บทที่ 78 ชี้นำหนทาง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 78 ชี้นำหนทาง
บ๗ที่ 78 ชี้นำหนทาง ขณะที่หลีโม่กำลังพูดหลี่ซื่ออยู่ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากน้างนอกลอยมา หลีโม่ฟังออกนี่เป็นเสียงของหลิงหลงฮูหยิน แหลมคมเป็นพิเศษ ทำให้คนที่ได้ยินแล้วเป็นต้องรู้สึกอึดอัด หลี่ซื่อขมวดคิ้ว “ นางเป็นอะไร ” หลีโม่หัวเราะแห้งๆ “ ชุ่ยยุ่นกูกูเห็นข้ากับองค์หญิงใหญ่เพิ่งจะกลับมาเมื่อเช้านี้ ก็เลยไปรายงาน นายหญิงแก่ไม่มาเอง ต้องบอกให้นางมาแน่ๆ ” “ องค์หญิงใหญ่ ” หลี่ซื่อตกใจ กำลังคิดจะถามพอดี ก็ได้ยินเสียงของซือถูจิ้งที่กำลังโกรธดังขึ้นมาจากข้างนอก “ เจ้าเป็นใครกัน มาถึงก็เอะอะโวยวายใส่ทันที ทั้งยังพาคนมามากมายอย่างนี้ ” หลี่ซื่อจะออกไปข้างนอก แต่หลีโม่ดึงแขนนางไว้ “ อย่าเพิ่งใจร้อนไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ให้องค์หญิงทะเลาะกับพวกนางไปเถอะ ” ในดวงตาของหลี่ซื่อเกิดความสงสัยขึ้น แต่ต่อมาก็เข้าใจทันที จึงถอนหายใจเบาๆออกมา “ หลีโม่ ลำบากเจ้าแล้ว เพื่อปกป้องข้า เจ้ารอบคอบ คิดวางแผนอยู่ตลอด อายุเท่านี้เหมือนกับเจ้า ควรต้องถูกพ่อแม่ฟูมฟักอยู่ในมือ ” หลีโม่ยิ้มเผยเห็นฟันให้นาง รอยยิ้มนั้นไร้เดียงสาอย่างมาก “ ท่านแม่ มีคนปกป้อง เป็นความสุขที่สุดในชีวิตนี้ของข้า ” ชาติก่อน นางหวังมาตลอดว่าให้ตัวเองมีคนในครอบครัวให้ปกป้อง ไม่คาดหวังให้คนอื่นมาปกป้องนาง ขอแค่นางสามารถปกป้องคนที่ตัวเองรักได้ก็พอ แต่ว่า กลับไม่มี นางเป็นแค่เครื่องมือชิ้นหนึ่ง หลี่ซื่อกอดนางเข้าแนบอกเบาๆ “ แม่จะคอยอยู่เคียงข้าเจ้า เมื่อก่อนข้าทำผิดไป ที่ไม่ลุกขึ้นมาเพื่อหลีโม่ แต่ว่า ตอนนี้แม่จะต้องปกป้องให้ดี จะไม่ให้ใครหน้าไหนมารังแกเจ้า ” แม้ว่าหลีโม่จะไม่ค่อยชินกับการกอด แต่ว่า ความรู้สึกก็ไม่เลวเลย ทั้งสองเปิดม่านออก เห็นหยางมามายืนอยู่ข้างๆตรงนั้นโดยไม่พูดอะไร เห็นได้ว่านางเข้าใจความคิดของหลีโม่แล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยตัวตนองค์หญิงใหญ่ในขณะนั้น ให้นางได้เห็นฤทธิ์เดชของจวนเฉิงเสี้ยง และแล้ว เพราะหลิงหลงฮูหยินไม่รู้ฐานะตัวตนของซือถูจิ้ง ก็ให้คนลากนางออกไป สิ่งที่ซือถูจิ้งรับไม่ได้ที่สุดก็คือการบังคับข่มเหงแบบนี้ และนางก็ไม่ใช้ฐานะมาข่มขู่หลิงหลงฮูหยินเช่นกัน แต่เป็นการดึงแขนหลิงหลงฮูหยินและบอกว่าจะออกไปตัวต่อตัวกับนาง หลายปีที่ผ่านมาซือถูจิ้งออกไปใช้ชีวิตปะปนกับชาวบ้านบ่อย เพื่อนฟ้องที่นางคบหาก็ไม่ใช้ฐานะเช่นกัน ฐานะคือสิ่งที่สวรรค์ลิขิตมา แต่เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่ตัวเองแลกมาด้วยความยากลำบาก จะกำราบคน ก็ต้องมีความสามารถ แต่ไหนแต่ไรมาไม่ถือว่าสถานที่เกิดเป็นความสามารถ หลิงหลงฮูหยินถูกนางดึงลากจนต้องร้องออกมา เรียกคนใช้ให้มาช่วยดึงซือถูจิ้งออกไป หลังจากที่คนใช้มาดึงจิ้งจิ้งออกไป หยางมามาจึงเดินออกไป ต่อว่าคนใช้พวกนั้น “ บังอาจ ยังไม่รีบปล่อยองค์หญิงอีก ” องค์หญิงคำเดียว ทำเอาหลิงหลงฮูหยินชะงักไป นางมองซือถูจิ้งด้วยสายตาสงสัย คิดใจจริงเท็จแค่ไหน ซือถูจิ้งไม่เหมือนองค์หญิง แต่ว่าช่วงนี้นางกลัวจริงๆ เพราะว่าจู่ๆรอบๆตัวหลีโม่เต็มไปด้วยคนที่มีชนชั้นมากมาย เป็นคนในวังทั้งนั้น เหมือนกับหยางมามาคนนี้ ก็เป็นคนของฮ่องเฮา กลับถูกส่งมาที่จวนเพื่อรับใช้นาง นางครุ่นคิดอยู่นานแต่ไม่มีคำตอบ และไม่เข้าไปถวายความเคารพ ทำได้แค่หัวเราะแห้งใส่หยางมามาด้วยความไม่เชื่อ “ ถ้าหากองค์หญิงเสด็จมา ทำไมไม่มีเกี้ยวพระที่นั่ง ช่างกล้าพูดแล้วไหลเหลว ” ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ว่ากลับถูกเอาตัวออกไปทันที เดินไปเร็วมาก ซือถูจิ้งห๊าขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วมองไปที่หยางมามา “ เจ้าไม่น่าบอกฐานะของข้ากับนาง นางตกใจจนวิ่งหนีไปแล้ว คนใช้พวกนี้ข้าไม่อยู่ในสสายตาข้าอยู่แล้ว ” หยางมามารู้นิสัยองค์หญิงท่านนี้ และยิ่งรู้ดีว่าศิลปะการต่อสู้ของเป็นแค่หมัดเท้าปักบุปผาใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมาการประลองฝีมือกับองครักษ์ที่ตำหนักองค์หญิงหรือในวัง ใครบ้างที่ไม่ยอมให้นาง ดังนั้นนางยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ องค์หญิง ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนพวกนี้ ท่านมามีเรื่องสำคุญไม่ใช่หรอเพคะ ทำธุระสำคัญก่อนเถอะเพคะ ” ซือถูจิ้งหันมองเล็กน้อย กำลังจะถามว่านานขนาดนี้แล้วทำไมหลีโม่ยังไม่ออกมาอีก ก็เห็นนางประคองหลี่ซื่อเดินออกมาจากในห้อง หลี่ซื่อเดินเข้าถวายความเคารพ “ หม่อมฉันหลี่ซื่อถวายความเคารพองค์หญิงเพคะ ” ซือถูจิ้งมองนาง เห็นมีสีหน้าค่อนข้างแปลก “ เจ้าก็คือหลี่ซ่วยหยุ่น คนที่เจ้าสามนึงถึงตลอดมา ” คำพูดนี้ถามตรงมาก แม้แต่หยางมามาคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากก็ยังแอบตกใจ ต้องรู้ว่า ที่นี่มีหนอนบ่อนไส้ ซู่หยู้คนนั้นแค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนซื่อสัตย์ ไม่เจียมตัวเอาซะเลย และในตอนนี้ ซู่หยู้ก็ยืนอยู่ที่ประตู เมื่อได้ยินประโยคนี้ นางก็มองมาทันที ตอนแรกหยางมามาคิดว่าหลี่ซื่อคงไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่นางกลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ ใช่เพคะ ท่านอ๋องสบายดีไหม ” จิ้งจิ้งพยักหน้า “ ดีก็ดีอยู่หรอก แต่แค่มีนิสัยค่อนข้างแปลก ” “ ท่านอ๋องนิสัยดีเสมอมา ” ทำให้เห็นว่าหลี่ซื่อไม่เห็นด้วยกับคำพูดนาง จิ้งจิ้งมองนาง “ ที่ข้าพูดถึงคือเจ้าสามซือถูจื่อ ไม่ใช้เจ้าสี่เจ้าห้า ” เจ้าสี่เจ้าห้านิสัยดี แต่เจ้าสามซือถูจื่อขึ้นชื่อว่ามีนิสัยที่ฉุนเฉียว นางกลับบอกว่าเขานิสัยดีอย่างนั้นหรอ “ อ๋องอานชิน เป็นคนดีมาก ” หลี่ซื่อพูดด้วยรอยยิ้ม จิ้งจิ้งค่อนข้างสะเทือนใจ นางรู้ที่หลี่ซื่อพูดว่าอ๋องอานชินดี เป็นเพราะเวลาที่อ๋องอานชินอยู่ต่อหน้านางต้องแสดงท่าทางนิสัยดีมากออกมา แต่พออยู่ต่อหน้าตัวเอง กลับชอบมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวมาก จิ้งจิ้งพูดด้วยความน้อยใจ “ ข้าจะบอกเขาให้ ” หลีโม่เห็นว่าพูดกันมาพอประมาณแล้ว จึงเอ่ยกับจิ้งจิ้งขึ้น “ องค์หญิง ตอนนี้หม่อมฉันต้องไปที่ตำหนักอ๋องเหลียง ท่านจะไปกับหม่อมฉันด้วยไหมเพคะ ” “ ไปสิ ข้าจะไปดูหลายชายใหญ่ของข้าสักหน่อย ว่าแต่เจ้าจะไม่นอนสักหน่อยหรอ เจ้าสามบอกให้ข้าเฝ้าดูเจ้านอน ” ซือถูจิ้งพูด หลีโม่ได้ยินดังนี้ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี เมื่อคิดว่าในภายหน้าตัวเองต้องแต่งงานกับซือถูเย้น จะต้องเรียกนางว่าเสด็จน้า สีหน้าของนางค่อยๆแดงอายขึ้นมา การแต่งงานที่ฉุกละหุกกะว่าจะปฏิเสธในตอนแรก กลับกลายเป็นค่อนข้างรอคอยขึ้นมา “ นอนบนรถม้าสักหน่อยแล้วกัน ” หลีโม่เทคนิคทางเข็มทองคำใส่ไว้ในแขนเสื้อ ไว้อ่านลนรถม้า บนรถม้า หลีโม่เปิดอ่านทคนิคทางเข็มทองคำ และพบปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนหน้า ต่างเป็นจีนตัวเต็ม แต่ในส่วนหลัง กลับเป็นจีนตัวย่อ นางเปิดดูเลขที่หน้า พบว่าในส่วนหลังคือการติดเข้าไป และนี่หมายความว่า ส่วนหลังกับส่วนหน้า คนเขียนไม่ใช่คนเดียวกัน ผู้เขียนคนนี้จิตใจบริสุทธิ์ วันนั้นตอนที่พูดออกมา ฮองไทเฮาและฮองเฮาต่างก็เคารพนับถือเป็นอย่างมาก ดูแล้วคงเป็นหมอระดับอาวุโสที่มีคุณธรรมอีกทั้งยังมีฝีมือคนหนึ่ง “ นี่คือหนังสืออะไร ” จิ้งจิ้งเดินเข้ามา รี่ตามองไปมองมา ทันใดนั้นก็หาวขึ้นมา “ ข้ามองตัวหนังสือไม่ได้ มองแล้วก็ง่วงทันที ” นางจึงยอมใช้ไหล่หลีโม่เป็นหมอน นอนหลับไป ตอนแรกหลีโม่ตั้งใจจะถามเกี่ยวกับเรื่องสระยา เห็นนางเหนื่อยล้าขนาดนี้ ก็เลยไม่ถาม จึงตั้งใจอ่านเทคนิคทางเข็มทองคำ ในเทคนิคทางเข็มทองคำมีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแลภายนอก อีกทั้งในส่วนด้านหลังที่เขียนต่อ ก็มีอธิบายถึงวิธีการกระตุ้นจุดฝังเข็มสร้างเลือด หลีโม่อ่านอย่างดุเดือดเมามัน ผู้เขียนคนนี้ จะเป็นคนยุคปัจจุบันที่ทะลุข้ามมิติไป เพราะทฤษฎีในหนังสือที่นางอ่าน เป็นการแพทย์แผนจีนและตะวันตกผสมผสานเข้าด้วยกัน นางอ่านเกี่ยวกับวิธีการฝังเข็มสร้างเลือดกลับไปกลับมา แปลกมาก ทำไมก่อนหน้านี้นางถึงคิดไม่ถึงนะ เพียงแค่กระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดอย่างเดียว ก็ไม่ผิดอีกทั้งยังได้ผลด้วย แต่ไม่สามารถสร้างเลือดให้เพียงพอต่อร่างกายในเวลาอันสั้นไม่ได้ ถ้าเลือดไม่พอ ออกซิเจนก็ไม่พอด้วย ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ว่า ถ้าหากหยุดการความต้องการของร่างกายชั่วคราว ให้เวลาร่างกายให้พอต่อการสร้างเลือด ก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ในเทคนิคทางเข็มทองคำได้อธิบายการผนึกเส้นลมปราณไว้ ให้คนอยู่ในสภาวะการตาย เพียงแต่ใช้เข็มทองควบคุมชีพจรไว้ หลังจากนั้นสามวัน ใช้การฝังเข็มกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเลือด และไม่หยุดให้ซุปกุยลู่ที่ช้วยสร้างเลือด ก็จะมีโอกาสรอด หลีโม่ปิดตำราเทคนิคทางเข็มทองคำ ในใจสั่นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดูแล้ว ตำราเทคนิคทางเข็มทองคำเล่มนี้เป็นหนังสือที่มหัศจรรย์จริงๆ
已经是最新一章了
加载中