก็ตาม แต่น้ำเสียงก็ยังคงสั่นเทาอยู่ดี “พูดมา” หลีโม่จึงพูดขึ้นด้วยความนอบน้อมและจริงใจว่า “หม่อมฉันของถอนหมั้นเพคะ มันไม่ยุติธรรมต่อท่านอ๋อง ดังนั้นหม่อมฉันเลยอยากจะชดใช้ให้กับท่านอ๋อง ถ้าฮองเฮาเหนียงเหนียงเชื่อใจหม่อมฉัน ช่วยทรงอนุญาตให้หม่อมฉันทำการรักษาขาที่บาดเจ็บของอ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยด้วยเถอะเพคะ” ฮองเฮาถามขึ้นด้วยความซาบซึ้งใจ “เจ้ามีวิธีหรือ?” “มีหลากหลายวิธีการเพคะ แต่ว่า ในขั้นตอนการรักษานั้น อ๋องเหลียงเตี้ยนเซี่ยจะได้รับความเจ็บปวดรวดร้าวมากเพคะ” การต่อกระดูกที่หัก ไม่มีแม่แต่ยาชา ทำได้เพียงฝังเข็มเพื่อลดการเจ็บปวด ซึ่งผลลัพธ์จะไม่เท่ากับฤทธิ์ยา ดังนั้นไม่รู้ได้ว่าอ๋องเหลียงจะสามารถทนกับความเจ็บปวดนี่ได้หรือไม่ ฮองเฮาส่งเสียงอ่าออกมา ด้วยความตื่นตกใจ “มีหลายวิธีการเลยหรือ?” หมอหลวงเคยพูดก่อนหน้านั้นว่า ขานี้ไม่มีทางรักษาได้ และก็ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเดินได้ดั่งคนปกติทั่วไปด้วย หลายปีมานี้ นางสิ้นหวังมาตลอด นึกไม่ถึงว่าคนที่นางเกลียดแสนเกลียดผู้นี้ กลับบอกว่ารักษาได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮองเฮาซาบซึ้งจนพูดไม่ออก หลีโม่เงียบไปสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฮองเฮา “เหนียงเหนียง ยังมีอีกเรื่อง หม่อมฉันขอให้ฮองเฮาเหนียงอภัยโทษด้วยเพคะ” ในขณะที่ฮองเฮากำลังเกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่นั้น ก็พูดขึ้นว่า “เจ้าพูดมา เปินกงยกให้เจ้าไร้ความผิด” หากเป็นยุคสมัยปัจจุบัน หลีโม่จะพูดตรงๆไปแล้ว แต่ยุคสมัยศักดินานี้ ค่อนข้างหวาดหวั่นนัก ดังนั้น นางจึงเงียบไปสักพัก เมื่อเห็นสายตาของฮองเฮาได้เปล่งประกายความร้อนใจออกมา จึงเอ๋ยปากขึ้นอย่างช้าๆว่า “อาการบาดเจ็บของเตี้ยนเซี่ยอยู่ใกล้กับส่วนต้นขา หลังจากที่ดูจากสถานการณ์ของบาดแผลแล้ว น่าจะเกิดการกระแทก อาจจะทำให้เส้นประสาทเลือดบางเส้นเกิดอาการฝ่อลงได้ หากไม่รีบทำการรักษาให้ทันเวลา ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถ......มีวถีชีวิตเหมือนมนุษย์ได้อีก” สีหน้าของฮองเฮาเปลี่ยนไปในทันที “บังอาจ!” ใบหน้าขาวซีดของฮองเฮาจ้องเขม็งไปทางหลีโม่ นี่คือความเจ็บปวดตลอดชีวิตของนาง คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่มากนัก และก็เป็นรับสั่งของกษัตริย์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วย ไม่ต้องพูดถึง เมื่อนึกเชื่อมโยงกัน ล้วนแล้วแต่ทำให้ฮองเฮาโกรธและเจ็บปวด นางพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมและเฉียบขาดว่า “เสี้ยหลีโม่ อย่าคิดว่าเจ้ารักษาอ๋องเหลียงได้ แล้วจะสามารถใส่ร้ายป้ายสีพูดจามั่วซั่วต่ออ๋องเหลียงได้อย่างไม่เกรงกลัวผิดบาปนะ หากคำพูดนี้เล็ดลอดออกไปแม้แต่นิดเดียว เปินกงจะเอาหัวเจ้า” หลีโม่มองไปทางฮองเฮา จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง แต่ไหนแต่ไรมาหมอที่อยู่เบื้องหน้า ต้องกล้าเปิดเผยการวินิจฉัยทางการรักษา และต้องไม่หลบเลี่ยงสถานการณ์อาการป่วยด้วย สถานะของหม่อมฉันในตอนนี้คือหมอของอ๋องเหลียงเพคะ ถึงหม่อมฉันจะรู้ว่าทำให้ขุ่นเคืองใจก็ตาม กลับต้องพูดออกมา และไม่สามารถพูดว่ารักษาไม่ได้ทั้งๆที่รู้อย่างกระจ่างชัดว่ารักษาได้เพคะ” ริมฝีปากของฮองเฮาสั่นเครือเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งลากหลีโม่ออกไปด้านหน้า “เจ้าจะพูดอะไร? เจ้าบอกว่าเจ้ารักษาได้อย่างนั้นหรือ? เจ้ารักษาได้หรือ?” ฮองเฮาถามขึ้นหลายครั้ง พร้อมกับจ้องเขม็งไปทางหลีโม่ ราวกับไม่อยากให้คำพูดผิดๆโพล่งออกมาจากปากของนางอีก ต่อให้จะเป็นอารณ์ความรู้สึกของนางก็ตาม หลีโม่อยากจะพูดบางอย่างออกมา แต่กลับเห็นหยางมามาเดินมาพอดี “เหนียงเหนียง เฉิงเสี้ยงเสี้ยพาฮูหยินเข้าวังมาเพคะ บอกว่าอยากขอเข้าเฝ้าฮองเฮาเหนียงเหนียงเพคะ” ฮองเฮายกมือขึ้น สีหน้าบ่งบอกได้ถึงความเกลียดชังมาก “บอกให้พวกเขารอก่อน” หยางมามาลังเลเล็กน้อย ก่อนพูดขึ้นว่า “แต่ว่า พวกเขาคุกเข่าอยู่นอกตำหนักฉางเซิงเพคะ” “ใครใช้ให้พวกเขาไปตำหนักฉางเซิงกัน? ใครบอกพวกเขาว่าเปินกงอยู่ที่ตำหนักฉางเซิงกัน?” ฮองเฮาทรงเกรี้ยวกราดมาก หยางมามาจึงพูดขึ้นว่า “หมุยเฟยเหนียงเหนียงบอกให้พวกเขามาพร้อมกันเพคะ” ใบหน้าของฮองเฮาแสดงออกถึงความไม่พอใจ “หมุยเฟย?” ไม่นานก็มีนางกำนัลรับใช้รีบร้อนมา “คุณหนูเพคะ ไต้เท้าหย้วนพ่านทรงเชิญท่านไปหาเพคะ” หลีโม่โค้งตัวต่อฮองเฮา “เหนียงเหนียง หม่อมฉันขอตัวเพคะ” ฮองเฮาอยากจะถามเรื่องราวทั้งหมดอีกนิด แต่หมุยเฟยและเฉิงเสี้ยงเสี้ยมาพบนางอย่างกะทันหัน จึงทำให้นางทั้งร้อนใจและโกรธเคืองมาก แต่เมื่อได้ยินหย้วนพ่านมาหาเสี้ยหลีโม่ จึงคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของอ๋องเหลียง จึงได้เดินเข้าไปในตำหนัก หย้วนพ่านออกมาต้อนรับ และพูดกับหลีโม่ว่า “คุณหนู ท่านอ๋องหลับไปแล้ว แต่เขาอาเจียนออกมาหนึ่งรอบ ซึ่งสิ่งที่อาเจียนออกมานั้นเป็นน้ำสีดำ” หลีโม่รุดหน้าไปตรวจสอบที่ที่อาเจียนออกมาทันที จากนั้นก็ตรวจจับชีพจร แล้วหันไปพูดกับหย้วนพ่านว่า “ไม่ต้องกังวลใจ เอายาแก้อาเจียนออกมา ยานี้ทานวันละ 3 ครั้ง กระเพาะได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้อาเจียนออกมา ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ลดปริมาณยาลงเหลือเพียง 1 วัน 2 ครั้ง” “เอาละ เปินกงขอสั่งให้ออกไป ” หย้วนพ่านโค้งตัวต่อฮองเฮา แล้วเดินออกไป เมื่อฮองเฮาได้ยินว่าไม่เป็นอะไร จึงได้วางใจลง จากนั้นก็นั่งลงข้างกายของอ๋องเหลียงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไป “เหนียงเหนียง จะไปพบหรือบอกให้ออกไปเพคะ?” หยางมามาถามขึ้นอีกครั้ง ฮองเฮาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เปินกงจะออกไปพบพวกเขา ห้ามให้พวกเขาเข้ามา” “เพคะ เชิญเหนียงเหนียงเสด็จเพคะ” หยางมามาโค้งตัวพูดขึ้น ฮองเฮาเดินไปแค่เพียงสองก้าว แล้วจึงหันกลับไปมองหยางมามา “เจ้าไปกับเสี้ยหลีโม่ ดูว่านางจะสั่งอะไรอีก เจ้าอยู่ในวังมานานนางกำนัลรับใช้เหล่านั้นสีหน้าดูไม่ค่อยเข้าใจนัก ให้พวกนางอยู่รอก็เป็นตัวถ่วงเสี้ยหลีโม่เปล่า ๆใเจ้าไปเองดีกว่าไป” หยางมามาสีหน้าไม่เปลี่ยนสีแต่อย่างใด พร้อมหลบสายตา “เพคะ!” นางสั่งให้นางในสองคนตามฮองเฮาออกไป ส่วนตัวเองก็เข้าไปในตำหนัก เมื่อฮองเฮาเดินออกไปแล้ว กลับไปเห็นแม้แต่ หมุยเฟยและเฉิงเสี้ยงเสี้ยเลย อัพเดทครั้งต่อไป 13/12/2019
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 43 บาดเจ็บที่ขา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A