ตอนที่ 102 ของแทนใจ
1/
ตอนที่ 102 ของแทนใจ
พิษรักองค์ชายโฉมงาม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 102 ของแทนใจ
ตนที่ 102 ของแทนใจ หลี่โม่ไร้คำพูดทันใด ผู้ที่ตายไปแล้วได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของทุกคนอย่างฉับพลัน ไม่ต้องพันแผลให้ดีก็แสดงออกถึงความน่าเกรงขาม อีกทั้งหวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปทั่วทั้วตัวแล้ว เซียวโธ่แอบชำเลืองมองไปทางหลี่โม่ ก่อนจะมองไปทางซือถูเย้นอีกครั้ง “พวกเจ้ามองอะไรกัน? เสี้ยหลีโม่เจ้าเป็นห่วงท่านอ๋องหรือ?” หลี่โม่รีบเมินหน้าหนีไปทางอื่น “เขาคือคนไข้ของข้า หม่อมฉันเป็นห่วงคนไข้ของข้าแล้วจะทำไมหรือเพคะ? เตรียมอาหารเถอะ” เซียวโธ่มองไปทางนางด้วยความตื่นตกใจ “เจ้าหน้าแดง? ทำไมเจ้าต้องหน้าแดงด้วยละ?” ซูชิงยกอาหารขึ้นเสิร์ฟ จากนั้นก็พูดกับเซี่ยวโธ่อีกครั้งว่า : “พอได้แล้ว เรื่องนี้เจ้าไม่เข้าใจหรอก ถามมากความไปทำไม? ทานอาหารเถอะ” เซี่ยวโธ่แปลกใจมากทีเดียว “เจ้าเข้าใจ ? ไหนเจ้าลองว่ามาสิ” ซูชิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า: “ทานอาหาร” หลี่โม่รีบออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่กล้ามองไปทางซือถูเย้นแต่อย่างใด เมื่อออกไปแล้ว ก็รู้สึกหงุดหงิดกับความอ่อนแอของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะอย่างไรนางก็เป็นคนในยุคปัจจุบัน ถูกเซี่ยวโธ่กล่าววาจาอย่างไม่เกรงใจสองสามคำ ก็ไม่มีเหตุผลเช่นนี้แล้วหรือ? เขาพูดว่านางเป็นห่วงซือถูเย้น? ถึงจะเป็นห่วงก็เป็นปกติไม่ใช่หรือไง? เพื่อช่วยเขา นางเกือบจะต้องเอาชีวิตเข้าแลกเชียวนะ เซี่ยวโธ่ถามซือถูเย้นว่า “เสี้ยหลี่โม่ผู้นี้แปลกมาก เจ้ารู้สึกไหม?” ซือถูเย้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายว่า : “ไม่รู้ ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำตัวแปลกอย่างยิ่งมาสองวันแล้ว” เซี่ยวโธ่ตื่นตกใจขึ้นมาทันใด “ข้าแปลก? ข้าแปลกหรือ?” “หลังจากเรื่องสงบลง เจ้าก็ไปพบกับแม่นางตระกูลเฉิน” อ๋องซื่อเจิ้งยกเท้า แล้วยืนขึ้น เซี่ยวโธ่หน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “พักผ่อน” ถึงแม้ว่าแม่นางตระกูลเฉินเป็นหญิงสาวที่น่ากลัวที่สุดบนโลกใบนี้ ต่อให้สู้จนตัวตายเขาก็ไม่มีทางไปเขาโดยเด็ดขาด หญิงชราที่อายุ 20 ปีก็ยังไม่ออกเรือน ต้องป่วยทางจิตอย่างแน่นอน ในขณะที่ทานอาหาร หัวข้อสนทนาก็ได้เปลี่ยนเวียนมาถึงเรื่องของแม่นางตระกูลเฉินจนได้ เซี่ยวโธ่แทบจะทานไม่ลง ใบหน้าอึมครึมขึ้นมาในทันที ในตอนที่กำลังเก็บโต๊ะเสร็จแล้ว ซือถูเย้นก็ให้ซูชิงนำไปเก็บ จากนั้นก็อยู่คุยกับหลี่โม่ต่อ เมื่อเซี่ยวโธ่เห็นซือถูเย้นอยู่คุยกับหลี่โม่ต่อ เขาจึงได้นั่งลง จากนั้นก็มองไปทางซือถูเย้น รอเขาเอ๋ยปาก ซือถูเย้นมองไปทางเขาอย่างช้า ๆ “เจ้ายังมีเรื่องอะไรอีกหรือ?” เซี่ยวโธ่มองไปทางหลี่โม่ ถึงแม้จะเข้าใจว่าซือถูเย้นต้องการอยู่คุยกับหลี่โม่ก็ตาม แต่จะไม่ให้เขาอยู่ร่วมคุยด้วยหรือ เขายืนขึ้น “พะยะคะ หม่อมฉันไม่มีธุระอันใด แต่หม่อมฉันก็ยังออกไปไม่ได้ไม่ใช่หรือพะยะคะ?” เมื่อพูดจบ ก็ถอนหายใจพร้อมกับเดินออกไป เมื่อซูชิงเห็นเขาโกรธเคือง จึงได้ถามขึ้นว่า: “เป็นอะไรหรือ?” “พวกเขามีความลับ ไม่ให้ข้าฟังด้วย” เซี่ยวโธ่พูดขึ้น ซูชิงมองไปทางเขาด้วยความสงสาร “เจ้าต้องมีความมั่นใจที่จะไปพบกับแม่นางตระกูลเฉินจริงๆแล้ว” เซี่ยวโธ่ชกหมัดออกไป พร้อมกับระเบิดความโกรธออกมา: “เจ้ายังจะพูดอีก?” ภายในห้อง หลี่โม่นั่งลงพร้อมกับมองไปทางซือถูเย้น สีหน้าเงียบเหงา นางรู้ว่าคืนนี้เขาต้องไปเสี่ยงอันตราย จึงไม่มีทางรักษาจิตใจให้สงบลงได้ เพราะ อาการประชวรของเขาก็ยังไม่หายดี ทรงม้าก็ยังไม่ได้ นางไม่ค่อยคิดในแง่ดีเท่าที่ควร แต่ก็ต้องกลับตำหนักอย่างบริสุทธิ์ ในตอนที่กลับไปนั้น ทุกอย่างกลับสงบลง เส้นทางที่จะกลับในวันนี้ เดินง่ายขนาดนั้นเลยหรือ? แต่ว่า นางรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถขัดขวางได้ เพราะพวกเขาเลือกที่กลับแคว้นจิงคืนนี้ ต่อให้สถานการณ์ตึงเครียดยังไงก็ต้องเดินทาง ในระยะเวลา 4 วันมานี้ หลังจากที่นางเข้ามายังยุคสมัยโบราณ นี่เป็น 4 วันที่สบายใจมากที่สุด หลีกห่างจากศึกสงครามทั้งปวง หลีกห่างจากเล่ห์เพทุบายทุกอย่าง ในทุกวันต้องการแค่เพียงเอาแต่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องทานอะไรในคืนนี้ นางหวังมาก ว่าจะได้อยู่ที่นี่ทุกวัน โดยไม่เปลี่ยนแปลง “หลี่โม่! ” ซือถูเย้นมองไปทางนาง ด้วยสายตาที่ไม่เหลือความเย็นชาเค้าเดิมอีกแล้ว แต่แสดงออกถึงความอ่อนโยนอย่างที่เปรียบไม่ได้แทน “เพคะ!” หลี่โม่ตอบกลับไปด้วยเสียงเบาๆ พยายามไม่มองดวงตาของเขา ถึงแม้ว่าเขาแสดงความอ่อนโยนและความสนิทสนมเช่นนี้ก็ตาม แต่หลังจากคืนนี้ไป เขาจะเปลี่ยนกลับไปเป็นอ๋องซือเจิ้งสูงส่งผู้นั้นเหมือนเดิม นางไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเขาที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ได้ มิเช่นนั้นในวันหน้านางอาจจะต้องผิดหวัง คืนนี้ เจ้าต้องกลับวังไปพร้อมกลับข้า เส้นทางนี้ อันตรายมาก แต่ข้าจะปกป้องเจ้าอย่างสุดกำลังที่มี หลังจากกลับวังแล้ว หากทุกอย่างราบรื่น คืนนี้ข้าจะประกาศเรื่องการอภิเษกสมรสของเจ้าและข้า” หลี่โม่เงยหน้าขึ้นไปมองเขา บาดแผลบนใบหน้าแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดเพราะเส้นเลือดฝอย “ท่านอ๋อง ทรงขอหม่อมฉัน.......” นางอยากจะถามว่าที่ขอนางอภิเษกสมรสนั้นเป็นเพราะฮองไทเฮารับสั่งหรือเป็นเพราะว่าเขารู้สึกอยากขอนางอภิเษกสมรสจริงๆกันแน่? แต่สุดท้ายก็ถามไม่ออก เมื่อมาถึงปาก กลับกลืนลงไปอย่างง่ายดาย การขออภิเษกคือความต้องการของฮองไทเฮา ท่านสามารถปฏิเสธได้นะเพคะ” “เหตุผลปฏิเสธละ?” ซือถูเย้นถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ความอ่อนโยนภายในดวงตาได้มลายหายไปหมดสิ้น ก่อนจะค่อยๆปรากฏแววตาเย็นชาขึ้นมาแทน “ท่านพูดกับฮองไทเฮาได้ว่าเสี้ยหลี่โม่ไม่สามารถให้กำเนิดพระราชโอรสได้ ชื่อเสียงก็ย่ำแย่ ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะทั้งสี่ชิ้นของจีน......” “ข้าหมายถึงเหตุผลที่เจ้าปฏิเสธ” ซือถูเย้นตัดบทสนทนาทันใด นางตื่นตกใจเล็กน้อย “เหตุผลที่หม่อมฉันปฏิเสธหรือเพคะ?” “เจ้าไม่อยากอภิเษกสมรสกับเปิ่นหวัง ใช่หรือไหม? งั้นเหตุผลที่เจ้าปฏิเสธละ?” ซือถูเย้นถามขึ้น หลี่โม่ส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่นะเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่รู้จักตนเองเท่านั้น” แล้วก็ นางไม่อยากเข้าไปต่อสู้เกี่ยวพันกับอำนาจของกษัตริย์ ในกรณีที่นางอภิเษกสมรสกับอ๋องซือเจิ้ง กลายเป็นพระชายาซือเจิ้ง ย่อมหมายความว่า สายตาทุกคู่ก็จะจับจ้องมาที่นาง นางไม่ยอมเป็นเช่นนี้เด็ดขาด ซือถูเย้นจ้องเขม็งไปทางนาง ด้วยสายตาโกรธเคือง “เสี้ยหลี่โม่ที่เปิ่งหวางรู้จักนั้นเป็นคนที่หัวแข็งดื้อรั้น ชอบโมโห อีกทั้งยังน่ารังเกียจ ดุดัน ไม่ยอมดูถูกตัวเองโดยเด็ดขาดนิ เจ้าไม่ใช่เสี้ยหลี่โม่ที่ข้ารู้จัก” ใบหน้าของหลี่โม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย หัวแข็งดื้นรั้นนี้ก็ยังได้นะ แต่ดุดันนี่..... เขาหมายความว่าอย่างไร? ราวกับว่าซือถูเย้นจะอ่านความคิดของนางออก จึงได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “เจ้าเป็นคนฆ่าอาฟาใช่หรือไม่?” หลี่โม่ตื่นตกใจขึ้นมาทันใด ทำไมเขาถึงรู้ละ? ในตอนที่ฆ่าอาฟา เขาไม่ได้ประทับอยู่ในวัง คืนนั้น เขาออกไปข้างนอกกับจื่นเฉิงแล้ว หลี่โม่เกิดอาการกระสับกระส่ายขึ้นมาอย่างฉับพลัน ในฐานะที่เป็นอ๋องซือเจิ้ง ความเมตตามากมายของเขา ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถทนให้ใครต้องถูกฆ่าอยู่ในหลังวังได้หรอก การท้าทายอำนาจของเขา โดยเฉพาะความเมตตาสองพยางค์นี้ไม่ใกล้ประเด็นแต่อย่างใด ซือถูเย้นยื่นมือออกไป ลูบไล้รอยแผลที่เหลือทิ้งไว้บนใบหน้าของนางเบาๆ เมื่อมือที่หยาบกร้านสัมผัสกล้ามเนี้อจึงเกิดการกระตุ้นขึ้น หลี่โม่เกิดอาการแข็งทื่อขึ้นในใจ ไม่ได้รู้สึกถึงความอ่อนโยนเลยสักนิด เป็นความหวาดกลัวและภัยคุกคามที่พูดออกมาไม่ได้เท่านั้น น้ำเสียงของเขาเย็นชาราวกับอากาศในวันที่หิมะตก “สำหรับคนที่ทำร้ายตัวเอง อย่าใจอ่อนโดยเด็ดขาด เจ้ามีคุณสมบัติที่จะเป็นพระชายาซื่อเจิ้ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องยืนอยู่เคียงข้างกายของเปิ่นหวัง” เดิมทีหลี่โม่คิดว่าเขาต้องการพูดเพื่อคุกคามเท่านั้น แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เขาจะพูดเช่นนี้ “หม่อมฉันฆ่าคน” น้ำเสียงของหลี่โม่ขึ้นจมูกเล็กน้อย “ข้าก็เคยฆ่าคน มากกว่าเจ้าเสียอีก” ซือถูเย้นดึงมือกลับ แต่สายตาก็ยังคงเย็นชาเฉกเช่นเดิม “แต่หากเจ้าไม่ฆ่า คนอื่นก็จะมาฆ่าเจ้า” “หลังจากนั้นหม่อมฉันก็ต้องฆ่าคน” หลี่โม่นึกถึงการตายของเจ้าของร่างเดิม ไม่ว่าอย่างไร แค้นนี้นางต้องแก้แค้นแทนเจ้าของร่างให้ได้ ในเมื่อนางช่วงชิงร่างกายจากเจ้าของมาเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป นางก็ต้องทำทุกอย่าง เพื่อแก้แค้นให้นาง “เจ้ามีเหตุ จึงต้องฆ่า” ซือถูเย้นหยิบกริชด้ามหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นให้แก่นาง “กริชด้ามนี้ เสด็จพ่อได้ให้ไว้แก่เปิ่นหวัง มันถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากเหล็กดำ แหลมคมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ข้าให้เป็นขอแทนใจแก่เจ้า” หลี่โม่สูดสมหายใจเข้าออก พร้อมกับรับกริชมา “สิ่งของแทนใจที่ทุกคนให้ ล้วนเป็นของมีค่าเงินทองทั้งนั้น ให้กริชกันที่ไหน?” “หากไม่ต้องการก็เอากลับมา!” ซือถูเย้นยื่นมือออกไปแย่งคืน หลี่โม่ยื่นมือออกไปกอดเขาอย่างรวดเร็ว อิงแอบแนบชิดบนทรวงอกของเขา “ของที่ให้แล้ว ไม่สมควรเอากลับคืนนะเพคะ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 102 ของแทนใจ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A