ตอนที่ 46 ลงโทษ
1/
ตอนที่ 46 ลงโทษ
พิษรักองค์ชายโฉมงาม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 46 ลงโทษ
ตนที่ 46 ลงโทษ หลิงหลงฮูหยินทรงคุกเข่าขึ้นหน้า พร้อมกับกล่าวขึ้นพลางร้องไห้กระซิกๆ “ไทเฮาผู้มีจิตใจสะอาด หลีโม่เองก็ไร้เดียงสามาก นางถูกแม่ผู้ให้กำเนิดใช้ประโยชน์ ได้โปรดไทเฮาอย่าได้ถือโทษโกรธเคืองในความไม่รู้ของนางเลยเพคะ ยกโทษในนางครั้งนี้ หากมีความผิดอันใด หม่อมฉันจะแบกรับความผิดนั้นไว้เองเพคะ” ฮองไทเฮามองไปทางหลิงหลงฮูหยิน อย่างเริ่มไม่ค่อยแน่ใจนัก นางอยู่ในวังมาเนิ่นนาน เคยเจอกับศึกสงครามระหว่างนางสนมในวังก็ตั้งมากมาย แต่นางยังโชคดีที่ไม่มีใครสั่นคลอนตำแหน่งไทเฮาของนางได้ เพราะฮ่องเต้ให้ความเคารพต่อนางมาก นางสนมก็ไม่กล้าแก่งแย่งชิงดีนาง ดังนั้นนางจึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ศึกสงครามด้วยความใจเย็น นางคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลิงหลงฮูหยินและหลี่ซื่อไม่ได้แย่นัก เป็นเรื่องธรรมดาเพราะนางไม่มีความรู้สึกดีๆต่อหลี่ซื่อ ดังนั้น หลิงหลงฮูหยินจึงเชื่อความรู้สึกที่แสดงออกมาถึงความเสียใจต่อหน้านาง นางคิดทบทวนอีกสักพัก จากนั้นก็พูดกับซุนกงกงว่า “เจ้าไปตามฮองเฮามาให้ข้าหน่อย นางเป็นมารดาของอ๋องเหลียง อายเจียก็อยากจะถามนางเหมือนกันว่านางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร” ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฮองไทเฮาไม่เคยคิดที่จะไปตรวจสอบความรับผิดชอบของจวนเฉิงเสี้ยงแต่อย่างใด เรื่องนี้ทำให้คนขายหน้ามากเกินไป เพื่อยับยั้งการป่าวประกาศออกสู่ภายนอก ไม่ทำเลยก็จะดีเสียยิ่งกว่า ดังนั้น แผนการแรกสุดคือการลงโทษเสี้ยหลีโม่ แต่ตอนนี้เสี้ยหลีโม่กำลังรักษาอ๋องเหลียงอยู่ นางรักและมีความเชื่อมั่นหากมาไม่ทัน แล้วจะทำอย่างไร? เมื่อหมุยเฟยได้ยินฮองไทเฮารับสั่ง จึงได้ส่องสายตาไปทางเฉิงเสี้ยงเสี้ยทันที เฉิงเสี้ยงเสี้ยเองก็มองไปทางสายตาของหลิงหลงฮูหยิน หลิงหลงฮูหยินยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วทำท่าทางโศกเศร้าเสียใจอีกแล้วครั้ง ฮองเฮาที่เกิดอาการสับสนวุ่นวายใจ เมื่อได้ยินซุนกงกงมาบอกว่าเฉิงเสี้ยงเสี้ยไปขอรับโทษต่อเบื้องหน้าของฮองไทเฮา ใบหน้าของนางจึงได้เย็นชาลง พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความโกรธเคืองว่า “เปิ่นกงไม่ซักไซ้ไล่ถามเรื่องนี้แล้ว แต่เขาก็ยังเสนอหน้าเข้ามา มันหมายความว่าอย่างไรกัน ? คิดอยากจะให้เปิ่นกงตัดหัวเขาหลุดออกจากบ่าหรืออย่างไร?” ซุนกงกงพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำๆว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ยับยั้งความโกรธลงนะเพคะ ไปกันก่อนเถอะเพคะ หมุยเฟยเหนียงเหนียงและเฉิงเสี้ยงต่างพูดว่าเรื่องถอนหมั้น เป็นการบงการของหลี่ซื่อเพคะ” เมื่อหลีโม่ได้ยินประโยคนี้ จึงรีบคลี่ยิ้มอย่างเย็นชาออกมาทันใด การเข้าวังควรต้องล้างบาป เพียงแต่ว่า จะล้างบาปได้จริงๆหรือ? เมื่อฮองเฮาได้ยินคำพูดของซุนกงกง จึงเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปทางหลีโม่ก่อนพูดขึ้นว่า “หลีโม่เจ้ามานี่” หลีโม่ยื่นที่รมควันมอบให้กับหย้วนพ่าน จากนั้นก็เดินไปหาตามคำสั่ง “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องใดรับสั่งหรือเพคะ?” ฮองเฮามองไปทางนาง แล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องที่เจ้าถอนหมั้น อธิบายความจริงมา เปิ่นกงจะไม่ลงโทษเจ้า อ๋องเหลียงเองก็จะให้อภัยเจ้า ถ้าเจ้านำเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบมาบอกกับเปิ่นกง” ถึงแม้ว่าฮองเฮาจะรู้เรื่องนี้มากมายก็ตาม แต่ก็ยังเคยได้ยินเสี้ยหลีโม่บอกมาก่อน แต่นางก็ยังอยากเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อไว้ตอบโต้หมุยเฟยและเฉิงเสี้ยงเสี้ย ไม่ว่ายังไงนางจะไม่ให้เฉิงเสี้ยงเสี้ยและหมุยเฟยร่วมมือกันทำลายเสี้ยหลีโม่ได้อีก อย่างน้อย ก็ตอนนี้ “เหนียงเหนียง ทำไมถึงได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาละเพคะ? ตอนนี้ในใจของหม่อมฉันมีแค่.......” ฮองเฮาจึงพูดตัดบทขึ้นมาทันใด “เปิ่นกงรู้ว่าวันนี้เจ้ากำลังรักษาอ๋องเหลียงให้ดี แต่มีคนไม่ได้ทำให้เจ้าคลายความกังวลแต่อย่างใด เจ้าจะต้องโต้กลับ ” หลีโม่เงยหน้าไปมองซือถูเย้นด้วยจิตใต้สำนึก ซือถูเย้นที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับเอนพิงพนักอย่างสบายอารมณ์ พูดคุยกับอ๋องเหลียงอยู่ ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเขาอย่างไรอย่างนั้น แต่ไม่รู้ว่าทำไมหลีโม่ถึงได้รู้สึกว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับเขา เมื่อเห็นว่าหลีโม่มองมา เขาก็ชำเลืองกลับไปมองทางหลีโม่ โดยการแสดงออกอย่างไร้เดียงสาอย่างที่เปรียบไม่ได้ แต่ใบหน้าที่ใหญ่ผู้นั้น ยังคงเผยความซุกซนเอาไว้อยู่ไม่น้อย หลีโม่ก้มหน้าลง แล้วเก็บความโหดร้ายไว้ ถ้าเป็นฝีมือของอ๋องซื่อเจิ้งจริงๆ งั้นศึกคราวนี้คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ก็ดี แรกเริ่มคิดว่าพวกเขาจะรอให้นางกลับจวนเฉิงเสี้ยงเสียก่อนแล้วค่อยเริ่มศึก แต่ในเมื่อไม่รอ งั้นก็เริ่มศึกกันในวังเนี่ยแหละ หลีโม่กำลังทำท่าจะตอบกลับฮองเฮา แต่ซือถูเย้นกลับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างฉับพลันว่า “จริงสิ ในตอนที่ ข้าเพิ่งเข้าวังมา ได้ยินคนแปลกหน้าจากนอกวังพูดขึ้นว่าเหตุผลที่เสี้ยหลีโม่ถอนหมั้นกับอ๋องเหลียงนั้นเป็นเพราะถูกบุกเข้าไปโบยถึงในห้อง ไม่รู้ว่าเฉิงเสี้ยงเข้ามาในวังเพราะด้วยเหตุผลนี้หรือไม่?” ฮองเฮาใบหน้าถอดสีทันใด “อะไรนะ? ใครพูดจาเหลวไหลเช่นนี้?” “เรื่องนี้ไม่อาจรู้ได้ ฮองเฮาต้องรับสั่งให้คนไปตรวจสอบดูนะพะยะคะ!” ซือถูเย้นพูด้วยความใจเย็น หลีโม่เกือบจะหัวเราะออกมา เขาช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนกระจายข่าวออกไป มิน่าตอนที่นางเขาวังมา จึงได้คิดว่าจะถูกลงโทษในวัง กลัวว่ามันจะเปล่าประโยชน์นะสิท่า? สีหน้าของฮองเฮาอึมครึมลงทันใด “หลีโม่ เจ้าไปกับเปิ่นกง ก่อนวันถอนหมั้นไม่ต้องพูดอะไรอีก เปิ่นกงมีแผนอยู่ในใจแล้ว” หลีโม่ตอบตกลง “เพคะ!” ไม่พูดก็ดี ถึงพูดออกไปยังไง ไม่ว่านางจะรู้สึกผิดลำบากใจมากแค่ไหน ก็ยากที่จะถูกฮองฮามองว่าเห็นแก่ตัวได้ หยางมามาได้เตรียมการไว้ตั้งแต่วินาทีแรก เมื่อหลีโม่เดินพ้นจากประตู นางก็รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อยเมื่อต้องแสงอาทิตย์ที่โอนเอนไปมา นางจะต้องดูแลร่างกายของตัวเองแล้ว ไม่อย่างนั้น หลังจากกลับจวนเฉิงเสี้ยงไป นางไม่มีทางต่อสู้กับความโหดร้ายนั้นได้แน่ หลังจากที่ฮองเฮาออกไปแล้ว อ๋องเหลียงก็บอกให้หย้วนพ่าน และคนที่คอยปรนนิบัติในวังออกไป จากนั้นก็มองไปทางซือถูเย้น “เสด็จอา ฝีมือท่านใช่ไหม?” ซือถูเย้นลูบไล้บนคาง “เจ้าละ?” “ท่าน!” อ๋องเหลียงถอดถอนใจออกมาเบา ๆ “เฉิงเสี้ยงเสี้ยผู้นี้เป็นผู้บีบบังคับลูกสาวของตัวเอง ตอนนั้น ข้าตาบอด” “เจ้าไม่ได้ตาบอด เขาทำท่าทางราวกับทหารที่สงบเสงี่ยมเจียมตัวมาตลอด ใครจะไปรู้ว่าในท้องของเขาจะมีความชั่วร้ายเช่นนี้?” อ๋องเหลียงหัวเราะออกมา “ตั้งแต่ท่านอามีอำนาจ ก็เบียดเบียนเขามาโดยตลอด ตอนนั้นข้าคิดว่าท่านแค่หึงหวงเท่านั้น แต่เมื่อลงย้อนกลับไปในตอนนี้ ท่านสามารถมองการณ์ไกลทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้” ซือถูเย้นไม่กล่าวคำใดออกมา ดวงตาฉายแววเย็นชาออกมา เขามีอำนาจ ทำไมจะต้องไปอิจฉาผู้มีความสามารถด้วยละ? เกือบจะใจกว้างเลยด้วยซ้ำ ข้าราชการพลเรือนและทหารในเมือง ก็ล้วนแล้วแต่ผ่านการประเมินอย่างเป็นส่วนตัวทั้งสิ้น แต่สำหรับบุคคลอย่างเฉิงเสี้ยงเสี้ย เขาเองก็เริ่มรู้มาบ้าง มิเช่นนั้น ไม่มีทางยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งแน่นอน แต่ทุกคนต่างคิดว่า เขาเกรงกลัวต่อฐานะของเฉิงเสี้ยงเสี้ยกันทั้งนั้น เมื่อมาถึงด้านนอกตำหนักโส้อานฮองเฮาก็กำชับหลีโม่ไว้ว่า “เจ้ารออยู่ที่นี่ เมื่อเปิ่นกงเรียก เจ้าค่อยเดินเข้าไป” หลีโม่วางมือแนบข้างลำตัว “เพคะ!” ซุนกงกงออกมาต้อนรับทันใด จากนั้นก็ตะโกนขึ้นว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียงเสด็จแล้วเพคะ” เมื่อฮองเฮาเดินเข้าไป เฉิงเสี้ยงเสี้ยและหลิงหลงก็ได้เห็นถึงความโหดร้ายนั้นทันที จึงทำให้อดที่จะเกิดความรู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวขึ้นมาไม่ได้ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆฮองเฮากำลังโกรธ มิน่าล่ะถึงไม่ยอมพบพวกเขา หมุยเฟยเดินขึ้นหน้า “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมาแล้วหรือเพคะ?” ฮองเฮาไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด นอกจากเดินขึ้นหน้าไปน้อมทักทายฮองไทเฮา “เข้าเฝ้าเสด็จแม่” ฮองไทเฮาพูดขึ้นว่า “ฮองเฮามาก็ดีแล้ว เจ้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเถอะ ” ฮองเฮาเดินเข้าไปนั่งข้างกายของฮองไทเฮา จากนั้นก็มองไปทางเฉิงเสี้ยงเสี้ยด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความเย้ยหยัน “เฉิงเสี้ยงมาถึงตำหนักโส้อานเลยหรือ? ไม่ใช่ว่าเมื่อสักครู่ต้องการเข้าเฝ้าเปิ่นกงอยู่ที่ตำหนักฉางเซิงหรอกหรือ? พอเปิ่นกงออกไป ก็ไม่เห็นใครแล้ว ที่แท้ก็มายังตำหนักโส้อานนี่เอง เฉิงเสี้ยงเป็นเหมือนดั่งมังกรมีหัวแต่ไม่มีหางเนอะ เห็นอยู่แวบๆ สักพักก็หายไปแล้ว” เฉิงเสี้ยงเสี้ยเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความโกรธเคืองของฮองเฮามาก่อนแล้ว เขาจึงโน้มตัวแล้วพูดขึ้นว่า “ได้โปรดเหนียงเหนียงทรงอภัยโทษด้วยพะยะคะ เมื่อสักครู่หม่อมฉันรออยู่ด้านนอกตำหนักจริงๆพะยะคะ แต่เห็นว่าเหนียงเหนียงกำลังยุ่ง หม่อมฉันก็เลยมาน้อมทักทายฮองไทเฮาก่อนพะยะคะ” ซุนกงกงเสิร์ฟน้ำชาขึ้นไป ฮองเฮารับมา แล้วค่อยๆดื่มมันอย่างช้าๆ จากนั้นก็มองไปทาง เฉิงเสี้ยงเสี้ยแล้วพูดขึ้นว่า “ตั้งแต่พวกเจ้ามาวิงวอนขอร้องอยู่ด้านนอกของตำหนักฉางเซิงจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลานานมากแล้ว ทำไมยังคุกเข่าอยู่บนพื้นอีกละ?” เมื่อหมุยเฟยเห็นฮองเฮาที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เมื่อรู้ว่านางต้องไม่พอใจ จึงก้าวไปข้างหน้า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง เฉิงเสี้ยงเสี้ยพวกเขามาน้อมรับการลงโทษเพคะ ดังนั้นจึงได้คุกเข่าอยู่ที่นี่เพื่อให้ฮองไทเฮาและฮองเฮาลงโทษเพคะ” อัพเดทครั้งต่อไป 17/12/2019
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 46 ลงโทษ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A