ตอนที่ 55 ภาพวาดโดยฝีมือของหลี่ซื่อ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 55 ภาพวาดโดยฝีมือของหลี่ซื่อ
ต๭นที่ 55 ภาพวาดโดยฝีมือของหลี่ซื่อ เมื่อฮองเฮาได้ยินประโยคนี้ ก็ได้ยกมือห้ามปรามองครักษ์ จากนั้นจ้องเขม็งไปทางหลิงหลงฮูหยินถามขึ้นว่า : “เจ้าพูดอะไร? ภาพวาดของหลี่ซื่อ? หากเป็นฝีมือของหลี่ซื่อจริง ทำไมถึงได้มาอยู่ในมือของเจ้า?แล้วทำไมถึงได้กลายมาเป็นของขวัญของเฉิงเสี้ยงเสี้ยละ?” “ฮองเฮาเหนียงเหนียง เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ภาพนี้เป็นฝีมือของหลี่ซื่อจริงๆเพคะ เดิมทีหลี่ซื่อมอบให้อ๋องอานชิน วันนั้นหม่อมซื้อมาจากข้ารับใช้ที่คอยปรนนิบัติหลี่ซื่อ ภาพๆนี้จึงได้ตกมาอยู่ในมือของหม่อมฉัน” หลิงหลงฮูหยินอ้อนวอนของแค่ให้ฮองเฮาเชื่อคำพูดของนาง อะไรนางก็ไม่สนทั้งนั้นแล้ว ฮองเฮาบันดาลโทสะ “พูดจาเหลวไหล ทำไมถึงต้องส่งมอบให้กับอ๋องอานชินด้วย? หลี่ซื่ออภิเษกสมรสกับเฉิงเสี้ยงแล้ว เจ้าบอกว่านางส่งมอบภาพวาดให้กับอ๋องอานชิน หรือว่านางจะแอบแทงข้างหลังสามีของนาง? นิสัยของเจ้าไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ บัดนี้ยังจะใส่ร้ายป้ายสีหลี่ซื่ออีก” “ไม่ ไม่” หลิงหลงฮูหยินเห็นฮองเฮายังโกรธเคืองอยู่ จึงรีบกล่าวอธิบาย : “ภาพวาดผืนนี้ไม่ใช่ของขวัญแทนใจ หม่อมฉันได้ยินสาวใช้ที่อยู่ข้างกายหลี่ซื่อพูดมาว่า ภาพนี้ เป็นภาพที่หลี่ซื่ออยากจะส่งมอบให้กับอ๋องอานชินเพคะ เพื่อต้องการบอกนัยๆ ว่า นางได้หากิ่งก้านที่ดีเจอแล้ว อ๋องอานไม่ต้องปกป้องนางแล้วเพคะ" หลิงลงฮูหยินกลัวว่าฮองเฮาจะไม่เชื่อ จึงได้ยืดตัวขึ้นแล้วชี้นิ้วไปทางนกที่อยู่บนภาพวาด “หากฮองเฮาไม่เชื่อ ได้โปรดดูตรงนี้เพคะ นกตัวนี้คือหลี่ซื่อ ชื่อของหลี่ซื่อคือหลี่ซ่วยหยุ่น ส่วนนกกระเต็นร่อนตัวลงมาบนต้นไม้ใหญ่ นั้นหมายถึงท่านอ๋องเสี้ยห้วยจุน ดอกไม้ต้นหญ้าอะไรที่อยู่ในนั้นก็เป็นดอกชบาเป็นหลี่ซื่อทั้งนั้น มีคำพูดที่อยากจะโค่นล้มราชวงศ์หรือไม่อย่างไร หม่อมฉันก็ซื้อมาโดยไม่ทราบเพคะ" ฮองเฮาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “เถียงข้างๆคูๆต่อสิ วันนี้เจ้าผลักดันการกระทำทุกอย่างไปให้กับหลี่ซื่อ เมื่อครั้งที่อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของฮองไทเฮา เจ้าบอกว่าไม่ชอบนาง เรื่องการถอนหมั้นของเสี้ยหลีโม่ เจ้าก็เป็นคนผลักดันนาง เจ้าคิดว่าเปิ่นกงโง่เขลาหรือ? เรื่องนี้เจ้าเถียงข้างไปคูๆไม่ได้แน่ เปิ่นกงจะจับตัวเจ้าไว้ จากนั้นก็ส่งให้กับอ๋องซื่อเจิ้ง เพื่อชดใช้ความผิดในการเป็นปริปักษ์ของเจ้า" หลิงหลงฮูหยินตื่นตกใจกลัวขึ้นมาจริงๆ วันนี้อ๋องซื่อเจิ้งได้บันดาลโทสะใส่นางถึงสองคราแล้ว หากนางถูกส่องมอบให้กับอ๋องซื่อเจิ้ง ต้องถึงแก่ความตายอย่างแน่นอน นางออกแรงเงยศีรษะของตัวเองขึ้นมา ก่อนหมุนตัวกล่าวอธิบายด้วยอาการสั่นเทา : “ฮองเฮาเหนียงเหนียงได้โปรดอภัยโทษ หม่อมฉันไม่มีไม่คิดอกุศลต่อหลี่ซื่อเลย เป็นฝีมือของหลี่ซื่อจริงๆเพคะ ขอแค่ให้ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยชอบเสี้ยโล่เยว่ หม่อมฉันเองก็ไร้สิ้นหนทางเพคะ” เมื่อฮองเฮาได้ยินประโยคนี้แล้ว นัยน์ตาจึงได้แสดงความโกรธ นางยังตะโกนขึ้นว่า “ยังกล้าเถียงข้างๆคูๆอีกหรือ? ข้าหลวง ปิดปากให้เปิ่นกงที!” หยางมามาก้าวเข้าไปในตำหนัก ราวกลับเตรียมการมาไว้แล้ว จากนั้นก็หยิบไม้กระดานเรียบออกมาจากแขนเสื้อ ไม้กระดานแผ่นนี้ เป็นไม้ที่ข้าหลวงไว้ใช้ลงโทษนักโทษเหล่านั้นโดยเฉพาะ เมื่อใช้ไม้ตีลงไปสองสามครั้ง ส่งผลให้ริมฝีปากของเจ้าบวมเป่งขึ้นมา หยางมามารังเกียจเดียดฉันท์หลิงหลงฮูหยินที่ทำตัวไร้มารยาทกับนางในจวนเฉิงเสี้ยง นี่เพราะเป็นคำสั่งของฮองเฮาเหนียงเหนียง จากนั้นก็จับคอของหลิงหลงฮูหยินที่ถูกจับไว้ให้เงยขึ้นมา มือซ้ายที่ถือไม้กระดานไว้ ได้ฟาดลงไปบนแก้มของหลิงหลงฮูหยินทันที เสียงร้องราวกับหมูโดนฆ่า ทำให้เฉิงเสี้ยงเสี้ยที่มองดูอยู่ในตำหนักตะวันตกรู้สึกเสียหน้า เขารู้สึกโดนดูถูกขึ้นมาในใจทันใด รู้สึกแค่เพียงว่าแม่นางผู้นี้ถึงได้โง่เขลามากนัก กลยุทธ์การหลอกล่อของฮองเฮาก็มองไม่ออก นางเพิ่งจะยอมรับว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการถอนหมั้น แล้วก็ยังมีเรื่องที่ไท่จื่อชอบเสี้ยโล่เยว่อีก หากพูดถึงเรื่องนี้ในสถานการณ์นี้ ทำไมฮองเฮาถึงไม่โต้กลับละ? เฉิงเสี้ยงเสี้ยเองก็เข้าใจเช่นกัน ฮองไทเฮาเป็นคนที่ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติ แต่ ฮองเฮากลับไม่เป็นเช่นนั้น รู้ว่าฮองเฮานั้นมีจิตใจคับแคบ หนี้แค้นต้องชำระ ช่างน่าขำทีเขาคิดว่าเรื่องเมื่อสักครู่นั้นมันได้ผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อข่าวลือได้แพร่สะพัดออกไปตามคำสั่งโดยตั้งใจของอ๋องซื่อเจิ้ง พวกเขาถึงได้รีบร้อนเข้ามารับโทษในวัง แผนการราวกับลูกโซ่นี้ ได้เกินความคาดหวังของอ๋องซื่อเจิ้งมาก เขาอยากให้หัวขโมยนั้นปรากฏตัวออกมา เฉิงเสี้ยงเสี้ยเกลียดความคิดของหลีโม่มาก ถึงขึ้นลึกซึ้งเลยก็ได้ หลังจากที่ถูกไม้กระดานตีไปหลายครั้ง หลิงหลงฮูหยินรู้สึกวิงเวียนจะเป็นลม แทบจะล้มหงายลงไป เมื่อหยางมามาปล่อยนาง จึงส่งผลให้นางไถลลื่นไปบนพื้น แก้มที่บวมปูด ริมฝีปากที่บวมเป่ง มีเลือดกระซิบไหลออกมาจากมุมปาก ผมเผ้าที่ม้วนเป็นทรงได้หลุดร่วงลงมา ไม่อยากจะบอกว่าช่างดูน่าเวทนาใจยิ่งนัก หลีโม่มองดูอยู่ด้านหลัง ด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ไม่ใช่ฝีมือของนาง นางไม่คิดที่จะแก้แค้นให้เจ็บช้ำน้ำใจ กลิ่นคาวเลือดในตำหนักได้ทำให้นางนึกถึงวินาทีที่ผ่านไปในตอนนั้น เสียงร้องห่มร้องไห้อย่างน่าเวทนาใจของเจ้าตัวได้ดังก้องอยู่ในโสตประสาท ชีวิตที่สดใสนั้น ได้ตกไปอยู่ในน้ำมือของหลิงหลงฮูหยินและไท่จื่อซือถูเย่ นางเคยตั้งปณิธานไว้ว่า จะต้องแก้แค้นให้เจ้าตัวให้ได้ หลิงหลงฮูหยินได้คลานอยู่บนพื้น พร้อมกับร้องไห้อย่างไม่น่าดูนัก “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ได้โปรดเชื่อหม่อมฉันเถอะเพคะ ภาพนี้เป็นฝีมือของหลีซื่อจริงๆเพคะ” ฮองเฮาหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา “ได้ ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นฝีมือของหลี่ซื่อ เปิ่นกงก็จะให้นางมายืนยันกับเจ้าในวัง” หลิงหลงฮูหยินได้แต่ร้องไห้ระทมอยู่เงียบๆในใจ บัดนี้หลี่ซื่อจะยอมรับว่าภาพนั้นเป็นฝีมือของนางหรือ? อีกทั้ง หลังจากที่ทะเลาะกันเรื่องนี้ เฉิงเสี้ยงจะต้องไม่พอใจที่นางสร้างเรื่องขึ้นมาหลอกลวงอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะมีวิธีไหนอีกละ? ในตอนที่หยางมามาได้ออกไปรับหลีซื่อนอกวังอีกครั้ง ฮองเฮาได้รับสั่งไว้ให้หลิงหลงฮูหยินเจ้าแผนการถูกคุมขังอยู่ภายในห้อง ใบหน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ยซีดเผือด เมื่อครั้งที่ถูกบุกเข้าไปทุบตีถึงในห้อง ถึงจะมีชีวิตรอดออกมาได้ แต่ก็เสียไปแล้วกว่าครึ่งชีวิต เมื่อหมุยเฟยเห็นเหตุการณ์นี้ ก็คิดอยากจะออกไปจากตรงนี้ เฉิงเสี้ยงเสี้ยกัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า : “เหนียงเหนียง ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร วันนี้นางก็ยังเป็นคนของจวนเฉิงเสี้ยงอยู่ ได้โปรดท่านเห็นแก่สถานะของหม่อมฉันด้วย ช่วยหม่อมฉันสักครั้ง” หมุยเฟยมองไปทางเขา “เจ้าใช้ตาอะไรดู? หลี่ซื่อไม่ดีเท่านางถึงพันเท่าหรือ? แม่นางผู้นี้ เจ้าเฝ้ารักทะนุถนอมมาเป็นสิบปี วันนี้เปิ่นกงเข้าใจความเงียบเหงาที่หลี่ซื่อมีต่อเจ้าแล้ว” ใบหน้าของเฉิงเสี้ยงเสี้ยเคร่งขรึม “หม่อมฉันรู้ แต่ได้โปรดเหนียงเหนียงเห็นแก่เบื้องหน้าของพระราชโอรสทั้งสามพระองค์ด้วย ช่วยหม่อมฉันสักครั้ง หากนางถูกตราหน้าว่ามีความผิดเป็นจอมวางแผน หม่อมฉันเองก็ได้รับผลไปด้วย ดังนั้น ไม่ว่าภาพนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพราะเป็นภาพของหลี่ซื่อ” “ถึงแม้ว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าภาพนี้เป็นฝีมือของหลี่ซื่อจริงๆ เจ้าก็ต้องได้รับผลเช่นกัน” หมุยเฟยเตือนเขา เฉิงเสี้ยงเสี้ยเงียบไปสักพัก “ในราชวงศ์นี้ ขุนนางกว่าหลายร้อยชีวิตล้วนแล้วแต่อิจฉาความสามารถของนาง นางไม่มีความผิด เพราะมีคนช่วยเหลือนาง อ๋องอานชินแบกหน้าไปช่วยเหลือนางให้ไม่มีความผิด เพราะภาพนี้ คือภาพที่ส่งมอบให้กับอ๋องอานชิน” หมุยเฟยตื่นตกใจไป นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดประโยคนี้ออกมา ถึงแม้ว่าหมุยเฟยจะไม่ชอบหลี่ซื่อนักก็ตาม แต่ก็อดที่จะรู้สึกเสียใจต่อนางไม่ได้ “ภาพนี้” หมุยเฟยอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า : “เจ้าก็ได้ยินที่ซูหลิงหลงพูดแล้ว หลี่ซื่อในตอนนั้น คิดว่าตัวเองได้เจอที่พักที่ถูกใจแล้ว......” หมุยเฟยหยุดพูด เพราะนางรู้สึกว่า ถึงนางจะพูดออกมาในสถานะตอนนี้ ก็ย่อมไม่มีความหมายใดๆสักนิด เพียงแค่ได้ออกมาจากความขุ่นเคืองใจแก่นาง เฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่พูดอะไรออกมา วันนี้เขาได้รับการโจมตีที่ค่อนข้างหนักหนาเกินไป จึงไม่มีทางที่จะทำให้อารมณ์ความรู้สึกราบรื่นได้ เขาแต่งงานกับหลี่ซื่อแล้ว แต่ตั้งแต่หลิงหลงเข้าจวนมา นางก็เปลี่ยนไป พูดเย็นชาขึ้น ไม่แยแส  หรือนางจะคิดจริงๆ ตลอดชีวิตของเขาทำได้เพียงแค่รักษาอยู่ที่นางคนเดียวอย่างนั้นหรือ? บุรุษสามัญชนก็มักจะมีภรรยาเยอะ เขาเป็นถึงเฉิงเสี้ยง มีเพียงแค่ภรรยา 1 คน นางสนม 1 คนเท่านั้น เป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่ง นางไม่รู้จักคำว่าพอ! 
已经是最新一章了
加载中