ตอนที่47 เย่นอิ่งทูลขออภัยโทษ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่47 เย่นอิ่งทูลขออภัยโทษ
ต๭นที่47 เย่นอิ่งทูลขออภัยโทษ ขณะที่จางยวี่โหร่ววิ่งออกมาจากห้องของหันยี่ฉี ทั่วใบหน้ารวมถึงขอบหูล้วนแดงก่ำไปหมด ไอ้ปีศาจลามกยิ่งใหญ่ระยำที่น่าตาย กลางวันแสก ๆ รังแกผู้หญิงชาวบ้านที่ดี เมื่อครู่ทำไมไม่ทำให้เขาเจ็บปวดปางตายน่ะ คิดถึงฉากนั้นที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้องทรงพระอักษร อุณหภูมิบนใบหน้าของนางก็มิอาจลดลงมาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ยังดีที่นางได้พยายามดิ้นจนในที่สุดก็หนีออกมาแล้ว มิฉะนั้นผลบั้นปลายมิอาจจินตนาการได้ วาจาของผู้ชายล้วนไม่น่าเชื่อถือจริงทั้งสิ้น กล่าวว่าอะไรต้องรอนางเปลี่ยนความตั้งใจ รอนางตกหลุมรักเขาจริงจึงจะแตะต้องสัมผัสนาง นี่เขาคิดจะกลืนกินวาจาของตนเองกลับไปหมดหรอกหรือ? ไม่รู้ว่าหลังจากที่นางจากไปแล้ว ผู้ชายที่ยังรั้งอยู่ในห้องได้หัวเราะเบา ๆ ออกมาเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขายังจดจำคำมั่นสัญญาของเขาเองได้ นางคิดว่านางเองจะหนีออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้หรือ? ผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนผืนหนึ่งหล่นอยู่ที่ข้างเตียงแล้ว เขาหยิบขึ้นมาสูดดมเบา ๆ คราหนึ่ง เป็นกลิ่นกายหอมที่คุ้นเคยบนร่างนาง บนผ้าเช็ดหน้าไหมปักไว้ด้วยนกยวนยางเล่นน้ำคู่หนึ่ง งานเย็บปักถักร้อยที่ละเอียดอ่อนมาก ด้านหลังใช้ด้ายไหมสีแดงโยงผูกเป็นตัวอักษร “ซวง” ตัวหนึ่ง กลับเป็นฝีมือนางจริง ๆ ผู้ชายมองดูคราหนึ่งแล้วก็อดไม่ได้ทีจะยักมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย เขาบรรจงพับผ้าเช็ดหน้าไหมอย่างดีด้วยความละเอียดอ่อน หลังจากนั้นวางใส่ไว้ในช่องว่างระหว่างเสื้อผ้าของเขาเอง นี่จึงได้ลุกขึ้นมา เดินออกไปจากประตู ... นี่เป็นครั้งที่สามที่จางยวี่โหร่วได้มาพระตำหนักชิงผินอ๋องแล้ว งานอภิเษกสมรสวันนั้นรีบเร่งมากเกินไป ยกเว้นหอประชุมและห้องใหม่ นางยังไม่ได้ไปที่อื่นจริง ๆ วันต่อมาก็ได้รับพระราชโองการให้เข้าเฝ้าในพระราชวังโดยด่วน หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ครั้งที่สอง นางรีบมาขอความช่วยเหลือให้เขาช่วยตรวจสอบเรื่องเป่ยจื่อห้าวแอบลักลอบซ่องสุมกำลังทหาร หลังจากนั้นก็ถูกเย่นอิ่งลอบสังหาร ยิ่งยุ่งเหยิงมากขึ้น ครั้งนี้ในที่สุดก็สงบลงเล็กน้อย ดูเวลายังเร็วเกินไป จึงไม่เร่งรีบที่จะกลับไปแต่เช้าขนาดนั้น ทิวทัศน์สวนดอกไม้หลังพระตำหนักชิงผินอ๋อง สวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นหลิวแถวนั้นที่ด้านข้างทะเลสาบน้อย กิ่งต้นหลิวที่บอบบางลู่โอนไปมาตามลมอย่างสบาย ยลแล้วช่างสุขใจเพลินตาจริง ๆ จางยวี่โหร่วพบแผ่นหินเรียบแบนลื่นมนก้อนหนึ่งนั่งลงแล้ว หลังจากนั้นท้าวคางชมดูทัศนียภาพตรงเบื้องหน้าอย่างเพลิดเพลิน ยังดีในที่สุดหันยี่ฉีได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่นางแล้ว เรื่องนั้นเขาจะทำอย่างสุดใจ ขอเพียงต้องใช้เวลาเล็กน้อย นางเองก็รู้อย่างชัดเจน นั่นไม่ได้เป็นเรื่องที่จะทำได้ง่ายดาย ความลึกซึ้งในแผนการในใจของเป่ยจื่อห้าวเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะจินตนาการได้ ถ้านางไม่ได้นำความทรงจำของชีวิตในภพก่อนติดตัวมาด้วย ก็ไม่มีใครเคยคิดได้ว่าเขาท่านอ๋องซึ่งมีท่าทีสง่างามไร้การงาน อยู่ว่าง ๆ ไม่แย่งชิงกับโลก เบื้องหลังได้ซ่อนตัวลึกอยู่ขนาดนี้ ดูไปแล้ว เขาได้ริเริ่มเตรียมการไว้นานมาแล้ว ดวงตาหลายคู่ขนาดนั้นบนล่างในราชสำนักนี้ กลับไม่มีใครสักคนที่ได้รู้เรื่องนี้ ถ้าจะค้นหาขุมกำลังทหารกองนั้นออกมา ย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นเด็ดขาด ตอนนี้นางมีหันยี่ฉีช่วยเหลือ เชื่อว่าเขายิ่งมีความสามารถมากกว่าตระกูลจางในตรวจสอบเรื่องนี้ออกมาได้ ในใจนางกำลังหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องนี้ เวลานี้จู่ ๆ ความรู้สึกสัมผัสที่หกให้รู้สึกว่าราวกับมีใครอยู่ข้างหลัง นางประสาทตึงเครียดไปครา รีบหันตัวมา หลังจากนั้นก็ได้เห็นใบหน้าที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยบ้าง ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นหรอกหรือที่คิดจะลอบสังหารเพราะหันยี่ฉี เวลานี้จางยวี่โหร่วมองดูหล่อน พบว่าสีหน้าของหล่อนเงียบสงบมาก ไม่ได้มีลักษณะโกรธแค้นเฉกเช่นในวันนั้น แต่นางกลับไม่ได้ละเลยเมื่อครู่ที่ได้มองเห็นหล่อนในปราดเดียว ในดวงตาของหล่อนมีความแค้นเคืองเข้ากระดูกเล็กน้อยที่ยังไม่ได้หายวับไป แม้ว่าค่อย ๆ ดับสูญสลาย แต่กลับถูกนางจับได้แล้ว จางยวี่โหร่วเหลือบมองหล่อนปราดเดียวอย่างเฉยเมย ไม่ได้แสดงอาการอะไรเลย ว่ากันตามฐานะ นางเป็นพระชายา แต่หล่อนเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเท่านั้น ก็ต้องถวายความคำนับดี ๆ แก่นางซึ่งเป็นพระชายาคนนี้ แน่นอนจางยวี่โหร่วไม่ได้คาดหวังว่าหล่อนจะทำเช่นนี้ตั้งแต่แรก ขณะที่นางกำลังคิดเช่นนี้ เรื่องแปลกประหลาดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เย่นอิ่งกลับถวายคำนับพระพรแก่นางคราหนึ่ง แม้ว่าการเคลื่อนไหวของหล่อนจะแสดงออกอย่างแข็งทื่อและไม่เต็มใจอย่างชัดเจน แต่จางยวี่โหร่วรู้สึกว่าสิ่งนี้สำหรับหล่อนแล้วก็ยากที่จะรับได้สุดขีด แต่นางยังไม่ได้รู้ชัดเจนว่าหล่อนขายยาอะไรที่ในน้ำเต้า “แม่นางเย่นอิ่ง นี่เจ้าคือ...” ต่อคนคนนี้ที่เกือบจะฆ่านางไปแล้ว ไหนเลยที่จางยวี่โหร่วจะไม่สามารถจำชื่อของหล่อนได้ ยังต้องไปสืบค้นเรื่องของหล่อนบางส่วนให้ชัดเจนน่ะ? “เย่นอิ่งทำเรื่องผิดพลาดไปแล้ว ต่อปากต่อคำชนใส่พระชายา ดังนั้นจึงมาที่นี่เพื่อทูลขออภัยโทษเพค่ะ” สารภาพผิดเหรอ? ทูลขออภัยโทษ??! วันนั้นขณะที่หล่อนถือกระบี่พุ่งตรงมาสังหารนางนั้น ถึงกับกระทั่งพระมหาบัญชาของหันยี่ฉียังมิอาจกำราบหล่อนลงไปได้ ตอนนี้หล่อนมาทูลขออภัยโทษ ถ้างั้นในเรื่องนี้แฝงไว้ด้วยความสัตย์จริงอยู่กี่ส่วนน่ะ? แม้ว่าในใจนางกระจ่างดุจกระจก ก็ไม่ได้ปรากฏออกมาบนใบหน้าของนาง กลับเป็นเพียงแย้มยิ้มเล็กน้อยออกมา “แม่นางกล่าววาจาหนักไปแล้ว เรื่องในวันนั้นข้าไม่ได้ใส่ใจ และข้าก็ได้ยินท่านอ๋องทรงตรัสแล้วว่าแม่นางเพิ่งกลับมาที่พระตำหนัก ไม่ได้รู้จักข้าก็เป็นเรื่องปกติจริง ๆ คนที่ไม่รู้ถือว่าไม่ผิด” เย่นอิ่งก้มศีรษะลง ประกายเย็นยะเยือกกระแสหนึ่งแวบผ่านแววตาไป ผู้หญิงคนนี้...กลับสามารถแสดงละครเป็น นางกล่าวเช่นนี้คิดจะอวดบารมีถึงความรู้สึกดีมากที่ท่านอ๋องมีต่อนางหรือ? ถ้าไม่คิดถึงคำเตือนของเย่นหลินที่มีต่อหล่อน หล่อนคิดจะกระโดดขึ้นมาฆ่าผู้หญิงคนนี้ในกระบี่เดียวจริงๆ “ไม่ เป็นความผิดของข้า ข้าไม่เพียงทำให้พระชายาได้รับความตื่นตระหนกตกใจ แต่ยังทำร้ายท่านอ๋องแล้วด้วย ความผิดที่สมควรตายนับหมื่นครั้งจริง ๆ” หล่อนได้คุกเข่าลงบนพื้นทันที มุ่งมั่นต้องการสารภาพความผิดขออภัย จางยวี่โหร่วไม่เข้าใจจริง ๆ นี่ที่แท้หล่อนหมายถึงอะไร? ถูกบีบคั้นให้มาทูลขออภัย? หรือยังมีแผนการชั่วร้ายอะไรอื่นที่รอคอยนางอีกไหม? ไม่ว่าอย่างไร นางต้องไม่เชื่อว่าหล่อนมาทูลขออภัยกับนางด้วยความสัตย์ซื่อจริงใจ คนที่จางยวี่โหร่วคิดจะจัดการมีเพียงเป่ยจื่อห้าวเท่านั้น ในเรื่องความสัมพันธ์ของนางกับหันยี่ฉี เป็นเพียงมีเรื่องต้องการขอความช่วยเหลือจากเขาเท่านั้นเอง ดังนั้นนางไม่คิดจะเพาะความแค้นกับคนอื่น นั่นไม่ได้เป็นเรื่องอะไรที่ดีสำหรับนาง คิดถึงตรงนี้ นางรีบเข้าไปพยุงหล่อนขึ้นมา “แม่นางเย่นอิ่ง บนร่างเจ้าไม่ใช่ยังมีบาดแผลหรือ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่จึงถูก เรื่องในวันนั้น ข้าไม่โทษเจ้า ข้ามองออกมาได้ว่าเจ้ารักท่านอ๋องมาก ดังนั้นจึงได้สูญเสียการควบคุมแล้วทำแบบนั้นออกมา ผู้หญิงด้วยกัน ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า” เย่นอิ่งไม่ได้คาดหวังว่านางจะพูดเรื่องนี้กับหล่อนอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น นี่นางกำลังอวดศักดากับหล่อนในเรื่องที่นางอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องหรือ? ยังคิดหยิบยืมใช้โอกาสนี้ลบหลู่หล่อน? “ข้าน้อยมิกล้ามีความคิดที่ไม่ถูกต้องต่อท่านอ๋อง” นางกล่าวอย่างเฉยเมย น้ำเสียงแฝงความเย็นชากระแสหนึ่งไว้อย่างชัดเจน “เดิมข้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้หญิงที่มีอุปนิสัยตรงไปตรงมา ดังนั้นจึงคิดจะกล่าวคำพูดส่วนตัวบางอย่าง ในเมื่อเจ้าไม่รับน้ำใจก็ช่างเถอะ รักชอบอะไรคิดอยากได้อะไรก็ต้องพึ่งตนเองไปต่อสู้ให้ได้มา ถ้าหากล้มเลิกไปอย่างง่ายดายแบบนั้น ไยมิใช่ทำให้ตนเองผิดหวังเปล่า ๆ ที่ได้จ่ายความจริงใจทั้งดวงออกไปหรือ?” เห็นนางตอนนี้กลับไม่ยอมรับ จางยวี่โหร่วอดไม่ได้ที่จะเสียงเข้มขึ้น นางไม่ได้รู้สึกใส่ใจว่าเย่นอิ่งนี้รักชอบหันยี่ฉี่สักนิดจริง ๆ ถึงกับกล่าวไว้ว่าหวังอย่างยิ่งที่ให้หล่อนรักชอบจึงดีน่ะ ถ้าหันยี่ฉี่ยังสามารถตกหลุมรักกับเย่นอิ่งด้วย ก็ไม่ต้องมุ่งใส่ใจมาที่ตัวนางอีก ภายภาคหน้าหลังจากบรรลุจุดประสงค์ได้รับหนังสือหย่า สองคนแยกไปกันคนละทาง ต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน นั่นก็ยิ่งถูกใจนางยิ่งมากแล้ว 
已经是最新一章了
加载中