ตอนที่ 54 การโจมตีของเฉิงเสี่ยงเสี้ย
1/
ตอนที่ 54 การโจมตีของเฉิงเสี่ยงเสี้ย
พิษรักองค์ชายโฉมงาม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 54 การโจมตีของเฉิงเสี่ยงเสี้ย
ตนที่ 54 การโจมตีของเฉิงเสี่ยงเสี้ย ฮองเฮาหมุนตัวเข้าไปในตำหนัก ก่อนพูดขึ้นว่า “เจ้าไปซ่อนอยู่ด้านหลังฉากกั้นก่อนเถอะ ให้เปิ่นกงได้เห็นอย่างชัดเจน ความสามารถนี้ของซูหลิงหลง จะมีคนตกใจกันกี่คนเชียว” ฮองเฮานั่งลง ก่อนจะดื่มน้ำชาไปอึกหนึ่ง ไม่นานหยางมามาก็ได้นำซูหลิงหลงเข้ามา การคุกเข่าทำความเคารพมาตลอดเส้นทาง ทำให้หน้าผากของนางบวมปูดขึ้นมา และเริ่มช้ำเลือด จนยืนทรงตัวไม่ได้ ฮองเฮาชำเลืองมองไปทางหลิงหลงฮูหยิน หยางมามากระซิบข้างหูของนางเบาๆก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป เฉิงเสี้ยงเสี้ยไปหาหมุยเฟยเหนียงเหนียง เดิมทีหมุยเฟยนั้นไม่ยอม แต่เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้พูดกับนางไว้ประโยคหนึ่ง หมุยเฟยจึงได้ไตร่ตรองสักครู่ แล้วจึงมา แต่เมื่อมาถึงพระตำหนักจิ่งหนิงหยางมามาที่รักษาการ อยู่หน้าประตูได้พูดขึ้นว่า : “หมุยเฟยเหนียงเหนียง เฉิงเสี้ยงเพคะ เชิญท่านทั้งสองไปดื่มน้ำชา ณ ตำหนักตะวันตกก่อนเพคะ เหนียงเหนียงมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับฮูหยิน หมุนเฟยนิ่งไป พระตำหนักจิ่งหนิงสถานที่นางมาเป็นประจำ ย่อมรู้ว่าตำหนักตะวันตกสามารถมองเห็นทุกอย่างของตำหนักทั้งหลังได้จากหน้าต่างม่านมุก ฮองเฮาต้องการจะเล่นอะไรกันแน่? นางและเฉิงเสี้ยงเสี้ยสบตากัน จากนั้นก็ตามหยางมามาไปยังตำหนักตะวันตก จวนตะวันตกและตำหนักใหญ่ มีช่องว่างห่างกันแค่หน้าต่างม่านมุก แต่ด้านหลังของหน้าต่างม่านมุกเป็นผ้าม่านผืนใหญ่ที่ปักด้วยดิ้นทอง ดังนั้น ตำหนักใหญ่จึงมองไม่เห็นคนของตำหนักตะวันตก หยางมามาได้จากไปหลังจากที่พาทั้งสองคนเข้าไปยังด้านหลัง หมุยเฟยจึงได้เปิดม่านออก แล้วมองทะลุม่านมุกออกไป ทุกอย่างในตำหนัก สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน บทสนทนาทั้งหมดต่างก็ดังเข้ามาในหูอย่างชัดเจนเช่นกัน ฮองเฮามาประคองหลิงหลงเหนียงเหนียงด้วยตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นพลางยิ้มแก้มปริว่า : “ที่เปิ่นกงเชิญเจ้ามาในครั้งนี้ ก็เพื่อจะข้อร้องเจ้าหนึ่งเรื่อง” หลิงหลงฮูหยินแสดงออกถึงความไม่เข้าใจต่อฮองเฮา แต่ก็ไม่กล้ามากล่าวโทษ จึงได้พูดขึ้น : “ฮองเฮาเหนียงเหนียงมีอะไรรับสั่ง ทรงกล่าวได้เลยเพคะ” ฮองเฮากวัดแกว่งมือ เพื่อให้คนนำภาพม้วนแผ่นหนึ่งออกมา แล้วกางออกต่อหน้าของหลิงหลงฮูหยินช้าๆ หลิงหลงฮูหยินตื่นตกใจ ภาพม้วนนี้ นางรู้จักเป็นอย่างดี นี่คือภาพวาดที่นางให้กับเฉิงเสี้ยงเสี้ย เฉิงเสี้ยงเสี้ยหลงใหลในภาพๆนี้ ทั้งสองคนจึงได้จับมือเดินไปด้วยกันจนถึงตอนนี้ นี่คือภาพวาดทิวทัศน์ภูเขาและน้ำ มันไม่ใช่ภาพสเก็ตช์ แต่ล้วนแล้วเป็นสีทั้งสิ้น โทนสีก็ใช้ได้อย่างงดงาม อีกทั้ง โทนสีเช่นนี้ แม้แต่จิตรกรในวังก็ยังทำออกมาไม่ได้ วัสดุสีนี้ ช่างพิเศษมาก เฉิงเสี้ยงเสี้ยเองก็นึกถึงเรื่องราวของหลิงหลิงหลงฮูหยินขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพวาดนี้ ความหวาดกลัวที่พุ่งทะยานก่อนหน้านั้นได้ถูกความหอมหวานของเรื่องราวกลบสิ้น บางที่อาจเป็นเพราะภาพนี้ ที่ยังคงรู้ตื่นตระหนกไม่มีที่สิ้นสุด การวาดอย่างงดงามไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่การลงสีนี้สิเป็นดั่งภูษาฟ้าไร้ตะเข็บเสียจริงๆ ทำให้รู้สึกราวกับว่าได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย ภูเขาเขียวชอุ่ม แม่น้ำใสแจ๋ว นกน้อยกลางปีกโบยบิน ดอกไม้แข่งกันบานแข่งกันร่วงโรย ราวกับเคลื่อนไหวไปมา ภาพนี้ได้ทำให้เขาตื่นตกใจในช่วงพริบตาเดียว เพียงแต่ว่า ภาพนี้ถูกซ่อนไว้ภายในห้องนี้ ทำไมถึงได้ไปอยู่ในมือของฮองเฮาได้? เฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่รู้ว่า ภาพนี้คือภาพที่เสี้ยโล่เยว่ขโมยออกมาจากคลังไปให้กับไท่จื่อ ไท่จื่อไม่ชอบสมุดภาพ จึงได้ส่งมอบให้กับฮองเฮา ฮองเฮาจึงสั่งให้บัณฑิตชั้นตรีไปทำการวินิจฉัย จึงได้รู้ว่าเป็นฝีมือของหลี่ซื่อ “เปิ่นกงได้ยินมาว่า ปีนั้นฮูหยินได้นำภาพวาดนี้ไปให้กับเฉิงเสี้ยง” น้ำเสียงของฮองเฮาไม่มีความชื่นชมเลยแม้แต่น้อย "จิตรกรในวัง ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าได้" สีหน้าของหลิงหลงฮูหยินได้แสดงความลำพองใจออกมา “ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็ชมเกินไป ภาพวาดนี้หม่อมฉันวาดขึ้นมาตามอารมณ์เท่านั้นเพคะ ไม่ได้เป็นการวาดที่น่าตื่นตาตื่นใจนักหรอกเพคะ" ฮองเฮาเบิกตากว้าง “วาดตามอารมณ์ก็ยังวาดออกมาได้งดงามขนาดนี้เลยหรือ หากตั้งใจวาด จะน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนกัน? ความสามารถอันโดดเด่นของฮูหยิน หลี่ซื่อก็ไม่อาจเทียบเคียงได้” หลิงหลงฮูหยินปัดเส้นผมที่ร่วงหล่นตอนที่คุกเข่าคำนับเมื่อสักครู่ออก ก่อนจะเผยรอยยิ้มพริ้มใจบนใบหน้า “เหนียงเหนียงชมเกินไปแล้ว หม่อมฉันมิบังอาจเทียบเท่าหลี่ซื่อหรอกเพคะ” ฮองเฮาหัวเราะออกมา “พูดเช่นนี้ แสดงว่าภาพนี้ ก็เป็นฝีมือของฮูหยินจริงๆใช่ไหม?” หลิงหลงฮูหยินจึงพูดขึ้นอย่างไม่ลังเลสักนิดว่า : “เหนียงเหนียง จริงแท้แน่นอนเพคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้หม่อมฉันปณิธานไว้ว่าจะไม่วาดภาพอีกเพคะ” เมื่อฮองเฮาได้ยินคำพูดนี้ จึงได้รีบม้วนภาพวาดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตะโกนขึ้นว่า “ทหาร นำตัวคนทรยศคิดกบฏเพื่อโค่นล้มราชวงศ์ของข้าผู้นี้ออกไป!” หลิงหลงฮูหยินช่างโง่เขลานัก นางมองไปทางองครักษ์ทั้งสองคนที่พุ่งเข้ามาจากนอกตำหนักด้วยความตกใจ โดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพิ่งจะพูดถึงภาพม้วนแผ่นนี้ แล้วทำไมถึงได้โยงไปเรื่องคนทรยศคิดก่อการกบฏได้ละ เฉิงเสี้ยงเสี้ยอยากจะพุ่งออกจากตำหนักตะวันตก แต่กลับถูกหมุยเฟยขัดขวางไว้ที่หน้าประตู หมุยเฟยส่ายหน้าช้าไป “ออกไปไม่ได้” เฉิงเสี้ยงเสี้ยเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันผิดปกติเช่นกัน จึงได้ยืนมองไปทางเหตุการณ์อยู่ที่เดิมต่อไป องครักษ์ทั้งสองคนได้เข้ามาจับตัวตัวหลิงหลงฮูหยิน หลิงหลงฮูหยินพูดขึ้นด้วยเสียงดังว่า : “เหนียงเหนียง นี่มันหมายความว่าอย่างไรเพคะ? ทำไมหม่อมฉันถึงได้กลายเป็นคนทรยศก่อการกบฏไปได้เพคะ?” ใบหน้าของฮองไทเฮาแสดงออกถึงความเย็นชา จากนั้นก็สั่งให้คนนำภาพม้วนนั้นมากางออกอีกครั้ง แล้วชี้นิ้วไปทางรูปดอกไม้ ก่อนจะพูดตะโกนขึ้นว่า : “ยังจะพูดจาเหลวไหลหาว่าไม่ได้เป็นคนทรยศก่อการกบฏอีกอย่างนั้นหรือ? ภาพวาดนี้ ดอกแพร์เบ่งบาน ดอกชบาหุบ จิตใจแอบการกบฏอย่างเงียบๆ ตระกูลซือถูช่วงชิงมาจากตระกูลเว่ย ในคำพูดหมายถึงไท่จู่ บัดนี้ดอกชบาหุบ ดอกแพร์เบ่งบานที่เจ้าวาด มีเจตนาจะโค่นล้มราชวงศ์ไม่ใช่หรือ? เจ้ากล้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่คนทรยศก่อการกบฏอย่างนั้นหรือ?” หลิงหลงฮูหยินตกใจอกสั่นดีฝ่อ รีบดิ้นให้หลุดออกจากองครักษ์ก่อนจะคุกเข่าลงไปบนพื้น ด้วยตัวสั่นเทา “ฮองเฮาเหนียงเหนียงทรงให้อภัย หม่อมฉันปิดบังทั้งหมด ภาพนี้ ไม่ใช้ฝีมือของหม่อมฉัน แต่เป็นฝีมือของหลี่ซื่อเพคะ” โค่นล้มราชวงศ์เรื่องนี้ เป็นความผิดบาป นางจะแบกรับมันได้ยังไง? เมื่อพูดออกไป หลีโม่ที่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังฉากกั้นก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เป็นฝีมือของแม่จริงๆด้วย แต่หลิงหลงเหนียงเหนียงนำภาพนี้มาได้ยังไงกัน? อีกทั้งทำไมภาพนี้ถึงได้ตกมาอยู่ในมือของฮองเฮาได้ละ? หลีโม่เข้าใจเจตนารมณ์ของฮองเฮา นางรู้ว่าเฉิงเสี้ยงเสี้ยต้องอยู่ไม่ไกลจากนี้เป็นแน่ เหตุการณ์นี้ เขาต้องเห็นอย่างแน่นอน การโค่นล้มซูหลิงหลงเป็นความประทับใจที่อยู่ในใจของเขา เขาค่อยๆก่อเกิดความรู้สึกเคียดแค้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ต่อให้ไม่มีทางโกรธกันได้ทุกๆสามเวลาก็ตาม แต่มันก็ฝังเอาไว้ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา ในระหว่างนั้น นางและแม่ของนางได้แอบขโมยโอกาสที่จะมีชีวิตรอดไปในขณะที่อยู่ในจวน เพราะหลิงหลงฮูหยินต้องการหาทางโน้มน้าวหัวใจของเฉิงเสี้ยงเสี้ย ไม่ให้มีกระจิตกระใจไปจัดการพวกนาง ฮองเฮาไม่สามารถแก้ไขสภาวะตกต่ำของนางได้หมดสิ้น เพราะฮองเฮาทำได้เพียงใช้ประโยชน์จากการรักษาอ๋องเหลียง นางสามารถปกป้องความปลอดภัยได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากในกรณีที่อ๋องเหลียงได้รักษาหายแล้ว นางจะเป็นหรือจะตาย ฮองเฮาจะไม่สามารถสนใจอีก หลีโม่เข้าใจเรื่องนี้ งั้นหลังจนกที่นางอภิเษกสมรสกับอ๋องซื่อเจิ้ง ฮองเฮาอาจจะต้องเตรียมการไว้ต่อกับนาง ดังนั้น วันนี้นางจึงได้เหลือทางหนีทีไล่ให้กับหลิงหลงฮูหยิน น่าเสียดายที่มือของหลิงหลงฮูหยินกลับกดทับตัวเองไว้ ใบหน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ยแปรเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำขึ้นมาทันใด เขาแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขาตระหนักได้ว่าจะต้องไปค้านค้านความจริงเรื่องนี้ จึงได้หันหน้าไปแล้วเดินพุ่งตรงไปทันที เรื่องนี้ก็เป็นที่น่าตกใจสำหรับเขาเช่นกัน ยังน่าตกใจมากกว่าเรื่องที่หลีโม่จะอภิเษกสมรสกับอ๋องซื่อเจิ้งสักอีก ความสุขที่มีมาตลอดเกือบ 20 ปีต้องถูกเยาะเย้ยในชั่วพริบตา เขาคิดว่า แม่นางที่มีความสามารถที่สุดในใต้หล้านี้ คือคนที่ถวายกายและใจที่จะดูแลปรนนิบัติเขา เขาคิดว่าหลี่ซื่อเป็นคนที่กล้าเปิดเผยความคมมีดมาโดยตลอด ในช่วงก่อนหน้านั้น มีหลายคนที่ติดหนี้นาง ที่จริงแล้วเป็นเพราะชื่อเสียงด้านความสามารถ จนกระทั่งเขารู้สึกว่า ตัวเองตามจีบหลี่ซื่ออย่างบ้าคลั่งมาก ส่งผลให้มีผลกระทบต่อโลกภายนอกด้วย หลังจากที่เห็นภาพซูหลิงหลงภาพนี้ เขาถึงได้รู้ว่าแม่นางที่มีความสามารถที่แท้จริงมักซ่อนตัวเองไว้เงียบๆ แต่ไม่เหมือนกับหลี่ซื่อ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้เข้าไปในแวดวงของการมีชื่อเสียง อัพเดทครั้งต่อไป 25/12/2019
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 54 การโจมตีของเฉิงเสี่ยงเสี้ย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A