ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น
1/
ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น
ตนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น เรื่องทุกอย่างก็รายงานหมดแล้ว แต่ว่าเขายังคงนิ่งอยู่ไม่ลุกขึ้น หันยี่ฉีสังเกตุเห็นอาการของเขา จึงได้พูดขึ้นแล้ว “อยากถามอะไร ถามมาสิ” “ข้าน้อยกลับมาครั้งนี้ได้ข่าวว่า ท่านอ๋องแต่งงานแล้ว” ก่อนหน้านี้หันยี่ฉีได้แต่งงานแล้วถึงเจ็ดครั้ง มีชื่อกระฉ่อนว่าเป็นดวงพิฆาตภรรยา ในนครหลวงแห่งนี้มีหญิงสาวคนไหนที่ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องแต่งงานกับอ๋องชิงผินแล้วจะไม่หน้าถอดสีบ้าง เรื่องนี้ไม่เห็นน่าจะถามเลยนี่? “อืม แล้วยังไง?” “ท่านอ๋องได้แต่งกับคุณหนูตระกูลจาง ลืมทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้นของเราไปแล้วหรือพะยะค่ะ?” พูดถึงตรงนี้แล้ว เย่หลินก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาฉายความอำมหิตโหดเหี้ยมอย่างไม่ยอมลงให้ผู้ใด “บังอาจ !“ คิ้วของชายผู้ทรงอำนาจยกสูงขึ้น แต่ไม่ได้ทำไปเพราะความโกรธ “ข้าน้อยผิดที่พูดจาบังอาจ แต่ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยจริงๆ ท่านอ๋องแต่งงานกับจางยวี่โหร่วมีประโยชน์ตรงไหน เกิดว่าจางยวี่โหร่วต้องมาตายอยู่ในจวนท่านอ๋อง ตระกูลจางไม่มีทางปล่อยท่านไปแน่ ท่านอ๋องดำเนินแผนการในวังมาตั้งนานหลายปี ความสำเร็จเห็นอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าเกิดโดนขัดขวางจากตระกูลจางขึ้นมา นอกจากไม่เป็นผลดีแล้วซ้ำยังจะเป็นผลร้ายอย่างยิ่งด้วย” หลายปีนี้พวกเขากับตระกูลจางไม่ยุ่งเกี่ยวกัน จึงไม่ทำให้พวกเขานึกสงสัยอะไร แต่ตอนนี้เกิดมีจางยวี่โหร่วขึ้น ไม่แน่ว่า นางอาจเป็นหมากตัวหนึ่งที่ตระกูลจางส่งมาให้สังเกตุการณ์ก็เป็นได้ “จางยวี่โหร่วจะตายไม่ได้ ข้าต้องการให้นางมีชีวิตที่สงบสุข” เย่หลินมองเขาอย่างแทบไม่อยากเชื่อ รู้สึกรับไม่ได้ “ท่านอ๋อง แต่นางเป็นหลานสาวของเฟิ่งม่อเอี๋ยน หรือท่านลืมไปแล้วว่า…..” หันยี่ฉีพูดตัดบทเขาอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้ลืม เดิมทีคนที่ข้าตั้งใจจะแต่งงานด้วยไม่ใช่นาง ที่นางต้องแต่งกับข้าเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น” อุบัติเหตุ? เป็นอุบัติเหตุจริงหรือ? เรื่องนี้ใครฟังก็ยากที่จะเชื่อ ทำไมอยู่ดีๆถึงเกิดการสลับตัวที่ฮัวเจี้ยวได้ล่ะ และถึงแม้เกิดจากความผิดพลาดจริง แล้วทำไมหลังจากที่ท่านอ๋องรู้ว่าเรื่องเกิดผิดพลาดแล้ว จึงไม่หาทางตัดขาดจากนาง แต่กลับยังทำผิดซ้ำผิดต่อไป เวลานี้ทั่วทั้งหนานฉู่ต่างร่ำลือว่าอ๋องชิงผินกับองค์ชายสามกำลังเปิดศึกชิงนาง จนไม่อาจปรองดองกันได้ แผนการณ์ครั้งใหญ่ของพวกเขาใกล้จะบรรลุผลแล้ว แต่ตอนนี้ท่านอ๋องกลับโดนผลักเข้าไปอยู่ท่ามกลางขี้ปากชาวบ้าน นี่ไม่ใช่การกระทำของคนฉลาดเลย “ถ้างั้นท่านอ๋องมีแผนจะทำอะไรหรือพะยะค่ะ?” หันยี่ฉีลุกขึ้นยืน เดินไปที่หน้าต่าง ร่างผอมเรียวเมื่อสะท้อนกับแสงจันทร์ดูราวกับจะเปลี่ยนเป็นเงาไป “ใช้แผนซ้อนแผน !” ริมฝีปากบางของเขาสั่นไหวเล็กน้อย สำรอกสี่คำนี้ออกมาช้าๆ “ข้าน้อยไม่เข้าใจเลยว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ขอท่านอ๋องได้โปรดอธิบายให้ข้าน้อยหายสงสัยด้วยเถิด” เย่หลินไม่เคยแสดงอาการไร้มารยาทเช่นนี้มาก่อน แต่พอเป็นเรื่องตระกูลจางแล้ว ทำให้เขารู้สึกติดค้างใจอย่างมาก จนถึงกับบังอาจล่วงเกินถามเพื่อให้ได้ความกระจ่าง และถึงแม้เขาจะไม่เป็นคนถาม เย่นอิ่งก็คงไม่นิ่งเฉยปล่อยไปแน่ “ตระกูลจาง เป็นเหมือนเส้นเลือดสำคัญของหนานฉู่ อิทธิพลของตระกูลจางแผ่ไปทั่วราชสำนัก มีพรรคพวกมากมาย มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และยังโชคดีที่พวกเขาไม่ได้ลงมือทำอะไรในขณะที่มีฮ่องเต้อ่อนแอปกครองอยู่ ทำให้การพัฒนาประเทศดำเนินมาได้ราบรื่น และนี่ก็คือข้อดีของพวกเขา หากตระกูลจางมีใจกำเริบเสิบสานก็คงลงมือไปนานแล้วไม่ปล่อยเวลาล่วงมาถึงปานนี้ กลับกัน หากหนานฉู่ไม่มีตระกูลจางเสียแล้ว ก็เป็นเหมือนไม้ใหญ่ที่โดนมดปลวกกัดแทะจนกลวงใน ภายนอกแม้ดูกิ่งใบรกครึ้มเขียวสด แต่ความจริงเนื้อในแหลกเละจนยืนไม่อยู่” คำพูดที่ลึกซึ้งเช่นนี้ เย่หลินยังไงก็ฟังไม่เข้าใจ ดังนั้น หันยี่ฉีจึงพูดใหม่ให้เขาเข้าใจง่ายขึ้น “จางยวี่โหร่วเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของตระกูลจาง ได้รับทั้งความรักความเอ็นดูจากทุกคนในบ้าน ตอนนี้เป็นเพราะฟ้าลิขิตทำให้นางต้องมาตกอยู่ในกำมือข้า แล้วทำไมข้าต้องปล่อยหมากตัวนี้ที่อยู่ดีๆก็มีคนยื่นมาให้เองล่ะ? เมื่อได้นางมาแล้ว ข้าก็จะได้เกี่ยวข้องกับตระกูลจาง ส่วนใครจะใช้ใครนั้น ไม่มีใครรู้แต่แรกหรอก” พอพูดแบบนี้ เย่หลินถึงยอมเข้าใจได้ จึงเบาใจลงได้ในที่สุด ที่แท้ท่านอ๋องคิดหวังใช้นางเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น เดิมทีเขายังนึกกลัวว่าท่านอ๋องจะมีใจให้ผู้หญิงคนนั้นถึงได้ตัดสินใจลงไปแบบนี้ ลูกหลานของศัตรูจะให้มาเป็นชายาของท่านอ๋องได้ยังไงกัน ยิ่งไปกว่านั้นความแค้นของพวกเขาไม่ได้มีแค่ตระกูลจางตระกูลเดียว แต่ยังรวมไปถึงหนานฉู่ทั้งแคว้นด้วย ……… หลังจากจ้าวซินซินถูกส่งกลับมาที่ตระกูลซู่แล้ว ก็เกิดป่วยหนัก มีไข้สูงหนึ่งวันหนึ่งคืนถึงจะฟื้นคืนสติขึ้นมา ในใจนางรู้สึกเคียดแค้นจางยวี่โหร่วจนขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน หากไม่ใช่นางแล้ว ตัวเองจะตกน้ำ จนเกือบจมน้ำตายได้ยังไงล่ะ เหตุการณ์ในตอนนั้นชุลมุนมาก นางเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะจางยวี่โหร่วตั้งใจผลักนางตกน้ำหรือเพราะอะไรกันแน่ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบนั้นขึ้นได้ พอคิดถึงความรู้สึกตอนที่ตัวเองค่อยๆจมลงไปในน้ำจนสติเลือนหายแล้ว จ้าวซินซินก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งร่าง แค้นจางยวี่โหร่วจนเข้ากระดูก พอมองบนโต๊ะเห็น”ซิ้วฮัวหยกลู่”ยาจินชางชั้นดีที่จางยวี่โหร่วส่งมาให้นาง นางนึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเอายาทาลงที่แขนของตัวเอง ไม่ว่ายังไงก็ตาม องค์ชายสามก็รับปากแล้วว่าจะแต่งนางเข้าตำหนักสามด้วย ดังนั้นนางจึงต้องบำรุงรักษาตัวเองให้ดี ผิวกายทุกตารางนิ้วบนตัวนางจะต้องดูสว่างกระจ่างใส จะให้เกิดรอยแผลเป็นขึ้นไม่ได้เด็ดขาด ทำแบบนี้ถึงจะทำให้ผู้ชายหลงเสน่ห์ได้ ยาของจางยวี่โหร่วต้องเป็นยาดีอย่างแน่นอน นางไม่ยอมปล่อยทิ้งให้เสียเปล่าแน่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด หลังจากทายาไปแล้ว แขนของนางกลับเกิดอาการแสบคันขึ้นมา ก่อนหน้านี้หลายครั้งตอนที่นางทายาก็มีอาการแบบเดียวกัน แต่อาการไม่เด่นชัด นางนึกว่าสาเหตุมาจากเพราะบาดแผล แต่ว่าครั้งนี้ รู้สึกแสบคันมากจนนางทนไม่ไหว จนต้องเกาอย่างแรง ทำให้แผลที่ตกสะเก็ดแล้วปากแผลเกิดเปิดขึ้นมาอีก จ้าวซินซินโกรธจนรีบคว้ากระปุกยาซิ้วฮัวหยกลู่ตั้งใจปาลงกับพื้น แต่หลังจากคิดอีกทีแล้ว นางกลับเก็บยาไว้ดังเดิม บางทีอาจเป็นเพราะว่าวิธีใช้ยานี้ไม่เหมือนกับยาอื่นทั่วๆไป หรือยิ่งรู้สึกคันยิ่งแสดงว่าบาดแผลจะยิ่งหายเร็วขึ้น บาดแผลนี้ไม่ใช่ว่าจะสมานได้ภายในไม่กี่วันนี่? ถ้าเป็นอย่างนั้น คันแค่ไหนก็ไม่กลัว ดังนั้นนางจึงยอมอดทนทายาลงบนบาดแผลต่อไป จางยวี่โหร่วเข้าใจนางเป็นอย่างดี นางรู้ว่าถึงแม้จ้าวซินซินจะรู้ นางก็ทิ้งยานี่ไม่ลงแน่ นั่นเพราะว่านางเป็นแค่คนชั้นต่ำที่ไม่มีวันเงยหัวขึ้นมาได้ เวลานั้นเอง นางก็ได้ยินเด็กรับใช้ในบ้านบอกว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของเสียนเฟย ฮ่องเต้ถึงกับทรงมีรับสั่งเองว่าให้จัดงานเลี้ยงในวังขึ้นเพื่อให้พระนางได้ผ่อนคลายจิตใจ ถึงเวลานั้นบรรดาธิดาของขุนนางระดับส่ทผิ่นและขุนนางระดับสูง ก็จะสามารถเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองได้ ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า”งานเลี้ยงในวัง” จ้าวซินซินจะรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นไปทั้งร่าง เพราะนั่นหมายความว่านางจะมีโอกาสได้เงยหัวขึ้นอีกครั้งแล้ว บิดาของนางเป็นแค่ขุนนางระดับเจ็ดผิ่นชั้นผู้น้อย ถ้าอาศัยแค่บารมีของตระกูลนางคงไม่มีโอกาสแม้แต่ได้เข้าใกล้ประตูวังเป็นแน่ แต่ว่ายังมีจางยวี่โหร่วอยู่อีกคน ขอแค่นางคอยเกาะติดจางยวี่โหร่ว ก็จะได้เข้าวังไปเสนอตัวเองต่อหน้าลูกท่านหลานนางทั้งหลายเหล่านั้นได้อีกครั้งแล้ว เพียงแต่นางรู้สึกไม่พอใจมาก เมื่อก่อนนี้ในวังมีจัดงานเลี้ยงอะไรขึ้น นางไม่จำเป็นต้องเอ่ยถาม จางยวี่โหร่วก็จะส่งคนมาแจ้งให้นางทราบ แถมยังส่งเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยงามมาให้นางอีกด้วย แต่ตอนนี้กลับไม่มีอย่างที่ว่าเลย ถ้านางไม่บังเอิญได้ยินสาวใช้พูดแล้ว ตัวเองคงไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ต้องพลาดงานเลี้ยงครั้งนี้เป็นแน่
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 28ทะเลเลือดแห่งความคั่งแค้น
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A