ตอนที่ 3 อ๋องชิงผิงแต่งงาน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 3 อ๋องชิงผิงแต่งงาน
ต๭นที่ 3 อ๋องชิงผิงแต่งงาน จางยวี่โหร่วยิ้มเยาะอยู่ในใจ ปากหวานราวกับคมดาบราดน้ำผึ้ง ใครจะไปนึกว่าจิตใจที่ชั่วร้ายเช่นนี้จะซ่อนอยู่ในภายใต้รูปลักษณ์ที่อ่อนแอ ต่อให้ในใจอยากจะฉีกร่างกายของนางเป็นชิ้นๆมากแค่ไหน แต่ภายนอกนางกลับไม่แสดงท่าทีใดใด “ เจ้าสวยดั่งดอกไม้จิตใจงดงามบริสุทธิ์เช่นนี้ จะต้องได้แต่งงานกับคนที่ปรารถนาเป็นแน่ ” จ้าวซินซินใช้ผ้าเช็ดน้ำตาและแสร้งทำสีหน้าเศร้าใจ “ ได้ยินมาว่าองค์ชาสามรูปงามไร้ที่ติและมีความสามารถเป็นเลิศ ได้แต่งงานกับสามีแบบนี้ ชีวิตนี้ก็ไม่ผิดหวังแล้ว ข้าจะโชคดีอย่างท่านพี่ได้อย่างไรกัน ” ก่อนหน้านี้นางร้องไห้กับตัวเองว่าท่านพ่อเตรียมจะให้นางแต่งงานกับลูกชายของขุนนางคนหนึ่ง ท่านชายคนนั้นหน้าตาอัปลักษณ์ก็แล้วไป แต่ภายในจวนยังมีเมียน้อย 18 คน หลังจากที่ได้แต่งไปจะต้องรู้สึกน้อยใจแน่ หลังจากที่นางรู้ก็รีบให้ท่านปู่จางไท่ซือของตัวเองออกหน้ากดเรื่องนี้ให้เงียบลง และยังบอกอีกว่าหากหลังจากนี้นางจางยวี่โหร่วแต่งงานออกเรือนไปก็จะพานางไปด้วย ทนดูนางถูกใครรังแกไม่ได้ นางมานึกถึงในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าจ้าวซินซินต้องการให้นางพาตัวเองแต่งงานกับตำหนักสามด้วย! แต่กลับไม่คิดว่าในครั้งนี้จางยวี่โหร่วจะพูดอย่างเย็นชา “ ดังนั้นนะ การเป็นคนต้องมีคุณค่าในตัวเอง อย่าไปดึงดันในสิ่งที่ไม่ได้เป็นของตัวเอง หากปรารถนาสูงเกินไปจะทำให้ได้รับผลลัพธ์ตรงกันข้ามและเสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ ” จ้าวซินซินใบหน้าซีดเผือก นางหมายความว่าอย่างไรกัน กำลังดูถูกว่านางฐานะต่ำต้อยไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับสามีที่ดีเหรอ? เมื่อดูท่าทางของจ้าวซินซินในตอนนี้แล้ว ในใจของนางยิ้มเยาะ ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น! “ เจ้าอย่าได้เข้าใจความหมายของข้าผิดไปเลย ข้าแค่ทอดถอนใจกับโชคชะตาของตัวเองเท่านั้น ลูกสาวที่แต่งงานออกเรือนไปก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออก หลังจากที่แต่งงานออกเรือนไปแล้วก็ไม่สามารถคอยอยู่ข้างๆปรนนิบัติดูแลพ่อแม่และคนที่รักเหมือนเช่นตอนนี้ได้อีก พอคิดถึงเรื่องนี้ ข้าก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ” จ้าวซินซินบิดผ้าเช็ดหน้าที่มือเข้าหากันด้วยความอิจฉา นางได้แต่งงานกับโอรสของฮ่องเต้ ต่อไปก็เป็นราชนิกุลของราชวงศ์และอาจจะได้เป็นฮองเฮาของแผ่นดิน นี่คือฐานะที่นางไม่สามารจะไปอิจฉาได้เลย แต่ตอนนี้นางกลับพูดถึงความเสียใจอะไรกัน แต่ทว่าจ้าวซินซินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย คำพูดของจางยวี่โหร่วเมื่อครู่นี้ทำให้นางตกใจกลัวมาก คิดว่านางมองอะไรออกแล้วเริ่มจะรำคาญนาง ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ดีไป ดังนั้นนางจึงพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที “ ท่านพี่มีฐานะเป็นถึงคุณหนูผู้สูงส่งเพียงคนเดียวของตระกูลจาง หลานสาวสุดที่รักของจางไท่ซือ ถึงแม้หลังจากนี้พี่จะแต่งงานกับองค์ชายสาม อยากจะกลับบ้านมาเยี่ยมญาติก็สามารถมาได้ทุกเวลา อีกทั้งองค์ชายสามก็ยังจะมากับท่านพี่ด้วย ” จางยวี่โหร่วไม่มีพี่น้องผู้หญิง นางมีพี่ชายห้าคน ดังนั้นนางจึงปฏิบัติต่อจ้าวซินซินในฐานะน้องสาวแท้ๆ มองดูท่าทางบอบบางน่ารักของนางจึงดูแลเป็นพิเศษ แต่พอมองดูหน้าตาของนางในตอนนี้แล้ว จางยวี่โหร่วรู้สึกเพียงแค่ความสะอิดสะเอียน และอยากจะเปิดเผยใบหน้าจอมปลอมของนางจนแทบจะทนไม่ไหว ไม่เป็นไร ทุกอย่างสามารถค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ นางจะเอาทุกอย่างที่จ้าวซินซินเคยทำมาทั้งหมด คืนกลับไปให้นางสิบเท่าร้อยเท่า ทำให้นางได้เข้าใจอย่างดีว่าอะไรคือรสชาติของการตายทั้งเป็น หากจะประหารชีวิตของนางในตอนนี้ จะไม่ดูถูกนางเกินไปหน่อยเหรอ? เสี่ยวเฟิงที่ยุ่งอยู่ตลอดวิ่งเข้ามาอีกครั้ง และเห็นว่าพวกนางสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ผ้าคลุมหน้าของจางยวี่โหร่วก็ยังไม่ได้คลุม จึงรีบเร่งในทันที “ คุณหนูนี่มันเวลาอะไรกันแล้วเจ้าค่ะ องค์ชายสามมาถึงแล้ว ท่านชาย ท่านหญิงกับญาติๆทุกคนกำลังรออยู่ พวกท่านให้บ่าวมาช่วยประครองคุณหนูออกไปตอนนี้แล้ว ” เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นมาแล้ว พอนึกถึงเป่ยจื่อห้าว จางยวี่โหร่วก็ตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ นิ้วของนางประสานกำหมัดแน่น เป่ยจื่อห้าว! เขาไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตของนาง แต่ยังทำร้ายครอบครัวของนางทั้งตระกูล ความเกลียดชังที่ฝังลึกเข้าไปในกระดูกแม้ตายนางก็ไม่มีวันลืมนี้ แทบรอที่จะควักหัวใจของสัตว์ร้ายตัวนั้นเมื่อเขาเข้าประตูมาไม่ไหวแล้ว นางจะไม่มีวันแต่งงานกับเขาอีกเด็กขาด แต่ฮ่องเต้ได้ประกาศพระราชโองการแต่งงานแล้วและก็ถึงเวลาที่จะต้องขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว หากนางยกเลิกงานแต่งในตอนนี้ก็เท่ากับขัดพระราชโองการ ตอนนี้นางควรจะทำอย่างไรดีล่ะ? ทันใดนั้น ก็มีเสียงขบวนแห่เกี้ยวรับตัวเจ้าสาวดังมาจากทางทิศตะวันตก จางยวี่โหร่วรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “ วันนี้ยังมีคนแต่งงานงั้นเหรอ? ” ได้ยินเช่นนั้น บนใบหน้าเล็กๆของเสี่ยวเฟิงก็ปรากฏสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาทันที นางเพียงแค่ถามว่าวันนี้มีใครแต่งงานแค่ประโยคเดียว เหตุใดจึงทำให้นางตกใจจนมีท่าทางแบบนี้? สีหน้าของจ้าวซินซินก็ซีดเผือกอย่างเห็นได้ชัด “ วันนี้เป็นวันที่อ๋องชิงผิงแต่งงาน โธ่...ช่างน่าสงสารแม่นางคนนั้นจริงๆ! ” ในใจจางยวี่โหร่วสั่นเทา ความทรงจำชาติที่แล้วกำลังจะกลับมา นางคิดออกแล้ว ตอนที่นางแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าวยังมีขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวอีกขบวนหนึ่งจริงๆ เพียงแต่นางไม่รู้แน่ชัดว่าใครที่แต่งงานวันเดียวกันกับนางในตอนนั้น ทั้งหัวใจของนางกำลังตกอยู่ในความสุขที่ได้แต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว ความคิดเรื่องของอ๋องชิงผิงนั้นจึงเลือนรางมาก ในตอนนั้นดูเหมือนว่าจะมีท่านอ๋องชิงผิงท่านหนึ่ง เพียงแต่ถูกส่งไปประจำที่ชายแดนเป็นเวลาหลายปี ถึงแม้นางจะเป็นฮองเฮามาห้าปี ก็ไม่เคยได้เจอหน้าเขาเลยสักครั้ง เมื่อเห็นนางพูดถึงชื่อของเขา ทั้งสองคนก็ตกใจจนกลายเป็นแบบนี้ จางยวี่โหร่วจึงแปลกใจเล็กน้อย “ การแต่งงานไม่ได้เป็นเรื่องที่ควรยินดีหรอกหรือ เหตุใดพวกเจ้าจึงมีท่าทางเช่นนี้? ” “ คุณหนู ท่านฐานะสูงส่ง ทั้งยังได้รับความเอ็นดูจากท่านจางไท่ซือ แน่นอนว่าไม่รู้เรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ท่านอ๋องชิงผิงคนนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามของพวกเราหนานหชู่ อายุเพียงแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น มีวีรกรรมในการรบอย่างโดดเด่น ฮ่องเต้จึงพระราชทานยศท่านอ๋องให้แก่เขา ดูแลดีกว่าองค์ชายเหล่านั้นอีก ภายในพระที่นั่ง ฮ่องเต้ทรงอนุญาตยกเว้นให้สองคนที่ไม่ต้องคุกเข่าเคารพเป็นพิเศษ ท่านแรกคือท่านปู่จางไท่ซือของคุณหนู อีกท่านหนึ่งก็คืออ๋องชิงผิง ” ท่านอ๋องชิงผิงคนนี้เก่งกาจขนาดนั้นเชียว เหตุใดนางถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาในชาติก่อนเลยล่ะ? หรือว่าหลังจากที่นางกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง บางสิ่งบางอย่างได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป? จางยวี่โหร่วไตร่ตรองดูก็รู้สึกปล่อยวางเล็กน้อย นางสามารถกลับชาติมาเกิดได้ เดิมทีแล้วก็คือการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต ถึงแม้เรื่องราวอื่นๆจะไม่เหมือนเดิมก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร “ ในเมื่อท่านอ๋องชิงผิงเก่งกาจเช่นนี้ เช่นนั้นการได้แต่งงานกับเขาก็ควรจะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากไม่ใช่หรือ เหตุใดพวกเจ้าถึงพูดว่าหญิงสาวคนนั้นน่าสงสารล่ะ? ” “ ถึงแม้ท่านอ๋องชิงผิงจะชื่อเสียงโด่งดัง แต่ในเมืองหลวงนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าท่านอ๋องชิงผิงหน้าตาอัปลักษณ์ ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้ามาตลอด ฆ่าคนจนเป็นนิสัย มีโรคเรื้อรังติดตัว หากบ้าคลั่งขึ้นมาไม่เพียงแต่ฆ่าคน แต่ยังกินเนื้อและดื่มเลือดของมนุษย์อีก ก่อนหน้านั้นเขาเคยแต่งพระชายามาหลายคนแล้ว และถูกยิงตายภายในเจ็ดวันหลังจากแต่งงานเข้าเรือน ฉายาท่านอ๋องชิงผิงกินภรรยานี้นั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งแผ่นดิน ทุกคนล้วนพูดว่าพระชายาสองสามคนที่ตายไปนั้นถูกเขาทรมานจนตาย การได้แต่งงานกับเขาก็หมายความว่าเท้าข้างหนึ่งได้ก้าวเข้าสู่ประตูนรกไปแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ” จางยวี่โหร่วฟังจบก็ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวแต่อย่างใด หืม...ประตูนรก? นางแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว ถึงจะเรียกว่าเข้าสู่ประตูนรกอย่างแท้จริง นางมีประสบการณ์มากมายในชาติที่แล้วและยังเห็นการตายอย่างน่าอนาถของคนในตระกูล 72 คนด้วยตาตัวเอง ยังมีความน่ากลัวอย่างอื่นที่น่ากลัวมากกว่านี้อีกไหม? ในชาตินี้ นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองและเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตระกูลจางให้ได้ ทำให้คนที่รังแกนาง ดูถูกนาง ทำร้ายนางเหล่านั้นชดใช้อย่างเจ็บปวด “ เช่นนั้นทุกคนที่พูดว่าพระชายาสองสามคนตายอย่างทรมาน มีใครเคยเห็นด้วยตาตัวเองบ้างไหม? ” “ เรื่องนั้น...บ่าวจะรู้ได้อย่างไรกัน ล้วนแต่ได้ยินมาทั้งนั้น ” เสี่ยวเฟิงรีบส่ายหัว จางยวี่โหร่วยิ้มเบาๆ “ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ข่าวลือ สิ่งที่ไม่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้ก็คือคนชั่วที่ดูจริงใจและเที่ยงธรรม แต่คนที่ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อยแต่ภายในเห็นแก่ตัวเล่านั้นถึงจะเป็นความน่ากลัวที่แท้จริง ” ในตอนนั้นเองไม่รู้ว่านางรู้สึกผิดไปหรือเปล่า จ้าวซินซินจับมือของนางอย่างสั่นเทาเบาๆ หากไม่หวาดผวา นางก็ไม่เป็นถึงเช่นนี้ นางยอมทีจะแต่งงานกับผีกินคน ดีกว่าต้องเห็นใบหน้าจอมปลอมน่าสะอิดสะเอียนของเป่ยจื่อห้าวอีก ดังนั้นนางต้องคิดหาวิธี ถ้าหากนางจำไม่ผิดหลังจากที่นางขึ้นไปบนเกี้ยวเจ้าสาว ทั้งสองขบวนดูเหมือนจะไปทางทิศตะวันออกด้วยกัน หลังจากเดินทางไปตลอดสิบลี้ถึงจะแยกจากกัน ขบวนหนึ่งไปทางตำหนักสามทางตะวันออกเฉียงเหนือ อีกขบวนหนึ่งเลี้ยงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จางยวี่โหร่วจับผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น ในครั้งนี้ไม่ว่าจะต้องพยายามใช้วิธีใดก็ตาม นางก็ต้องเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตตัวเองให้ได้ 
已经是最新一章了
加载中