ตอนที่ 24จ้าวซินซินตกน้ำ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 24จ้าวซินซินตกน้ำ
ต๭นที่ 24จ้าวซินซินตกน้ำ เดิมทีเป่ยจื่อห้าวนึกถึงเรื่อง”อือหวงหนูอิง” ทั้งยังมีทิวทัศน์งดงามให้ชื่นชม เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่าย แต่พอมีหันยี่ฉีสอดขาเข้ามา ความสัมพันธ์แบบเราสามคนจึงเปลี่ยนเป็นรักชุลมุนสี่เส้าไปแทน ในใจเขาจึงรู้สึกเซ็งมาก จางยวี่โหร่วพยายามสุดความสามารถเพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ทะเลาะกัน พร้อมกันนั้น นางก็ยังคิดหาวิธีการที่จะสั่งสอนคนต่ำช้าสองคนนี้ให้รู้สำนึกด้วย ชมทิวทัศน์? ไหนเลยนางจะมีจิตใจชมทิวทัศน์ได้ลง ทุกวินาทีของนางมีแต่ความแค้นในใจคิดแต่จะหาทุกวิธีที่จะทำให้เป่ยจื่อห้าวกับจ้าวซินซืนตายโดยไร้ดินกลบหน้า แต่ถึงแม้จะทำให้ทั้งสองคนตายได้ก็ไม่อาจทำให้ความแค้นที่ฝังลึกเข้ากระดูกของนางหายไปได้ นางอยากให้พวกเขาอยู่อย่างทรมาน จนไม่อยากอยู่เป็นคนอีกต่อไป ลมพัดมา เรือเกิดอาการโคลงเคลงเล็กน้อย ทันใดนั้นจางยวี่โหร่วก็เกิดความคิดขึ้น นางพูดขึ้นโดยไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ “น้องจ้าว เมื่อกี้พี่สังเกตเห็นปลาจำนวนมากว่ายตามเรือของเรามา นางไปดูเป็นเพื่อนกับพี่หน่อยสิ” จ้าวซินซินกำลังหาความช่วยเหลืออยู่พอดี นั่นเพราะบรรยากาศภายในเรือกำลังคุกรุ่นยิ่ง อ๋องชิงผินกับองค์ชายสามส่งสายตาราวกับมีดนับไม่ถ้วนทิ่มแทงใส่กัน ถึงแม้นางจะไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย แต่ก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ราวกับนั่งบนพรมตะปูก็ไม่ปาน ฐานะของนางด้อยกว่า จึงย่อมไม่กล้าพูดเป็นธรรมดา แม้แต่คนใจกล้าแค่หายใจก็ยังไม่กล้าทำเสียงดัง หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปนางคิดว่าตัวเองคงเป็นบ้าแน่ คำพูดของจางยวี่โหร่วเหมือนน้ำมนต์ชุบชีวิต ที่นางกำลังเสาะหา จึงรีบลุกขึ้นเดินไปพร้อมกับนาง โดยไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองได้เดินเดินเข้าสู่”กับดัก”ที่จางยวี่โหร่ววางไว้ พอเดินออกมาด้านนอก ก็รู้สึกได้ทันทีถึงอากาสที่โปร่งสบาย ช่วงเวลาที่ทั้งคุกรุ่นทั้งกดดันนั้นได้มลายหายไปสิ้น จ้าวซินซินมองไปที่ห้องโดยสาร ไม่เห็นใครเดินตามออกมา ก็รีบเดินไปอยู่ข้างตัวจางยวี่โหร่วพูดด้วยเสียงเบาว่า “ท่านพี่ ทำไมอ๋องชิงผินถึงจู่ๆมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ท่าทางเขาดูน่ากลัวจังเลย รู้อยู่เต็มอกว่าท่านกับองค์ชายสามเป็นคู่สร้างคู่สมกัน แต่กลับคิดใช้ดาบแย่งชิงท่านมา พี่ต้องระวังเขาไว้ให้ดี” จางยวี่โหร่วได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ฟังออกว่าต้องการทดลองนาง นางช่างเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเป่ยจื่อห้าว คอยช่วยเขาหาข่าวตลอดเวลา “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ใจพี่รู้สึกหวาดกลัว” นางแสร้งแสดงท่าทางหวาดกลัว เพื่อว่าเกิดมีคนสงสัยนางขึ้นมา จะได้ไม่มีข้อพิรุธให้จับได้ จ้าวซินซินเพียงแต่ต้องการสอบถามความเห็นนางเท่านั้น จิตใจจึงจดจ่ออยู่แต่ด้านล่างเรือ “ว้าว มีปลาอยู่เยอะแยะจริงด้วย พี่รีบมาดูเร็วเข้า พวกมันกำลังไล่ตามเรือของเราอยู่” “ใช่ไหม พี่ถึงได้เรียกนางออกมายังไงล่ะ ดูสิ….ตรงโน้นยังมีปลาจิ่งหลีสีแดงด้วย นางอยู่แต่ในบ้านมาตลอด ไม่เคยออกมาเห็นโลกภายนอก เมื่อออกมาเที่ยวเล่นภายนอกจึงคอยตามติดนางตลอด ดังนั้นจึงเบนความสนใจของนางได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้น ลมพัดมาหอบใหญ่ เรือเกิดอาการโคลงเคลงอย่างรุนแรง จางยวี่โหร่วเลยรีบแสร้งทำเป็นทรงตัวไม่อยู่ แล้วร้องขึ้นมา “พี่คะ พี่...พี่เป็นอะไรไป?” ขณะที่จ้าวซินซินคิดว่านางกำลังจะตกน้ำเดิมคิดจะคว้าตัวนางไว้ แต่กลับเปลี่ยนใจ คิดว่าถ้านางจมน้ำตายไปได้ก็ดี จึงแค่ยื่นมือออกไปครึ่งหนึ่งแล้วกำลังจะหดมือกลับเข้ามา ทันใดนั้นจางยวี่โหร่วก็คว้ามือนางไว้ ทรงตัวได้มั่นคงดีแล้ว แต่จ้าวซินซินกลับทรงตัวไม่อยู่จนตกจากกราบเรือลงไปในน้ำ “ว้าย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย !” จ้าวซินซินตะเกียกตะกายในน้ำอย่างไม่คิดชีวิต นางว่ายน้ำไม่เป็นเลย น้ำจึงไหลเข้าจมูกเข้าปากนางไม่หยุด มีหรือที่จางยวี่โหร่วจะไม่ล่วงรู้ถึงความคิดชั่วร้ายของนางเมื่อกี้ ถ้าเช่นนั้น ก็ปล่อยนางแช่อยู่ในน้ำอย่างนั้นต่ออีกหน่อยแล้วกัน นางยืนอยู่ตรงกราบเรือ มองดูท่าทางทุเรศทุรังของจ้าวซินซินอย่างใจเย็นได้สักพัก ถึงได้ตะโกนร้องขึ้นว่า “มีใครอยู่บ้าง จ้าวซินซินตกน้ำแล้ว ใครก็ได้มาช่วยนางหน่อย” หันยี่ฉีกับเป่ยจื่อห้าวจึงได้รีบออกมาจากในห้อง วิ่งไปที่นางถามว่า “มีอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” จางยวี่โหร่วทำทีเป็นว่าตกใจจนขวัญกระเจิงชี้ลงไปในน้ำ ทำท่าเหมือนตกใจจนขวัญกระเจิง “น้องจ้าว ไม่ทันระวังตกจากเรือไป พวกท่านรีบช่วยนางเร็วเข้า” หันยี่ฉีไม่คิดจะยุ่งด้วย แต่ถ้าให้เป่ยจื่อห้าวซึ่งเป็นถึงองค์ชายมีฐานันดรสูงศักดิ์ลงไปช่วยนาง เขาก็คงไม่ยอมลงไปเช่นกัน ในใจจึงนึกบ่นจ้าวซินซินว่าเป็นตัวถ่วงทำให้เสียเรื่องโดยแท้ ในตอนนี้จ้าวซินซินก็หมดแรงตะเกียกตะกาย กำลังจะจมลงไปต่อหน้า จางยวี่โหร่วก็กัดฟัน ทำท่าว่าจะโดดลงไปช่วยนางเอง หันยี่ฉีจึงรีบรั้งตัวนางไว้ จากนั้น เขาก็ไปอยู่ด้านหลังของเป่ยจื่อห้าว ผลักเขาตกลงไปในน้ำ จางยวี่โหร่วแทบอยากจะกู่ร้องปรบมือให้ ผลักได้สวย ! เป่ยจื่อห้าวตกลงไปในน้ำแล้ว จึงไม่อาจขึ้นมาตัวคนเดียวได้ จำต้องกัดฟันว่ายไปช่วยจ้าวซินซิน อ๋องชิงผินสมควรตายนัก กล้าผลักเขาตกน้ำ มันจะมากเกินไปแล้ว แต่เขารู้ว่าจะพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นนี่เป็นโอกาสที่จะแสดงฝีมือต่อหน้าจางยวี่โหร่ว จึงแสร้งทำเป็นว่าเขาโดดลงไปช่วยเอง เขาต้องทำทีว่าเป็นคนมีคุณธรรมสูงส่ง ถึงจะทำให้เห็นความเย็นชาของหันยี่ฉีได้ชัดมากขึ้น จ้าวซินซินสลบไปแล้ว เป่ยจื่อห้าวมัวแต่สนใจนางจึงไม่ทันเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือในตอนนี้ “แผนยิงนัดเดียวได้นกสองตัวนี่ ชายาของข้าช่างลงมือได้ดีจริง !” จางยวี่โหร่วยิ้มบางๆ พูดขึ้นว่า “เหมือนกันนั่นแหล่ะ ถ้าไม่ได้แรงจากท่านอ๋องช่วย แผนนี้คงไม่สำเร็จอย่างสวยงามขนาดนี้ เพียงแต่ข้าไม่เข้าใจว่า เราไม่ได้หารือกันมาก่อน ทำไมท่านอ๋องถึงล่วงรู้แผนแล้วผลักองค์ชายสามลงน้ำ หรือท่านอ๋องมีความสามารถรู้เหตุล่วงหน้าได้?” หันยี่ฉีเอื้อมมือออกคว้าผ้าคาดเอวของนางไว้ แล้วดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด เสยคางของนางขึ้น แล้วจูบลงบนริมฝีปากแดงระเรื่อ จางยวี่โหร่วไม่ได้ต่อต้าน บางทีนางควรจะตอบแทนเขาที่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องของนางต่อหน้าเป่ยจื่อห้าวไปก่อนหน้านี้ แถมยังช่วยนางเล่นได้สมบทบาท มิฉะนั้นแล้ว นางคงไม่มีทางเอาตัวรอดมาได้ “เจ้าไม่เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ในใจนึกคิดอย่างไร มีแต่คนที่ใจตรงกันเท่านั้นจึงจะรู้ได้หรือ ใจเจ้าคิดอะไร ข้าสามารถเข้าใจได้หมดทุกเรื่อง” ดังนั้น เขาอยากเตือนให้นางรู้ว่าเรื่องอะไรก็ตามถ้าเกิดขึ้นต่อหน้าเขาแล้ว ทุกเรื่องของนางล้วนอยู่ในสายตาของเขาไม่มีทางที่นางจะหนีจากเขาได้ จางยวี่โหร่วรีบละสายตาไปอย่างรวดเร็ว นางเห็นเป่ยจื่อห้าวคว้าเสื้อผ้าของจ้าวซินซินได้แล้ว นางจึงรีบพาตัวเองไปอยู่ด้านข้างเรือ ถอยหลังไปหลายก้าวรักษาระยะห่างจากหันยี่ฉี จากนั้นก็แสดงทีท่าว่าเป็นกังวล พิงข้างเรือพูดว่า “เป็นอย่างไรบ้าง น้องจ้าวไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เป่ยจื่อห้าวไม่อยากพูดอะไรอีก ตัวเองต้องตะเกียกตะกายว่ายกลับมา สุดท้ายต้องอาศัยจางยวี่โหร่วกับหันยี่ฉีช่วยเหลือจึงขึ้นเรือมาได้ ทั้งสองคนเปียกชุ่มไปทั้งตัว โดยเฉพาะจ้าวซินซิน ยังสลบเหมือดไม่ฟื้น ดูท่าคงจะกลื่นน้ำลงไปไม่น้อย ทั้งไม่รู้ด้วยว่าตายแล้วหรือยัง ฮึ เกิดตายขึ้นมาจริง ก็ดูจะง่ายกับนางไปหน่อย 
已经是最新一章了
加载中