ตอนที่42 ศัตรูความรักพบกันย่อมอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา
1/
ตอนที่42 ศัตรูความรักพบกันย่อมอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่42 ศัตรูความรักพบกันย่อมอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา
ตนที่42 ศัตรูความรักพบกันย่อมอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา ในช่วงพักฟื้นอาการบาดเจ็บไม่กี่วันนี้ จางยวี่โหร่วก็เริ่มใคร่ครวญวางแผนที่จะดำเนินต่อไป ตามสิ่งที่นางได้รู้เรื่องราวมาในภพก่อน เป่ยจื่อห้าวแอบฝึกกองกำลังทหารกองหนึ่งอย่างลับ ๆ ซึ่งได้ซุกซ่อนไว้ในที่ที่ไม่มีใครรู้สักคน ในเมื่อแรกเริ่มเขาสามารถขึ้นมาสืบทอดราชบัลลังก์ได้อย่างราบรื่น ไม่เพียงแต่พึ่งพาการสนับสนุนของผู้อื่นอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าในมือเขาไม่มีพลังอำนาจสักนิด ต่อให้ได้ขึ้นครองราชบัลลังก์จริงแล้วในที่สุดก็ยังต้องถูกคนจูงควบคุม จนในที่สุดต้องกลายเป็นหุ่นเชิดตัวหนึ่ง เป่ยจื่อห้าวต้องไม่ยินยอมให้ตนเองต้องตกเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแน่นอน องค์ชายสามที่ร่ำลือกันว่า ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายมากที่สุด ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอ่อนโยนมีมารยาทสุภาพจริงใจ มีใครอีกเล่าที่สามารถรู้ถึงหน้าตาแท้จริงซึ่งซ่อนอยู่หลังภาพเหล่านี้ได้หรือ? จางยวี่โหร่วคิดใคร่ครวญเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนคราหนึ่ง เพราะเรื่องราวพัวพันเกี่ยวข้องสำคัญมาก จึงต้องกระทำอย่างระมัดระวัง นางไม่ได้คิดจะบอกผู้คนในวงศ์ตระกูลจาง ถ้าหากให้ตระกูลจางเปิดโปงเรื่องนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดผลบั้นปลายที่ยากจะจินตนาการได้ ฮองเต้องค์ปัจจุบันทรงรักเมตตาต่อองค์ชายธิดา จึงอาจจะทรงกระทำสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลจางได้ เพราะปกป้องเป่ยจื่อห้าว ถ้าเช่นนั้น เรื่องนี้มอบให้ผู้ใดไปทำจึงจะเหมาะสมที่สุดน่ะ? คิดไปคิดมา นางก็ได้คิดไปถึงเงาหลังของผู้ที่ใส่หน้ากากเขี้ยวหมาป่าซึ่งน่าสะพึงกลัวคนนั้น พลันเกิดประกายสุกใสเล็กน้อยแวบผ่านในดวงตาไป ถึงยังไงก็เขารู้ว่านางไม่เหมาะกับเป่ยจื่อห้าวตั้งแต่แรก ยิ่งกว่านั้นยังได้ช่วยนางมาอย่างลับ ๆ หลายครั้ง ที่สำคัญที่สุด ในมือเขามีอำนาจทางทหารซึ่งอาจเป็นรากฐานการดำรงชีวิตของประเทศชาติหนึ่ง เรื่องนี้มอบให้เขาไปต้องไม่ผิดพลาดอย่างเด็ดขาดแล้ว ยิ่งกว่านั้น เป่ยจื่อห้าวใจคอโหดเหี้ยมทะเยอทะยาน จิตใจอำมหิตลงมือดุร้าย ถ้าให้เขาสืบต่อราชบัลลังก์จริง เป็นไปได้หรือที่จะยอมรับละเว้นเขาได้? ต่อให้เขาเป็นชิงผินอ๋องแท้ ๆ ก็ต้องประสบการลงมือที่อำมหิตของเขา ตระกูลจางในภพก่อนมิใช่เป็นตัวอย่างที่ดีมากหรอกหรือ? หันยี่ฉีเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง ขอเพียงให้เขาเข้าใจในจุดนี้เล็กน้อย เช่นนั้นทุกสิ่งล้วนไม่เป็นปัญหาแล้ว คิดมาถึงตรงนี้ จางยวี่โหร่วก็ลุกขึ้นและเดินออกไปนอกประตู “เสี่ยวเฟิง เตรียมเกี้ยว” ... เวลานี้ มีหญิงสาวชุดสีฟ้าสดใสมีเสน่ห์ยืนอยู่คนหนึ่งในสวนดอกไม้หลังพระตำหนักชิงผินอ๋อง มองไปปราดเดียวก็รู้สึกว่ามีชีวิตชีวา สวยงามหรูหรากระตือรือร้น ดวงตาคู่โตที่สวยงามส่องประกายระยิบระยับด้วยพลังจิตที่เคลื่อนไหวและมั่นใจในตนเอง “พี่ชาย เจ้ารั้งข้าไว้ทำอะไรน่ะ ข้าได้ออกไปข้างนอกเป็นเดือนแล้ว ตอนนี้ถึงได้กลับมาข้างกายท่านอ๋องอย่างยากลำบาก ข้าอยากจะพบเขาโดยเร็วอ่า” มองดูชายหนุ่มหล่อเหลาสะอาดหมดจดชุดดำที่รั้งนางไว้ตรงหน้า หญิงสาวโกรธจนกระทืบเท้ากล่าวพลาง “เย่นอิ่ง เจ้าอย่าเอาแต่ใจ ขณะนี้ท่านอ๋องกำลังอยู่ในห้องทรงพระอักษร สนทนาอภิปรายถึงเรื่องที่สำคัญ ไม่สะดวกให้รบกวน” เย่นอิ่งได้ยินทันที ก็บุ้ยปากน้อยอย่างไม่พอใจขึ้นมา “เจ้าพูดจาภาษาอะไรนี้ เราเป็นคนสนิทของเขา เป็นเพราะห่วงใยกังวลเขา หรือว่าท่านอ๋องมีอะไรที่ไม่ไว้ใจเราอีกหรือ?” “แต่ว่า...” เย่นหลินยังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกเย่นอิ่งขัดจังหวะโดยตรง “ไม่มีแต่ว่า เจ้ารีบหลีกทาง ข้าจะไปพบท่านอ๋อง” ในที่สุดนางก็ไม่อาจทนได้ผลักดันมือของเขาออกไป แล้วบุกตรงเข้าไปที่สวนดอกไม้ด้านหลัง มุ่งตรงไปที่ห้องทรงพระอักษรของพระตำหนัก เย่นหลินรู้สึกจนใจมาก นี่เป็นพระบัญชาของท่านอ๋องอ่า ถึงแม้ว่านางเป็นน้องสาวของตนเอง แต่พระบัญชาของท่านอ๋องไม่สามารถฝ่าฝืนได้ แต่เย่น อิ่งไหนเลยจะเป็นตะเกียงที่ขาดน้ำมันไปได้เล่า พี่น้องทั้งสองทะเลาะตีกันเสียงดังมาตลอดทางจนถึงประตูของห้องทรงพระอักษร บางทีอาจจะได้ยินเสียงดังที่ข้างนอก จนกระทบคนข้างในแล้ว เวลานี้ ประตูห้องทรงพระอักษรได้ถูกเปิดออกมาทันที “ท่านอ๋องเพค่ะ!” ช่วงวินาทีที่ได้เห็นหันยี่ฉี บนใบหน้าของเย่นอิ่งมีประกายตื่นเต้นดีใจกระพริบผ่านไปอย่างเห็นได้ชัด กำลังเตรียมจะรีบกระโจนโผเข้าไปทันที ประกายตาก็ได้สบเห็นหญิงสาวในชุดสีแดงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาโดยพลัน บนเค้าหน้าที่สดใสสะสวยมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนของนางก็ได้หม่นหมองไปแถบหนึ่งในทันใด กระบี่ในมือก็ออกจากฝักฉับพลัน บีบบังคับตรงสู่หัวใจของจางยวี่โหร่วโดยตรง รังสีสังหารที่ยิ่งใหญ่! แม้ว่าจางยวี่โหร่วไม่มีวิทยายุทธ์ก็สัมผัสได้แล้ว เมื่อดูอีกครั้ง ก็เห็นกระบี่วิเศษที่มีประกายเยือกเย็นนั้นได้มุ่งแทงมาที่ตนเองแล้วโดยตรง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก นางไม่ได้มีเวลาที่จะตอบสนองทั้งสิ้น ชั่วพริบตานั้น นางรู้สึกถึงความตายมาเยือนแล้วจริง ๆ เวลานี้ จู่ ๆ นางถูกคนดึงกระชากอย่างสุดแรงไปครา หลังจากนั้นทั้งคนก็ตกเข้าไปสู่อ้อมอกของเขา เขากอดนางหมุนตัวไปรอบหนึ่งอย่างรวดเร็ว ปลายกระบี่ก็ได้เฉียดผ่านหูของนางไป ในที่สุดแทงใส่ความว่างเปล่า เย่นอิ่งดูไปครา พวกเขากลับยังกอดด้วยกัน ยิ่งอิจฉาตาร้อนแล้ว ไม่สนใจไม่ห่วงวิ่งพุ่งตรงเข้าไปแล้ว “นังสารเลว เจ้ากล้ายั่วยวนท่านอ๋อง ข้าจะฆ่าเจ้าแล้ว!” เย่นหลินดูปุ๊บท่าจะเสียเรื่อง กลับไม่มีทางที่จะหยุดยั้งได้ทันทั้งสิ้น ขณะนี้ ผู้ชายเห็นได้ชัดว่าได้โกรธแล้ว เขากอดจางยวี่โหร่วไว้ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น มิอาจให้เย่นอิ่งทำร้ายนางแม้สักนิดเดียวอย่างแน่นอน มองดูกระบี่นั่นได้แทงมาแล้ว เขาเอื้อมมือออกไปใช้กำลังกุมไปคราโดยตรง เลือดสดได้พุ่งทะลักออกมาในบัดดล รินหยดลงมาตามปลายแหลมกระบี่ไม่หยุดยั้ง เมื่อเย่นอิ่งเห็นเขาได้รับบาดเจ็บ พลันตกใจกลัวจนเก็บกระบี่กลับคืน รีบวิ่งเข้าไปถามว่า “ท่านอ๋อง ท่านเป็นอย่างไรแล้วเพค่ะ?” จางยวี่โหร่วไม่ได้คิดว่าเขากลับได้รับบาดเจ็บเพื่อปกป้องนางเอง เห็นเขาแบบนี้ ก็อดที่จะกังวลบ้างไม่ได้ ดูเหมือน...บาดเจ็บไม่เบาจริง ๆ หลั่งเลือดออกมามากขนาดนั้น นางเพิ่งเตรียมจะคว้ามือของเขาขึ้นมาดูบาดแผลสักครา เวลานี้ร่างกลับถูกกระแทกชนอย่างแรงออกไปทันที เย่นอิ่งฝึกวิทยายุทธ์มาตั้งแต่วัยเด็ก ฉะนั้นพลังในครั้งนี้ก็ไม่น้อย จางยวี่โหร่วล้มลงกับพื้นโดยตรง แขนโขกกับขั้นบันได โย้...ครานี้แผลเก่ายังไม่หาย เพิ่มแผลใหม่มาอีกแล้ว หันยี่ฉีเห็นนางล้มลงไป ก็ไม่ได้ดูแลตัวเองที่มือยังเลือดออก รีบขึ้นหน้าไปช่วยพยุงนางไว้ แต่ในขณะนี้ เย่นอิ่งกลับยังพยายามที่จะไปยับยั้ง ความโกรธของเขาเห็นได้ชัดว่าพลุ่งขึ้นสะสมจนถึงที่สุดแล้ว ในที่สุดก็ตวาดเสียงต่ำด้วยความโกรธออกมา “บังอาจ!” ถึงแม้ว่าเขาจะนิสัยเย็นชาโดยธรรมชาติ แต่ยังไม่เคยโกรธมากเช่นนี้มาก่อน แม้แต่เย่นหลินก็ตกใจอึ้งไปแล้ว รีบคุกเข่าลงบนพื้น “ท่านอ๋องโปรดระงับพระพิโรธพ่ะย่ะค่ะ” เวลานี้เย่นอิ่งไม่กล้าพยศอีกแล้ว ในใจหล่อนทั้งโกรธขึ้งทั้งรู้สึกไม่เป็นธรรม ยังมีความกลัวเล็กน้อย เขาปฏิบัติต่อหล่อนแบบนี้เพียงเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง น่าตายนัก ล้วนเพราะผู้หญิงคนนี้ทำร้ายทั้งสิ้น หล่อนจะไม่ปล่อยนางอย่างเด็ดขาด หันยี่ฉีรีบเข้ามาพยุงจางยวี่โหร่วขึ้นมา เลิกแขนเสื้อของนางขึ้นมาตรวจดูลักษณะของบาดแผลเจ็บ ก็ได้เห็นบนผิวที่ขาวราวหิมะนุ่มประทับรอยแผลปื้นใหญ่ปื้นหนึ่ง “รีบเข้าไปข้างในเถอะ เปิ่นหวังจะใส่ยาให้เจ้า” จางยวี่โหร่วรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องเพค่ะ หม่อมฉันเพียงบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่เป็นไรมาก แต่พระองค์ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนั้น ยังคงรีบเชิญแพทย์เถอะเพค่ะ” นางได้รับบาดเจ็บภายนอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อเห็นบาดแผลลึกนั้นที่บนพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน นางอดไม่ได้ที่ต้องกังวลใจขึ้นมา พระองค์ท่านทรงทอดพระเนตรจ้องดูนางนิ่ง ๆ จากนั้นทรงตรัสว่า “ไม่เท่าไรนัก ไม่ต้องการแพทย์แล้ว เจ้าเข้ามาช่วยล้างแผลให้เปิ่นหวังสักครู่ ในห้องทรงพระอักษรก็มียารักษาสมานแผล เจ้าในฐานะเป็นพระชายาของเปิ่นหวัง ภายภาคหน้าเจ้าต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ให้เคยชิน” อะไรนะ พระชายา!! คำ ๆ นี้ กระตุ้นเย่นอิ่งบาดลึก หล่อนไม่สนใจว่าตัวเองได้ทำเรื่องผู้ใต้บังคับบัญาชาขัดต่อเบื้องสูงไปมากมายเท่าใดเช่นนี้ รีบตั้งกระทู้ถามอย่างตื่นเต้น “ท่านอ๋อง ที่แท้ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน นางทำไมเป็นพระชายาของพระองค์ท่านได้เพค่ะ?” ช่างน่าตาย หล่อนจากไปได้เพียงไม่ถึงเดือน ในพระตำหนักก็กลับมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งปรากฏมา หล่อนไม่รู้อะไรทั้งหมดล่วงหน้า ดังนั้นจึงได้ตื่นตระหนกตกใจขนาดนี้ หล่อนมองไปที่เย่นหลินคราหนึ่ง เพียงเห็นสีหน้าจนใจไปบ้างของเขาเท่านั้น วันเวลาเหล่านี้ เย่นอิ่งได้รับมอบหมายภารกิจตลอดที่ผ่านมาได้รวบรวมเก็บข้อมูลลับของแคว้นเชียง เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในหนานหชู่ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ดังนั้นหล่อนจึงไม่ได้รู้ว่าฮองเต้ได้ทรงพระราชทานงานอภิเษกสมรสงานหนึ่งแก่ท่านอ๋องแล้วเป็นธรรมดา เมื่อหล่อนกลับมา เขาพยายามคิดจะบอกหล่อน แต่หล่อนกลับรีบที่จะไปดูท่านอ๋อง รั้งก็รั้งไว้ไม่อยู่ทั้งหมด เขาจึงไม่ทันได้บอกอ่า เวลานี้ หันยี่ฉีเอ่ยพระโอษฐ์ตรัสอย่างเฉยเมย น้ำเสียงกลับแฝงความกดดันอย่างเห็นชัด “นางเป็นศรีภริยาของเปิ่นหวัง พระชายาที่ได้อภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการมีแม่สื่อแม่ชักชัดเจน นายผู้หญิงประจำพระตำหนักของเจ้า เย่นอิ่ง เจ้ากล้าสบประมาทพระชายาหรือ? ควรมีโทษสถานใด?” จางยวี่โหร่วฉลาดปราดเปรื่องขนาดนั้น เหตุใดจะดูไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้รักหันยี่ฉี เป็นสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงจริง ๆ ชิงผินอ๋อง ที่ร่ำลือกันว่าน่ากลัวขนาดนั้น กลับยังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบเขาอย่างจริงจังเอาเป็นเอาตายแบบนี้ หล่อนยังคิดว่าผู้หญิงทั้งหมดล้วนจะหน้าเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินนามเขา หลบหลีกให้พ้น ๆ ไปจนหมดสิ้นน่ะ เห็นได้ชัดว่าเย่นอิ่งไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงนี้ได้ หล่อนส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต ก่อนหน้านี้พระองค์ท่านได้อภิเษกสมรสพระชายาไปแล้วเจ็ดพระองค์ แต่ไม่มีพระองค์ไหนที่จะให้พระองค์ท่านยืนยันสถานะที่แท้จริงของนางด้วยพระโอษฐ์เองอย่างเข้มงวดเช่นนี้ นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังทรงพระพิโรธมากต่อหล่อนเพื่อผู้หญิงคนนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ทรงมีฐานะที่แตกต่างกันอย่างยิ่งยวดในพระทัยของพระองค์ท่าน หล่อนในฐานะที่เป็นผู้หญิง จึงอ่อนไหวมากสุด ๆ จางยวี่โหร่วสั่นศีรษะเบา ๆ “ช่างเถอะ หล่อนเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นข้า ผู้ไม่รู้ไม่มีโทษผิด จดจำออกมาไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ พระองค์ท่านทรงโปรดอย่าได้ลงทัณฑ์หล่อนไปเลยเพค่ะ” นางไม่ได้ใจกว้าง ต่อผู้ที่ยั่วโทสะนางเอง นางมักจะต่อสู้โจมตีกลับทั้งสิ้น แต่เห็นแก่ใจที่คลั่งไคล้หลงใหลของผู้หญิงคนนี้ ครั้งนี้นางจะไม่ถือสาหาความหล่อนแล้ว ท่าทีของนางกลับทำให้เย่นหลินรู้สึกนอกเหนือความคาดหมายไปบ้าง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลจางซึ่งเป็นที่ร่ำลือกันว่าหยิ่งผยองโหดร้ายหรอกหรือ ยังคิดว่านางจะหยิบยืมสภาพการณ์ลงทัณฑ์น้องสาวของตน กลับไม่คิดว่านางยังช่วยวิงวอนขอร้อง ถ้าหากว่านางไม่ใช่คนของตระกูลจาง เขาอาจจะเปลี่ยนทัศนคติในการมองดูนางแล้ว แต่เย่นอิ่งกลับอับอายจนกลายเป็นโกรธ พูดอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าไม่ต้องมาเสแสร้ง เจ้าคิดว่าทำแบบนี้ข้าจะซาบซึ้งเจ้าแล้วหรือ?” เย่นอิ่งคนนี้ แทบจะไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเกินไปแล้ว ให้โอกาสหล่อน หล่อนกลับไม่สำนึก ไม่ถนอมรักษาไว้ ทำการงานยังคงผลีผลามเช่นนี้ควรให้หล่อนได้ลิ้มรสความเจ็บปวดดี ๆ ซะมั้ง หันยี่ฉีทรงตรัสอย่างเย็นชาว่า “ทหาร เย่นอิ่งดูหมิ่นไม่ยำเกรงพระชายา กระทำความผิดฐานผู้ใต้บังคับบัญชาลบหลู่เบื้องสูง ได้รับการสอนนับครั้งไม่ถ้วนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ลากหล่อนลงไปโบยตีด้วยไม้กระดานใหญ่อย่างหนักยี่สิบที” อะไร ทั่วใบหน้าของเย่นอิ่งเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ท่านอ๋องกลับลงทัณฑ์หล่อนจริง ๆ เพราะจางยวี่โหร่ว แม้ว่าโบยตีด้วยไม้กระดานใหญ่อย่างหนักยี่สิบทีไม่ได้มีความหมายอะไรกับหล่อนมากเท่าไรนัก แต่นี่กลับเป็นการตบหน้าหล่อนอย่างเหี้ยมโหดอ่า คิดว่าหล่อนอยู่ข้างนอกมาหนึ่งเดือน ตอนนี้ได้กลับมาแล้วอย่างยากลำเค็ญ กลับต้องรับการลงทัณฑ์เช่นนี้ นี่ไหนเลยให้หล่อนยอมรับได้อย่างไร ต่อให้เย่นหลินคิดจะวิงวอนขอร้องก็ไม่มีปัญญา เย่นอิ่งนังทำผิดขัดกับข้อห้ามของท่านอ๋องจริง ๆ จะอย่างไรอีกก็ตามพวกเขาเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเท่านั้น ทำผิดแล้วก็ต้องรับการลงโทษสมเหตุสมผล เมื่อเย่นอิ่งถูกลากลงไป แววตาที่มองจางยวี่โหร่วนั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งความโกรธแค้นอำมหิต ผู้หญิงคนนี้หล่อนจดจำไว้แล้ว หล่อนจะไม่ปล่อยนางไว้อย่างเด็ดขาด หล่อนต้องให้นางกลายเป็นวิญญาณดับสูญดวงที่แปดในพระตำหนักนี้ ดูซิว่านางยังมีชีวิตไหนที่คิดจะมาพรากผู้ชายที่หล่อนชอบไปได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่42 ศัตรูความรักพบกันย่อมอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A