ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา
ต๭นที่ 53 ฝีมือของฮองเฮา หลังจากที่เฉิงเสี้ยงเสี้ยและหลิงหลงฮูหยินออกจากตำหนักโส้อานไป หยางมามาก็รีบตามออกไป “ฮูหยินเพคะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงเชิญท่านไปดื่มน้ำชา ณ พระตำหนักจิ่งหนิงเพคะ” พระตำหนักจิ่งหนิงคือตำหนักที่ฮองเฮาประทับอยู่ หลิงหลงฮูหยินย่อมรู้จักเป็นอย่างดี เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางหยางมามาอย่างเตรียมความพร้อม “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องอะไรอยากพูดด้วยอย่างนั้นหรือ ?” หยางมามายิ้มพลางพูดขึ้นว่า "ไม่มีอะไรเพคะ แค่อยากคุยไปพลางดื่มน้ำชาไปพลางเพคะ" เฉิงเสี้ยงเสี้ยคิดสักพัก “งั้น เปิ่นเสี้ยงเองก็ไปพร้อมกันเลย" หยางมามาโค้งตัวคำนับ “ท่านอ๋องกลับไปก่อนเถอะ ฮองเฮาเหนียงเหนียงและฮูหยินมีเรื่องผู้หญิงต้องคุยกัน ท่านอ๋องอยู่ที่นี่ไม่เหมาะสมนักเพคะ” หลิงหลงฮูหยินรู้ได้ด้วยตัวเองว่าที่ฮองเฮาเหลือนางทิ้งไว้เพียงคนเดียว จะต้องเป็นเรื่องที่ไม่บริสุทธิ์ใจอย่างแน่นอน แต่ฮ่องไทเฮาก็ล้วนแล้วแต่ไม่เอาผิด ฮองเฮาจะพูดอะไรได้ละ? นางดึงชายเสื้อของเฉิงเสี้ยงเสี้ย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลใจว่า : “ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่อยากไปพระตำหนักจิ่งหนิงคนเดียวเลยเพคะ จะเป็นไรไหม ถ้าท่านจะให้หมุนเฟยไปเป็นเพื่อนหม่อมฉันหน่อย" เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดขึ้นว่า : “ได้ เจ้าไปกับหยางมามาก่อน ข้าจะไปตามหมุยเฟยเหนียงเนียง” หยางมามายิ้มออกมา แต่ดวงตากลับแสดงแววตาเคร่งขรึมออกมาแทน “เฉิงเสี้ยง อย่าไปรบกวนหมุยเฟยเหนียงเหนียงเลยเพคะ” เฉิงเสี้ยงเสี้ยยิ้มกลับมา “หญิงสาวมักกลัวไปก่อน มีคนไปด้วยมันก็เป็นเรื่องดี” หยางมามาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “งั้นก็แล้วแต่พระทัยของท่านอ๋องเลยเพคะ เพียงแต่ว่า ญาติสนิทผู้นี้ กลับทำให้หนูปี้อดคิดไม่ได้เพคะ จริงๆแล้วคุณหนูใหญ่เสี้ยกับเฉิงเสี้ยงก็เป็นญาติกันนะคะเพคะ” วันนี้หลิงหลงฮูหยินก็ได้รับรู้ความจริงมากพอแล้ว ณ ตำหนักโส้อานของไทเฮา อ๋องซื่อเจิ้งเองก็อยู่ในตำหนักโส้อานด้วย จึงส่งผลให้นางสนมกล้าที่จะต่อว่านาง แล้วไหนจะมีหยางมามาที่คอยกระตุ้นอีก บรรยากาศแบบนี้เคยเกิดขึ้นในจวนมาก่อนที่ไหน? นางมองไปทางหยางมามา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "ถึงฮองไทเฮาจะไม่ถามเรื่องในจวนเฉิงเสียง เจ้าเป็นนางสนมผู้หนึ่ง กล้าดียังไงมาบุ่มบ่ามออกความเห็นเกี่ยวกับเกี่ยวกับเรื่องของข้า? เจ้าทิ้งหัวสมองไปแล้วรึยังไง?" หยางมามาไม่โต้กลับพลางยิ้มออกมา "สมองของหนูปี้ยังอยู่เพคะ หากฮูหยินอยากได้ ก็นำไปได้เลยเพคะ" หลิงหลงฮูหยินบันดาลโทสะขึ้นทันใดพลางพูดขึ้นว่า : "ทำไมเจ้าถึงได้กล้าดูหมิ่นข้าเช่นนี้? ข้าเป็นฮูหยินของเฉิงเสี้ยงนะ" เฉิงเสี้ยงเสี้ยมองไปทางใบหน้าของหลิงหลงฮูหยินที่แสดงออกถึงความโหดร้าย จิตใจคงจะโหดเหี้ยมมากขึ้นไปอีกเป็นแน่ จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเขาไม่คิดว่าตนเองนั้นจะหาแม่นางที่อ่อนโยนได้เลยสักคนเดียว เมื่อครั้งที่ได้รู้จักกับนาง นางมีความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษมาก วาดภาพก็งดงาม ต่อมาบอกว่าจะไม่จับพู่กันวาดภาพอีก เพราะกลัวหลี่ซื่ออิจฉา เขาจึงได้คิดว่านางเป็นคนใจกว้าง และละทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเขา ด้วยเหตุนี้ในชีวิตหลังจากนี้ การปฏิบัติตัวของนางจึงล้วนแล้วแต่ทำให้เขาไม่พอใจทั้งสิ้น แต่เมื่อเห็นนางให้กำเนิดบุตรทั้งสองเพื่อเขา จึงได้ปล่อยวางความสนใจในเรื่องภาพวาดของตัวเอง เขารู้สึกว่าต้องเข้าใจและอดทน แต่วันนี้ฮองไทเฮากลับพูดเปรียบเทียบระหว่างนางกับหลี่ซื่อ หลี่ซื่อชนะนางเป็นร้อยเท่า จนเขาทนไม่ได้ในพริบตาเดียว บุรุษก็เป็นเช่นนี้ เขาคิดว่ายังไงมันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อคนข้างกาย หรือแม้แต่คนที่มียศสูงกว่าเขาเริ่มพูดขึ้น เขาก็เริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมา “ดี เฉิงเสี้ยงฮูหยิน เชิญ!” หยางมามากล่าวขึ้นอย่างประชดประชัน หลิงหลงฮูหยินกลับพูดขึ้นอย่างดื้อรั้นว่า : "ไม่ ข้าไม่ไป หากฮองเฮาเหนียงเหนียงมีเรื่องอะไร ก็รับสั่งให้คนมาแจ้งตรงต่อจวนเฉิงเสี้ยงเถอะ" เฉิงเสี้ยงเสี้ยลากหลิงหลงฮูหยินออกไป แล้วกล่าวตักเตือนด้วยเสียงต่ำๆว่า : "ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เจ้าไม่อาจล่วงเกินต่อฮองเฮาได้อีก มิเช่นนั้น โล่เยว่จะต้องเข้าพิธีสมรสกับไท่จื่ออย่างแน่นอน" หลิงหลงฮูหยินนึกไม่ถึงว่าคำพูดของเฉิงเสี้ยงเสี้ยจะมาถึงขั้นนี้ นางเกิดความรู้สึกตกใจ "งั้นแบบไหนถึงดี?" เฉิงเสี้ยงเสี้ยคิดเล็กน้อย "วันนี้ เจ้าต้องได้รับความไม่เป็นธรรม ไปเถอะ ข้าเชื่อว่าฮองเฮาไม่ทำสิ่งใดอย่างแน่นอน ข้าจะรีบไปหาหมุยเฟยเหนียงเหนียง ให้นางไปดูสักหน่อย มีหมุยเฟยเหนียงเหนียง ฮองเฮาน่าจะเกรงกลัวบ้าง" “แต่ว่า......." หลิงหลงฮูหยินเกิดความรู้สึกกระวนกระวาย แต่เมื่อคิดๆดูแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องมากังวลอีกแล้ว ในเมื่อฮองเฮาได้ลั่นวาจาออกไปว่าจะไม่ตรัสถามเรื่องการถอนหมั้น งั้นฮองเฮาเองก็ยากต่อการสร้างความวุ่นวายให้กับนางด้วย เรียกนางไป เพื่อตำหนิติเตือนพักใหญ่ นางก็ยังพอรับได้ “งั้นก็ได้ หม่อมฉันจะไป" หลิงหลงฮูหยินพูดขึ้น นางหมุนตัวไปมองหยางมามา ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเย่อหยิ่งและก้าวร้าวว่า : "ไป นำทางไป" หยางมามาโค้งตัวคำนับ ก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เสียดสีว่า : "ท่านอ๋อง ฮูหยิน เชิญสมเด็จเพคะ" เฉิงเสี่ยงเสี้ย โกรธแค้นอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธออกมาได้ ทำได้เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อด้วยความเย็นชาเท่านั้น หลังจากที่เฉิงเสี้ยงเสี้ยจากไป หยางมามากลับยังยืนอยู่ที่เดิม พร้อมกับมองไปทางหลิงหลงฮูหยิน "ฮองเฮามีรับสั่ง เพื่อการภาวนาขอพรในวันเกิดกวนอิมแก่ฮองไทเฮาที่จะเกิดขึ้นภายใน 1เดือน เพียงแต่ญาติฝ่ายหญิงเข้าวัง จะต้องสามคุกเข่าเก้ากราบต่อพระตำหนักจิ่งหนิง ฮองเฮาฮูหยินได้ยินคำพูดนี้ จึงได้บันดาลโทสะออกมาในทันที "ภาวนาขอพรทำไมจะต้องสามคุกเข่าเก้ากราบ ณ พระตำหนักจิ่งหนิงด้วย? นี่มันเรื่องน่าอายยิ่งนัก" หยางมามาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "ไม่เพียงแต่ฮูหยินนะเพคะ เมื่อครั้งที่คุณหนูเข้าวังมา ก็สามคุกเข่าเก้ากราบ ณ พระตำหนักจิ่งหนิงเช่นเดียวกันเพคะ อีกทั้งก็ต้องคุกเข่าเข้าไปตั้งแต่หน้าประตูวังด้วย เรื่องนี้ ฮูหยินก็ทรงทราบเพคะ ว่าที่คุณหนูเข้าวังมาเช่นนี้ ก็เพื่อรับใช้ท่าน จะมีสิทธิพิเศษได้อย่างไร? หยางมามาตั้งใจเน้นย้ำฮูหยินสองคำนี้ พร้อมกับแสดงสีหน้าถากถางอย่างเห็นได้ชัด “เจ้า......" หลิงหลงฮูหยินแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมา ไม่ว่าจะยังไงก็จะไม่ยอมคุกเข่าเด็ดขาด ก่อนจะพูดพร้อมกำหมัดขึ้นว่า : "ข้าไม่คุกเข่า เว้นเสียแต่ว่าฮองเฮาจะทรงมีรับสั่งมาด้วยตัวเอง......" หยางมามาจึงพูดขึ้นว่า : "หนูปี้เป็นผู้รับสั่ง แทนฮองเฮาเหนียงเหนียงเพคะ นี่คือความหมายของฮองเฮาเหนียงเหนียง หากฮูหยินไม่ยินยอม แสดงว่าไม่อยากภาวนาอวยพรให้แก่ฮองไทเฮา ? หากเป็นแบบนี้ หนูปี้ก็จะนำกลับไปกราบทูลต่อฮองไทเฮาเพคะ" หลิงหลงฮูหยินจะกล้าให้นางนำประโยคนี้ไปกราบทูลต่อไทเฮาได้ที่ไหนกัน ? จึงกัดฟันกรอดพร้อมกับคุกเข่าลง “ได้ หากเพื่อภาวนาขอพรแก่ฮองไทเฮา ข้าเต็มใจทำให้” การสามคุกเข่าเก้ากราบนี้ หยางมามาปฏิบัติตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ใช้มาตรฐานเหมือนกับวันที่หลีโม่เข้าวังมาเป็นการขอร้องต่อหลิงหลงฮูหยิน หลิงหลงฮูหยินแสดงความโกรธเคืองเดือดดาลออกมา น้ำตาเกือบจะไหลออกมา นางยังไม่เคยได้รับความเสียใจเช่นนี้มาก่อนเลย ฮองเฮาได้ก้าวเท้าแรกเข้าไปในพระตำหนักจิ่งหนิง เมื่อครั้งที่นางกลับเข้าวังไป ก็ได้เห็นหลิงหลงฮูหยินที่คุกเข่าทำความเคารพจากที่ไกลๆ เข้าไปพอดี นางยืนอยู่ตรงระเบียง มองไปทางหลิงหลงด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะถามหลีโม่ที่อยู่ด้านข้างว่า “รู้ไหมว่าทำไมเปิ่นกงถึงได้ทำเช่นนี้?” ดวงตาของหลีโม่ได้ได้มองไปทางนางเช่นเดียวกัน แต่นางเองก็รู้สึกว่าที่ฮองเฮาทำไม่ค่อยมีประโยชน์สักนิด ตอนที่นางทำการรักษาอยู่ในวัง นางเองก็ได้รับความโหดร้ายเมื่อกลับไปยังจวนเฉิงเสี้ยง “ทราบเพคะ เหนียงเหนียงออกหน้าเพื่อหม่อมฉัน” หลีโม่พูดขึ้น ฮองเฮากลับส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ นิสัยของนาง ถึงเปิ่นกงออกหน้าเพื่อเจ้าไปก็ไร้ประโยชน์ เปิ่นกงอยากให้พ่อแม่เห็น ว่าแม่ของเจ้า ชนะนางไปไกล" “หม่อมฉันไม่ค่อยเข้าใจเพคะ” หลีโม่พูดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ หางตาของฮองเฮาได้เปล่งประกายความดุร้ายอย่างเย็นชาออกมา “รักษาคน ก็ต้องรักษาใจด้วย” หลีโม่ยังคงแสดงออกถึงความไม่เข้าใจ จากนั้นก็มองไปทางฮองเฮาด้วยความสงสัย ฮองเฮาเอียงข้างไปถามว่า “เจ้ารู้เรื่องพ่อเจ้าและหลิงหลงฮูหยินหรือไม่?” หลีโม่จึงพูดขึ้นว่า : “ไม่ค่อยเท่าไหร่เพคะ แต่ก็ได้ยินมาว่าเขาชื่นชมความสามารถของหลิงหลงมาก” ฮองเฮายิ้มอย่างเย็นชาออกมา “ซูหลิงหลงมีความสามารถอะไรให้ชื่นชมกัน? เจ้าอยู่ในจวนมาหลายปี เคยเห็นไหมล่ะ? ในปีนั้นพ่อเจ้าถูกภาพวาดผืนหนึ่งดึงดูดไว้ ภาพวาดผืนนั้น ไม่ใช่ของซูหลิงหลง แต่เป็นของแม่เจ้า" หลีโม่ส่งเสียงอ่าออกมา เป็นเรื่องที่น่าตื่นตกใจมาก เพราะเรื่องนี้นางไม่เคยรู้มาก่อน
已经是最新一章了
加载中