ตอนที่ 17 มีชีวิตใหม่เพื่อตนเอง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 17 มีชีวิตใหม่เพื่อตนเอง
ต๭นที่ 17 มีชีวิตใหม่เพื่อตนเอง กลางดึก ณ ห้องหลังตำหนักไท่ซือ เสียงอ่อนๆแต่สว่าง ในห้องไม่ได้จุดเทียน ไฟสว่างมาจากไข่มุกกลางคืนบนโต๊ะ ไข่มุกใหญ่เท่ากำปั้น ดูก็รู้ว่าราคาแพงแค่ไหน แสงสว่งของมันสามารถทำให้ทั้งห้องวสว่างไสว เพราะงั้นเลยจำเป็นต้องจุดไฟที่ไหน? ตอนนี้เวลาก็ดึกแล้ว เสี่ยวเฟิงเดินเข้าไป ใช้ผ้าสีขาวบางห่อไข่มุกกลางคืนไว้ แสงสว่างในห้องเลยจางลงเล็กน้อย วิธีนี้ช่วยลดแสงสว่างของไข่มุกกลางคืนได้ดีเลยทีเดียว ถ้าอยากให้มืดกว่านี้ก็แค่ไปห่ออีกหนึ่งชั้น หรือเปลี่ยนเป็นผ้าที่สีมืดกว่านี้ มีเสียงน้ำดังมาจากหลังผ้าที่กั้นไว้ เห็นเงารูปร่างสวยงามลางๆบนผ้า ทำให้คนสามารถคิดไปได้ไกล เห็นได้ชัด คนในนั้นกำลังอาบน้ำอยู่ เสี่ยวเฟิงถือดอกไม้หนึ่งตระกร้าเดินไปหลังผ้า จากนั้นก็ค่อยๆโปรยดอกไม้ลงไป “คุณหนูคะ อุณหภูมิน้ำพอดีไหมคะ?” “อืม ใช้ได้” จางยวี่โหร่วอาบน้ำ เสี่ยวเฟิงคอยรับใช้อยู่ข้างๆ นี่ทำให้นางนึกถึงชาติที่แล้วชีวิตที่ลำบากของพวกเขาทั้งสองในวังคูนหนิง ถึงแม้ฮองเฮาอย่างนางจะเหลือแค่ชื่อ ความเป็นอยู่นั้นลำบากยิ่งกว่าบ่าว แต่เสี่ยวเฟิงก็ไม่เคยทอดทิ้งนาง ความลำบากทำให้รู้ว่าใครจริงใจ คำนี้พูดถูกจริง เวลาที่สงบสุขอย่างตอนนี้ นางกลับรู้สึกมีค่าเหลือเกิน “เสี่ยวเฟิง เจ้าไม่ต้องอยู่ดูแลข้าแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ” เสี่ยวเฟิงยิ้มแล้วพูด “คุณหนูพูดอะไรกัน การได้รับใช้คุณหนูเป็นบุญวาสนาของข้า ข้าดีใจมากกว่า” “เจ้าโตมาพร้อมกับข้า เป็นน้องสาวที่ดีของข้า หลังจากนี้ห้ามว่าตนเองเป็นบ่าวนะ” จางยวี่โหร่วจับมือของนางแล้วพูดด้วยความจริงจัง เสี่ยวเฟิงตกใจจนรีบคุกเข่าแล้วกราบ “คุณหนูพูดอะไรกัน ข้าน้อยต่ำต้อย จะมีศักดิ์เท่าคุณหนูได้เยี่ยงไร ไม่คู่ควรที่จะเป็นน้องสาวของคุณหูหรอกค่ะ” จางยวี่โหร่วมองดูเสี่ยวเฟิงในตอนนี้ ก็นึกถึงตอนนั้นที่นางโดนคนของจ้าวซินซินตีจนตาย ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับกัดฟันไม่เอ่ยปากสักคำ และไม่ขอชีวิตด้วย น้ำตา ไหลออกมาเต็มเบ้าตา อาจจะเป็นเพราะว่ามีไอน้ำจากน้ำอุ่นเลยเห็นไม่ค่อยชัดเจน เสี่ยวเฟิงยังคงคุกเข่าอยู่ที่พื้นไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของนาง “ข้าว่าเจ้าคู่ควร เจ้าก็คู่ควร ยังไม่รีบลุกขึ้น จากนี้ไปถ้าเวลาไหนไม่มีบ่าว เจ้าก็เรียกข้าว่าพี่สาว และห้ามเรียกตนเองว่าบ่าว” ชาติก่อนนางดีกับจ้าวซินซินขนาดนั้นกลับแลกกับการหักหลังและใส่ร้าย นางมีตาหามีแววไม่ดี เลยต้องเจอกับเคราะห์พวกนั้น แต่ในเมื่อตอนนี้นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว ทำไมถึงไม่ทำดีกับคนที่ดีกับตนเองล่ะ? หลังจากนี้นางจะทำดีกับเสี่ยวเฟิง ไม่ทำให้บุญคุณที่นางเคยช่วยนางด้วยชีวิตให้สูญเปล่า “แต่ว่า นี่.....” “ถ้าเจ้ายังไม่ฟัง ข้าจะโกรธแล้วนะ” เสี่ยวเฟิงไม่ยอมให้นางโกรธแน่ เห็นนางพูดเช่นนี้ เสี่ยวเฟิงเลยลุกขึ้น แล้วเรียกนางด้วยความระมัดระวัง “ท่านพี่” “อืม น้องรัก!”จางยวี่โหร่วจับมือของนาง ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย “ท่านพี่ เสี่ยวเฟิงไม่ค่อยเข้าใจ คิดไปพักใหญ่ก็ไม่รู้จะเอ่ยปากยังไง คือ...เรื่องของคุณหนูจ้าว” พูดถึงจ้าวซินซิน สีหน้าของจ้าวยุนร้นก็เย็นชาเล็กน้อย นางพูดเบาๆ “เรื่องอะไร?” “เห็นวันนี้ที่คุณหนูทำกับคุณหนูจ้าว หมายความว่าคุณหนูออกห่างนางหรือ? หลังจากนั้นท่านก็ให้ข้าสั่งคนตามนางไป ปรากฎว่านางไปที่ตำหนักองค์ชายสามจริง ในเมื่อคุณหนูสงสัยนางนานแล้ว ทำไมยังพูดจาพวกนั้นต่อหน้านางอีก ไม่กลัวนางไปฟ้ององค์ชายสามหรือคะ?” “เหอะ....ข้าต้องการแบบนี้แหละ ถึงนางจะไปฟ้องแล้วได้อะไร? องค์ชายสามจะฟังนางแล้วทิ้งการแต่งงานกับข้าหรือ? เขาทิ้งข้าได้ แต่กลับทิ้งตระกูลจางไม่ได้หรอก อีกอย่างเขาเป็นคนที่มีใจที่สงสัยแรงมาก ถ้าข้าไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความอันตราย เขาอาจจะคิดว่าข้ายังคงเป็นจางยวี่โหร่วที่อ่อนแอ ใจทั้งดวงให้เขาเอาไปทำลาย มีแต่ของที่แย่งมาเท่านั้นแหละ ที่มีค่าที่สุด” ถ้าให้เป่ยจื่อห้าวมั้นใจอยู่อย่างงั้น นางไม่ทำอะไรทั้งสินให้ตนเองรักเขาอย่างโง่ๆ งั้นแผนแก้แค้นของนาง ก็คงไม่สนุกแล้วสิ เสี่ยวเฟิงมีสีหน้าที่แปลกใจ ตอนแรกคิดว่านางแค่สงสัยคุณหนูจ้าว กลับคิดไม่ถึงว่านางสงสัยองค์ชายสามด้วย คุณหนูชอบองค์ชายสามมากเลยไม่ใช่หรือ? ถึงเสี่ยวเฟิงจะเป็นแค่สาวใช้ แต่ตำหนักไท่ซือเกิดเรื่องแบบนี้ นางก็พอจะรู้อยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ที่คุณหนูอยากแต่งงานกับองค์ชายสาม ทั้งท่านไท่ซือและนายท่านกับนายหญิงท่านก็เคยเตือนแล้วอีกทั้งพี่ชายของคุณหนูก็ไม่เห็นด้วย แต่คุณหนูก็ยังยืนยันจะแต่งงานกับองค์ชายสาม บอกว่านอกจากเขาแล้วจะไม่แต่งกับใครทั้งนั้น ทุกคนเลยทำอะไรไม้ได้ ถึงนางจะไม่เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่าไท่ซือเป็นคนที่มีความรู้มาก ถ้าพวกท่านไม่ชอบใจใครก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคุณหนูดื้อรั้นมากเกินไป แต่นางขอบคุณหนูในตอนนี้มาก สามารถแยกแยะความแค้นและความดีได้ชัดเจน ฉลาดหลากแหลม แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก “คุณหนู......”เสี่ยวเฟิงเหมือนอยากพูดอะไร แต่พูดถึงครึ่งก็โดนจางยวี่โหร่วขัดก่อน “เจ้าเรียกข้าว่าอะไร ถ้ายังเรียกผิดอีก ต้องตบหน้าแล้วนะ” “ค่ะท่านพี่ ข้าพบว่า หลังจากที่ท่านพี่ขึ้นเกี้ยวผิด ท่านก็เปลี่ยนไปมากเลยค่ะ” ใช่สิ นางเปลี่ยนไปเยอะเลย เพราะใครก็คิดไม่ถึง ชาติก่อนนางผ่านเรื่องที่น่ากลัวมากขนาดไหน ถ้านางยังไม่หลักจำ และให้คนอื่นทำร้ายอยู่อย่างงั้น นางก็คงจะโง่จนไม่มียาอะไรช่วยได้อีกแล้ว “ไม่ใช่ข้าเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนข้าโง่เกินไป อยากจะมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นแค่นั้นเอง” นางตักน้ำขึ้นมาจากอ่างน้ำแล้วราดลงตัวตนเองเบาๆ ร่างกายแช่อยู่ในน้ำอุ่นถึงจะอบอุ่นมาก แต่ใจของนางกลับเย็น เสี่ยวเฟิงไม่เข้าใจคำพูดของนางอยู่แล้ว แต่คิดว่านางเป็นแบบนี้เพราะเรื่องนี้ เลยรู้สึกแย่แค่นั้นเอง “เอาเถอะ เจ้าไปพักก่อนเลย เดียวข้าอาบน้ำเสร็จก็จะไปนอนแล้ว เจ้าไม่ต้องมาเฝ้าอยู่ตรงนี้หรอก” “ค่ะ!” เสี่ยวเฟิงวางเสื้อและผ้าเช็ดตัวไว้ที่ข้างๆที่นางสามารถหยิบขึ้นมาได้ง่าย และปิดประตูเดินออกไป จางยวี่โหร่วเริ่มเงียบสงบ ตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าเป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซินร่วมมือกันแล้ว หลังจากนี้นางต้องคอยระวังจ้าวซินซินให้มากขึ้น คาดว่าเรื่องทุกอย่างของตำหนักไท่ซือนางต้องไปรายงานให้เป่ยจื่อห้าวแน่นอน งั้นนางก็ต้องทำให้กลับด้าน หลอกใช้เพื่อนสนิทคนนี้ให้ดี 
已经是最新一章了
加载中