ตอนที่ 10 อับอายขายหน้าไปหมด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10 อับอายขายหน้าไปหมด
ต๭นที่ 10 อับอายขายหน้าไปหมด คนที่หยุดนางไว้ แน่นอนว่าคืออ๋องชิงผิงหันยี่ฉี สามีของนางในตอนนี้ จางยวี่โหร่วรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องมาหยุดนาง และนางก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดในใจของตัวเองถึงมีสัญชาตญาณเช่นนี้ นางแกล้งร้องไห้อย่างเจ็บปวดในอ้อมแขนของเขา ท่าทางเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ เพราะในเรื่องนี้นางนั้นเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วจะมีใครใจแข็งโทษนางได้ลงกัน? ในขณะนั้น ไม่รู้ว่าเป่ยจื่อห้าวมีความกล้ามาจากไหนจู่ๆก็วิ่งเข้ามาข้างหน้าอย่างกะทันหัน และฉุดตัวนางอย่างรุนแรงจนนางเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา หากเป็นวันปกติ เป่ยจื่อห้าวคงไม่มีวันมีความกล้ามาต่อต้านหันยี่ฉีอย่างแน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแย่งคนมาจากในมือของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว เดิมทีแล้วเขาเป็นองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน และยิ่งไม่มีอำนาจสนับสนุนใดใด จางยวี่โหร่วจึงเป็นความหวังในการแย่งชิงบัลลังก์ของเขา หากว่าไม่มีนาง ความปรารถนาและกลอุบายเหล่านั้นในใจของเขาก็คงถูกพังทลายตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม อีกทั้งเรื่องแบบนี้นั้นเขาถนัด ดังนั้นเขาต้องจับตรงจุดในไว้ให้ได้ แม้ตายก็ไม่ปล่อยมือ ปฏิกิริยาตอบกลับแรกของจางยวี่โหร่วหลังจากที่ถูกเป่ยจื่อห้าวดึงเข้าไปไว้ในอ้อมแขนนั้นคือต้องการต่อสู้ดิ้นรน แต่เขากลับจับมือนางแน่น และไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย “ยวี่โหร่ว เหตุใดเจ้าถึงทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ เรื่องนี้พูดได้แค่ว่าฟ้าลิขิตคน แต่ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้านั้นเป็นของจริง จะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องอะไรก็ตาม ถึงแม้...ตอนนี้เจ้าจะไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว ข้าก็จะไม่สนใจแน่นอน นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า” เขาหลงรักเช่นนี้ ใครก็ตามที่เห็นภาพนี้ก็ต้องอารมณ์อ่อนไหวไปด้วย หากไม่ใช่เพราะว่าชาติก่อนนางรู้ใบหน้าที่น่าเกลียดของเขาแล้ว และรู้ว่าเขานั้นเป็นคนปากหวานราบกับคมดาบราดน้ำผึ้งเสแสร้งจอมปลอมที่สุด คิดว่านางจะต้องเชื่อในตัวเขาโดยไม่หันหลังกลับและซาบซึ้งใจอย่างไม่ลืมหูลืมตา นางยังจำได้ว่าหลังจากที่เขาขึ้นครองราชย์บัลลังก์ ก็เริ่มค้นหาหญิงสาวทั่วทุกทีเพื่อเติมเต็มตำหนักนางสนมหลวง หนึ่งในนั้นมีนางสนมคนหนึ่งที่ได้รับความชื่นชอบเป็นอย่างมาก แค่เพียงเพราะว่านางหาเข็มขัดของขององครักษ์เส้นหนึ่งเจอในวัง เขาก็รับสั่งให้นำตัวนางสนมคนนั้นไปตัดหัวและใช้ข้ออ้างนี้ยึดทรัพย์สินทั้งตระกูลของนาง ต่อมาถึงรู้ว่า เข็มขัดเส้นนั้นเป็นแค่แผนการใส่ร้ายของนางสนมเอกอีกคนหนึ่งอิจฉาที่นางได้รับความโปรดปรานดังนั้นจึงคิดแผนการชั่วร้ายเช่นนี้ขึ้นมา แต่ทว่าเขากลับไม่ให้โอกาสคนที่นอนข้างกายและรักใคร่อย่างมากในอดีตได้พูดแก้ตัวสักประโยคเดียว และลากตัวไปตัดหัวประจานต่อหน้าสาธารณชน ถึงขนาดไม่สนใจว่านางตั้งครรภ์อยู่หนึ่งเดือนแล้วและมีอยู่สองชีวิต ในตอนนี้เมื่อได้ยินเป่ยจื่อห้าวเอ่ยปากพูดถึงความรักที่ลึกซึ้งออกมา และยังพูดอีกว่าไม่สนใจเรื่องที่นางไม่บริสุทธิ์ จางยวี่โหร่วจึงรู้สึกแต่ความสะอิดสะเอียนและอยากจะเปิดเปยหน้ากากอันจอมปลอมของเขาอย่างมาก ตอนนี้เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายและได้รับอำนาจจากตระกูลจาง แม้แต่ศักดิ์ศรีเข้าก็ไม่ต้องการแล้วใช่ไหม ในใจเกลียดเขาเข้ากระดูก จางยวี่โหร่วก็ทำได้เพียงแค่ซ่อนความโกรธไว้ในใจเท่านั้นและแสดงท่าทางซาบซึ้งอย่างลึกซึ้งแต่จนปัญญาออกมา "องค์ชายสาม ตอนนี้ข้าได้คำนับเทวดาฟ้าดินแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผิงและเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว! นี่เป็นลิขิตของฟ้า ข้ากับท่านถูกกำหนดให้พลาดจากกัน ขอร้องท่านไปหาผู้หญิงที่ดีกว่าข้าและลืมข้าไปเถอะ! ” เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมปล่อย นางจึงยื่นมือออกมาใช้แรงบิดมือของเขาโดนตรง ใช้แรงทั้งหมดที่มี เล็บอันแหลมคมแทงเข้าไปในเนื้อของเขาอย่างลึก จนสุดท้ายเป่ยจื่อห้าวจึงยอมปล่อยด้วยความเจ็บปวดและคิดไม่ถึงว่านางจะลงมืออย่างรุนแรงขนาดนี้ หันยี่ฉีดึงนางมาข้างกายตัวเองอีกครั้ง และพูดอย่างเยือกเย็นว่า "ข้าไม่สนว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างพวกท่าน แต่ข้าหวังว่าองค์ชายสามจะสามารถยอมรับความจริงได้ จางยวี่โหร่วเป็นผู้หญิงของข้าแล้ว และเป็นพระชายาตำหนักชิงผิง หากว่าในภายภาคหน้าองค์ชายสามกล้าลงไม้ลงมือกับพระชายาของข้าอีก ก็อย่าหาว่าข้าเสียมารยาท ” ในฐานะของเขา แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องให้เกียรติเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เป่ยจื่อห้าวโกรธจนควันออกหูจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก เมื่อลี่เฟยเห็นว่าลูกชายของตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรม นิ้วมือก็กำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น จางยวี่โหร่ว เจ้าบังอาจทำให้ลูกชายของข้าต้องอับอายเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนี้หรือว่าเรื่องโกหก บัญชีแค้นนี้ ข้าจะต้องคิดไว้บนหัวของเจ้า อ๋องชิงผิงพวกเขาไม่สามารถไปทำให้ไม่พอใจได้ แต่จางยวี่โหร่วพวกเขาสามารถกัดไม่ปล่อยได้ ดวงตาของลี่เฟยกรอกตาไปมา จากนั้นเดินไปด้านข้างฮ่องเต้และพูดโน้มน้าวว่า "การแต่งงานนั้นเป็นเรื่องใหญ่แต่กลับเล่นเป็นเด็ก และการแต่งงานในครั้งนี้ฝ่าบาทรับสั่งพระราชทานการแต่งงานนี้ด้วยตนเอง เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแต่กลับเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ ในเมื่อยวี่เทียนกับยวี่โหร่วต่างฝ่ายก็รักกันและยวี่เทียนก็ไม่ได้ถือสาที่ยวี่โหร่วนั้นไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว เช่นนั้นเหตุใดฝ่าบาทจึงไม่ช่วยให้พวกเขาสมหวังล่ะเพคะ ในส่วนของคุณหนูหลินก็สามารถจัดงานแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผิงใหม่ได้ พวกท่านไม่ได้เสียเปรียบอะไร” ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก หลินจือยังจะกล้าพูดอะไรได้อีก คุกเข่าลงกับพื้นอย่างสั่นเทา แน่นอนว่านางไม่ต้องการถูกแลกกลับไป แต่องค์ชายสามกับลี่เฟยนางก็ไม่กล้าทำให้ไม่พอใจ คำพูดของลี่เฟยถือว่าพูดได้ตรงจุด จางยวี่โหร่วกัดริมฝีปากเงียบ ขิงยังเผ็ดแก่จริงๆ เหตุใดในตอนแรกนางจึงมองไม่เห็นและกลับคิดว่าลี่เฟยเป็นคนทีอ่อนโยนใจดี เคารพและให้เกียรตินางตลอดเวลาที่ผ่านมา ชาติก่อน ในเหตุการณ์ "เปลี่ยนแปลงพระราชวัง” ที่โด่งดังครั้งสุดท้ายนั้น เป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซินนั้นยืนยันว่านางวางยาพิษลอบทำร้ายไทเฮ่าและถอดยศตำแหน่งฮองเฮาของนาง ใส่ร้ายจนนางเข้าคุก เนื่องจากพวกเขาวางแผนการอย่างละเอียดรอบคอบไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว "หลักฐาน ” ที่ชัดเจน แม้แต่ตระกูลจางก็ปกป้องนางไว้ไม่ได้ ต่อมานางถึงรู้ว่าความคิดนี้เป็นของไทเฮ่า หรือก็คือลี่เฟยในตอนนี้เป็นคนคิด เดิมทีแล้วนางคิดว่าเป่ยจื่อห้าวจิตใจโหดเหี้ยม อย่างน้อยลี่เฟยก็ยังดี ถ้าหากไม่ใช่เพราะจ้าวซินซินคาดการณ์อย่างมั่นใจว่าสุดท้ายนางจะตายและบอกทุกอย่างกับนาง นางจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าจิตใจของแม่ลูกคู่นี้ดำเข้าไปจนถึงกระดูกแล้ว? เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อได้ยินลี่เฟยพูดเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็เริ่มลังเล เดิมทีแล้วคิดว่าจะปล่อยเรื่องทุกอย่างไป เหตุใดลูกชายของตัวเองจึงหลงรักเช่นนั้น และยังไม่รังเกียจที่จางยวี่โหร่วไม่บริสุทธิ์และต้องการจะอยู่กับนาง ถึงแม้จะไม่ดีที่ทำให้อ๋องชิงผิงไม่พอใจ แต่ถ้าหากแลกเปลี่ยนคนกลับ ทุกอย่างกลับไปในทางที่ถูกต้อง เช่นนั้นเขาก็ไม่ต้องเสียเปรียบ อย่างน้อยหลินจือก็ยังบริสุทธิ์ คิดไตร่ตรองเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เลื่อนสายตาไปมองที่หันยี่ฉี "อ๋องชิงผิง ตอนแรกคนที่ข้ารับสั่งให้แต่งงานกับท่านก็คือคุณหนูหลิน เดิมทีแล้วเขาควรจะเป็นภรรยาที่ท่านแต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการ ไม่อย่างนั้น...” เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกหันยี่ฉีขัดจังหวะ "ข้ารู้แค่ว่า เมื่อวานจางยวี่โหร่วได้คับนับเทวดาฟ้าดินกับข้าและเข้าเรือนหอด้วยกันแล้ว นางถึงจะเป็นภรรยาของข้า ไม่มีใครสามารถมาแย่งภรรยาของข้าไปได้!” สายตามองตรองไปที่หนานหชู่และกล้าขัดแย้งกับฮ่องเต้ คงมีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ในใจของจางยวี่โหร่วมีความกระวลกระวายใจเล็กน้อย กลัวว่าฮ่องเต้จะฟังคำยุยงของลี่เฟยและให้นางกลับไปกับองค์ชายสามจริงๆ หันยี่ฉีนั้นไม่ได้มีความจำเป็นที่จะไปต่อต้านกับฮ่องเต้เพื่อนางเลยไม่ใช่เหรอ? แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขาในตอนนี้ นางกลับรู้สึกว่าในใจถูกค้อนทุบอย่างหนักเล็กน้อย
已经是最新一章了
加载中