ตอนที่ 4 สลับตัวตนกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4 สลับตัวตนกัน
ต๭นที่ 4 สลับตัวตนกัน หน้าห้องโถงตำหนักตระกูลจางประดับตกแต่งด้วยโคมไฟ จางไท่ซือและพ่อแม่ของจางยวี่โหร่ว พี่ชายและพี่สะใภ้ทุกคนล้วนออยู่กันที่นั่นเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ใบหน้าของจางไท่ซือไม่ได้แสดงออกถึงสีหน้าที่มีความสุขเลย แต่กลับมีความกังวลใจเล็กน้อย ในตอนแรกเดิมทีเขาไม่ได้เห็นด้วยกับการแต่งงานของจางยวี่โหร่วและเป่ยจื่อห้าวเลย แต่กลับคิดไม่ถึงว่านางจะมีใจต่อองค์ชายสาม เขามีหลานสาวเพียงแค่คนเดียว ก็ต้องหวังว่านางจะได้แต่งงานกับคนที่นางปรารถนาอย่างมีความสุข ดังนั้นสุดท้ายจึงแล้วแต่ความต้องการของนาง องค์ชายสามไม่ใช่องค์รัชทายาทที่ฮ่องเต้ทรงเลือกในตอนแรก แต่เพื่อจางยวี่โหร่ว ตระกูลจางจึงพยายามปกป้องตำแหน่งขององค์ชายสามไว้อย่างดีที่สุด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาพบจุดจบโดยการถูกฆ่าล้างครอบครัวเช่นนี้ได้ ดังนั้นนางจะไม่มีวันแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว หากแม้แต่ชะตาชีวิตนี้นางยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่นนั้นคงจะเกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมในก่อนหน้านี้อีก เมื่อเห็นจางยวี่โหร่วมา ทุกคนในบ้านก็เดินมาล้อมรอบ พูดอวยพรสองสามประโยค แม้ว่าจะมองไม่เห็นหน้าตาของพวกเขา นางก็สามารถเข้าใจถึงความอาลัยอาวรณ์ในคำพูดของพวกเขาอย่างลึกๆได้ นางรู้สึกตื้นตันใจเล็กน้อย หยดน้ำตาไหลออกมาอย่างอดไม่ได้ นางคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันกับทุกคนในบ้านอีกครั้ง นางไม่อยากเป็นดอกไม้ที่ถูกเลี้ยงท่ามกลางความอบอุ่นเหมือนเมื่อก่อนอีก ถูกคนในครอบครัวให้ความรักปกป้องดูแลจนตัวเองไม่รู้ว่าโลกใบหน้ากว้างใหญ่เพียงไหน หลังจากนี้นางจะใช้ความสามารถของตัวเองปกป้องพวกเขาอย่างดีที่สุด เมื่อถึงฤกษ์งามยามดี เจ้าสาวขึ้นเกี้ยว นางค่อยๆเปิดผ้าคลุมหัวขึ้นและมองไปบนฟ้าท้อง สวรรค์เจ้าคะ หากท่านมีตาจริงๆก็ไม่ควรจะปล่อยให้คนชั่วได้สมหวัง และคนดีถูกทำลาย เมื่อถูกคนประครองมาจนมาถึงหน้าประตู เกี้ยวเจ้าสาวหยุดลงตรงที่นั่นตั้งนานแล้ว เสียงผู้คนจ้อกแจ้กจอแจดังอยู่ด้านนอก ผู้คนในเมืองล้วนออกมาดูกันอย่างรื่นเริง เด็กๆหลายคนต่างก็วิ่งหยิบลูกอมไปมา เช่นเดียวกับเหตุการณ์เดิมในตอนนั้น มือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาตรงหน้าของนาง ช่องว่างระหว่างผ้าคลุมหน้านั้นสามารถมองเห็นแขนเสื้อกว้างของเสื้อคลุมสีแดงที่สวมใส่อยู่ จางยวี่โหร่วตกใจตัวสั่นเทาและเข้าใจในทันทีว่าคนตรงหน้านั้นเป็นใคร นางกัดริมฝีปากล่างแน่นและอยากจะหยิบมีดพกที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมาแทงเข้าที่หัวใจของเขาอย่างอดไม่ได้ นางพยายามควบคุมตัวเองอย่างมาก ถึงจะทำให้ความต้องการฆ่าในใจของตัวเองลดลงได้ “โหร่วเอ๋อร์? ” เป่ยจื่อห้าวเห็นว่านางไม่ตอบโต้ใดใด จึงเอ่ยปากถามออกมาอย่างเป็นห่วง จางยวี่โหร่วสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงส่งมือของตัวเองไปวางมือของเขาและปล่อยให้เขาประครองตัวนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เสียงเป่าขลุย ฆ้องและกลองดังขึ้น เกี้ยวเจ้าสาวออกเดินทาง จางยวี่โหร่วพิงอยู่บนเกี้ยว หลับตาลง หยดน้ำตาก็ไหลรินลงมาทั้งสองข้าง เสียงเรียก “ โหร่วเอ๋อร์” นั้น กระตุ้นความทรงจำของนางก่อนหน้านั้นได้อย่างชัดเจน ในตอนนั้นเป่ยจื่อห้าวดีกับนางทุกอย่างและยังสัญญากับนางว่าจะมีนางเพียงคนเดียวตลอดชีวิต ทำให้นางมอบหัวใจให้เขาอย่างโง่เขล่าจนไม่สามารถถอนตัวได้ เขาเคยรีบมาตำหนักไท่ซือในคืนที่หิมะตกหนัก เมื่อตอนที่นางเห็นเขาก็เกือบจะกลายเป็นมนุษย์หิมะ และกลับนำเสื้อคลุมหนาตัวใหญ่มาห่อซุปโสมในตะกร้าอาหาร เขาเคยรีบออกมาเอาโคมไฟดอกบัวหนึ่งร้อยอันแขวนไว้เต็มบนยอดต้นไม้ในคืนวันเกิดของนาง นางยังจำได้ว่าในคืนนั้นลมพัดดาวตกลงมาราบกับสายฝน เป็นค่ำหนึ่งของปลามังกรเต้นรำ แต่ตอนนี้นางถึงเข้าใจว่าทุกอย่างนั้นล้วนเป็นของปลอม นางเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการแย่งชิงบัลลังก์ของเขาตั้งแต่ต้นจนจบ สิ่งที่เขาทำดีกับนางทุกอย่างและแต่งงานกับนางนั้น เพียงแค่หลอกใช้นาง หลอกใช้ตระกูลจาง ตอนที่นางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชาและไม่มีความรู้สึกใดๆ ความหมายของการมีจางยวี่โหร่วอยู่ในชาตินี้มีเพียงแค่อย่างเดียว นั่นก็คือการแก้แค้น นอกจากเรื่องนี้แล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใด ในขณะนั้น จู่ๆด้านนอกก็มีเสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้น จางยวี่โหร่วเปิดผ้าม่านขึ้นดู ทันใดนั้นสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งก็ปกคลุมไปด้วยเมฆดำทันที เสียงฟ้าร้องดังเปรี้ยงปร้าง นี่เป็นสัญญาณ...ของฝนที่จะตกหนักอย่างเห็นได้ชัด นางยังจำได้ว่าในวันแต่งงานเมื่อห้าปีก่อน สภาพอากาศท้องฟ้าโปร่งใสไร้เมฆบัง ดูเหมือนว่าหลายๆสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไป ฝนตกหนักในครั้งนี้ นั่นเป็น “ ฝนช่วยได้ทันการ ” สายตามองดูฝนที่ตกหนักมากยิ่งขึ้น และค่อยๆพัฒนาจังหวะตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่มีวิธีที่จะเร่งการเดินทางได้ สินสอดทองหมั้นก็จะเปียกโชก ดังนั้นทางที่ดีก็คือรีบไปหาที่หลบฝน ทันใดนั้นจึงมีคนตะโกนบอกว่า ด้านหน้ามีวัดเก่าอยู่ ให้รีบเข้าไปหลบฝน จากนั้นจางยวี่โหร่วก็รู้สึกถึงความเร็วของเกี้ยวที่เพิ่มขึ้น ขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวทั้งหมดล้วนเข้าไปหลบอยู่ที่วัดเก่านั้น นางรู้ว่าไม่ได้มีแค่พวกนางที่เข้ามาหลบฝน ยังมีขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวของตำหนักอ๋องชิงผิง เกี้ยวถูกวางลง นางได้ยินเสียงพูดคุยกันไม่ไกลออกไป “ องค์ชายสามขอรับ เหตุใดอยู่ดีดีฝนจึงตกลงมาได้ ฉินเทียนเจียนเคยพูดไว้แท้ๆว่าวันนี้เป็นวันที่ฤกษ์งามยามดี หากพลาดเวลาพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินไปเราจะทำอย่างไรดี ฮ่องเต้กับพระสนมลี่เฟยยังรออยู่ที่ตำหนักนะขอรับ ” “ ไปตายซะ ยังไม่รับคิดหาวิธีไปแจ้งข่าวอีก แล้วก็สินสอดเหล่านี้ หากเสียหายแม้เล็กน้อยข้าจะเด็ดหัวของพวกเจ้าทิ้งซะ ” “ พะยะค่ะ พะยะค่ะ! ” จากนั้นเสียงฝีเท้าก็ค่อยๆห่างออกไป สินสอดนั้นมีจำนวนมาก จนแม้แต่สาวใช้ก็ล้วนถูกเรียกไปช่วย ขณะนั้นพระอุโบสถที่เงียบสงบก็มีเสียงหญิงสาวร้องไห้เสียใจสะอึกสะอื้นดังมา จางยวี่โหร่วสังเกตเห็นมานาน ในขณะเดียวกันเกี้ยวที่ถูกยกเข้ามายังมี “พระชายาชิงผิน” ผู้ที่กำลังจะแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องชิงผิง จางยวี่โหร่วออกมาจากในเกี้ยว เมื่อเข้าไปใกล้ก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดสีแดงคนนั้นกำลังแขวนผ้าแพรสีขาวไว้บนเสาหลักกลางห้อง นี่มัน...เร็วเกินไปแล้ว ฉวยโอกาสช่วงเวลาสำคัญที่นางกำลังจะกระโดดลงจากม้านั่ง จางยวี่โหร่วรีบก้าวไปกอดนางไว้ข้างหน้า จากนั้นวางตัวนางลง ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ดิ้นรนไม่หยุด “ ท่านปล่อยข้า ปล่อยให้ข้าตาย ให้ข้าตาย! ” “ ร่างกายผิวพรรณดูดี ได้รับการดูแลจากพ่อแม่ แม่นาง เหตุใดจึงดูถูกชีวิตของตัวเองขนาดนี้ล่ะ? ” หญิงสาวร้องไห้เสียใจหนัก “ หากท่านได้แต่งงานกับสามีที่หน้าตาอัปลักษณ์ ฆ่าคนจนเป็นนิสัย และยังชอบกินเลือดกินเนื้อของมนุษย์เช่นเดียวกับข้า ก็จะรู้ว่าตายเสียยังจะดีกว่าถูกท่านอ๋องชิงผิงนั้นทรมานทั้งเป็นจนตาย ข้าฆ่าตัวตายเองเสียยังจะดีกว่า ” ดูเหมือนว่าท่านอ๋องชิงผิงคนนี้จะโด่งดังเสียจริง สามารถทำให้บรรดาหญิงสาวที่ได้ยินข่าวล้วนเปลี่ยนสีหน้า และยอมตายดีกว่าที่จะได้แต่งงานกับเขา ในใจของจางยวี่โหร่วสังเกตเห็นมานานแล้ว “ ท่านอ๋องชิงผิงนั้นน่ากลัวอย่างที่เจ้าบอกขนาดนั้นเชียว? ” “ จริงแท้แน่นอน! ” ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความกลัว “ ในเวลาเดียวกันท่านพ่อกับท่านแม่เตรียมสินสอดทองหมั้นเพื่อข้า แม้แต่งานศพของข้าก็เตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชีวิตของข้าช่างขมขื่นยิ่งนัก! ” นางยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งตรงกับใจของจางยวี่โหร่ว “ ผู้หญิงที่ใบหน้างดงามราวกับดอกไม้เช่นท่าน กลับล่วงลับไปเช่นนี้ช่างน่าเสียดาย เอาแบบนี้สิ ข้ายินดีที่จะแลกเปลี่ยนกับท่านแฃะแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องชิงผิงแทนท่าน ท่านคิดว่าอย่างไร? ” หญิงสาวคนนั้นมองดูนางด้วยความตกตะลึงและไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด “ ท่านอย่ามาล้อเล่นกับข้าเลย ข้ารู้ ท่านคือหลานสาวแท้ๆของจางไท่ซือ คนที่ท่านต้องแต่งงานก็คือองค์ชายสามที่สง่าผ่าเผย แต่ข้าต้องแต่งกับคนจากนรก มีใครบ้างที่ไม่ต้องการความร่ำรวยเจริญรุ่งเรือง แต่กลับต้องการเข้าสถานที่ที่น่ากลัวเช่นนี้? ”
已经是最新一章了
加载中