ตอนที่41 เชื่อนางสุดจิตสุดใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่41 เชื่อนางสุดจิตสุดใจ
ต๭นที่41 เชื่อนางสุดจิตสุดใจ จางยวี่โหร่วไม่สะดวกที่จะเคลื่อนไหวเพราะเท้าเคล็ด จึงได้ประพฤติตัวเรียบร้อยรักษาบาดแผลอยู่ที่บ้าน เมื่อคิดถึงตอนนี้ลี่เฟยและเป่ยจื่อห้าวต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอนเพราะแผนการที่วางไว้ล้มเหลว ในใจนางก็สบายใจมากเป็นที่สุด พวกเขาสองแม่ลูกจิตใจทะเยอทะยานโฉดชั่ว ไหนเลยที่นางจะยังคงให้พวกเขาสร้างปัญหายุยงให้กบฏอีกต่อไปได้ ขอเพียงมีนางอยู่ที่นี่ นางจะไม่ปล่อยให้แผนการของพวกเขาสำเร็จเด็ดขาด จ้าวซินซินมาเยี่ยมนางแต่เช้า แต่กลับถูกนางปฏิเสธไปแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าร่างกายไม่สะดวก นางรีบเร่งมาหาขนาดนี้ คิดว่าจะสืบข่าวให้เป่ยจื่อห้าว ถ้างั้นนางไม่คิดจะให้หล่อนสมตามความปรารถนาแต่ท่าเดียว เพราะตอนนี้เป่ยจื่อห้าวอารมณ์เสียอย่างหนักจึงมิอาจมีสีหน้าที่ดีอะไรให้นางดูได้ คิดถึงจ้าวซินซินซึ่งไม่ว่าไปที่ไหนก็ต้องมีท่าทีต้องไปเอาใจผู้คนเอาแก้มอุ่นไปแนบก้นเย็น ยกย่องผู้อื่นแต่กลับถูกเพิกเฉยเย็นชา นางอดที่จะอารมณ์ดีมากไม่ได้ คนเช่นจ้าวซินซินแบบนั้น ไม่สมควรได้รับความรักการดูแลเอาใจใส่ที่แท้จริงจากผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง นางมาจากที่ใด ก็ให้นางกลับไปที่นั่นเถิด หลังจากรับเสวยพระกระยาหารเที่ยงแล้ว จางยวี่โหร่วก็อยู่ในห้องดูหนังสือเพลงเล่มหนึ่ง นั่นก็คือเพลงสิงขรสูงเสียดฟ้าสายนทีไหลรินเพลงนั้นที่นางได้เล่นในงานเลี้ยงสมภพที่พระราชวัง ในภพก่อน นางถูกสร้างขึ้นสำหรับเป่ยจื่อห้าวเป็นพิเศษ เป็นสัญลักษณ์บ่งถึงความรู้สึกของนางมีต่อเขาดุจดั่งศิลาบนสิงขรสูงเสียดฟ้าที่มั่นคงมิอาจคลอนแคลนหวั่นไหว และดุจดั่งสายนทีในลำธารที่ไหลรินเอื่อยเฉื่อยอย่างไม่หยุดยั้ง ตอนนี้คิด ๆ ดู ช่างเป็นการประชดประชันเสียดสีจริง ๆ แต่ก็ไม่สำคัญ ตอนนี้นางได้ใช้เพลงนี้ช่วยให้หลิงจือชนะชิงได้ตำแหน่งหัวหน้าสำเร็จแล้ว และสลายแผนการชั่วร้ายของลี่เฟยกับองค์ชายสาม ก็นับว่าได้ใช้การแล้ว ในเวลานี้ จู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักเปิด จางยวี่โหร่วมองไปทันที ที่แท้เป็นจางไท่ซือ เอี้ย ๆ ของนาง จางไท่ซือมีนามว่าจางโม่เย้น เป็นขุนนางระดับสำคัญของราชสำนัก ทุกครั้งที่เขาวิ่งไปมาจนเหนื่อยล้า ทุกเรื่องต้องลงมือกระทำด้วยตนเอง ยังต้องพบปะกับขุนนางทุกท่านสนทนาอภิปรายเรื่องการเมืองร่วมกันอีก ยุ่งมาก ๆ บางครั้งเมื่อจางยวี่โหร่วคิดได้ว่าเอี้ย ๆ เฒ่าแล้ว แต่ยังต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเช่นนี้ก็รู้สึกปวดใจ แต่เอี้ย ๆ กลับบอกว่าเป็นงานในตำแหน่ง วางแผนทางการเมืองของเขา ยังกล่าวว่า กินเงินเดือนของฮ่องเต้ ต้องแบ่งปันความกังวลของพระองค์ ทุกอย่างล้วนเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา เมื่อคิดว่าเขาได้รับใช้ชาติถึงสามแผ่นดินอย่างจงรักภักดีสุดชีวิต ทุ่มเททั้งชีวิตจนหมดสิ้น ใช้พลังทั้งชีวิตของตนไปจนสิ้น แต่ในที่สุดกลับถูกจับในข้อหาติดสินบนและข่มขืนภายใต้การใส่ร้ายของเป่ยจื่อห้าว จนต้องปิดฉากลงด้วยการถูกประหารทั้งตระกูล นั่นช่างน่าเศร้าสังเวชเพียงไร ตอนนี้นางนึกขึ้นมาได้ รู้สึกแทนเอี้ย ๆ ว่าไม่คุ้มค่า ยิ่งกว่านั้นยิ่งจงเกลียดจงชังการกระทำพฤติกรรมของเป่ยจื่อห้าวจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เอี้ย ๆ ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?” จางยวี่โหร่วรีบวางหนังสือเพลงลงแล้วลุกขึ้นยืนทันที “เท้าเจ้ามิใช่บาดเจ็บเคล็ดแล้วหรือ ดังนั้นข้าจึงเข้ามาดู ๆ เจ้าอีนังหนูนี่น่ะ ช่างไม่ระวังเกินไปแล้ว แต่เมื่อคิดถึงว่าเมื่อก่อนถ้าเจ้ารับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย เจ้าก็จะร้องไห้วุ่นวายไม่ยอมหยุด ตอนนี้...โหร่วน้อยของข้านับว่าเติบใหญ่แล้วจริง ๆ อ่า” จางไท่ซือมองดูนางกล่าวอย่างชื่นใจสุด ๆ ภพก่อนนางไม่รู้ว่าได้รับบาดเจ็บมามากเท่าไหร่ ถึงกับรับโทษทัณฑ์การโบยตีอย่างสาหัส รสชาติที่ถูกตัดนิ้วทั้งสิบออกสด ๆ นางล้วนได้รับผ่านมาแล้ว บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านี้นับเป็นอะไรได้ จางยวี่โหร่วแย้มยิ้มน้อย ๆ ออกมาแล้วกล่าวว่า “หนูมิอาจใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ปีกของเอี้ย ๆ และพ่อแม่ตลอดไป คนเราต้องเรียนรู้ที่จะเติบโตขึ้น เอี้ย ๆ สูงวัยมากแล้ว หนูก็ไม่สามารถที่จะเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่มักจะไม่รู้ความไร้เดียงสา อย่างน้อยที่สุดก็ไม่อาจให้พวกท่านเป็นห่วงหนู” จางไท่ซือมองนางอย่างลึกซึ้งคราหนึ่ง แววตามีความชื่นใจ สรรเสริญ ยังมีความซับซ้อนเล็กน้อยแบบนั้น “เอี้ย ๆ พบว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเกี้ยวผิดคันอภิเษกสมรสไปแล้ว เจ้าก็เปลี่ยนไปบ้างแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจ้าต้องร้องไห้งอแงวุ่นวายกลับมาขอให้ข้าช่วยจัดการคืนความยุติธรรมแก่เจ้า แต่ตอนนี้เจ้ากลับยิ่งรู้ว่าจะไปแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้อย่างไร” เขามาหานางวันนี้ ประเด็นสำคัญก็คิดจะพูดคุยเจรจาความในใจกับนาง รู้สึกว่าเรื่องราวหลายอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ระหว่างพวกเขาปู่หลานควรจะพูดคุยแลกเปลี่ยนซึ่งกันละกันดี ๆ สักคราแล้ว จางยวี่โหร่วก้มศีรษะลงอย่างละอายใจบ้าง “เอี้ย ๆ ไม่โทษที่หนูคิดเองเออเองหรอกน่ะ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืนเมื่อวาน...อีกนิดเดียว หนูเกือบจะทำให้ตระกูลจางต้องเสื่อมเสียเพราะหนู แต่หนูจริง ๆ ...” เมื่อครู่นางเตรียมจะพูดคำอธิบายบางอย่างออกมา กลับถูกจางไท่ซือขัดจังหวะ “ไม่ต้องพูดแล้ว แม้ว่าทุกคนจะเข้าใจเจ้าผิดไปหมด แต่เอี้ย ๆเข้าใจเจ้า ญาติของเจ้าจะยืนอยู่ข้างเจ้าหมด เราต่างเชื่อว่าเจ้ามีเหตุผลในการทำเช่นนั้น เจ้าน่ะเป็นคนที่เอี้ย ๆ ดูเจ้าโตมาตั้งแต่น้อย เป็นหลานสาวที่รักโปรดปรานที่สุดอ่า” ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเกี้ยวผิดคันอภิเษกสมรสไปแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้ว่าระหว่างยวี่โหร่วและชิงผินอ๋องรวมทั้งองค์ชายสามที่แท้เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ในที่สุดนางได้เลือกการกระทำเช่นนั้น และหวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของนาง ตั้งแต่นั้นเขาก็ยิ่งเข้าใจว่าในใจนางได้มีการปรับสมดุลมาก่อนแล้วแน่นอน ยังมีเมื่อวานได้เกิดเรื่องขึ้นในงานเลี้ยงอภิเษกสมรส แม้ว่านางจะไม่พูด เขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างอะไรที่คลุมเครือ แต่ยังอาจเป็นเพราะการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของนางครั้งนี้จะหลอมละลายวิกฤติการณ์ที่ยิ่งใหญ่ฉากนี้ได้ จางยวี่โหร่วมิอาจควบคุมน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างซาบซึ้งได้อีก นางเองเข้าไปซบในอ้อมอกของเอี้ย ๆ ตลอดเวลาอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เคยได้ระบายมาก่อน ในที่สุดสามารถร้องไห้ยกหนึ่งอย่างสาสมใจสักทีในคราวนี้ ในภพก่อน นางได้เห็นเอี้ย ๆ ของนาง พ่อแม่และญาติทุกคนทั้งหมดของตระกูลจางถูกโค่นศีรษะประหารทั้งตระกูลด้วยตานางเอง ศีรษะทั้งเจ็ดสิบสองหัวกลิ้งลงมาจากเสา ไหนเลยจะคิดได้ว่าตอนนี้นางเธอยังมีโอกาสนั่งโอภาปราศรัยสนทนาพาทีอย่างดีกับเอี้ย ๆ ในที่นี้ได้ นางรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างยิ่งยวดแล้ว “เจ้า อีนังหนูนี่ เพิ่งจะพูดว่าเจ้าเติบใหญ่แล้ว ทำไมตอนนี้ยังร้องไห้เหมือนเด็กเล็กอีก ไม่ร้องไห้แล้ว” จางไท่ซือมองนางด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรักอย่างสุดใจโปรดปรานอย่างหาที่สุดมิได้ นางเป็นคุณหนูคนเดียวของตระกูลจางในระดับรุ่นหลาน เป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขาทั้งหมดทุกคน เห็นนางหลั่งน้ำตา เขาก็รู้สึกปวดใจเป็นธรรมดา “เอี้ย ๆ หนูนี่ไม่ได้ร้องไห้ แต่เป็นสุขใจอย่างสุดยอดจนสะอื้นไห้ต่างหาก เมื่อเอี้ย ๆ เชื่อใจหนูเช่นนี้ ห่วงใยหนู หนูรู้สึกดีใจมากจริง ๆ แต่หนูยังมีความกลัวเล็กน้อย เกรงว่าเวลาที่จะอยู่ด้วยกับพวกท่านเช่นนี้จะไม่มากแล้ว” นางอิงแอบในอ้อมแขนของจางไท่ซือ โอบคอของท่านไว้เหมือนในเวลาที่นางเป็นเด็กเช่นนั้น แต่ว่าในตอนนั้นนางไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรทั้งสิ้น แต่อารมณ์ของนางในตอนนี้ กลับมิอาจเหมือนเช่นเวลานั้นแล้ว ในภพนี้ นางมาเพื่อล้างแค้น เพื่อแก้แค้น นางต้องไม่คำนึงถึงทุกสิ่งแน่ ๆ แม้ว่าต้องสู้กับเป่ยจื่อห้าวจนต้องตกตายไปตามกัน ก็ต้องเขียนเปลี่ยนประวัติศาสตร์ในภพก่อน ปกป้องญาติในครอบครัวของนางทั้งหมดไว้ นางถึงกับไม่กล้าจมดิ่งลงในความสัมพันธ์ฉันญาติมิตรมากเกินไป กลัวว่าเมื่อวินาทีนั้นมาถึง นางไม่สามารถปล่อยวางลงได้อย่างจิตใจสงบไร้ความกังวลได้ขนาดนั้น “เจ้ากำลังพูดอะไรโง่งม ขอเพียงให้ตระกูลจางของเราคงอยู่ ก็ไม่อนุญาตให้เจ้าถูกผู้ใดข่มเหงรังแกเอาได้ ไม่ว่าคนนั้นเป็นใครก็ตาม เอี้ย ๆ จะไม่อนุญาตให้เจ้าได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดทั้งสิ้น” ถึงแม้ว่าตอนนี้นางฉลาดปราดเปรื่องเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ นั้นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่มักจะเห็นนางหนักอกหนักใจจนเกินไป ก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอันใดหรอกน่ะ ก่อนนั้นนางบริสุทธิ์และตรงไปตรงมาเกินไป อ่อนหัดต่อโลก ทำให้เขาอดที่จะกังวลใจไม่ได้เลย แต่จู่ ๆ ชั่วข้ามคืนเดียวนางก็เปลี่ยนไปแล้ว ทำให้เขายากที่จะจินตนาการได้ว่าลึก ๆ ที่แท้นางคิดอะไรในวันนี้ ก็ได้แต่เคารพทางเลือกของนาง ให้นางทำสิ่งที่นางเองมีความสุข
已经是最新一章了
加载中