ตอนที่ 50 ต่ำช้าไร้ยางอาย
1/
ตอนที่ 50 ต่ำช้าไร้ยางอาย
พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 50 ต่ำช้าไร้ยางอาย
ตนที่ 50 ต่ำช้าไร้ยางอาย วันนี้พระตำหนักไท่ซือ ยังคงคึกคักมากเหมือนเดิม จางยวี่โหร่วตื่นแต่เช้า เสี่ยวฟงก็เข้ามารายงานต่อเนื่องสองสามครั้ง รายงานมาหลายชื่อ นางไม่ทราบจริง ๆ ว่า ตนเองกลับเป็นที่นิยมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่เมื่อนางได้ยินทันทีว่าหลิงจือมาเยี่ยมนาง พลันรู้สึกจิตใจดีขึ้นมาก จึงได้ลุกขึ้นมาให้เสี่ยวฟงแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าหวีเผ้าผม มิเช่นนั้นนางต้องโอ้เอ้อีกสักพักใหญ่แน่นอน ให้สองคนนั้นรอต่อไป เวลานี้เป่ยจื่อห้าวและจ้าวซินซิน ยังมีหลิงจือต่างนั่งอยู่ในห้องโถงด้านนอกรอจางยวี่โหร่วออกมา ตั้งแต่เข้าประตูมา สายตาของเป่ยจื่อห้าวก็ไม่ได้ละไปจากร่างของหลิงจือเลย ถึงแม้ว่าหลิงจือสวยงาม แต่สาวงามที่เป่ยจื่อห้าวเคยพบก็มีไม่น้อย ถ้ามุ่งเน้นเฉพาะสีสันสะดุดตาก็ไม่น่าที่จะพุ่งเป้าสายตาไปยังร่างของนางแน่ ๆ แต่เมื่อคิดถึงวันนั้นในงานเลี้ยงฉลองที่พระราชวัง ท่วงท่าการฟ้อนรำที่สวยงามยอดเยี่ยม ยังมีฝีมือการวาดภาพที่สูงส่ง หลอมรวมความงามของการฟ้อนรำและการวาดภาพเข้าเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ทุกคนมิอาจละสายตาไปจากร่างของนางได้ ดังที่กล่าวไว้ ด้านหนึ่งเป็นรูปโฉม แต่อารมณ์บุคลิกภาพส่วนตัวและการบ่มเพาะอบรมเลี้ยงดูก็เป็นสิ่งสำคัญมาก เฉกเช่นจ้าวซินซินปานนี้ก็เป็นเพียงกระเป๋าหนังที่ว่างเปล่าเท่านั้นแล้ว อารมณ์บุคลิกภาพสองคำนี้แตกต่างห่างไกลกันจากหล่อนมาก ถ้าไม่ได้ดูที่หล่อนยังมีแผนในใจเล็กน้อยขนาดนั้นในส่วนนั้น เป่ยจื่อห้าวก็ไม่สนใจหล่อนอย่างสิ้นเชิง คาดว่าหลิงจือได้พบเห็นแล้วว่าสายตาของเป่ยจื่อห้าวจับจ้องอยู่บนร่างของนาง แววตาที่เร่าร้อนแบบนั้นจับจ้องจนนางไม่สบายมาก และรู้สึกว่าหยาบคาย แต่เมื่อคิดว่าเขาเป็นองค์ชายสามแท้ ๆ ดังนั้นนางไม่สามารถพูดอะไรได้ จำได้ว่าตอนแรกที่นางตัดสินใจแลกเปลี่ยนเกี้ยวกับจางยวี่โหร่ว เพียงเพื่อหลุดพ้นจากชะตาชีวิตที่ต้องอภิเษกสมรสเข้าสู่พระตำหนักชิงผินอ๋องเท่านั้น นางมิกล้าคิดฟุ้งซ่านหวังอะไรจากองค์ชายสาม แต่เมื่อหลังจากที่เขาค้นพบเรื่องความผิดพลาดของเจ้าสาวในงานอภิเษกสมรสแล้ว สายตาที่มองดูนางแฝงความชั่วร้ายรังเกียจจงเกลียดจงชังอย่างลึกซึ้ง ทำอย่างไรนางล้วนมิอาจลืมเลือนอากัปกิริยาของเขาในตอนนั้นได้ทั้งสิ้น แม้ว่าสภาพสถานะของเขาจะสูงส่งมากขึ้นอีก เค้าหน้าลักษณะบุคลิกภาพดีขึ้นอีก หลิงจือก็มิสามารถมีใจหวั่นไหวต่อเขาอย่างเด็ดขาด แต่เป่ยจื่อห้าวเองกลับต้องการเข้ามาร่วมวงให้ได้แต่ท่าเดียว “ช่างบังเอิญจริง วันนี้เปิ่นหวังมาเยี่ยมโหร่วเอ้อร์ ได้พบแม่นางหลิงเข้าพอดี นี่นับว่าเป็นโชควาสนาจริง ๆ” รอยยิ้มของหลิงจือทั้งห่างเหินและสุภาพ “ใช่ ข้าก็ไม่เคยคิดว่ายังจะได้พบองค์ชายสามและแม่นางจ้าว ช่างบังเอิญจริง ๆ อ่า” นางได้นำจ้าวซินซินเข้ามาอย่างแยบยลยิ่งนัก นางได้รู้จากจางยวี่โหร่ว ว่าจ้าวซินซินก็จะอภิเษกสมรสเข้าพระตำหนักองค์ชายสามอย่างรวดเร็ว พลันในใจนางก็รู้สึกเหยียดหยามมาก นางไม่ใช่เป็นเหมือนพี่สาวน้องสาวกับจางยวี่โหร่วหรอกหรือ ตอนนี้ทำไมยังแย่งชิงคนรักกับพี่น้องที่ดีของตนเองได้ ช่างไร้ยางอายสิ้นดีจริง ๆ ตอนนี้คาดว่านางเข้าใจแล้วว่าทำไมจางยวี่โหร่วจึงได้ยอมแลกเปลี่ยนเกี้ยวกับนางในวันนั้น และก็ไม่ยินยอมอภิเษกสมรสเข้าพระตำหนักองค์ชายสาม ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่า ฐานะองค์ชายสามสูงส่ง เปี่ยมด้วยความสามารถ ไม่เข้าใจการกระทำของนางทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว...หลายเรื่องไม่ได้ดูง่ายดายเหมือนที่ได้เห็นจากการแสดงออกภายนอกของนางเช่นนั้นอ่า เป่ยจื่อห้าวไม่สนใจปัญหาที่นางเอ่ยจ้าวซินซินขึ้นมา แต่ยิ่งมองดูนางตรงไปตรงมามากขึ้น แววตาเพิ่มแววหยาดเยิ้มกระแสหนึ่งมากขึ้น “คุณหนูหลิง ขณะอภิเษกสมรสครั้งใหญ่ให้เจ้าได้รับความลำบากแล้ว เปิ่นหวังรู้ว่าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า ทุกอย่างเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น ภายหลังเปิ่นหวังได้ยินว่าเพราะเหตุนี้เจ้าได้รับคำติฉินนินทาซุบซิบต่าง ๆ นา ๆ มาแล้วไม่น้อย และก็เหตุนี้ชื่อเสียงถูกทำลายแล้ว จากนั้นเปิ่นหวังได้รู้แล้ว ในใจก็รู้สึกผิด ทำให้เจ้ารับความไม่เป็นธรรมแล้วจริง ๆ” แต่หลิงจือยังจดจำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยโกรธแค้นของเขาในวันนั้นได้อย่างแม่นยำ ยังคงซักถามนางอย่างสงสัยตลอดว่าทุกสิ่งนี้เป็นนางทำบ้าทำบอใช่หรือไม่ ในเวลานั้นทำไมไม่เห็นเขามีเหตุมีผลชัดเจนเช่นนี้น่ะ? นางยิ้มเบา ๆ คราหนึ่ง หลังจากนั้นกล่าวว่า “ขอบพระทัยองค์ชายสามที่ทรงห่วงใย มีเพียงกล่าวว่าโชคชะตาเล่นตลกแล้ว ทุกอย่างก็ได้ผ่านไปแล้ว แต่หม่อมฉันมีความโชคดีในความโชคร้าย ได้รู้จักจางยวี่โหร่วพี่น้องที่ดีเช่นนี้คนหนึ่ง ก็รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่เสียใจแล้ว เอ่ยขึ้นมา หม่อมฉันและพี่ยวี่โหร่วจึงมีวาสนากันจริง ๆเพค่ะ” เป่ยจื่อห้าวเห็นนางก็ไม่ได้ใส่ใจกับเขาอย่างสิ้นเชิง ทันใดก็ไม่เต็มใจที่จะหลอกล่อทีละก้าวอีกต่อไป “คนที่เปิ่นหวังต้องการอภิเษกสมรสเป็นโหร่วเอ้อร์ไม่ผิด แต่ไม่คิดว่าเพราะเกิดเหตุที่คาดไม่ถึง ได้นำคุณหนูหลิงพัวพันเข้ามาในเรื่องนี้ เปิ่นหวังและโหร่วเอ้อร์รักกันอย่างจริงใจ จนใจที่มีคนมาขวางลำอีกทั้งยังเริ่มก่อเหตุวุ่นวายจนในที่สุดละทิ้งไป เดิมคุณหนูหลิงเป็นฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้อภิเษกสมรสเข้าสู่พระตำหนักชิงผินอ๋อง แต่กลับผิดพลาดโดยบังเอิญเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับเปิ่นหวังได้เป็นสามีภรรยา ตอนนี้ชื่อเสียงคุณหนูหลิงถูกทำลาย วันข้างหน้าเกรงว่ายากที่จะตกแต่งผู้คนได้อีกแล้ว เปิ่นหวังก็มีความรับผิดชอบอย่างแน่นอนต่อเรื่องนี้ ดังนั้นเปิ่นหวังยินดีทีจะรับผิดชอบในส่วนของตน” ความหมายในคำพูดของเขาได้บ่งบอกชัดเจนแล้วอ่า เริ่มแรกนั้นไม่ใช่หลิงจือทั้งร้องทั้งตะโกนไม่ต้องการกลับสู่พระตำหนักชิงผินอ๋อง ยังบอกว่าในเมื่อได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับเขาจนเป็นสามีภรรยานั่นก็คือเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่ต้องการนาง นางยอมที่จะไม่แต่งงานไปชั่วชีวิต สันโดษคนเดียวจนเฒ่าชรา นี่เป็นสิ่งที่นางเองกล่าวไว้ตั้งแต่แรก ในเมื่อนางคิดจะอภิเษกสมรสกับเขาเช่นนี้ เช่นนั้นเขาก็อาจจะใจดีพอที่จะช่วยให้ความปรารถนาของนางสำเร็จ เมื่อถึงเวลานั้นพระองค์ก็ทรงอภิเษกสมรสจางยวี่โหร่วคนนี้เป็นพระชายา แล้วอภิเษกสมรสหลิงจือเป็นพระสนมรอง ยังมีจ้าวซินซินเป็นนางบำเรอ พวกนางไม่ใช่รู้สึกดีต่อกันหรือ นั่นก็กำลังดีอ่า พี่น้องสามคนรับใช้เขาพร้อมกัน นั่นต้องเป็นเรื่องแรกที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า จ้าวซินซินที่อยู่ด้านข้างฟังไปครึ่งวัน ในที่สุดจึงฟังเข้าใจว่าเป่ยจื่อห้าวหมายถึงอะไร พระองค์ องค์ชายสาม...เขากลับหมายปองหลิงจือเข้าอีก ตอนนี้ยังแสดงออกถึงความคิดที่หมายจะอภิเษกสมรสกับนาง พระองค์ทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ไม่กี่วันก่อน ฮ่องเต้เพิ่งเลื่อนตำแหน่งบิดาของหลิงจือ ตำแหน่งสามผิดหั้นหลิน ล้วนก็เป็นเพราะวันนั้นในงานเลี้ยงฉลองที่พระราชวังการแสดงออกของหลิงจือเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ ทำให้พระองค์เกิดความอยากรู้อยากเห็นว่าบิดาของนางเป็นคนแบบไหนจึงได้สอนบุตรสาวที่เปี่ยมคุณธรรมมีความสามารถพร้อมสรรพน่าชื่นชมเช่นนี้ออกมาได้ จึงได้มีพระราชโองการเรียกตัวหลิงเซ่าเจียนเข้าเฝ้า และแล้วฮ่องเต้ก็ทรงพอพระทัยต่อเขาเป็นอย่างมาก ภายใต้การเสนอแนะของจางไท่ซือ ก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้เขาโดยตรง ดังนั้นในสถานะปัจจุบันของหลิงจือ แม้ว่าจะเป็นพระชายาก็ไม่มีปัญหาใด อภิเษกสมรสกับเป่ยจื่อห้าวอย่างน้อยสุดก็เป็นเพียงพระสนมรอง เมื่อถึงเวลานางและจางยวี่โหร่วต่างอยู่เหนือตัวเอง แต่นางเองกลับเป็นแค่นางบำเรอคนหนึ่ง นี่ไม่สมดุลกันมากเพียงไหนสำหรับจ้าวซินซิน ขณะนี้ในใจนางยิ่งต่อว่าจางยวี่โหร่วมากยิ่งขึ้น ที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ พี่น้องรักกันลึกซึ้งอะไรนั่น นางทำไมไม่คิดหาวิธีช่วยให้บิดาของนางได้เลื่อนตำแหน่งสักครา แม้ว่าจะให้เครื่องประดับเพชรนิลจินดายังมีประโยชน์อะไรอีก มิอาจมีวิธีเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตโดยพื้นฐานของนางได้อย่างสิ้นเชิง นางกับหลิงจือคนนี้ได้รู้จักกันเพียงไม่กี่วัน ก็ได้ทำดีขนาดนั้นกับนาง จ้าวซินซินอิจฉาริษยาเคียดแค้นบิดผ้าเช็ดหน้าไหมไว้แน่น ก้นบึงดวงตามีประกายอิจฉาริษยากระแสหนึ่งแวบผ่านไป หลังจากที่หลิงจือได้มองทะลุเจตนาของเขาแล้ว ในใจจมดิ่งลงทันที แต่การบ่มเพาะอบรมจากหลักกุลสตรีตระกูลใหญ่กลับไม่ได้ทำให้นางแสดงสีหน้าไม่พอใจใด ๆ ออกมา นางลุกขึ้นยืนคำนับคราหนึ่ง “ได้รับพระกรุณาธิคุณความรักที่หนักหนาจากองค์ชายสาม เมื่อเริ่มแรกขึ้นเกี้ยวอภิเษกสมรสผิดพลาดเป็นเพียงความผิดพลาดเรื่องหนึ่งเท่านั้น หม่อมฉันเป็นพี่น้องกันกับจางยวี่โหร่ว ไหนเลยจะแข็งใจครอบครองสามีของนางทำให้นางเสียใจทุกข์ระทมได้ หม่อมฉันไม่ใช่คนที่ไร้ขีดจำกัด ยังทูลขอให้องค์ชายสามเข้าพระทัยเพค่ะ” วาจานี้ได้ตบใส่หน้าของจ้าวซินซินอย่างรุนแรง นางกล่าวว่าอภิเษกสมรสกับองค์ชายสามก็คือไร้ขีดจำกัด ถ้างั้นจ้าวซินซินก็เป็นพี่น้องที่ดีของจางยวี่โหร่วด้วย ตลอดที่ผ่านมาตนเองสามารถอภิเษกสมรสกับองค์ชายสามก็ดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น ขาดแต่เพียงไม่ได้ยิงพลุประทัดเฉลิมฉลองโดยตรงเท่านั้น นี่นับว่าตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนดูหมิ่นเหยียดหยามยิ่งนัก จ้าวซินซินได้อดทนมาครึ่งค่อนวันแล้ว ไหนเลยจะกล้ำกลืนความคับแค้นใจคำนี้ลงไปได้ เวลานี้หยิบยืมเรื่องนี้แสดงความไม่พอใจออกไปอย่างเปิดเผยโดยตรง “อ่า ตอนนี้สถานะคุณหนูหลิงได้แตกต่างไปมากแล้ว ไม่เพียงได้รับคำสรรเสริญด้วยพระโอษฐ์ของฮ่องเต้เอง กระทั่งบิดาก็ได้เลื่อนตำแหน่งแล้วที่สำคัญที่สุดนางได้รับความโปรดปรานจากองค์ชายสอง หนานหชู่นี้ใครไม่รู้ว่าองค์ชายสองตลอดเวลาที่ผ่านมาตาสูงจรดเพดาน คุณหนูสูงศักดิ์มากมายล้วนมองเขาเป็นว่าที่สามี แต่เขาไม่มองสักนิดทั้งหมด เวลานี้ คุณหนูหลิงเป็นหงส์เหินบนยอดกิ่งอย่างสมบูรณ์จริง ๆ แล้วน่ะ” นางปิดปากยิ้มน่ารัก วาจาที่กล่าวออกมากลับแฝงหนามแทงทุกประโยค กำลังจะเปิดศึกสงครามชัด ๆ สีหน้าของเป่ยจื่อห้าวได้จมดิ่งลึกลงทันที ด้านหนึ่งเขารู้สึกจ้าวซินซินปากมาก ในอีกด้านหนึ่ง ก็รู้สึกว่าหลิงจือมองข้ามความหวังดีของผู้อื่นจริง ๆ เขาใจดีรับนางเป็นพระชายา นางกลับยังกล้าที่จะปฏิเสธ เป็นการกำลังตบหน้าเขาแท้ ๆ เขาเป็นองค์ชายสามแท้ ๆ ไหนเลยยอมให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งบังอาจเช่นนี้ได้? “คุณหนูหลิง นี่เจ้าหมายถึงอะไร? หรือวาจาเหล่านั้นที่เจ้าได้กล่าวไว้ในเมื่อได้เข้าร่วมพิธีกราบไหว้ฟ้าดินแล้วนอกจากเปิ่นหวังก็ไม่อภิเษกสมรสที่แท้ก็คิดจะหยอกล้อเปิ่นหวังหรือ? หรือคิดว่าได้ปีนป่ายเกาะพระเชษฐาของเปิ่นหวังแล้วก็สามารถดูหมิ่นดูแคลนเปิ่นหวังได้ เจ้าอย่าได้เกินไปแล้ว” หลิงจือไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ ตนเองจึงได้ประสบเคราะห์กรรมบินมาชนใส่อย่างจังแบบนี้คราหนึ่ง เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้กล่าวอะไรอ่า ทำไมจู่ ๆ ก็ครอบข้อหาข้อหนึ่งให้นาง นางมองไปยังจ้าวซินซิน พบว่ามีประกายของแผนการชั่วร้ายบรรลุผลกระแสหนึ่งแวบผ่านในสายตานาง ทันใดนางโกรธเดือดดาลจนตัวสั่นเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ใช่ไม่ใช่เป็นตะเกียงที่ขาดน้ำมันจริง ๆ อ่า เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะสะกิดความขัดแย้งขึ้นมาชัด ๆ “หม่อมฉันฐานะต่ำต้อย ชื่อเสียงได้ถูกทำลายไปแล้ว เพียงต้องการที่จะอยู่คนเดียวในส่วนที่เหลือของชีวิต ไม่คิดจะเกาะยึดองค์ชายสองเด็ดขาด” จ้าวซินซินกล่าวต่อไปอย่างไม่ยอมปล่อยว่า “ใช่หรือ? เจ้ากล้าสาบานไม่มีใจเผื่อให้องค์ชายสองสักนิด? ถ้าเจ้าผิดคำพูดในวันข้างหน้าแล้วจะทำอย่างไร?” เป่ยจื่อห้าวก็มีลักษณะสีหน้าที่รอคอยนางสาบานด้วย บรรยากาศทั้งห้องก็เริ่มเย็นลงมาทันที ภายใต้แขนเสื้อ นิ้วมือเรียวบางนั้นได้กระชับเข้าไว้ด้วยกัน เอ็นเขียวหลังมือโปนออกมา ร่างของนางถึงกับยังกำลังสั่นเล็กน้อย “ข้า...ข้าสาบาน...” วาจาของนางเพิ่งกล่าวออกจากปาก เวลานี้ก็มีเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงหนึ่งดังมาจากประตู “โอ้ ข้าก็แค่มาสายไปนิด ที่นี่ก็คึกคักแบบนี้ พวกเจ้ากำลังพูดคุยอะไรกันน่ะ?” เป็นจางยวี่โหร่ว! นางมาที่นี่แล้วในเวลานี้! ในใจจ้าวซินซินไม่พอใจมากอย่างเห็นได้ชัด ถ้านางสามารถมาช้าลงเล็กน้อย รอจนหลิงจือสาบานเสร็จก็ดีแล้ว แต่ตอนนี้...ก็ได้ถูกนางทำลายไปแล้ว แต่หลิงจือกลับถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย แววตาจางยวี่โหร่วกวาดผ่านใบหน้าของพวกเขาไปปราดเดียว ไม่ปล่อยปละละเลยสีหน้าการแสดงออกของผู้ใดไปเลย จริง ๆ นางได้มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อครู่อยู่นอกประตูฟังพวกเขาสนทนาคุยกันไม่ได้เข้ามาเท่านั้น นางดีใจที่ตนไม่ได้ส่งเสียงออกไปรบกวนจริง ๆ มิเช่นนั้นไยมิใช่พลาดละครตอนที่ยอดเยี่ยมตอนหนึ่งไปแล้ว เป่ยจื่อห้าวคนนี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง กลับยังคิดครอบครองทรัพย์สินสิ่งที่เป็นของหลิงจือเป็นของตนเอง ยังปั้นท่าทีหยาบคายร่วมกับจ้าวซินซินขนาบโจมตีทั้งสองด้านพร้อมกัน หลิงจือที่น่าสงสาร ไหนเลยจะรับมือกับแผนชั่วร้ายของพวกเขาไหว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 50 ต่ำช้าไร้ยางอาย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A