ตอนที่44 ตายโดยไร้ที่ฝังศพ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่44 ตายโดยไร้ที่ฝังศพ
ต๭นที่44 ตายโดยไร้ที่ฝังศพ ท้ายสุดเย่นหลินยังคงห่วงใยน้องสาว หลังจากที่ได้รู้ว่าหล่อนได้รับการลงทัณฑ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็รีบไปเยี่ยมหล่อนทันที เวลานี้ เย่นอิ่งกำลังนั่งอยู่ที่นั่น ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปบ้างเล็กน้อย เสื้อผ้าที่เดิมเรียบร้อยเป็นระเบียบก็กลายเป็นยับยู่ยี่หนำซ้ำยังมีคราบสกปรกบางแห่งแล้ว มิอาจกลับไปมีสภาพที่ดูฉลาดปราดเปรื่อง สง่างามสดใสเด่นสะดุดตาผู้คนเช่นนั้นในยามที่เพิ่งกลับมาได้ทั้งหมด มองไปแล้วชวนให้ทุลักทุเลไปบ้าง โบยยี่สิบไม้กระดานนับได้ว่าเป็นการลงทัณฑ์สถานหนักสำหรับหญิงสาวคนหนึ่งแน่นอน แม้ว่าจะกล่าวว่าเป็นความผิดพลาดของเย่นอิ่ง แต่ในพระตำหนักนี้ ใครบ้างไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองพี่น้องกับท่านอ๋อง ต่อให้ต้องลงทัณฑ์ก็ไม่ควรลงมือหนัก อย่างมากที่สุดก็ลงไม้ลงมือเป็นตัวอย่างก็ใช้ได้แล้ว แต่สำหรับเย่นอิ่งแล้ว ความเจ็บปวดยังเป็นเรื่องรอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการถูกเหยียดหยาม เมื่อเห็นสีหน้าของหล่อนตอนนี้ ทั่วใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ เย่นหลินมองดูด้วยใจห่วงใยกังวลสุด ๆ เย่นหลินเห็นหล่อนไม่ได้เป็นไรมาก พลันเตือนอย่างเป็นระเบียบด้วยความเข้มงวดมาก “อิ่งเอ้อร์ วันนี้เจ้าเกินไปแล้ว กลับขวัญกล้าบังอาจทำร้ายท่านอ๋อง เจ้ารู้ว่าตนเองทำผิดเป็นอาชญากรรมใหญ่หลวงล้นฟ้าอย่างไรไหมแล้ว” ฐานันดรศักดิ์ท่านอ๋องสูงส่งมากเพียงใด พวกเขาเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น ตอนนี้กลับทำสิ่งที่ทำร้ายเจ้านายออกมา นี้ไม่สามารถทนได้อย่างสิ้นเชิง แม้ว่าหล่อนจะเป็นน้องสาวของตัวเอง เย่นหลินก็มิอาจมองดูต่อไปได้ เย่นอิ่งลุกยืนขึ้นมา สีหน้าดูโกรธมาก แม้แต่เสียงก็แหลมปริ๊ดขึ้นมาอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ “พี่ ทำไมกระทั่งท่านก็ไม่เข้าใจ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าเพียงคิดจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น ล้วนเป็นนางที่ทำให้ท่านอ๋องเอ็ดดุว่าเช่นนี้ แม้แต่ยังทรงลงทัณฑ์ต่อข้า ก่อนนั้นไม่ว่าข้าทำผิดพลาดอะไรพระองค์ท่านไม่เคยดุด่าว่ากล่าวข้าอย่างอดไม่ได้มาก่อน” นั่นเป็นเพียงเพราะความผิดพลาดที่หล่อนทำก่อนหน้านี้ไม่ได้ร้ายแรงเท่าขนาดนี้ในครั้งนี้เท่านั้น แน่นอนเย่นหลินรู้ความในใจของน้องสาวตนเองที่มีต่อท่านอ๋อง แต่ว่าหล่อนก็มิอาจวู่วามเช่นนี้อ่า ในช่วงเวลานี้ ไฟโกรธเต็มท้องในใจเย่นอิ่งไร้ที่ระบาย ก็ได้พุ่งสาดไปบนร่างของเย่นหลินโดยตรงจนหมดสิ้น “พี่ ท่านอ๋องอภิเษกสมรสเรื่องใหญ่เช่นนี้เจ้ากลับไม่ได้บอกข้า ถ้าข้ารู้ก่อน...” วาจาที่เหลือหล่อนหยุดไว้ไม่ได้รีบเอ่ยออกมา แต่ประกายสังหารที่เด่นชัดแวบผ่านไปในประกายตาเล็กน้อย ไม่เหมือนประกายตาที่หญิงสาวอายุอานามดั่งหล่อนเช่นนี้ควรมีสักนิด ถ้ารู้แต่แรกเป็นอย่างไร? เย่นหลินเขารู้อยู่แก่ใจ และรู้ว่าพระชายาทั้งเจ็ดที่ได้อภิเษกสมรสเข้ามาในพระตำหนัก แท้จริงทรงสิ้นชีพไปได้อย่างไร เขาก็รู้อยู่แก่ใจด้วย “ก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านอ๋องทรงอภิเษกสมรส เจ้าควรเคยชินแล้วจึงจะถูก เจ้าก็ควรรู้ นี่เป็นฮองเต้ทรงมีพระราชโองการพระราชทานอภิเษกสมรส ท่านอ๋องมิอาจปฏิเสธได้ ดังนั้นจึงอภิเษกสมรสนางเข้ามา ก็ไม่ได้ชอบนางจริง ๆ เจ้าไม่ต้องตื่นเต้นวู่วามมากถึงขนาดนั้นหรอก” การเตือนอย่างเป็นระเบียบเช่นนี้ของเขาไม่เพียงมิอาจดับไฟพิโรธของนาง กลับยิ่งกระพือไฟนั้นยิ่งเผายิ่งโหมแรงขึ้น ความอิจฉาริษยาในใจยิ่งเติบโตมากขึ้น “ไม่ ไม่เหมือนกัน ข้าไม่เคยเห็นเขาใส่ใจแบบนี้กับใครมาก่อน เขาปกป้องนางไว้ในอ้อมอกอย่างเคร่งเครียด ถึงกับยังได้ดุด่าข้าเพื่อนาง ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เป็นอย่างนี้ ต้องเป็นนังสารเลวที่น่าตายคนนั้นทำให้ท่านอ๋องหลงใหล ดังนั้นเขาจึงได้ทำเช่นนี้ต่อข้า ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน ข้าจะไม่ละเว้นนางอย่างเด็ดขาด” หลายปีมานี้ หล่อนไม่อนุญาตให้ผู้หญิงใดๆเข้ามาใกล้ชิดท่านอ๋อง เด็ดขาด แน่นอนได้ถือว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของหล่อน ตอนนี้กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งดำรงอยู่ทำให้หล่อนรู้สึกว่านางเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ หล่อนไหนเลยจะสามารถยินยอมให้นางยังคงมีชีวิตอย่างดีได้หรือ หล่อนต้องสับนางเป็นหมื่น ๆ ชิ้น ให้นางตายโดยไร้ที่ฝังศพ เย่นหลินกลัวว่าหล่อนจะทำอะไรผลีผลามวู่วามจนไม่สามารถแก้ไขได้ออกมาอีก รีบจับมือหล่อนไว้ทันที หลังจากนั้นบอกความจริงกับหล่อน “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ท่านอ๋องไหนเลยจะรู้สึกยังไงกับนางได้ และเจ้าอาจจะไม่รู้ว่านี่เป็นการอภิเษกสมรสที่ผิดพลาดเรื่องหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้เป็นเพราะขึ้นเกี้ยวผิดคันไปแล้ว ภายใต้ความผิดพลาดโดยบังเอิญจึงได้ถูกท่านอ๋องอภิเษกสมรสเข้าพระตำหนักมา” “อะไร? ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิด ทำไมไม่ให้นางรีบไสหัวออกไป ยังหน้าด้านตื้อท่านอ๋อง ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายจริง ๆ” เย่นอิ่งไม่ทันฟังเขาพูดจบอย่างสิ้นเชิง ก็ด่าแช่งอย่างโกรธแค้นขัดจังหวะวาจาของเขาโดยตรง “ต่อให้นางคิดจะรั้งอยู่ แต่ถ้าท่านอ๋องไม่ทรงยินยอม ใครสามารถฝ่าฝืนได้เล่า? ความผิดพลาดดังกล่าว ท่านอ๋องได้ทรงเลือกผิดพลาดก็เลยตามเลย เจ้าไม่คิดไตร่ตรองดี ๆ สักครู่ในเหตุผลนี้หรอกหรือ?” เย่นหลินรู้สึกจนใจบ้าง น้องสาวของเขาคนนี้วู่วามเกินไปแล้ว แต่ก็เป็นเพราะรักท่านอ๋องลึกซึ้งเกินไป เขาก็หวังให้น้องสาวของตนสามารถบรรลุความปรารถนาโดยเร็วที่สุดด้วยเป็นธรรมดา “เหตุผล ยังสามารถมีเหตุผลอะไร? หรือว่าบนร่างนางยังมีคุณค่าใดที่ให้พวกเราได้ใช้ประโยชน์อีกหรือ?” เย่นอิ่งก็ยังไม่นับว่าโง่มากจนเกินไป นี่กลับให้นางกล่าวได้ถูกต้องแล้วจริง ๆ “ไม่ผิด ความแค้นของประเทศชาติยังไม่ได้ชำระ เวลานี้ท่านอ๋องไหนเลยสามารถคิดคนึงถึงความรักส่วนตัวชายหญิงได้หรือ? การเตรียมการอย่างลับ ๆ ในหลายปีนี้ของพวกเรา มิใช่ก็เพื่อรอวินาทีนี้หรือ เจ้าอย่าได้เพราะความวู่วามชั่วขณะของตน ทำลายแผนการของเราเด็ดขาดอ่า” แม้ว่าเย่นอิ่งมีใจอิจฉาริษยาอย่างแรงกล้า บุคลิกภาพนิสัยเอาแต่ใจตนเองร้อนแรง แต่ว่าขอเพียงเป็นเรื่องเกี่ยวกับท่านอ๋อง นางต้องรู้สึกอ่อนโยนดุจน้ำ ระมัดระวังจริงจัง ตอนนี้เย่นหลินได้บอกหล่อนถึงสิ่งที่พัวพันถึงความร้ายแรงในเรื่องนี้ หล่อนย่อมต้องรู้เดิมพันที่สำคัญในสถานการณ์โดยรวมแน่นอน “ดี ถ้างั้นเจ้าบอกข้าให้ชัดเจน ผู้หญิงคนนั้นที่แท้มีฐานะใด นางมีคุณค่าอะไรให้เราใช้เป็นประโยชน์ได้ หลังจากนั้นข้าใคร่ครวญสักพักว่าจะละเว้นนางชั่วคราวไหม” “ฐานะของนาง ก็คือจางยวี่โหร่วหลานสาวแท้ ๆ ของจางไท่ซือในปัจจุบัน” ในที่สุดเย่นหลินก็ได้เอ่ยนามของนางออกมา เดิมเย่นอิ่งได้ถูกทำให้นิ่งสงบลงมาแล้ว แต่เมื่อหล่อนได้ยินคำว่า “ตระกูลจาง” ไฟโกรธก็ได้โหมกระพือกลับขึ้นมาใหม่ “ท่านกล่าวอะไร นางเป็นคนของตระกูลจาง เช่นนั้นแล้วนางยิ่งสมควรตายในบัดนี้แล้ว วันนี้นางอย่าคิดหวังมีชีวิตเดินออกจากประตูพระตำหนักไปได้” นังหนูนี่ ทำไมทุกครั้งถึงได้เป็นแบบนี้หัวเสียทันทีที่โดนน่ะ? ถ้าปล่อยให้หล่อนออกไปอาละวาดต่ออีก ทำให้ท่านอ๋องหงุดหงิดขึ้นมาจริง ๆ นั่นก็ไม่เป็นเพียงโบยตียี่สิบไม้กระดานง่ายดายเช่นนั้นแล้ว “เจ้าฟังข้ากล่าววาจาให้จบก่อน ก็เพราะนางเป็นคนของตระกูลจาง ดังนั้นพวกเราจึงยิ่งควรที่จะใช้ประโยชน์ให้ดี ต้องรู้ว่าตระกูลจางเป็นเสาหลักค้ำชูหนานหชู่ ถ้าสูญสิ้นตระกูลจางไปแล้ว ถ้างั้นหนานหชู่ก็ย่อมแตกสลายไปเป็นธรรมดา ผู้หญิงคนนั้นสำหรับเราแล้วเป็นเพียงหมากตัวเดียวเท่านั้น เจ้าก็ยังไม่ต้องไปสนใจก่อน ให้นางอยู่ข้างกายท่านอ๋องดี ๆ รอจนคุณค่าการใช้สอยของนางปรากฏออกมาจริง ถึงเวลานั้นคิดจะจัดการนางอย่างไรล้วนตามใจเจ้าให้เจ้าพอใจ ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วไหม?” หล่อนอึ้งไปเล็กน้อย นิ้วมือค่อย ๆ งอบีบแน่นเป็นหมัด เส้นเอ็นหลังมือโปนเขียว ในแววตามีความเคียดแค้นชิงชังเข้ากระดูกแวบผ่านไปด้วย บุตรสาวของตระกูลจาง นางไหนเลยจะละเว้นปล่อยผ่านไปได้ง่าย ๆ แต่พี่ชายได้พูดแบบนี้แล้ว นางยังสามารถทำอะไรได้? ดี ถ้างั้นให้หล่อนยอมกล้ำกลืนทนไว้ก่อนสักพัก รอจนหลังจากเรื่องราวจบสิ้นลงแล้ว หล่อนจะต้องให้นางได้รู้ว่าอะไรเรียกว่าร้องขอชีวิตไม่ได้ ร้องขอความตายมิสามารถ ... ในที่สุดจางยวี่โหร่วก็ได้รับคำมั่นสัญญาจากผู้ชายแล้ว รับปากช่วยค้นหาที่สุมซ่อนกองกำลังของเป่ยจื่อห้าวตามตำแหน่งที่นางได้เสนอไว้แน่นอน ตามเหตุผลแล้วนางบรลุเป้าหมายแล้วควรจะดีใจจึงถูกต้อง แต่ว่าในใจกลับไม่ได้มีความรู้สึกภาคภูมิใจอะไรเลย คิดถึงวาจาเหล่านั้นที่เขาได้กล่าวกับนาง เขาจะอวยพรนางให้ได้แก้แค้น ให้ศัตรูของนางชดใช้เป็นร้อยเท่าพันเท่า เงื่อนไขก็คือให้นางยอมวางใจของนางไว้บนกายเขาดี ๆ ร่างกายเป็นเพียงโครงกระดูกเท่านั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ นางสามารถมอบถวายนางเองออกไปได้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น แต่หัวใจดวงนี้จะมอบให้ใคร ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถตัดสินใจได้น่ะ! เมื่อคิดถึงหญิงสาวในชุดสีฟ้าถือกระบี่แทงมาที่นางคนนั้น หล่อนรักชอบพระองค์ท่านมากอย่างเห็นได้ชัด พวกเขามีความสัมพันธ์ใดกัน? ถ้าเป็นความจริง โทษเบื้องต่ำล่วงละเมิดเบื้องสูง แทงเจ้านายตนเองได้รับบาดเจ็บ การลงทัณฑ์โบยตียี่สิบกระดานเช่นนี้ก็ยังนับว่าเบาเกินไปแล้ว เขาก็ทำเป็นเพียงแบบอย่างเท่านั้นชัด ๆ ไหนเลยจะใช่เรียกร้องขอความเป็นธรรมเพื่อนางด้วยความจริงใจน่ะ? ความจริงใจคือการแลกเปลี่ยนโดยเทียบเท่า เขาต้องไม่ยินยอมจ่ายอย่างจริงใจ ถ้างั้นนางซึ่งเป็นผู้หญิงที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากบาดแผลหัวใจคนหนึ่งเช่นนี้ แล้วไหนเลยจะสามารถมอบดวงใจจริงดวงหนึ่งอย่างโง่ ๆ ทึ่ม ๆ ซ้ำรอยเก่าที่ได้เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้อีกได้อย่างง่ายดายแบบนั้นหรือ? ... เรื่องงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในพระราชวังยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสะอาดหมดจด นางต้องเข้าพระราชวังอีกรอบแน่นอน มิฉะนั้นก็ได้ฝังซ่อนโรคหนึ่งไว้อย่างง่ายดายมาก จางยวี่โหร่วเป็นธิดาคนเดียวของตระกูลจาง สภาพฐานะสูงส่งมีชื่อเสียงมากที่สุดไร้ที่เปรียบปาน ถึงกับยังได้รับป้ายพระราชทานจากฮองเต้สามารถเดินทางเข้าออกพระราชวังอย่างอิสระ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่นางต้องการเข้าพระราชวังก็ย่อมได้ นี่เป็นสิ่งที่คุณหนูคนอื่น ๆ ล้วนไม่ได้รับการปฏิบัติด้วย บางทีอาจเป็นเพราะการปรับที่เหมาะสมเมื่อเร็ว ๆ นี้ สีพระพักตร์ของเสียนเฟยจึงได้ดูดีขึ้นมาก เมื่อจางยวี่โหร่วได้เห็นนาง นางกำลังนำนางกำนัลผลิตสุราดอกหอมหมื่นลี้ด้วยมือของนางเอง ครั้งที่แล้วในวันฉลองคล้ายวันประสูติของนาง สุราดอกหอมหมื่นลี้อันทรงคุณค่ายิ่งที่ซ่อนไว้ไม่กี่ไหในพระราชวังล้วนได้ถูกนำมาต้อนรับแขกเหรื่อจนหมดสิ้น ดังนั้นแน่นอนนางต้องผลิตใหม่อีกหลายไหแน่นอน ทันทีที่นางเห็นจางยวี่โหร่ว ก็รีบวางสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือลงชั่วคราว และลุกขึ้นยืนมองดูนาง สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เงียบสงบ “โหร่วเอ้อร์ เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง ครั้งที่แล้วเจ้าไม่ใช่ได้รับบาดเจ็บแล้วหรือ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วบ้างไหม?” จางยวี่โหร่วรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “หม่อมฉันสบายดี ขอบคุณที่พระนางทรงเป็นห่วงเพค่ะ” ถ้ามีใครอยู่เคียงข้างในที่นั่น นางย่อมต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตามกฎแต่โดยดี เวลานี้ แววตาของนางได้จับจ้องมองนางกำนัลในชุดสีชมพูที่ยืนช่วยงานอยู่ข้างไหเหล้า ต่อให้เวลานี้มีนางกำนัลหลายคนต่างอยู่ที่นี่กัน แต่จางยวี่โหร่วก็ยังคงจดจำนางออกมาได้ในการมองปราดเดียว นางก็คือคนที่ใส่ยาพิษลงในสุราที่รินให้องค์รัชทายาทในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่พระราชวัง ตอนนี้ดูไปแล้ว นางต้องเป็นคนในซึ่งลี่เฟยส่งมาข้างกายของเสียนเฟยแน่ ๆ นางจำเป็นต้องเตือนให้เสียนเฟยระมัดระวัง “ไม่มีเรื่องก็ดีแล้ว พวกเราเข้าไปกันก่อนเถิด” เสียนเฟยหันกลับมาสั่งการเหล่านางกำนัลเหล่านั้นอีก “พวกเจ้ารีบไปปิดผนึกเหล้าทั้งหมดแล้วย้ายไปไว้ที่ห้องใต้ดิน จำไว้ต้องระวัง ยกและวางเบา ๆ” “เพค่ะ!” นางกำนัลเหล่านั้นต่างรีบพากันไปทำการตามพระมหาบัญชาแล้ว จางยวี่โหร่วก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายอีก เดินไปพร้อมกับเสียนเฟยเข้าข้างในไปแล้ว “โหร่วเอ้อร์ เจ้ามีวาจาใดที่คิดอยากจะกล่าวกับเปิ่นกงหรือ?” เสียนเฟยก็นับว่าได้เห็นนางเติบใหญ่มา เมื่อเห็นสีหน้านางที่ดูราวกับว่าเต็มไปด้วยครุ่นคิดสิ่งใดแล้วแสดงออกอย่างซับซ้อนไปบ้างนั้น ในใจนางย่อมเข้าใจกระจ่างแจ้ง หลังจากนั้นได้สั่งให้ซ้ายขวาถอยออกไปแล้วเอ่ยถามไถ่วาจาออกมา “ท่านพี่เพค่ะ นางกำนัลคนที่ช่วยรับผิดชอบล้างกลีบดอกไม้ด้วยกันในการหมักสุราเมื่อครู่คนนั้นคือใคร เพค่ะ?” เห็นได้ชัดเสียนเฟยไม่คิดว่านางจะทรงเอ่ยปากพูดกับนางกำนัลคนหนึ่ง แต่ก็ทรงตรัสออกมาอย่างรวดเร็ว “นางมีนามว่าหลันเชียง เป็นสาวใช้ในพระตำหนักของข้า” 
已经是最新一章了
加载中