ตอนที่ 6 คำนับเทวดาฟ้าดินเพื่อแต่งงาน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 คำนับเทวดาฟ้าดินเพื่อแต่งงาน
ต๭นที่ 6 คำนับเทวดาฟ้าดินเพื่อแต่งงาน ทุกอย่างล้วนเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว จางยวี่โหร่วกัดฟัน ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงพิธีคำนับเทวดาฟ้าดินของวันนี้ไม่ได้แล้ว คำนับก็คำนับ ถึงแม้จะต้องแต่งงานกับสามีที่กินเลือดกินเนื้อของมนุษย์จริงๆ ก็ยังดีกว่าแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าวสัตว์ร้ายหน้าเนื้อใจเสือตัวนั้น “ หนึ่ง คำนับฟ้าดิน! ” ภายใต้ความช่วยเหลือของสาวใช้ ทั้งสองคนโค้งตัวลงทำความเคารพ “ สอง คำนับพ่อแม่! ” พ่อแม่ของอ๋องชิงผิงเสียชีวิตทั้งคู่ ดังนั้นจึงไม่มีพ่อแม่อยู่ มีเพียงแค่ป้ายชื่อบูชาที่อยู่บนโต๊ะ “ สามีภรรยาคำนับกันและกัน!” ไม่รู้เพราะเหตุใดตอนที่ได้คำสี่คำนี้ความรู้สึกในใจของจางยวี่โหร่วจู่ๆก็ยุ่งเหยิงขึ้นเล็กน้อย นี่คือการแต่งงานครั้งที่สองในชีวิตของนาง ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งจะแต่งงานกับสามีสองคนได้อย่างไรกัน เพียงแต่การแต่งงานในครั้งนี้กลับเป็นเพียงแค่แผนการอย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่านางเป็นหนี้ท่านอ๋องชิงผิงคนนี้ถึงจะถูก “ ส่งเข้าเรือนหอ! ” เมื่อเสร็จพิธีก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากัน พูดได้ว่า ฐานะในตอนนี้ของนางก็คือพระชายาชิงผิง ทรมานร่างกายมาเป็นเวลานาน พอร่างกายได้สัมผัสกับเตียงนุ่ม จางยวี่โหร่วก็รู้สึกร่างกายสบายทั้งตัวในทันที มีเพียงแค่นางอยู่คนเดียวภายในห้อง นางไม่อยากปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับตัวเอง เมื่อมองเห็นขนมวางอยู่บนโต๊ะ นางจึงหยิบขึ้นมาเติมเต็มท้องที่หิวโหยของนางก่อน ในขณะนั้น นางจึงค่อยๆเริ่มกังวลขึ้นมาว่า สถานการณ์ทางด้านตำหนักสามนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร? หวังว่าหลินจือนั้นจะไม่แสดงพิรุธออกมา ตราบใดที่สามารถทำพิธีคำนับฟ้าดินได้อย่างราบรื่น เรื่องอื่นๆนั้นนางก็ไม่ต้องกังวลแล้ว …… ตามที่จางยวี่โหร่วคาดไว้ เป่ยจื่อห้าวไม่สามารถค้นพบได้อย่างง่ายดายว่าเจ้าสาวนั้นได้ถูกเปลี่ยนตัวแล้ว อีกทั้งขนาดตัวของหลินจือก็ต่างกับจางยวี่โหร่วไม่มากนัก ชุดแต่งงานก็ไม่ต่างกัน ตราบใดที่ไม่เปิดผ้าคลุมหน้าออก ใครจะไปคิดว่าได้ถูกสับเปลี่ยนกันไปแล้ว เป่ยจื่อห้าวนั้นไม่ได้โดดเด่นน่าจับตามองที่สุดในบรรดาองค์ชาย แต่ในครั้งนี้เขาได้แต่งงานกับหลานสาวแท้ๆของจางไท่ซือขุนนางรับใช้ฮ่องเต้มาสามราชวงศ์ จางไท่ซือนั้นได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้องค์ก่อนและฮ่องเต้องค์ปัจจุบันอย่างลึกซึ้ง เป่ยจื่อห้าวได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจางก็เท่ากับว่ามีดาบอันแหลมคนอยู่ในมือ คนในราชสำนักเหล่านี้ยังจะไม่รีบใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้มาประจบประแจงก่อนเหรอ? ดังนั้นงานแต่งงานในวันนี้จึงเต็มไปด้วยขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก กดดันให้ของล้ำค่าภายในกล่องล้วนถูกส่งมาเป็นของขวัญแต่งงาน ฮ่องเต้นั้นได้แต่งตั้งองค์รัชทายาทแล้ว ถึงแม้จะบอกว่าองค์รัชทายาทเป่ยจื่อเฉินนั้นมีนิสัยอ่อนแอ แต่เขาก็เป็นโอรสของฮองเฮาภรรยาคนแรกของฮ่องเต้ ฮ่องเต้รักและผูกพันกันนางมาก ฮองเฮาสิ้นพระชนไปเป็นเวลาหลายปีเขาก็ยังนึกถึงนางอยู่ตลอดและไม่ได้แต่งตั้งใครขึ้นมาอีกเลย ถึงแม้องค์รัชทายาทสติปัญญาธรรมดา แต่ฮ่องเต้ก็รักและเอ็นดูเขามาก องค์ชายสองเป่ยจื่อหัวเรียนรู้วิธีการปกครองแผ่นดินมาตั้งแต่เด็ก ในบรรดาองค์ชายก็โดดเด่นมากที่สุด เสด็จแม่ขององค์ชายสองซูเฟยเจ้าหญิงแห่งชนเผ่าหนึ่ง คอยสนับสนุนอย่างมั่นคง องค์ชายสี่กับองค์ชายห้าล้วนเป็นโอรสของจิ้นกุ้ยเฟย จิ้นกุ้ยเฟยเป็นหลานสาวแท้ๆของแม่ทัพลี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว แม่ทัพลี่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งประเทศ ติดตามฮ่องเต้องค์ก่อนบุกเบิกดินแดน และวางรากฐานเมืองหนานชู่ หลังจากจิ้นกุ้ยเฟยได้สร้างคุณุประการให้แก่แผ่นดิน ก็มีเกียรติและความรุ่งโรจน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีเพียงแค่องค์ชายสามที่ไม่มีที่พึ่ง สติปัญญาและความสามารถจึงไม่ได้โดดเด่นที่สุดในบรรดาองค์ชาย แม่ขององค์ชายสามลี่เฟยเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาที่ถูกคัดเลือกมา เป็นเพราะให้กำเนิดโอรสจึงได้ถูกแต่งตั้งตำแหน่ง ดังนั้นองค์ชายสามจึงไม่ได้อยู่ในสายตามาโดยตลอด แต่ต่อจากนี้ตำแหน่งของเขาจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง องค์ชายสามแต่งงานกับหลานสาวของจางไท่ซือก็ไม่ต่างกับเสือที่มีปีก ถ้าหากแย่งชิงบัลลังก์ก็มีโอกาสชนะเป็นอย่างมาก หลังจากกราบไหว้เทวดาฟ้าดิน เจ้าสาวถูกส่งตัวไปยังเรือนหอ องค์ชายสามอยู่ดื่มสุราและต้อนรับแขกตามประเพณี หลังจากพิธีเสร็จการฮ่องเต้ก็เสด็จกลับพระราชวังก่อนเนื่องจากการงานรัดตัว ลี่เฟยแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเขาจึงอยู่ที่ตำหนักต่อเป็นธรรมดา แขกเดินกันสับสนวุ่นวาย ลี่เฟยส่งคนไปตามองค์ชายสามมา “ ลูกรัก ถึงแม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ยังดีที่ลูกสาวของตระกูลจางนี้กลายเป็นของล้ำค่าในกระเป๋าเสื้อของเรา เมื่อมีความช่วยเหลือของตระกูลจาง บัลลังก์นี้ก็จะต้องตกอยู่ในมือของเราไม่ช้าก็เร็ว ” ที่จริงแล้วในตอนแรกฮ่องเต้ต้องการรับสั่งให้จางยวี่โหร่วแต่งงานกับองค์รัชทายาท ฮ่องเต้รักใคร่องค์รัชทายาท ย่อมต้องกังวลว่าตำแหน่งของเขาจะถูกคุกคามในภายหลัง หากมีความช่วยเหลือของตระกุลจางก็จะขึ้นครองราชย์บัลลังก์ได้อย่างราบรื่นอย่างแน่นอน แต่องค์ชายสามเริ่มต้นลงมือก่อนอย่างแข็งแกร่ง พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจของจางยวี่โหร่ว จางไท่ซือนั้นกราบทูลกับฮ่องเต้ด้วยตนเองว่าหลานสาวของตนกับองค์ชายสามมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และขอพระราชทานจัดงานแต่งงานขึ้น ฮ่องเต้จำทำได้เพียงปล่อยไป ในแววตาของเป่ยจื่อห้าวมีความสับสนเล็กน้อย ไม่ได้มีท่าทางสุภาพและสง่างามเหมือนปกติเลยแม้แต่น้อย “ ข้าอดทนกับผู้หญิงคนนั้นมาพอแล้ว หากข้าไม่ใช่คิดถึงภาพรวม ข้าก็ไม่เกรงใจนางตั้งนานแล้ว ” จางยวี่โหร่วงดงามราวกับเทพธิดา แต่ถูกตามใจจนชินมาตั้งแต่เด็ก นิสัยก็เอาแต่ใจเล็กน้อย องค์ชายสามจึงต้องลดตัวเองลงต่อหน้าของนาง จนต้องเอาอกเอาใจเพื่อให้นางพอใจ เขาทนไม่ไหวมานานแล้ว “ ลูกอย่าเพิ่งใจร้อน นางแต่งงานกับลูกแล้ว จากนี้ไปผู้หญิงต้องปฏิบัติตาม ค่อยๆสั่งสอนก็ย่อมได้ ” “ ได้ เพื่อแผนการใหญ่ ข้าจะอดทนนางชั่วคราว หลังจากที่ทุกสิ่งลงตัวแล้ว สิ่งที่จะจัดการอย่างแรกก็คือนาง ” ใบหน้าที่งดงามได้รับการดูแลมาอย่างดีของลี่เฟยเผยให้เห็นรอยยิ้ม “ เอาล่ะ อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานใหญ่ของเจ้า ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว รีบไปที่เรือนหอเถอะ ” เมื่อพูดถึงเรือนหอ ในใจของเป่ยจื่อห้าวก็ยิ่งใจร้อนขึ้น และสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปอย่างเกลียดชัง …… เมื่อมองดูท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลง จางยวี่โหร่วง่วงจนแทบจะหลับลง แต่ยังต้องฝืนมีสติเข้าไว้ ตอนนี้นางอยู่ที่ตำหนักอ๋องชิงผิงสถานที่ที่ผู้หญิงทุกคนเมื่อได้ข่าวก็สีหน้าเปลี่ยนไป และยังมีสามีที่สามารถฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งกินเลือดกินเนื้อมนุษย์พร้อมที่จะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่ออีก หากนางยังมีใจที่จะนอนหลับในเวลานี้ก็อาจจะใจกล้ามากเกินไปหน่อย กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ในตอนนั้นจู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก นางกำมีดพกในแขนเสื้อแน่นโดยไม่รู้ตัว ประตูห้องถูกเปิดออก นางได้ยินเสียงแหบเล็กน้อยเอ่ยปากพูดว่า “ พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าไปเอง ” “ พะยะค่ะ ท่านอ๋อง ” เมื่อเห็นเขาปิดประตูลง ในห้องดูเหมือนถูกแยกออกเป็นสองโลกในทันที จางยวี่โหร่วประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนนางสามารถมองเห็นรองเท้าบู๊ตคู่หนึ่งภายใต้เสื้อคลุมสีแดง ในชั่วพริบตาที่ผ้าคลุมหน้าเปิดขึ้น จางยวี่โหร่วก็ชักมือออกราวกับสายฟ้า แต่เห็นได้ชัดว่าคนนั้นโต้ตอบได้เร็วยิ่งกว่า หลบตัวออกจากมีดพกของนางได้อย่างรวดเร็ว จับข้อมือของนางหักมีดพกลง จากนั้นกดตัวนางลงบนเตียง “ ท่านปล่อยข้านะ ปล่อยข้า! ” ในสายตานั้นคือหน้ากากหมาป่าอันหนึ่ง ดูเหมือนดุร้ายน่ากลัว จางยวี่โหร่วต่อสู้ดิ้นรนลุกขึ้นอย่างสุดกำลัง “พระชายาต้องการจะลอบทำร้ายสามีตนเองในคืนวันแต่งงานงั้นรึ?” ไม่รู้ว่าทำไม นางรู้สึกถึงรอยยิ้มเยาะเย้ยบางๆในดวงตาสีดำเข้มอันมืดมิดราบกับน้ำหมึกคู่นั้นจากเบื้องหลังหน้ากาก จางยวี่โหร่วจึงคิดจะถือโอกาสตอนที่เขายังมีสติปัญญาอยู่อธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง เพื่อหลีกเลี่ยง "ความบ้า" ของเขาอย่างฉับพลัน “ ข้าไม่ใช่พระชายาของท่าน ข้าชื่อจางยวี่โหร่ว เป็นหลานสาวของขุนนางจางไท่ซือในราชสำนัก ท่านรู้จักจางไท่ซือไหม? ” ชื่อเสียงของท่านปู่ของนางนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ถึงแม้จะเห็นแก่หน้าตาของท่านปู่นาง เขาก็ไม่ควรจะทำให้นางลำบากใจ 
已经是最新一章了
加载中