ตอนที่ 22พี่น้องร่วมสามี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 22พี่น้องร่วมสามี
ต๭นที่ 22พี่น้องร่วมสามี ใจของจ้าวซินซินอยากหนีออกจากหัวข้อสนทนานี้ให้เร็วที่สุด กลัวว่าจางยวี่โหร่วจะเล่นเรื่องแต่งงานของนางขึ้นมาจริงๆ ถึงตอนนั้นคงดูไม่จืดแน่ “พี่คะ พี่อย่าล้อเล่นอีกเลย ฐานะข้าต่ำต้อย แถมรู้ตัวเองดีกว่ายังโง่อยู่ ใครที่ไหนจะมามองข้ากันล่ะคะ?” นางอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปทางเป่ยจื่อห้าว หวังเหลือเกินว่าเขาจะยอมออกหน้าช่วยนางพูดสักคำ แต่น่าเสียดาย เป่ยจื่อห้าวไม่ช่วยนาง และไม่คิดจะช่วยด้วย “เจ้าเป็นถึงน้องสาวของข้าจางยวี่โหร่ว ข้าไม่ยอมให้เจ้าดูถูกตัวเองแบบนี้ แต่ที่พูดมาก็ถูก เจ้าที่ทั้งอ่อนโยนและแสนดีขนาดนี้ หากแต่งออกไปจริงข้าก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ไม่แน่ว่าถึงตอนนั้นอาจโดนรังแกก็เป็นได้ ดูท่าแล้วข้าไปไหนคงต้องพาเจ้าไปด้วยถึงจะวางใจได้ล่ะมั้ง” นางกุมมือของจ้าวซินซิน ทำท่าสนิทสนมกับนางเสียเหลือเกิน พอเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ในใจของเป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซินที่เคยนึกสงสัยนางก็คลายความสงสัยลงไม่น้อย เห็นทีก่อนหน้านี้พวกเขาจะคิดมากเกินไป เพียงแต่…..ที่นางพูดนี้หมายความว่าอะไรกัน ไปไหนต้องพานางไปด้วยงั้นหรือ? แล้วถ้าแต่งออกไปแล้ว ก็ต้องพาไปด้วยหรือ? พอมาคิดอย่างละเอียด ดูเหมือนคำพูดนี้ของนางจะมีนัยบางอย่างแฝงไว้ จ้าวซินซินเหมือนจะนึกรู้อะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยปากขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “พี่คะ พี่บอกว่าต่อไปจะให้ข้าอยู่ข้างกายพี่อย่างนั้นหรือ? บนโลกนี้มีแต่พี่เท่านั้นที่ดีกับข้าที่สุด ขอเพียงได้อยู่กับพี่ตลอดไป แม้เป็นแค่เด็กรับใช้ ข้าก็เต็มใจค่ะ” จางยวี่โหร่วยิ้มพลางพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดอะไรออกมานี่ เจ้าเป็นน้องที่ข้ารัก แล้วจะให้เจ้าไปเป็นเด็กรับใช้ได้ยังไงกัน? หากว่าเราสองคนพี่น้องมีสามีคนเดียวกัน จะไม่ดีกว่าหรอกหรือ?” คำพูดนี้….แท้จริงแล้วเป็นความใฝ่ฝันของจ้าวซินซินที่อยากให้นางพูดออกมา ก่อนหน้านี้นางใช้สมองคิดหาวิธีมาตลอดว่าทำยังไงถึงจะทำให้จางยวี่โหร่วเอ่ยปากได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะว่าถึงแม้จางยวี่โหร่วจะดีกับนาง มีอะไรก็มักแบ่งให้นางด้วยเสมอ แต่ก็ไม่ได้รวมไปถึงเรื่องความรัก นางทั้งรักทั้งหลงองค์ชายสามมากถึงขนาดนั้น มีหรือที่จะยอมให้มีคนติดตามแต่งงานกับองค์ชายสามไปด้วยอีกคน จ้าวซินซินสงบจิตสงบใจที่เต้นราวกับบ้าคลั่งลงได้แล้ว ก็แสร้งทำเป็นตื่นตระหนกถึงขีดสุด “พี่คะ….พี่พูดอะไรน่ะ พี่กับองค์ชายสามต่างหากที่เป็นเนื้อคู่กัน น้องไม่กล้าหรอกค่ะ” เป่ยจื่อห้าวถึงกับขมวดคิ้ว หันไปมองจางยวี่โหร่วอย่างไม่พอใจ “โหร่วเอ๋อ ในใจข้ามีแต่เจ้าคนเดียว ทำไมเจ้าถึงให้ข้าไปแต่งกับหญิงอื่นเล่า ข้าไม่มีวันตกลงด้วยเด็ดขาด” จางยวี่โหร่วตอบด้วยสีหน้าปกติว่า “แต่ซินเอ๋อเป็นน้องสาวที่ข้ารัก หากนางต้องไปแต่งกับคนอื่นแล้วโดนรังแกขึ้นมาข้าคงทนไม่ได้ ถึงแม้ข้าจะรักองค์ชายสาม แต่ก็ไม่บังอาจให้ท่านรักข้าแต่เพียงผู้เดียว ยิ่งหลังจากเกิดการแต่งงานผิดตัวที่ฮัวเจี้ยวด้วยแล้ว ชื่อเสียงของข้าก็เสียหาย ในใจจึงรู้สึกผิดมาตลอด ท่านเป็นถึงองค์ชายสาม จะให้มารับคำเยาะเย้ยดูถูกได้ยังไงกัน? ยิ่งกว่านั้นทางวังก็ต้องการทายาทเพื่อสืบเชื้อสาย ข้าไม่อาจเห็นแก่ตัวเองจนทำให้องค์ชายสามเดือดร้อนได้หรอก” นางใช้เวลารวดเดียวพูดถ้อยคำมากมายออกมา ราวกับว่าเป็นถ้อยคำที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้คนที่มองแค่ที่สีหน้าของนางไม่ออกว่านางรู้สึกยังไง แสดงว่า…..นางคิดเช่นนั้นจริงหรือ? จ้าวซินซินไม่กล้าพูดอะไรมาก รีบหันไปมองเป่ยจื่อห้าว ถ้าเรื่องนี้เป็นจริงล่ะก็ ถ้าต้องดีใจจนแทบเป็นบ้าแน่ๆ “โหร่วเอ๋อ เพราะเรื่องนั้นเลยทำให้เจ้ารู้สึกผิดสินะ ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่สนเรื่องนี้ ข้ารักเจ้า และจะรักทุกอย่างที่เป็นเจ้า ดังนั้น….” จางยวี่โหร่วรีบพูดตัดบทว่า “ดังนั้น น้องจ้าวจึงเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับข้า ถ้าท่านรักข้าจริงล่ะก็ ก็ขอให้รับนางไว้ด้วย” นางต้องการให้เขาแต่งงานกับจ้าวซินซินจริงหรือนี่? เป็นเพราะเป่ยจื่อห้าวไม่เชื่อที่นางพูด จึงคิดอยากจะลองใจ หากว่านางยังคงยืนกรานแล้วล่ะก็ ก็คงเป็นเรื่องจริงล่ะนะ เขาจับมือของนางขึ้นมา มองนางด้วยอาการที่แสดงถึงความรักอย่างลึกซึ้ง “โหร่วเอ๋อ หากนี่เป็นความต้องการของเจ้าแล้วล่ะก็ งั้นข้าก็จะรับปากเจ้า แต่เจ้าต้องรู้ไว้ว่าในใจข้ามีแต่เจ้าเพียงคนเดียว ถึงแม้แม่นางจ้าวจะเข้ามาอยู่ในจวนข้า แต่ข้าจะยกย่องนางเป็นแค่ฮูหยิน จะปฎิบัติต่อนางเหมือนกับน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น” ถึงตอนนี้จ้าวซินซินก็รู้สึกดีใจจนตัวสั่น องค์ชายสามพูดออกมาแล้ว แสดงว่าเรื่องนี้ทำสำเร็จแล้วสินะ ขอแค่นางได้แต่งกับองค์ชายสาม ไม่ว่าในฐานะอะไรนางก็ยอมหมด ต่อไปทุกเรื่องก็แค่ต้องพึ่งตัวเองไขว่คว้าเอามาเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นข้าขอขอบพระทัยองค์ชายสามแทนน้องซินเอ๋อด้วยเพคะ” “ไม่ต้อง ที่ข้าทำไปก็เพื่อเจ้าเท่านั้น ขอแค่เจ้าสบายใจก็พอแล้ว” เขาดีกับจางยวี่โหร่วถึงเพียงนี้ นางยอมให้เขาแต่งงานกับหญิงอื่นเขาก็ยอมแต่ง“เพื่อความสบายใจ” แล้วต่อไปนางจะยิ่งซาบซึ้งใจมากกว่านี้ อีกสามเดือนให้หลังเขาก็จะนอนหนุนหมอนได้อย่างสบายใจ ในไม่ช้า รถม้าก็มาถึงข้างทะเลสาบอิ้งเย่ คนทั้งหลายลงจากรถ เป่ยจื่อห้าวกระโดดลงมาเป็นคนแรก แล้วค่อยๆพยุงจางยวี่โหร่วกับจ้าวซินซินลงจากรถมาทีละคน ขณะที่จ้าวซินซินวางมือลงบนฝ่ามือของเขา ก็รู้สึกเขินอายไปทั้งหน้า สายตาเอาแต่แอบชำเลืองมองเขา แต่เพราะจางยวี่โหร่วอยู่ในที่นี้ด้วย พวกเขาจึงไม่กล้าแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมา เป่ยจื่อห้าวก็รีบหดมือของตัวเองกลับไปอย่างรวดเร็ว “ท่านพี่คะ ดูสิทิวทัศน์ที่ดีสวยจังเลย” “นั่นสิ ออกมาเดินเล่นชมวิวแบบนี้ ทำให้จิตใจสบายขึ้นมาก พวกเราควรขอบพระทัยองค์ชายสาม หากไม่เพราะเขาแล้ว คงคาดไม่ถึงว่าที่นี่จะมีทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาดอยู่ด้วย เป่ยจื้อห้าวรีบทำตัวเป็นผู้ชายอบอุ่น ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นราวกับลมฤดูใบไม้ผลิ “ข้าเป็นกังวลว่าเจ้าจะอุดอู้อยู่แต่ในห้องจนเบื่อแย่ ก็เลยคิดพาเจ้ามาเดินเล่นที่นี่ เราไปขึ้นเรือกันเถอะ มีเกาะแห่งหนึ่งอยู่ใจกลางทะเลสาบ ได้ยินมาว่าบนเกาะมีสัตว์ประหลาดอยู่ ข้าเองก็ไม่เคยเห็นพวกมัน ไม่แน่ว่าครั้งนี้เราอาจโชคดีได้เจอก็เป็นได้” ดังนั้น จึงได้พากันขึ้นเรือสำราญออกไป นี่เป็นเรือที่วิจิตรงดงามอย่างยิ่งลำหนึ่ง เป็นเรือสำราญที่รับเฉพาะแขกที่มาท่องเที่ยวทะเลสาบ เรือนี้ตั้งใจมาจอดรออยู่ที่นี่โดยเฉพาะ นั่นเพราะเป่ยจื่อห้าวได้เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ที่แท้ก็องค์ชายสามนี่เอง แค่ออกคำสั่งลงไป ก็จะมีคนคอยจัดหาทุกอย่างเตรียมไว้ให้ ตอนนี้จางยวี่โหร่วรู้สึกไม่เข้าใจเลยว่า ตัวเองเมื่อชาติก่อนไปโดนยาอะไรเข้าถึงได้ตาบอดไปหลงใหลคนพรรค์นี้ได้ลง เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่ทำเอานางรู้สึกซาบซึ้งใจ นั่นก็เป็นเพราะเขาสั่งให้คนไปทำด้วยไม่ใช่หรือ นางกลับดันหลงเชื่อไปได้ว่าโคมดอกบัวที่อยู่ในสระนั้นเขายอมอดหลับอดนอนหลายคืนทำมันขึ้นด้วยตัวเอง ช่างโง่เง่าอะไรอย่างนี้ กระทั่งพวกเขาขึ้นเรือแล้ว กลับพบว่าบนเรือยังมีคนอีกหนึ่งคน คนผู้นั้นสวมชุดคลุมแขวนกว้างลายปักสีขาวทั้งตัวยืนอยู่ตรงหัวเรือหันหลังให้ รูปร่างผอมเพรียว ดูสูงสง่า ลมเบาๆพัดเอาชายแขนเสื้อเผยอขึ้นมา รูปลักษณ์แบบนั้น ราวกับภาพของเซียนในภาพวาดก็ไม่ปาน
已经是最新一章了
加载中