ตอนที่ 32องค์หญิงน้อยเหมิงหัว
1/
ตอนที่ 32องค์หญิงน้อยเหมิงหัว
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 32องค์หญิงน้อยเหมิงหัว
ตนที่ 32องค์หญิงน้อยเหมิงหัว พอเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ จ้าวซินซินก็ยิ่งเกิดความอิจฉาทับทวีขึ้นไปอีก นางติดตามจางยวี่โหร่วเข้าวังมาก็ตั้งหลายครั้งแล้ว เสียนเฟยไม่เคยเป็นฝ่ายเข้ามาพูดคุยกับนางก่อนเลย แต่ครั้งแรกที่เจอหน้าหลินจือก็ดีกับนางถึงขนาดนี้เชียว ซ้ำยังวางตัวสบายๆไม่เคร่งตามธรรมเนียมปฎิบัติอีกด้วย ไม่ยุติธรรม ช่างไม่ยุติธรรมเอาเลย เห็นชัดๆว่านางมาก่อน ทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าหลินจือแย่งหน้าไปหมดเลยล่ะ ในใจนางรู้สึกโมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จางยวี่โหร่ว เจ้ากล้าปฎิบัติต่อข้าแบบนี้ งั้นเจ้าคอยดูแล้วกัน คิดจะหาสามีดีๆให้หลินจือ คิดจะชนะเดิมพันกับเฉินซูเสียน ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าได้สมปรารถนาไปได้ ในตอนนี้ ก็มีสาวรับใช้ในวังคนหนึ่งเดินเข้ามา กระซิบกระซาบที่ข้างหูเสียนเฟย เสียนเฟยหัวเราะพูดขึ้นว่า “ใกล้ได้เวลาเริ่มงานแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ” นางดึงตัวจางยวี่โหร่วขึ้นมา หลินจือกับจ้าวซินซินเดินตามอยู่ที่ด้านหลัง จากนั้นจึงได้ไปที่ชุนจิ่งไถพร้อมกัน งานวันเกิดของเสียนเฟย มีทั้งที่มาอวยพรอย่างจริงใจ มีทั้งที่มาหาความสนุกรื่นเริง ในวังหลวง ไม่มีใครที่ทำอะไรโดยไม่ดูสีหน้าของฮ่องเต้ให้ดีก่อน เดิมในวังมีพระสนมอยู่ไม่มาก เสียนเฟยทั้งสาวทั้งสวย ถึงแม้ให้กำเนิดองค์หญิงแต่เพราะเป็นที่ทรงโปรดปรานยิ่ง หลายคนจึงอยากมาประจบเอาใจและร่วมสนุกในงานนี้ด้วย หลังจากที่กลุ่มของจางยวี่โหร่วมาถึง ก็พบว่าคนมากันเกือบครบแล้ว บรรดาขุนนางตำแหน่งใหญ่ระดับส่ทผิ่นขึ้นไปต่างก็หนีบเอาครอบครัวตัวเองเข้าวังมาด้วย บอกว่าอยากมาร่วมอวยพรให้เสียนเฟย แต่ที่จริงคิดจะมาหาผู้ชายดีๆเพื่อให้แต่งงานกับลูกสาวของตน ไม่แน่ว่าเกิดมีองค์ชายองค์ใดองค์หนึ่งเห็นเข้า ต่อไปก็อาจได้โบยบินไต่เต้าได้เป็นถึงพระชายาขององค์ชายก็เป็นได้นี่? ในเวลานี้ บรรดาคุณหนูส่วนหนึ่งพูดคุยกันอยู่ที่ด้านล่าง “เห็นหรือเปล่า คนที่นั่งอยู่บนที่นั่งสูงด้านล่างนั่นก็คือองค์ไท่จื่อ” ไท่จื่อเป่ยจื่อเฉินมีสีหน้าเหมือนคนป่วยอย่างที่คนเล่าลือกันไม่ผิด รูปร่างหน้าตาก็ดูค่อนข้างธรรมดา ความรู้ความสามารถของเขาเทียบกับหน้าตาแล้วยิ่งธรรมดาเข้าไปใหญ่ แต่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะเขามีพระมารดาเป็นถึงฮองเฮาของฮ่องเต้ เป็นฮองเฮาแต่เพียงผู้เดียว ฮองเฮาได้จากโลกนี้ไปนานหลายปีแล้ว แต่ฮ่องเต้กลับทรงรักใคร่พระโอรสองค์นี้อย่างยิ่ง ถึงกับทรงนำทรัพย์สินทั้งหลายของราษฎรที่มีอยู่ทั้งหมดประทานให้กับไท่จื่อ พระโอรสองค์อื่นล้วนแล้วแต่ได้รับการศึกษาอบรมจากพระอาจารย์ในแต่ละวิชา แต่สำหรับไท่จื่อทั้งเรื่องการเรียน การขี่ม้ายิงธนู เป็นต้น ฮ่องเต้กลับเป็นคนสอนด้วยพระองค์เอง นับว่าเป็นเกียรติยศที่ไม่มีใครอื่นทำตามได้ แต่ถึงแม้จะอย่างนั้นแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นไปอยู่อันดับสูงได้ ใครๆต่างก็รู้สึกเสียดาย “เป็นไท่จื่อจริงด้วย ได้ยินว่าพระองค์ทรงอยู่ที่ตำหนักตงกงตลอดแทบไม่เสด็จออกมาเลย ไม่นึกว่าวันนี้จะได้พบพระองค์ด้วย” แม้หน้าตาจะไม่หล่อเหลา แต่เพราะว่ามีฐานะสูงเป็นถึงไท่จื่อ วันหลังหากได้เป็นพระชายาของไท่จื่อขึ้นมา ต่อไปย่อมมีโอกาสได้เป็นถึงพระแม่ของแผ่นดิน เป็นตำแหน่งที่สูงส่งอย่างที่ไม่มีใครกล้าเฝ้าฝันถึงได้ “ที่นั่งตรงข้ามไท่จื่อ ก็คือองค์ชายรอง เห็นหรือเปล่า คนที่กำลังดื่มชาคนนั้นไง” สายตาของบรรดาคุณหนูได้มองตามไป พอมองไปแล้ว สายตาก็บังเอิญประสานกันพอดี องค์ชายรองเป่ยจื่อหัวมีหน้าตาที่หล่อสง่า แถมทรงมีบุคลิกเป็นคนอบอุ่น นิสัยใจคอก็อ่อนโยน โดยเฉพาะเวลาที่ทรงแย้มยิ้ม รู้สึกเหมือนได้สัมผัสถึงลมฤดูใบไม้ผลิ ทรงสวมเสื้อคลุมยาวสีม่วงอันวิจิตรเลอค่า ชายแขนเสื้อปักด้วยด้ายทองคำ ยิ่งขับให้เห็นถึงลักษณะที่สูงส่งผิดกับบุคคลทั่วไปของพระองค์ ทำให้ไม่มีใครหลีกสายตาจากพระองค์ไปได้ พระมารดาขององค์ชายรอง เป็นองค์หญิงจากชนเผ่าอื่น ตำแหน่งของตระกูลฝ่ายมารดานั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก บวกกับองค์ชายรองมีความสามารถด้านการอักษร กิริยาก็ต่างจากคนทั่วไป ดังนั้นพระองค์จึงเป็นชายในอุดมคติที่บรรดาคุณหนูทั้งหลายในเมืองหลวงอยากแต่งงานด้วยมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินซูเสียน สายตาของนางที่มององค์ชายรองราวกับมีคำว่า”ตกหลุมรัก”เขียนอยู่ สายตาคอยแต่จับจ้องที่ตัวขององค์ชายตลอด “ผู้ที่อยู่ด้านขวามือของไท่จื่อ ก็คือองค์ชายสาม อืม พวกเจ้าส่วนมากก็น่าจะเคยเห็นองค์ชายสามแล้วนะ” ถูกแล้ว…..ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด มีเขาเพียงคนเดียวที่ชอบเสนอหน้าออกมา ดังนั้นองค์ชายสามในสายตาของทุกคนเมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วยิ่งดูใกล้ชิดเหมือนเป็นคนในระดับเดียวกัน เพียงแต่พระมารดาขององค์ชายสามลี่เฟยเป็นเพียงซิ่วหนูที่ถูกคัดเลือกเข้ามา ทำให้ทุกคนรู้สึกว่า องค์ชายสามไม่มีฐานะสูงส่งเทียบเท่ากับองค์ชายอื่น คนอย่างเฉินซูเสียนจึงไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา แม้องค์ชายสามจะมีหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ยังเทียบกับความสง่างามขององค์ชายรองไม่ได้ ถ้าเทียบกันจริงแล้ว เขาก็คงแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย จากนั้นก็เป็นองค์ชายสี่และองค์ชายห้า ทั้งสองเป็นโอรสที่เกิดจากจิ้งกุ้ยเฟย ทั้งยังเป็นฝาแฝด อายุเพิ่งจะเพียงสิบสองชันษา ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ เป็นเพียงเด็กอยู่เท่านั้น สายตาของบรรดาคุณหนู จึงย่อมมองไปที่ร่างขององค์ชายที่โตเต็มวัยที่มีอยู่เพียงไม่กี่องค์ เมื่อเสียนเฟยกับพวกของจางยวี่โหร่วมาถึงแล้ว คนทั้งหลายจึงลุกขึ้นยืน แสดงความเคารพแด่เสียนเฟย ธิดาของเสียนเฟยองค์หญิงฉางเล่อมีคนในวังพาเข้ามางานเลี้ยงตั้งนานแล้ว เวลานี้กำลังง่วนอยู่กับองค์ชายรองที่กำลังป้อนองุ่นเขียวให้นาง องค์หญิงน้อยองค์นี้เป็นที่รักของคนในวังอย่างแท้จริง ไม่เพียงเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ แม้แต่องค์ชายทั้งหลายต่างก็รักนางมาก โดยเฉพาะเป่ยจื่อหัว ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ติดเขาแจแบบนี้ อัญมณีล่ำค่าที่แสนน่ารักดวงนี้ ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหลงใหล เป่ยจื่อหัวมองเข้าไปในดวงตาของนางก็เกิดความเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง ผู้ชายที่หัวใจมีความรักยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น บรรดาเหล่าคุณหนูจึงอดไม่ได้ที่นึกอยากกลายร่างเป็นองค์หญิงน้อยเพื่อจะได้รับความรักเอ็นดูและการดูแลเอาใจใส่อยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนางบ้าง เมื่อฉางเล่อเห็นพวกของจางยวี่โหร่ว ขาสั้นๆเล็กๆก็รีบวิ่งไปหาอย่างดีใจทันที “ท่านแม่ ท่านน้ายวี่โหร่ว มาถึงจนได้ซะที ทุกคนรออยู่ที่นี่กันตั้งนานแล้ว” จางยวี่โหร่วรีบอุ้มนางขึ้นมา แล้วจูบลงไปบนใบหน้ากลมเล็กๆน่ารักของนางเสียสองที “ไอ้ย่ะ หนักขึ้นอีกแล้ว แถมสูงขึ้นด้วย น้าแทบจะแบกไม่ไหวอยู่แล้ว” เสียนเฟยหัวเราะพูดขึ้นว่า “ก็คงอย่างนั้น ช่วงนี้นางกินเก่งเสียด้วยสิ ข้าเองก็แทบจะอุ้มนางไม่ไหวเหมือนกัน” นางเห็นเปลือกองุ่นกองหนึ่งอยู่ตรงหน้าของเป่ยจื่อหัว จึงอยากรู้ว่าองุ่นพวกนั้นไปอยู่ในท้องของใคร ก็เลยแกล้งทำเป็นบีบจมูกของนาง “เจ้าเด็กตัวแสบ รู้ทั้งรู้ว่าจะไปรบกวนองค์ชายรอง หัวเอ๋อเจ้าก็อย่าตามใจนางเกินไปนัก หากเป็นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็ เจ้าเด็กคนนี้คงทั้งดื้อทั้งซนใครก็เอาไม่อยู่แน่” เป่ยจื่อหัวรีบลุกขึ้นยืนถวายคำนับ “ลูกขอถวายคำนับพระสนมเสียนเฟย ขอแค่เล่อเอ๋อชอบเท่านั้น ข้าก็รู้สึกดีใจมากแล้ว ก็ข้ามีน้องสาวคนนี้แค่เพียงคนเดียวนี่นา” องค์หญิงฉางเล่อรีบผงกหน้ารับ “ถูกต้องๆ พี่รองรักข้าที่สุดเลย” นางเพิ่งอายุห้าขวบ เด็กเล็กๆมักจะรู้ได้เองว่าใครที่ทำดีต่อนาง ใครที่ทำไม่ดีต่อนาง นางติดองค์ชายรองแจอย่างนี้ แสดงว่านางชอบเขามากจริงๆ พวกของจางยวี่โหร่วก็ได้ถวายคำนับเป่ยจื่อหัว “ถวายคำนับองค์ชายรองเพคะ” “ไม่ต้องมากพิธีหรอก !“ ทันใดนั้น ดวงตาของฉางเล่อก็เป็นประกายขึ้นมา “มีท่านน้าคนสวยอีกคนหนึ่งแล้ว สวยเหมือนท่านน้าจางยวี่โหร่วเลย” นางรีบพาตัวเองออกจากอ้อมกอดของจางยวี่โหร่วลงไปอยู่บนพื้น แล้วก็เข้าไปลากกระโปรงของนางอย่างยินดี ช่างสมเป็นแม่ลูกกันจริงๆ แค่ได้เจอหน้ากันครั้งเดียว ก็เกิดความรู้สึกดีๆต่อหลินจือแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 32องค์หญิงน้อยเหมิงหัว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A