ตอนที่45 แผนซ้อนแผน
1/
ตอนที่45 แผนซ้อนแผน
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่45 แผนซ้อนแผน
ตนที่45 แผนซ้อนแผน “หลันเชียง...” จางยวี่โหร่วพึมพำท่องชื่อนี้เบา ๆ อีกครั้ง หลังจากนั้นกล่าวว่า “หม่อมฉันจำได้ว่านางอยู่ข้างพระกายท่านมานานมากแล้วเพค่ะ” ผู้คนในพระตำหนักเสียนเฟยมีสิบกว่าคนเท่านั้น จางยวี่โหร่วมักจะมาบ่อย ๆ จึงคุ้นเคยกับพวกเขาทั้งหมดแล้ว ดังนั้นก็รู้ได้เป็นธรรมดา “ใช่ นางได้รับเลือกให้เป็นนางกำนัลอยู่ปรนนิบัติรับใช้ในพระตำหนักของข้าตั้งแต่ข้าเข้าพระราชวังมาแล้ว อยู่ข้างพระกายข้ามาตลอด เอาจริงเอาจังละเอียดอ่อนรอบคอบมาก” เสียนเฟยชมเชยหลันเชียงรอบหนึ่ง หลังจากนั้นทรงถามอย่างแปลกพระทัย “จู่ ๆ เจ้าถามนางทำไม?” “พี่เสียนเฟย ถ้าท่านเองซ่อนสุนัขป่าในคราบแกะตัวหนึ่ง นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างไร้ขีดจำกัดในภายหลังจริง ๆ ขนาดคนในพระราชวังที่ได้ติดตามท่านมาหลายปีขนาดนั้นยังสามารถก่อเรื่องกบฏออกมาได้ เช่นนั้นแล้วยังมีใครที่มีคุณค่าให้น่าเชื่อถืออย่างแท้จริงได้อีกเล่า?” ด้วยสติปัญญาของเสียนเฟย ต้องสามารถฟังออกเข้าใจถึงความหมายนอกเหนือวาจาที่นางได้กล่าว “ความหมายของท่านคือ...หลันเซียงได้กบฏต่อเปิ่งกงแล้ว?” นางตั้งใจเข้าพระราชวังเป็นพิเศษแสดงว่ามีเรื่องจะบอกนางอย่างชัดเจน ทั้งยังเตรียมทางถอยทั้งซ้ายขวา ยังได้ถามเรื่องของหลันเซียงอย่างเจตนา เช่นนั้นก็มีเพียงแสดงให้เห็นจุดนี้อย่างแน่ชัดแล้ว “หรือว่าท่านไม่ได้สังเกตเห็นสักนิดมาก่อนหรอกหรือ? ก็ใช่ นางติดตามอยู่กับท่านมานานหลายปีขนาดนั้น ถ้าสามารถรู้ได้ก็น่าจะรู้นานมาแล้ว หรือว่านางไม่อาจทำตามใจตนเอง แต่กบฏก็คือกบฏ เหตุผลการอธิบายใด ๆ ล้วนสูญเปล่า นางทำการเพื่อลี่เฟย คิดหยิบยืมใช้นามเลี้ยงฉลองวันครบรอบพระชนม์พรรษาของท่านพี่วางยาพิษองค์รัชทายาทใส่ร้ายท่าน ถ้าประสบผลสำเร็จเมื่อไร ถ้าเช่นนั้นถึงเวลานั้นท่านพี่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ใด เพียงอาศัยจุดนี้ นางก็สมควรตาย!” จางยวี่โหร่วไม่ได้เป็นคนใจโลเลไม่มีความเด็ดขาดคนนั้นเมื่อก่อนแล้ว นางจะไม่ปรานีมือไม้อ่อนต่อศัตรูอย่างเด็ดขาด “เจ้าว่าอะไร?” ครั้งนี้เสียนเฟยยิ่งตื่นตระหนกไร้ที่เปรียบปาน “วันนั้นเจ้าจงใจชนเข้าใส่อ้อมอกขององค์รัชทายาท ตอนนั้นเปิ่นกงยังรู้สึกแปลก ๆ บ้าง เป็นเจ้ารู้ว่าในสุรามีพิษดังนั้นจึงได้ตั้งใจทำการหรือ?” หลังจากได้เห็นจางยวี่โหร่วพยักหน้า นางรู้สึกยากที่จะรับได้ยิ่งนัก ตั้งแต่เสียนเฟยรู้ว่าตนต้องทรงพำนักในพระราชวัง ก็ทรงถ่อมตนจริงจังมาตลอด ไม่เคยมีข้อพิพาทบาดหมางกับผู้คน และนางมีพระธิดาเพียงองค์เดียวเท่านั้น ยิ่งไม่ก่อให้เกิดการคุกคามใด ๆในเรื่องแย่งชิงพระราชบัลลังก์ แต่ไม่คิดว่านางไร้การแย่งชิงกับโลกเช่นนี้ กลับยังสามารถกลายเป็นหนามในสายตาของผู้อื่น ที่มีใจคิดใคร่ครวญสั่งสมจะทำร้ายนางได้ ตอนนี้เมื่อนางได้คิดวิธีนี้ออกทันที ก็รู้สึกทั่วร่างกายเยือกเย็นขึ้นมา ยิ่งมิอาจจินตนาการได้ว่าลี่เฟยที่นางให้ความเคารพยำเกรงดุจพี่สาวมาตลอดกลับอำมหิตเช่นนี้ “มิน่าวันนั้นในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่พระราชวัง นางเอ่ยถึงเรื่องการหมักสุราดอกหอมหมื่นลี้มาตลอด เป็นเพราะนางได้เตรียมการแต่เนิ่น ๆไว้แล้ว ในเหตุการณ์แผนการอำมหิตนี้คิดจะยืมมือเปิ่นกงกำจัดองค์รัชทายาท แล้วให้ร้ายเปิ่นกง โหร่วเอ้อร์ เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แล้วดูออกว่าหลันเซียงกับลี่เฟยสมรู้ร่วมคิดกันได้อย่างไร?” เรื่องนี้...นางไม่สามารถพูดได้ว่าเพราะเคยประสบสิ่งเหล่านี้ไปแล้วในภพก่อน ดังนั้นจึงได้สามารถคาดการณ์รู้ล่วงหน้า “เพราะหม่อมฉันได้สงสัยลี่เฟยกับองค์ชายสามมานานแล้ว ดังนั้นจึงได้สอดแนมพวกเขาอย่างลับ ๆ มาตลอด” เสียนเฟยคิดพลาง บางทีอาจจะผ่านการคาดเดาดังนั้นจึงได้ผลออกมา ก็ไม่ได้ซักถามรายละเอียดต่อไป “แต่ว่าตอนนั้นสุราหมักดอกหอมหมื่นลี้ทั้งหมดก็ถูกเทออกมาจากห้องใต้ดินแห่งหนึ่ง แล้วจากนั้นก็แบ่งใส่ป้านสุรา หลันเซียงไม่เพียงแต่เคยรินสุราให้องค์รัชทายาท แต่ยังมีรินคนอื่นอีก ถ้างั้นทำไมพวกเขาดื่มสุราแล้วล้วนไร้เรื่องราว นี่เป็นเพราะอะไรหรือ?” จางยวี่โหร่วรู้ว่านางต้องตั้งคำถามนี้แน่นอน ดังนั้นนางส่งสายตาไปครา เสี่ยวฟงก็รีบยกสุราป้านหนึ่งขึ้นมาทันที “นี่เป็นหม่อมฉันสั่งให้เสี่ยวฟงยกกลับมา ก็คือป้านที่หลันเซียงใช้ในการรินสุราถวายองค์รัชทายาทในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่พระราชวัง ท่านพี่โปรดเปิดดูก็จะทราบแล้วเพค่ะ” ป้านสุราหนึ่งป้านจะสามารถแอบซ่อนกลไกอะไรไว้น่ะ? เสียนเฟยรับมาดูคราหนึ่ง สีพระพักตร์เปลี่ยนไปอย่างมาก เห็นได้ชัดว่านางทรงเข้าใจแล้ว “นี่เรียกว่ากาหยินหยาง ที่ในมือจับมีกลไก เวลารินสุราขอเพียงกดกลไกคราหนึ่งก็สามารถควบคุมได้ว่าแท้จริงสุราที่เทรินออกมาเป็นสุราพิษหรือไม่ ดูไปแล้วลี่เฟยมีใจสั่งสมทำการจริง ๆ กลับกระทั่งสามารถใช้เล่ห์กลไม้นี้ออกมาได้ทั้งหมด บางทีอาจเป็นเพราะแผนการของพวกเขาล้มเหลวและไม่ได้ทำให้ผู้คนเป็นอันตราย ในที่สุดโกรธจนจากไปอย่างเร่งด่วน หลันเซียงรีบมากจนไม่ทันได้ไปเก็บป้านสุรา จึงถูกเสี่ยวฟงชิงหยิบไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว ตอนนี้เสียนเฟยยังไม่มีความสงสัยในเรื่องนี้สักนิด เพียงแต่นางโกรธสุด ๆ จริง ๆ แม้ว่าจะชินตากับสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงในพระราชวัง แต่กลับไม่คิดว่าจะมีเรื่องที่โหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานางต้องตกอยู่ในสภาพเป็นอาชญากรปองร้ายองค์รัชทายาทต้องถูกประหารทั้งตระกูล ถ้าไม่ใช่จางยวี่โหร่วได้พบก่อนแต่เนิ่น ๆ ลอบช่วยให้นางพ้นจากภาวะวิกฤติ มิฉะนั้นผลบั้นปลายแทบมิอาจจินตนาการได้ “ช่างเกินไปแล้วจริง ๆ ข้างกายกลับปรากฏคนที่ไร้มนุษยธรรมเนรคุณเช่นนี้คนหนึ่ง เปิ่นกงดูแลนางอย่างดีอ่า! ตอนนี้เปิ่นกงก็จะเอานางมาไต่สวน นางทำเรื่องเช่นนี้ออกมาจริง เปิ่นกงต้องไม่ละเว้นนางไปอย่างง่ายดายแน่นอน” หลันเซียงได้ถูกใจพระนางยิ่งยวดมาตลอด ตอนนี้ถูกคนที่ตนเองเชื่อถือหักหลัง แน่นอนรสชาติรับไม่ไหว มิน่าเสียนเฟยจึงได้โกรธมากเช่นนี้ “ท่านพี่อย่าได้รีบร้อนวู่วามสงบใจเย็นไว้ เรื่องนี้หม่อมฉันยังไม่ได้กราบทูลถวายต่อพระอัยกาและพระเชษฐนี เพียงเข้ามาพระราชวังทูลพระพี่นางด้วยตนเองเท่านั้น ก็คือไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้น แหวกหญ้าให้งูตื่นเพค่ะ” “ไม่ได้ เรื่องรุนแรงสาหัสขนาดนี้ เปิ่นกงต้องไปทูลถวายต่อฮองเต้ ขอพระองค์ทรงสอบสวนเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด สถิตย์ความยุติธรรม” ผู้หญิงในยุคนี้ล้วนพึ่งพาสามีของตนเองมากไป เมื่อเกิดเหตุแล้วก็เพียงคิดแสวงหาการปกป้องจากสามี แต่กลับไม่คิดว่าแท้จริงผู้ชายก็ไม่น่าเชื่อถือเลย จางยวี่โหร่วรีบห้ามปราม “พระพี่นาง มิอาจได้เด็ดขาด เรื่องนี้เกี่ยวพันขอบข่ายกว้างขวาง อีกทั้งเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาท ถ้าจู่ ๆ ก่อความวุ่นวายใหญ่หลวง ผลบั้นปลายก็สุดที่จะจินตนาการได้ ต่อให้เจ้าสวบสวนหลันเซียง ทราบว่าผู้บงการเบื้องหลังเป็นลี่เฟย แต่ลี่เฟยนางเองมีความเป็นไปได้ที่จะยอมรับได้หรือ? ถึงเวลานั้นก่อความวุ่นวายจนถึงหน้าพระพักตร์ฮองเต้จริง นางยังคงหันกลับมากัดใส่ท่านพี่คำหนึ่ง กล่าวว่าหลันเซียงเป็นคนในวังของท่านพี่ สมรู้ร่วมคิดร่วมกันทำร้ายหล่อนทีเดียว ยังสามารถเพ็ดทูลใส่ร้ายเรื่องวางยาพิษลงบนศีรษะของท่านพี่ได้ ดังนั้นท่านพี่อย่าได้ทำอะไรโดยพลการเด็ดขาดเพค่ะ” เสียนเฟยก็เป็นเพียงโกรธจนหน้ามืดตาลายไปครั้งเดียว ตอนนี้ได้รับการเตือนสติจากจางยวี่โหร่วเช่นนี้ พลันนางก็ได้รู้ว่าเมื่อครู่นางไม่ได้ใคร่ครวญอะไรมากเช่นนั้นจริง ๆ นางเพียงรู้สึกกลัวในภายหลัง ในพระราชวังคนที่ชั่วร้ายอำมหิตเช่นนี้คนหนึ่งดำรงอยู่ ทุกเวลาหมายคิดปองร้ายนาง แล้วนางยังสามารถวางตัวเรียบเฉยต่อไปอีกได้อย่างไร? “ถ้างั้นเจ้าเสนอ ตอนนี้ควรทำอย่างไร?” “อะไรล้วนไม่ต้องทำ เพียงลอบสังเกตก็ได้แล้ว ตอนนี้ในเมื่อเรารู้แล้วว่าหลันเซียงเป็นคนของลี่เฟยแล้ว เช่นนั้นเรื่องราวก็ง่ายดายกว่ามากแล้ว แผนการครั้งนี้ล้มเหลว ลี่เฟยต้องติดต่อกับหล่อนเพื่อเริ่มต้นโครงการแผนการถัดไป ขอเพียงจับจ้องหลันเซียงไว้แล้ว เช่นนั้นสิทธิในการริเริ่มยังคงอยู่ในมือของเรา” จางยวี่โหร่วกล่าวอย่างสงบมั่นคง ตั้งแต่เริ่มต้นนางก็ได้คิดไว้เรียบร้อยแล้ว นี่ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่เลวร้ายในสายตาของนาง แต่ถ้ารู้จักนำมาใช้ให้เหมาะสมก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดีได้ ให้พวกเขาตกลงไปในหลุมกับดักที่พวกเขาขุดไว้เอง นั่นยังเป็นการสาแก่ใจแท้จริงน่ะ “ก็ง่ายดายขนาดนี้หรือ?” ความรู้สึกด้านจิตใจของเสียนเฟยจนถึงขณะนี้ก็มิอาจกลับคืนสงบลงได้ แม้ว่านางจะใจดีไม่แย่งชิงต่อสู้ แต่กลับมิได้ละทิ้งโอกาสที่จะเปิดเผยตัวคนร้ายไปเปล่า ๆ เลย “ก่อนที่เราจะควบคุมอย่างบริบูรณ์ในการโค่นศัตรูลงได้ เราต้องทำการอย่างระมัดระวัง จดจำไว้อย่าได้ทำการอย่างผลีผลามวู่วาม เพื่อหลีกเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่น เมื่อท่านสอบถามหลันเซียงแล้ว เรื่องนี้ก็จะถูกแพร่ไปถึงในหูลี่เฟยทันที ครั้งนี้เป็นหลันเซียง ครั้งต่อไปยังมีคนอื่น พระพี่นางต้องคิดใคร่ครวญให้จงดีเพค่ะ” เสียนเฟยคิดแล้วคิดในความเกี่ยวพันทั้งด้านประโยชน์และโทษของเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนรอบหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็เห็นด้วยกับวาจาของจางยวี่โหร่วพร้อมทั้งสรรเสริญเยินยอนางอย่างมาก “โหร่วเอ้อร์ เจ้าเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ สติปัญญาของเจ้าให้เปิ่นกงเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่ รู้สึกชื่นชมมาก เจ้าเติบใหญ่ขึ้นแล้วจริง ๆ ก่อนหน้านี้จางยวี่โหร่วเป็นคุณหนูใหญ่ที่ถูกทุกคนรักโปรดปรานถนอมไว้ในมือ ตลอดเวลามักจะรู้สึกว่านางบริสุทธิ์และตรงไปตรงมา ไม่ได้เกี่ยวพันเรื่องโลกียอย่างลึกซึ้ง ไม่รู้ความชั่วร้ายอำมหิตในจิตใจผู้คน แต่วันนี้นางกล่าววาจาเช่นนี้ออกมารอบหนึ่ง โดยได้ไตร่ตรองเรื่องทุกอย่างล้วนครอบคลุมไว้หมดทุกด้าน แม้แต่นางซึ่งเป็นคนที่อยู่ในพระราชวังมานานหลายปีขนาดนี้ก็ยังต้องยอมศิโรราบ เสียนเฟยไหนเลยจะไม่รู้สึกตกตะลึงอย่างนั้นเหรอ จางยวี่โหร่วเพียงก้มศีราะลงยิ้ม ๆ ทุกคนล้วนบอกว่านางเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้นางก็ไม่รู้สึกมีอะไรที่น่าแปลกประหลาดตกใจแล้ว “พี่นาง เรื่องนี้ท่านอย่าได้บอกกับใครผู้อื่น แม้แต่พระเชษฐนีสองของหม่อมฉันก็อย่าได้พูด มิให้พวกเขาเป็นกังวลเพราะเรื่องนี้ เราต้องยอมอดทน ค่อย ๆ ตรวจสอบเรื่องนี้ ยังมีด้านองค์ชายสามนั้นหม่อมฉันก็จะจับจ้องไว้ ส่วนด้านพระราชวังที่นั่น ก็ต้องรบกวนพี่นางท่านแล้วเพค่ะ” เสียนเฟยทราบถึงความรุนแรงของเหตุการณ์นี้แน่นอน รีบพยักหน้าตกลงทันที แต่แล้ว...ทำไมนางรู้สึกว่าตอนนี้ในใจโหร่วเอ้อร์ดูเหมือนได้ซ่อนหลายอย่างไว้ ที่แท้เป็นเพราะอะไรทำให้นางเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้น่ะ? “โหร่วเอ้อร์ เปิ่นกงรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างแปลก ๆ ในใจสงสัยตลอดเวลา เจ้าสามารถช่วยอธิบายให้เปิ่นกงสักคราไหม?” จางยวี่โหร่วพยักหน้า นางคาดเดาได้เป็นส่วนใหญ่ว่าสิ่งที่พี่นางต้องการจะถามปัญหาใดแล้ว “ก่อนหน้านี้เจ้าได้กำลังรักชอบกับองค์ชายสาม มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับลี่เฟย สิ่งเหล่านี้เปิ่นกงล้วนดูอยู่ในสายตาทั้งสิ้น แต่หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นเกี้ยวผิดคันสมรสผิดคู่ขึ้นแล้ว จู่ ๆ เจ้าทำไมจึงเปลี่ยนไปแล้ว? ที่แท้ถ้าหากเจ้าเพียงคิดจะอยู่ร่วมกับองค์ชายสามต่อไปเท่านั้น ถ้างั้นชิงผินอ๋อง ก็จะไม่แข็งขืนฝืนใจเจ้าแต่อย่างใด ตระกูลจางก็จะไม่ให้เจ้ารับความอยุติธรรมเด็ดขาด แต่ชิงผินอ๋องยังได้พัวพันเข้ามาในเรื่องนี้ นี่ควรเป็นความหมายของเจ้าน่ะซิ?” แน่นอนเสียนเฟยเข้าใจนางแล้ว นางก็ได้กล่าวเช่นนี้แล้ว จางยวี่โหร่วก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก จึงพยักหน้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา ภายหลังนางยังต้องการความช่วยเหลือจากเสียนเฟย ให้นางได้รับทราบเรื่องบางอย่างก็ดี ไม่เพียงสามารถประกันความปลอดภัยของตัวเอง ยังสามารถใช้สภาพสถานะของพี่นางในพระราชวังช่วยให้นางได้รับข้อมูล “แท้จริงเป็นเช่นนี้ แต่เปิ่นกงไม่เข้าใจว่านี่เป็นเพื่ออะไร หรือว่าเจ้าไม่รักองค์ชายสามแล้วหรือ? ถ้างั้นทำไมก่อนหน้านี้ เจ้าจึงได้ยืนยันที่จะอภิเษกสมรสกับพระองค์อีกน่ะหรือ?” นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนครุ่นคิดแต่มิอาจคลี่คลายอธิบายได้ ถ้าหากกล่าวว่าเปลี่ยนไป ก็เร็วเกินไปบ้างแล้วน่ะ? ก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยได้ยินว่านางมีข้อขัดแย้งอันใดกับองค์ชายสามอ่า สีหน้าจางยวี่โหร่วดูค่อนข้างซับซ้อนบ้าง มีบางเรื่องที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการหรือเข้าใจได้ ไม่ใช่ว่านางไม่ยินดีพูด แต่กล่าวออกมาแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ “ก่อนนี้ หม่อมฉันถูกปิดตาทั้งคู่ไว้แล้ว ไม่รู้ว่าสามัญสำนึกคือสิ่งไรทั้งสิ้น แต่เมื่อในที่สุดเวลาที่หม่อมฉันได้เห็นชัดทุกอย่าง มีบางอย่างที่มิอาจกลับไปสู่อดีตได้แล้ว ดังนั้นหม่อมฉันก็ได้แต่เพียงต้องพยายามไปเปลี่ยนแปลงทำทุกอย่าง หวังว่ายังสามารถทันการได้เพค่ะ” นางกล่าววาจาเหล่านี้ออกมาอย่างเฉยเมย แต่ในสายตาของนางเสียนเฟยกลับมองเห็นกระแสที่มองทุกสิ่งทะลุปรุโปร่งเย็นชาเล็กน้อยออกมาได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่45 แผนซ้อนแผน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A