ตอนที่48 เพียงแค่ล้อเล่น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่48 เพียงแค่ล้อเล่น
ต๭นที่48 เพียงแค่ล้อเล่น ในที่สุดเย่นอิ่งก็ได้ทำความเข้าใจความหมายของนาง ผู้หญิงคนนี้ดูลักษณะเหมือนไม่คิดอยากอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องอย่างสิ้นเชิง ก็ใช่ ในหนานหชู่ เกือบทุกคนล้วนเชื่อว่าท่านอ๋องเป็นคู่ปรับพิชิตภรรยา พระชายาได้ตายไปแล้วเจ็ดคน อีกทั้งร่างยังป่วยมากด้วยโรคเรื้อรัง เวลาที่โรคกำเริบจะน่ากลัวสยดสยองมากสุด ๆ ดังนั้นไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าอภิเษกสมรสเข้ามาในพระตำหนักชิงผินอ๋องโดยสิ้นเชิง นางในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลจาง ตั้งแต่เด็กก็ได้รับการเลี้ยงดูอบรมอย่างดี ยังได้หมั้นหมายกับองค์ชายสาม ถ้างั้นนางก็ยิ่งไม่คิดรั้งอยู่จึงจะถูก ดูเหมือนชั่วพริบตาที่มั่นใจได้ว่าความคุกคามของจางยวี่โหร่วเป็นศูนย์แล้ว เย่นอิ่งก็ได้วางใจลงได้ทันที โอ้ พระตำหนักชิงผินอ๋อง เป็นสถานที่ที่หล่อนพูดว่าเข้าก็เข้า พูดว่าออกก็ออก คิดจากไป ไม่ใช่เรื่องง่ายปานนั้น เคยบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีคุณค่าการใช้สอยสำหรับพวกเขามากยิ่ง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ยิ่งมิอาจจากไปแล้ว จู่ ๆ เย่นอิ่งหัวเราะเสียงเบา ๆ คราหนึ่ง ปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา “พระชายาไม่ต้องจำเป็นต้องทดสอบแล้วข้าพูดจากใจจริงทุกคำ ไม่ได้คิดแย่งชิงท่านอ๋องกับพระชายาทั้งสิ้น ท่านอ๋องทรงรักพระชายาจริง ๆ และขอให้พระชายาทรงทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีคนหนึ่งอย่างสุดกำลัง สืบสานวงศ์ตระกูลประสูติราชโอรสเพื่อท่านอ๋องในเร็ววันเพค่ะ” ในเมื่อท่านอ๋องเพียงคิดต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้เท่านั้น และนางก็ไม่คิดต้องการอภิเษกสมรสกับท่านอ๋อง ถ้างั้นเย่นอิ่งยังกังวลอะไรอีกน่ะ ตอนนี้มองดูผู้หญิงคนนี้ประสบความพ่ายแพ้ หล่อนกลับรู้สึกมีความสุขมากเสียจริงน่ะ ดูเหมือนจางยวี่โหร่วพลันก็ไม่เข้าใจหล่อนแล้ว เย่นอิ่งคนนี้ที่แท้เป็นเรื่องอะไรกันอ่า? หล่อนไม่ใช่รักชอบหันยี่ฉีมากหรือ ตอนนี้หล่อนกลับต่างหลีกทางประเคนใส่มือให้ด้วยใจกว้างแบบนี้ ทำไมหล่อนยังมีลักษณะหลบหลีกแทบไม่ทันเช่นนี้ หรือว่ายี่สิบไม้กระดานโบยตีจนหล่อนกลัวแล้ว จึงได้รวบเก็บความคิดของตน หลังจากนั้นเปลี่ยนความคิดไปแล้ว? หันยีฉีที่น่าตายนี่ ทำไมจึงได้ลงมือกับหล่อนหนักแบบนี้ คนอื่นจะว่าอย่างไรก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่รักชอบเขาคนหนึ่ง เขาทำแบบนี้ไยมิใช่ทำร้ายหัวใจของผู้อื่นจนทะลุพรุนไปหมดแล้วหรือ? ในจิตใจของจางยวี่โหร่วก็ได้กลับต่อว่าความไร้น้ำใจของเขาแทนเย่นอิ่ง เวลานี้ ในดวงตาของเย่นอิ่งขยับเล็กน้อยคราหนึ่ง ในแววตามีประกายคมเฉียบกระแสหนึ่ง เพียงน่าเสียดาย จางยวี่โหร่วที่กำลังใช้ความคิดคาดเดากลับไม่ได้พบเห็น “พระชายา ข้าน้อยขอสาบานว่าไม่มีความรู้สึกส่วนตัวต่อท่านอ๋องแต่อย่างใด พระองค์ก็ทรงโปรดอย่าได้บีบคั้นถามข้าน้อยแล้วเพค่ะ” โอกาสดีเช่นนี้ ทำไมนางจะปล่อยทิ้งเช่นนี้ไปได้? จางยวี่โหร่วจับมือหล่อนไว้อย่างตื่นเต้น “เจ้าไม่ใช่กังวลว่าหันยี่ฉีจะดุด่าลงโทษเจ้ามิใช่หรือ? วางใจได้แล้ว มีข้าช่วยหนุนหลังให้เจ้า ไม่ปล่อยให้เขารังแกเจ้าอีกเด็ดขาด ถ้ามิฉะนั้น ตอนนี้ข้าไปบอกเขา ให้เขารับเจ้าเป็นพระสนมรอง?” สามารถกลายเป็นผู้หญิงของท่านอ๋อง เป็นความฝันใฝ่ที่เย่นอิ่งคิดหวังให้บรรลุเป็นจริง แต่ความสุขของหล่อนไหนเลยต้องให้ผู้หญิงคนนี้มาบริจาคให้ทาน ยิ่งไม่ต้องพูดว่านางเป็นพระชายา ให้หล่อนเองเป็นพระสนมรอง หล่อนไม่มีวันอยู่ภายใต้อาณัติใครเด็ดขาด หล่อนต้องการเป็นผู้หญิงคนเดียวของท่านอ๋อง! “พระชายา เช่นนี้...ไม่ดี! ท่านอ๋อง พระองค์ทรงจริงใจต่อท่าน ถ้าให้ท่านอ๋องทราบว่าท่านทำแบบนี้ พระองค์ต้องทรงพิโรธแน่ ๆ เพค่ะ” “ไม่เป็นไร พระองค์จึงไม่ทรงพิโรธ แต่พระองค์ก็ยังทรงชมเชยท่านผ่านข้า ว่าท่านงดงามใจกว้าง ทำการอย่างมีความสามารถคล่องแคล่วมีไหวพริบ เป็นสตรีดีงามที่หายากคนหนึ่งจริง ๆ น่ะ” เพื่อจับใจเย่นอิ่งให้ได้ จางยวี่โหร่วแทบจะเทออกไปหมดแล้ว “ใช่หรือ ทำไมเปิ่นหวังจำไม่ได้ว่าเคยตรัสพระคำเหล่านี้มาก่อน” เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลัง เห็นได้ชัดว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น ดอกไม้บานสะพรั่ง แต่จางยวี่โหร่วกลับรู้สึกมีลมเย็นระลอกหนึ่งพัดกรรโชกผ่านข้างหลัง เย็นยะเยือกจนนางหนาวสะท้านขึ้นมา นี่ คงไม่ซวยแย่ขนาดนั้นหรอกน่ะ! นางได้เห็นก้นบึงดวงตาเย่นอิ่งมีรอยยิ้มได้ใจแผนชั่วร้ายสำเร็จกระแสหนึ่งแวบผ่านไป พลันโกรธจนไฟลุกท่วมสามจ้าง ผู้หญิงคนนี้เจตนาชัด ๆ หล่อนรู้ว่าหันยี่ฉีมาแล้วชัด ๆ จงใจไม่บอกนาง อีกทั้งยังยั่วเย้านำให้นางกล่าววาจาเช่นนี้ออกมา ตอนนี้จบสิ้นแล้ว นางควรจะปิดฉากอย่างไรอ่า! นางหันหลังกลับอย่างแข็งทื่อ ก็ได้เห็นเงาร่างชุดขาวท่วงท่าสูงสง่าโดดเดี่ยวเอกาคนนั้นที่ข้างหลัง หน้ากากเขี้ยวหมาป่าที่น่ากลัวสยดสยองปิดบังการแสดงออกบนใบหน้าของเขา แต่ดวงตาคู่นั้นที่ดำดิ่งลึก กลับทำให้ผู้คนไม่กล้าสบตากับเขา “ท่านอ๋องท่าน มาที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อครู่นางเพิ่งช่วยเปลี่ยนยาใส่บาดแผลให้เขา ไม่อยู่ในห้องพักผ่อนดี ๆ ไม่มีธุระออกมาทำอะไร? เขาไม่มาก่อน ไม่มาหลัง ดันมาในเวลานี้ ได้ยินรับฟังวาจาเหล่านั้นที่นางได้กล่าวไป น่าตายนัก ยังทำให้คนรู้สึกกระอักกระอ่วนยิ่งนัก “ทำไมจึงได้ลืมวาจาอะไรที่ได้กล่าวกับเปิ่นหวังในห้องทรงพระอักษรเมื่อครู่ไปเร็วนัก ในเมื่อความทรงจำของพระชายาที่รักไม่ดีเช่นนี้ ถ้างั้นเปิ่นหวังก็ทำให้พระชายาที่รักจดจำดี ๆ อีกครั้งในตอนนี้สักครา?” เขาเดินช้า ๆ เข้าหานางแล้ว หลังจากนั้นค่อย ๆ บีบคั้นเข้ามาใกล้ แรงกดดันที่แข็งแกร่งก็ม้วนตามมา ทุกครั้งที่เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว นางก็ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เป็นดังนี้ ถอยตลอดจนไปถึงริมทะเลสาบ ข้างหลัง...ไม่มีถนนอีกแล้ว เป็นเพราะจางยวี่โหร่วเครียดมากเกินไปแต่ท่าเดียว จนไม่ทันสังเกตสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของตัวเองในเวลานี้ทั้งสิ้น ก้าวถอยหลังไปอีกขั้น ฝีเท้าก้าวใส่กลางอากาศทันที เวลานี้นางจึงได้ส่งเสียงร้องตกใจออกมา ร่างสะดุดไปคราก็ล้มไปทางข้างหลัง เย่นอิ่งมองดูอย่างมีความสุขในความทุกข์ของผู้อื่น ก็ให้ผู้หญิงคนนี้ตกไปในทะเลสาบรับการสอนอันยาวนานดี ๆ ในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ พลันหว่างเอวของนางก็ถูกมือใหญ่มือหนึ่งคว้าจับไว้ โดยสัญชาติญาณท่ามกลางอันตราย นางเอื้อมมือไปคว้าเสื้อที่ตรงหน้าอกเขาอย่างเหนียวแน่น เขาอุ้มนางมือเดียว หมุนควงหนึ่งรอบ เท้าของนางได้เหยียบลงบนพื้นแข็งแล้วอย่างรวดเร็ว จางยวี่โหร่วตกใจจนใจเต้นตูมตามไม่เป็นระส่ำระส่าย ยังไม่ทันได้สติกลับมาจากอาการตกใจที่เพิ่งเกิดไป แม้แต่ไม่ได้สังเกตว่านางกำลังอิงแนบสนิทอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชาย มือทั้งสองโอบคอของเขาไว้ เย่นอิ่งภูมิใจได้ไม่นาน ได้เห็นฉากนี้ทันที พลันโกรธจนกระทืบเท้า ทำไมท่านอ๋องต้องช่วยนาง? เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สลักสำคัญเท่านั้น อีกทั้ง...ยังเป็นบุตรสาวของครอบครัวศัตรู! หล่อนโกรธมากอย่างรวดเร็วโดยตรงจนแทบระงับอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ แค้นจนใคร่จะดาหน้าไปสังหารนางในกระบี่เดียวให้ตาย แต่คราวนี้ในห้วงสมองคิดถึงคำเตือนของพี่ชาย ช่างเถอะ ยังไง ๆ ก็เป็นเพียงเล่นละครตามบท พี่ชายไม่ใช่ได้บอกไปแล้วหรือ ท่านอ๋องจำเป็นต้องได้หัวใจของผู้หญิงคนนี้ ให้นางหน้ามืดตาลายตกหลุมรักท่านอ๋อง เช่นนี้จึงสามารถทำงานเพื่อพวกเขา ตอนนี้หล่อนต้องให้ความสำคัญแก่สถานการณ์โดยรวมเป็นหลัก แม้แต่ท่านอ๋องยังไม่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ ทำการเสียสละอย่างใหญ่หลวงแบบนี้ หล่อนยิ่งสมควรให้ความร่วมมือโดยดี ไม่ขัดขวางแผนการของท่านอ๋อง “ดูไปแล้ว พระชายาที่รักไม่ได้เรียนรู้เป็นคนดีจริง ๆ จึงได้ท้าทายความอดทนของเปิ่นหวังแบบนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เปิ่นหวังก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้ข้าวสารเป็นข้าวสุกในเร็ววัน” เอ่อ...จางยวี่โหร่วตอนนี้ดื่มด่ำอยู่ในการกระทำวีรบุรุษช่วยสาวงามของเขาเมื่อครู่ยังไม่ได้สติกลับมา เมื่อได้ยินวาจาประโยคนี้เข้าก็ใจยะเยือกทันที ทำให้นางตกใจจนสั่นสะท้านคราหนึ่ง รีบส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต “ไม่ ไม่ใช่อย่างนี้ ข้าผิดแล้ว เมื่อครู่ข้าแค่ล้อเล่นกับน้องเย่นอิ่ง ท่านอ๋องอย่าได้ถือเป็นเรื่องจริงจังเด็ดขาด” ในใจนางสำนึกผิด คิดวางแผนเล่นงานคนอื่นไม่สำเร็จ กลับยังถูกคนอื่นเล่นงาน พวกเขาคนของพระตำหนักชิงผินอ๋องล้วนเลวแบบนี้หรือ นางถึงกับสงสัยว่าเมื่อครู่ก็เป็นการสมรู้ร่วมคิดของพวกเขานายบ่าวที่คิดจะให้ร้ายนาง “งั้นหรือ? พระชายาที่รักช่างซุกซนจริง ๆ กลับนำเรื่องนี้มาล้อเล่นกับเปิ่นหวัง ถ้างั้นเปิ่นหวังก็ควรที่จะพระราชทานรางวัลแก่เจ้าบ้างซิน่ะ?” เขาล้อมรอบร่างของนางไว้ใช้พลังคราหนึ่ง ร่างกายของพวกเขาทั้งสองก็ยิ่งเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้นแล้ว ถึงกับสัมผัสถึงการเต้นของหัวใจจากฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน
已经是最新一章了
加载中